นี่คือไม่โทษอะไร ชัชชาติ เลยนะครับ
ไม่โทษ แม้แต่นิดเดียว
คือผมพอจะเข้าใจครับ ว่า บรรดาแฟนขับ อยากเห็น ภาพของชัชชาติ เป็น "อย่างไร"
ชัชชาติก็จัดให้ "อย่างนั้น"
ผมก็เข้าใจ
เราคุ้นเคยกับ ภาพชัชชาติ เดินเท้าเปล่า ถือถุงแกงเทโพไปถวายพระ
โหนรถเมล์ ซ้อนมอเตอร์ไซด์รับจ้าง
วิ่งจ๊อกกิ้ง ทักทายพนักงานทำความสะอาด คนกวาดขยะ
ลุยน้ำ เข็นรถซาเล้ง ยกแขนขึ้นมาปาดเหงื่อ ทำงานดึกๆดื่นๆ
ไปไหนก็ไปแตะมือ ชนกำปั้น ถ่ายเซลฟี่ กับคนนู้น คนนี้
ใครๆก็ชอบภาพแบบนี้ ครับ นี่คือ "มนุษย์ติดดิน"
มันน่าชื่นชม มันเป็นอะไรจับต้องได้ และ ใกล้ตัว
เข้าใจจริงๆครับ

แต่มันก็มีมนุษย์ชนิดอื่น ประหลาดๆแบบผมนี่แหละ
ที่กาเบอร์ 8 เลือกชัชชาติ
แต่กลับ ไม่"อะไร"ไปกับภาพเหล่านี้
ผมกลับอยากเห็น "ผลงาน" ที่เป็นรูปธรรม อยากเห็นความเปลี่ยนแปลง จริงๆจังๆ ม า ก ก ว่ า สิ่งที่เห็นกันอยู่
ผมอยากเห็น result ครับ
ไม่ต้องการเห็น process
การไปดูน้ำท่วมตอนดึกๆ การไปเข็นรถซาเล้ง หรือ การไปเซลฟี่กับแฟนขับ เป็น process การทำงานครับ
ชัชชาติ จะทำงานด้วยวิธีไหนผมไม่สนใจหรอกครับ ไม่ต้องมีกล้องไปคอยจับภาพทุกการเคลื่อนไหวก็ได้
ไม่ต้องเป็นข่าวให้ปรากฏตามสื่อทุกช่วงเวลาของวันก็ได้ ผมไม่ว่า

ผมอยากให้ชัชชาติ ตั้งใจทำงานให้ดี ให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ดี ใน กทม.
ผมอยากให้รถติดน้อยลง พ่อค้าแม่ค้าไม่โดนเทศกิจรีดไถ
คนไปขอให้เขตรับรองแบบ สิ่งปลูกสร้างไม่โดน ดึงเวลา หรือ เรียกใต้โต๊ะ
อยากให้ปัญหาน้ำท่วมได้รับการแก้ไขบรรเทา เครื่องสูบน้ำทำงานครบทุกตัว

ผมก็มองเห็นความตั้งใจที่ว่านั้น

แต่ผมไม่อยากให้ผู้ว่า กทม. คนไหนก็ตาม มาเสียเวลาไปกับบรรดากล้องของสื่อ ตลอดจนการ แตะมือ หรือ เซลฟี่ กับแฟนขับ
ผู้ว่า กทม. ไม่ใช่ ซูเปอร์ฮีโร่ หรือ ดารา K-Pop
กะ รุ นา ให้ชัชชาติทำงานของชัชชาติไปเถอะครับ

หวังว่าจะพอรับกันได้นะครับ
ผมไม่ได้ตำหนิ ชัชชาติ

แต่ผมคิดว่า สื่อ นักข่าว และ แฟนขับ กำลัง บั่นทอนการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ว่ากทม. โดยไม่รู้ตัว
เท่านี้จริงๆครับ