Tips ซักผ้าใส่เครื่อง ทำแบบนี้สะอาดแน่นอน 👚👕

ซักผ้างานบ้านที่เราต้องเจอในชีวิตประจำวัน ถึงจะมีเครื่องซักผ้าช่วยทุ่นแรงแต่ถ้ารู้วิธีซักให้ถูกต้องอีกสักนิดจะช่วยทำให้ผ้าสะอาดใส่ได้สบาย 
ก่อนเอาเสื้อใส่เครื่องวันนี้ มาอ่าน Tips ซักผ้าใส่เครื่อง ไม่มีเซอร์ไพรส์เจอผ้าไม่สะอาด สีตกใส่ เพราะทำแบบนี้สะอาดแน่นอน 

1.อ่านป้ายก่อนซัก 👚👕
 
เสียเวลาสักนิดอ่านป้ายบนเสื้อก่อนซัก เพราะเสื้อผ้าแต่ละชนิดมีวิธีการซักไม่เหมือนกัน บางตัวต้องซักแยก บางตัวซักมือ บางตัวซักแห้งอย่างเดียวเท่านั้น เมื่อรู้ว่าต้องซักอย่างไรจะได้ไม่ต้องมีเรื่องเซอร์ไพร์สหลังเปิดเครื่องซักผ้า 

ถ้าขึ้เกียจซักมือต่อไปเวลาเลือกซื้อเสื้อผ้าควรเลือกซื้อผ้าที่ไม่บอบบางจะได้ซักเข้าไปในเครื่องไม่เสียเวลา 

2. แยกผ้า 👚👕
 
แยกเสื้อผ้าจำพวกเดียวกันซักด้วยกันแบ่งด้วยใช้สีเป็นหลัก เสื้อสีขาว สีอ่อน ลายพิมพ์พื้นหลังสีขาวอยู่กองหนึ่ง ผ้าสีเข้ม เช่น สีดำ แดง น้ำเงิน น้ำตาล เทาเข้มอีกกองหนึ่ง ส่วนผ้าที่มีคราบสกปรกหนักก็แยกไว้อีกกอง 

หลังจากแยกด้วยสีแล้วยังต้องแยกชนิดของเนื้อผ้าด้วย เช่น แยกผ้าขนหนูสีขาวออกจากเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย แยกเสื้อยืด ผ้ายีนส์ที่มีน้ำหนักออกจากเดรสกระโปรงเพื่อไม่ให้ถังซักผ้ามีน้ำหนักมากเกินไป  

สาเหตุที่ต้องแยกเสื้อผ้าชนิดเดียวกันซักด้วยกันเพื่อการใช้อุณหภูมิน้ำและรอบปั่น (cycle) แบบเดียวกัน รวมทั้งลดเศษใยผ้าที่อาจติดมากับผ้า 

สำหรับคนที่ไมมีเวลาหรือเสื้อผ้าน้อยแยกเป็นกองไม่สะดวกพอก็สามารถซักเสื้อผ้าตามสีอย่างเดียว ถ้ามีเสื้อผ้าบอบบางรวมอยู่ด้วยก็ต้องเลือกการซักผ้าแบบถะนุถนอม (delicates) จะได้ไม่ทำให้เนื้อผ้าเสีย  

อย่าลืมกลับผ้าก่อนซักด้วยช่วยลดการเสียดสี ไม่ทำลายเนื้อผ้า ป้องกันสีตก เวลาตากแดดสีผ้าด้านในไม่หมอง

3. ตรวจสอบอีกครั้ง 👚👕
 
ก่อนจะเปิดเครื่องซักผ้า ตรวจสอบอีกครั้งว่าผ้าที่จะซักอยู่ประเภทเดียวกัน ป้ายน้ำยาทำความสะอาดบนคราบสกปรก อย่าลืมเช็คว่าไม่มีทิชชู่ กระดาษ สิ่งแปลกปลอมอยู่ในกระเป๋าเพราะเมื่อเวลาซักจะเป็นขุยกระจายติดไปกับเสื้อตัวอื่น รวมทั้งเครื่องประดับ เข็ดกลัด ติดซิปและติดกระดุมให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันไม่ให้ข่วนกับเนื้อผ้า 

