[CR] รีวิวเสริมคางครั้งแรก ที่ไหนดี?

อยากทำคาง ทำที่ไหนดี? เป็นคำถามที่เราก็เคยถามกับตัวเองค่ะ…
เพื่อนๆ พี่ๆ ที่สนใจเสริมคางก็คงอยากรู้เหมือนกันนน ในฐานะที่เราเองพลีชีพไปทำมาแล้ว กระทู้นี้ก็เลยจะมารีวิวคางให้เพื่อนๆ พี่ๆ ได้ดูกันค่ะ ว่าไปเสริมคางเราทำอะไรบ้าง แล้วหลังทำจะเป็นยังไงงง หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังตัดสินใจค่าาา

ก่อนอื่นเลย ทำไมถึงเสริมคาง? คือเราดูเป็นคนหน้าเรียวยาวอยู่บ้างแล้วค่ะ แต่เวลาส่องกระจก หรือถ่ายรูปกลับยังดูเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง หน้าดูดุๆ แมนๆ บางมุมดูเหวี่ยงๆ ไม่ค่อยหวานค่ะ ก็หาสาเหตุอยู่นาน จนกระทั่งมีคนมาแนะนำให้เสริมคางแล้วหน้าจะเปลี่ยนดูหวานขึ้น เอ๋!! เสริมคางเนี่ยนะ เราเองก็เหมือนจะเป็นคนหน้ายาวอยู่แล้ว เสริมจะไม่ยิ่งยาวกว่านี้เหรอ???

แต่พอดูรีวิว หาข้อมูลเพิ่มขึ้น ก็มีปัญหาอื่นหลายอย่างที่เราพึ่งรู้ตัวเอง อย่างคางของเรามีปัญหาปลายคางตัดค่ะ ปลายคางดูเหลี่ยม รูปหน้าดูไม่ V และด้วยความเหลี่ยมนี้เองทำให้บางมุมหน้าดูแอบแมนนิดนึงค่ะ


อีกปัญหากวนใจของเราก็คือเป็นคน “คางถอย” ค่ะ และเพราะคางถอยนี่แหละที่ทำให้หน้าเราเวลาหันข้างดูไม่เท่ากัน  หน้าตรงก็ดูไม่มิติค่ะ เพราะสัดส่วนใบหน้าของเราจมูกจะดูเด่นมาก แต่ช่วงปากและคางดูดรอปลงไป เหมือนเป็นเงาเหมือนอยู่ใต้แสงค่ะ ทำให้ใบหน้าดูขาดมิติ ไม่สมดุลกัน
รู้ซึ้งปัญหาแล้วก็เลยสนใจอยากเสริมคางค่ะ คำถามที่ตามมาก็คือ แล้วจะทำที่ไหนดี?
แต่หลังจากหาดูอยู่หลายคลินิก เราเลือกทำคางที่ Em.. คลินิกค่ะ เพราะที่นี่เขาดังพอสมควร คิดว่าน่าจะเชื่อใจได้ และก็เสริมคางแผลในตามที่เราหาอยู่พอดีค่ะ เพราะไม่อยากมีรอยแผลเป็น ทรงคางก็เป็นสไตล์แบบเกาหลีๆ เลย ชอบดูรีวิว ดูหวานดูละมุน ได้เรฟที่ถูกใจอยู่พอดีก็จัดเลยซิคะ
เราเลือกเสริมคางกับหมอปุ๊กปิ๊กค่ะ หมอบอกว่าเสริมปลายคางอีกนิดนึงก็สวยแล้ว ไม่ต้องกังวลเลยว่าคางจะยาวแหลมหรือยื่นเกินไป หน้าจะดูแปลกๆ ไม่สวย อย่างที่บอกค่ะว่าหน้าเราดูยาวอยู่บ้างแล้ว ก็เลยอยากได้แค่ปลายคางสวยๆ และดูเป็นธรรมชาติเข้ากับหน้ามากที่สุด ที่นี่มีซิลิโคนหลายแบบให้เลือกค่ะ แต่ของเรามีคางยาวอยู่แล้วก็เลยไม่ต้องอัพซิลิโคน
 
