เราอาจจะคิดต่างนะคะ เราว่าการที่ปล่อยให้เด็กเอาของเล่นไปโรงเรียน จริงๆไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสมสักเท่าไหร่ เพราะจะมีปัญหาตามมาแน่นอนค่ะ ซื่งปัญหาหนึ่งก็คือเรื่องที่เกิดขึ้นกับจขกท.อยู่ในตอนนี้ คือมีเด็กคนอื่นอยากได้ตาม หากบอกลูกแล้วลูกไม่ฟัง ดึงดันที่จะเอาไปให้ได้ คนเป็นพ่อแม่ก็ต้องมีวิธีที่จะบอกลูกให้ยอมรับฟังเหตุและผล ส่วนเด็กที่อยากได้ตาม พ่อแม่ฝ่ายนั้นก็ต้องหาวิธีรับมือกับลูกเช่นกัน จริงๆที่คนนั้นเค้ามาบอกแม่จขกท. อาจจะแค่ต้องการสื่อว่าให้สอนลูกว่าไม่ควรเอาของเล่นไปรร.ก็ได้ค่ะ แต่อาจจะใช้คำพูดไม่เป็นเลยฟังดูออกมาเชิงตำหนิ

รร.ลูกเรา (ในประเทศญี่ปุ่น) ไม่อนุญาตให้นำของเล่นไปเลยค่ะ แม้แต่ของใช้ส่วนตัว กระติกน้ำ แก้วน้ำ แปรงสีฟัน ที่เป็นการ์ตูนคาแรคเตอร์ เช่น อันปังแมน โปเกม่อน โดราเอม่อน คิตตี้ ก็ห้ามใช้ค่ะ เพราะเมื่อเด็กเห็นเพื่อนใช้ เด็กบางคนยังเล็กมากๆ ไม่รู้อะไรควรไม่ควร อยากได้ก็แย่ง อาจเกิดการทะเลาะกันในโรงเรียน พอของเสียหายหรือลูกได้แผล ครูก็ต้องเคลียร์กับพ่อแม่เด็กอีก

ถ้าเราเป็นจขกท. เราจะอธิบายให้ลูกเข้าใจค่ะ ว่าของเล่นส่วนตัวก็เล่นอยู่ที่บ้าน เวลาไปโรงเรียนเราก็ไปเล่นของเล่นของโรงเรียนไปสนุกกับเพื่อนๆ ไม่ใช่เพื่อใครอื่นเลยค่ะ เพื่อให้ลูกของเราเองรู้จักเข้าใจเหตุและผล ยอมรับสภาพสถานการณ์และรู้จักกาลเทศะค่ะ

เราเป็นครู รร.สอนพิเศษ เด็กเล็กๆชอบเอาของเล่นมาอวดเพื่อน แล้วเพื่อนบางคนก็มาแย่งเล่นราวกับเป็นของตัวเอง
เราดุแล้วก็ปรามอยู่บ่อยครั้ง เพราะถ้าเพื่อนทำของเล่นพังก็จะเป็นปัญหาอีก ครั้นบอกให้เจ้าของเล่นของเล่นของตัวเอง
คนเดียว เด็กก็ไม่เล่น เหมือนเอามาเพื่อนอวดให้เพื่อนอยากแย่งเล่นนั่นล่ะ แต่เด็กอยู่กับเราช่วงสั้นๆ ไม่ถือว่าเป็นปัญหา
อะไรมากนัก แต่เด็กที่ไปเรียนทั้งวันกับเพื่อนที่มี 30-40 คนในห้อง ครูน่าจะปวดหัวไม่น้อย แต่เลือกที่จะไม่พูดมากกว่า

น่าสนใจมากกว่าว่า เหตุผลที่ลูกเอาของเล่นมาโรงเรียนจริงๆ คืออะไร ถ้าน้องต้องการอวดกัน ทำไมน้องถึงอยากได้ความรู้สึกเหนือกว่าคนอื่น และเมื่อถูกขัดขวางถึงกับต้องงอแงร้องไห้จนสร้างความรำคาญให้กับแม่หรือคนในครอบครัวเลยหรอ

คิดดีๆนะคะ วันนี้น้องยังเล็ก ทัศนคติและ mindset น้องถูกปลูกฝังให้ทำซ้ำๆแบบนี้ เมื่อโตขึ้น พฤติกรรมซ้ำๆยังคงอยู่ แต่มูลค่าของเปลี่ยนไป จะมาฝึกเอาตอนหลังมันจะเหนื่อยนะคะ แล้วเด็กก็จะไม่เข้าใจด้วยว่า ทำไมทำไม่ได้ ในเมื่อก่อนนี้ก็ยังทำได้เป็นปกติ และแม่คอยปกป้องให้ด้วย

ส่วนเรื่องบ้านอื่น ปล่อยลูกเขาไปค่ะ สนใจที่ลูกบ้านเราดีกว่า เด็กติดของเล่น รักของเล่นชิ้นนั้นจริงๆ มีคุณค่าทางใจเลยอยากนำติดตัว หรือ ใช้ของเล่นเป็นตัวดึงให้คนอื่นสนใจตัวเอง อันนี้ต้องระวังจริงๆน่ะแหล่ะ

เอาไปได้ไม่ผิดค่ะ ถ้าไม่เกิดปัญหาและมีประโยชน์ แต่ถ้าการไม่ได้เอาไป มันเกิดพฤติกรรมไม่น่ารักขึ้นมา นั่นน่ะเริ่มเห็นเค้าของปัญหาในอนาคตแล้ว

วัยนี้อาจฝึกให้เขาลองคิดในมุมต่างๆก็ได้ค่ะ ดูเหมือนน้องเองจะมีของเล่นเยอะ อาจชวนน้องเลือกของเล่นไปบริจาค เพื่อให้น้องได้ทบทวนคุณค่าของที่ได้มาด้วยน่ะ  เพราะของเล่นไม่ได้ทำหน้าที่แค่ไว้เล่น จะช่วยให้น้องไม่ติดกับโปรโมชั่นเห่อ และอยากได้ใหม่เรื่อยๆ จนเหมือน routine ที่ต้องซื้อให้อย่างสม่ำเสมอ แต่หันมารักษาและรู้จักถนอมใส่ใจกับสิ่งที่ตัวเองมีด้วยน่ะ   ก็เริ่มได้จากของชิ้นเล็กๆอย่างของเล่น เป็นตัวช่วยฝึกได้

ที่ รร. ของลูกเรา แจ้งเลยว่ากรณีเด็กนำของเล่นไป รร. ครูประจำชั้นจะเก็บทันที แบบว่าเอาออกมาจากกระเป๋า หรือถือลงมาจากรถก็จะเก็บเลยทันทีที่เห็นค่ะ คืนให้คุณพ่อคุณแม่ตอนเลิกเรียนกลับบ้านเลย เพื่อป้องกันปัญหาของหาย เด็กแย่งของกัน หรืออยากได้ของเพื่อนค่ะ หลังๆ ลูกสาวไม่เอาไปเลย วางไว้บนรถแม่เพราะเขารู้ว่าลงรถไปครูก็เก็บอยู่ดี

กรณีนี้อาจต้องแจ้งครูประจำชั้นไว้ให้เก็บค่ะ แก้ปัญหาของหายที่ รร. ด้วยค่ะ