4. ใส่ผ้าลงเครื่อง 👚👕
 
วิธีใส่ผ้าลงเครื่องที่ถูกต้องคือใส่ทีละตัวเพื่อไม่ให้ผ้าพันกันเป็นก้อน อย่าอัดผ้าจนแน่นเกินไป ใส่ผ้าลงไปประมาณ 3 ใน 4 เพื่อให้มีที่ว่างสำหรับซักน้ำ 

5. เลือกผลิตภัณฑ์ซักผ้าให้ถูกต้อง 👚👕
 
ผลิตภัณฑ์ซักผ้ามีให้เลือกมากมาย บางทีก็ตาลายเลือกไม่ถูก หลักๆ แล้วแบ่งเป็น ผงซักฟอก น้ำยาซักผ้า น้ำยาขจัดคราบสกปรกฝังแน่น น้ำยาปรับผ้านุ่ม 

ในแต่ละประเภทยังมีแบ่งแยกย่อยไปอีก เช่น น้ำยาทำความสะอาดผ้าขาว ผ้าสี น้ำยาซักผ้าในร่ม แคปซูลทำความสะอาด น้ำยาปรับผ้านุ่มกึ่งเข้มข้นไปจนถึงเข้มข้น ต้องอ่านวิธีใช้ก่อนซักเพื่อทำความสะอาดได้ถูกต้อง 
 
เครื่องซักผ้าฝาบนและฝาหน้าใช้น้ำยาซักผ้าต่างกัน ถ้าใช้ไม่ถูกต้องจะทำให้เกิดฟองเยอะเกินไป ทำให้เสื้อผ้าไม่สะอาดและเครื่องเสีย
 
น้ำยาปรับผ้านุ่มไม่ควรใช้กับผ้าเช็ดตัวและชุดออกกำลังกาย เพราะมีสารเคมีบางประเภทที่ทำการดูดซึมน้ำลดลงทำให้เนื้อผ้าเช็ดตัวหยาบเกินไป

เสื้อผ้าตัวไหนมีคราบเลอะ ป้ายด้วยน้ำยากำจัดคราบสกปรกบนผ้าและขยี้ก่อน และเติมน้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่มเข้าไปในช่องจ่ายหรือในถังซัก ตามประเภทของผลิตภัณฑ์ซักผ้า 

6. เลือกอุณหภูมิน้ำและรอบปั่น 👚👕
การซักผ้าด้วยน้ำเย็นจะทำให้ไม่ทำลายเนื้อผ้า ยกเว้นชุดชั้นใน ผ้าปูที่นอนที่ทำจากคอตตอนควรจะซักด้วยน้ำร้อนเพื่อทำความสะอาดคราบไคล ส่วนผ้าปูลินินและผ้าขนหนูควรซักด้วยอุณหภูมิสูงสุดอย่างน้อยในขั้นตอนซักหลังจากนั้นล้างด้วยน้ำเย็น 

วงจรซักแบบ normal หรือ mix เหมาะสำหรับผ้าทุกชนิด ผ้าบอบบางซัก delicates โหมด heavy-duty เหมาะสำหรับผ้ายีนส์และผ้าขนหนูที่มีน้ำหนัก 

7. นำผ้าออกและตากผ้า 👚👕
 
เมื่อเครื่องซักผ้าทำงานเสร็จนำออกมาทันทีเพื่อลดรอยยับและป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อราสะสม บ้านไหนมีเครื่องอบผ้าต่างหากควรจะแยกประเภทของเสื้อผ้า ผ้าน้ำหนักน้อย ผ้าน้ำหนักมากควรเลือกวงจรอบให้ถูกต้องป้องกันไม่ให้ผ้าหดและปกป้องเนื้อผ้า 
 