รูปนี้ก่อนเข้าห้องผ่าตัดเสริมคางค่ะ
 
หลังทำคาง กลับบ้านมาวันแรก ทรงคางพอดีกับรูปหน้ามากเลยค่ะ ไม่ยาวเกินไป
วันผ่าตัดก็แอบตื่นเต้นนิดหน่อย กลัวเจ็บ แต่กลัวไม่สวยมากกว่า 5555 แต่พอผ่านมาได้ก็ชิลนะ ไม่เห็นเจ็บอย่างที่คิด คุณหมอมือเบา เจ็บจี๊ดแค่ฉีดยาชา เสร็จแล้วก็กลับบ้านได้สบายเลย
แต่ไม่สบายตอนจะกินข้าวนี่แหละค่ะ สองสามวันแรกต้องกินพวกโจ๊กกับข้าวต้มไปก่อน เพราะมีแผลในปาก (ประมาณ 1 เซน)  แต่ก็คุ้ม ถ้าแลกกับการไม่มีแผลเป็น ไม่กี่วันแผลก็สมานไปเองค่ะ หลังจากเริ่มหายแล้วเราจะกลับกินอาหารแบบปกติได้เอง (ของเราเริ่มกินปกติได้วันที่ 5 ค่ะ) แต่ยังต้องงดกินพวกของหมักดองนะ
 
พอเข้าวันที่ 2 บวมยันแก้ม 555 หน้าตาจะดูแปลกๆ หน่อยค่ะ แต่วิธีดูแลตัวเองก็ไม่ยาก แค่คอยประคบเย็นบ่อยๆ วันสองวันแรก งดแปรงฟัน 2 อาทิตย์ กินข้าวเสร็จก็บ้วนปากด้วยน้ำยาทุกมื้อ กินยาตามที่หมอสั่ง ระหว่างนี้ก็ยังใช้ชีวิตได้ตามปกติ
ทีนี้ก็มาดูกันค่ะว่าหลังหายบวมแล้วจะออกมาเป็นยังไง !!!
 
7 วันค่ะ ถอดเฝือกออกแล้วจะยังเห็นว่าบวมเยอะอยู่ ยังเห็นทรงไม่ค่อยชัดเท่าไหร่
 
ผ่านมา 2 อาทิตย์ ทรงเริ่มมาให้เห็น หน้าดูมีมิติขึ้น เริ่มมีคนทักว่าหน้าเรียวขึ้นกว่าเดิม
 
1 เดือนแล้ววว เอามุมข้างมาให้ดูค่ะ เพราะเมื่อก่อนเวลาถ่ายรูปหันข้างคือไม่ได้เลย เดี๋ยวนี้คือสนุกกับการถ่ายรูปเลย ไม่ต้องเข้าแอพบีบหน้า ดึงคางอีกต่อไป

 
นี่ 2 เดือนค่ะ เราชอบในความเข้ากับหน้าแบบพอดีเป๊ะเวอร์ ไม่แหลมเกินเบอร์

ตอนนี้ก็ผ่านมาประมาณ 4 เดือนแล้วค่าาา ตั้งแต่ทำมาจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ มีแค่ช่วงแรกที่ต้องดูแลตัวเองเยอะหน่อย ตอนนี้รัดแกนเข้าที่แล้ว ทรงออกมาถือว่าชอบเลยค่ะ รูปหน้าเป็นทรงรี ดูรับเข้ากับหน้า ตอนนี้คือมั่น แซ่บได้กว่าเดิมเลออ
และนี่คือรีวิวเสริมคางทั้งหมดของเราในกระทู้นี้ค่าาา บอกเลยว่าทำคางไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด “รู้งี้คือทำตั้งนานแล้วอ่ะ” แต่ทำตอนนี้ก็ยังทันค่ะ เป็นผู้หญิงอย่าหยุดสวย จริงมั้ยคะ แล้วเดี๋ยวจะมาอัพเดตให้ดูเรื่อยๆ น้าาา
ชื่อสินค้า:   EMMA Clinic
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่