ส่วนบ้านไหนไม่มีใช้วิธีธรรมชาติคือการตากแดด สะบัดตากให้แรงที่สุดเพื่อไม่ให้ผ้ายับมาก และแขวนไว้กับไม้แขวนเสื้อ เหลือช่องว่างระหว่างเสื้อผ้าที่ตากอยู่ เมื่อผ้าแห้งพับผ้าหรือแขวนผ้าเพื่อให้มีรอยยับน้อยที่สุด 

8. ดูแลเครื่องซักผ้า 👚👕
 
เมื่อซักผ้าสะอาดแล้วก็ต้องดูและเครื่องซักผ้าด้วย ไม่ควรซักผ้าติดต่อกันเกิน 2 ครั้งภายในหนึ่งวัน เครื่องจะได้ไม่ทำงานหนักมากเกินไป

หลังจากซักผ้าเสร็จ เปิดประตูเครื่องซักผ้าเพื่อให้อากาศไหลเวียน ระบายความชื้น

ทำความสะอาดช่องใส่ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มหลังจากการซักผ้าแต่ละครั้งเพื่อขจัดคราบผงซักฟอกที่เหลืออยู่ รวมถึงตัวกรองเพื่อขจัดสิ่งอุดตัน 

ถังซักผ้าสกปรกก็ทำให้ซักผ้าไม่สะอาด ควรล้างถังเครื่องซักผ้าทุก 1-2 เดือน ในตลาดมีน้ำยาทำความสะอาดถังซักผ้าหรือจะใช้เบกกิ้งโซดา น้ำส้มสายชูทำความสะอาดก็ได้

เครื่องซักผ้าฝาบนใช้เบกกิ้งโซดา 1 ถ้วยตวงเทลงในเครื่องซักผ้าที่มีน้ำเต็มถัง ตั้งเวลาปั่นประมาณ 2-3 นาทีเพื่อให้เบกกิ้งโซดาละลายทิ้งไว้ 1 คืนและใช้โปรแกรมซักผ้าปกติโดยไม่ต้องใส่เสื้อผ้าเข้าไปและทำอย่างเดิมอีก 2-3 รอบจนกว่าน้ำที่ออกมาจะสะอาด
ถ้าไม่มีเบกกิ้งโซดาก็ใช้น้ำส้มสายชูก็ได้ ผสมน้ำส้มสายชู 2-3 ถ้วยตวงกับน้ำอุ่น 1-2 ลิตร ใส่ในเครื่องซักผ้าเลือกระดับน้ำสูงสุดแล้วปั่น 2-3 นาทีเพื่อให้น้ำส้มสายชูละลาย ทิ้งไว้อย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง แล้วตั้งปั่นซักล้างตามปกติโดยไม่ต้องใส่ผ้าลงไป เดินเครื่องปั่นซักล้างอีก 1-2 ครั้งเพื่อไม่ให้มีกลิ่นน้ำส้มสายชู

เครื่องซักผ้าฝาหน้าสามารถใส่เบกกิ้งโซดาหรือน้ำส้มสายชูในช่องในผงซักฟอกแล้วเดินเครื่องซักล้างปั่นโดยไม่ต้องใส่เสื้อผ้าลงไป เครื่องซักผ้าบางรุ่นมีฟังก์ชั่นล้างถังซักโดยเฉพาะใช้พร้อมกับน้ำยาทำความสะอาด 
.
.
.
อ่านเคล็ดลับซักผ้าใส่เครื่องแล้ว บอกเลยว่าไม่ยาก ทำได้ทั้งพ่อบ้านและแม่บ้าน

ต่อไปนี้ผ้าสะอาดหอมถูกใจสมาชิกในครอบครัวแน่นอน ลองทำตามกันได้เลย 
เพี้ยนดีออก
ข้อมูลอ้าองอิง 
https://www.thespruce.com/how-to-do-laundry-2146149
https://www.matichon.co.th/lifestyle/news_2482894
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่