ลูกเราเรียนโรงเรียนรัฐบาลแห่ง 1 แถวสายไหม
ซึ่งเราตัดสินใจให้ลูกเรียนโรงเรียนนี้เพราะว่าคนแถวบ้านบอกว่าคุณครูสอนดีดูแลเด็กดีซึ่งเราก็ให้ลูกเรียนตั้งแต่อนุบาล
คุณครูประถมวัย ดูแลนักเรียนดีมาก และให้คำแนะนำกับผู้ปกครองดีมาก
แต่พอขึ้น ป.1 ด้วยความที่ลูกเราเป็นเด็กผู้ชาย เลยจะมีความดื้อมากๆ เราเลยเข้าไปขอคำแนะนำครูประจำชั้นของลูกซึ่งคำตอบที่ได้คือ
ครูยืนตำหนิและว่าลูกเราให้เราฟัง ส่วนเราก็ยืนรับฟังเผื่อจะได้รับคำแนะนำมาบ้าง แต่สุดท้ายในบทสนทนามีแต่การตำหนิลูกเราให้เราฟัง
เอาจริงๆเราก็โกรธนะแต่ลูกเราต้องเรียนกับคุณครูคนนี้ไปอีกตั้ง 1 เทอมก็เลยต้องยอมรับตามสภาพไป
และจุดพีคอยู่ที่วันนึงเราต้องพาลูกกลับก่อนเวลา จึงขอเข้าไปรับกลับก่อนเวลา
ซึ่งทางโรงเรียนมีมาตราการในการที่จะพาเด็ออกคือต้องกรอกเอกสารและให้ครูประจำชั้นเซ็นรับทราบ
ซึ่งถึงเวลาเรากรอกเอกสารเสร็จรอครูพาลูกมาส่งให้ ครูของน้องเองดันให้เพื่อนน้องเดินพาน้องมาส่ง
เราคิดว่าถ้าเกิดคนที่มารับเด็กไม่ใช่พ่อ แม่ หรือญาติน้องจริงๆครูจะรู้ได้ยังไง
และอีกเรื่องคือเราก็ยังพาน้องออกจากโรงเรียนไม่ได้เพราะครูไม่มาเซ็นต์เอกสารให้
ทางเจ้าหน้าที่ที่อยู่ห้องประตูก็จะไม่ให้ออก เราเลยโทรไปหาคุณครูแจ้งให้มาเซ็นให้
ครูกลับตอบกลับมาว่า ก็ให้เพื่อนไปส่งเด็กแล้วไง??
เราเลยบอกไปว่า ต้องมีเอกสารให้เซ็ฯต์ด้วยนะคะ
ครูก็ตอบกลับมาว่า เออเดี๋ยวไป แล้วก็ตัดสายไป (นี่เราใจเย็นมากกกก)
จนครูมาถึง ก็ไปคุยกับเจ้าหน้าที่ว่าทำไมต้องมีการเซ็ฯต์อะไรด้วย คือมันก็ต้องเซ็นต์รึป่าวคะ ถ้าเด็กไปกับคนอื่น ทางโรงเรียนรับผิดชอบไหวไหมเอ่ย??
ฉากสุดท้ายคือ ครูท่านนี้หันไปคุยกับเจ้าหน้าที่ ว่าเท่านี้ใช่ไหม แล้วนางก็ปาปากกาลงโต๊ะไปเลยจ้าาา
แบบนี้เราควรทำยังไงดี ตัวเราคิดว่าไม่ได้เป็นที่โรงเรียน แต่เป็นที่ตัวบุคลากรมากกว่า แต่ก็กลัวว่าถ้ามีปัญหาไปลูกเราก็จะแย่ตอนอยู่ที่โรงเรียน
ห่วงลูกก็ห่วง แต่ก็รู้สึกว่าพฤติกรรมครูไม่เหมาะสมเท่าไหร่
ทำอย่างไรดีเมื่อคุณครูลูกทำพฤติกรรมแย่ๆใส่
ซึ่งเราตัดสินใจให้ลูกเรียนโรงเรียนนี้เพราะว่าคนแถวบ้านบอกว่าคุณครูสอนดีดูแลเด็กดีซึ่งเราก็ให้ลูกเรียนตั้งแต่อนุบาล
คุณครูประถมวัย ดูแลนักเรียนดีมาก และให้คำแนะนำกับผู้ปกครองดีมาก
แต่พอขึ้น ป.1 ด้วยความที่ลูกเราเป็นเด็กผู้ชาย เลยจะมีความดื้อมากๆ เราเลยเข้าไปขอคำแนะนำครูประจำชั้นของลูกซึ่งคำตอบที่ได้คือ
ครูยืนตำหนิและว่าลูกเราให้เราฟัง ส่วนเราก็ยืนรับฟังเผื่อจะได้รับคำแนะนำมาบ้าง แต่สุดท้ายในบทสนทนามีแต่การตำหนิลูกเราให้เราฟัง
เอาจริงๆเราก็โกรธนะแต่ลูกเราต้องเรียนกับคุณครูคนนี้ไปอีกตั้ง 1 เทอมก็เลยต้องยอมรับตามสภาพไป
และจุดพีคอยู่ที่วันนึงเราต้องพาลูกกลับก่อนเวลา จึงขอเข้าไปรับกลับก่อนเวลา
ซึ่งทางโรงเรียนมีมาตราการในการที่จะพาเด็ออกคือต้องกรอกเอกสารและให้ครูประจำชั้นเซ็นรับทราบ
ซึ่งถึงเวลาเรากรอกเอกสารเสร็จรอครูพาลูกมาส่งให้ ครูของน้องเองดันให้เพื่อนน้องเดินพาน้องมาส่ง
เราคิดว่าถ้าเกิดคนที่มารับเด็กไม่ใช่พ่อ แม่ หรือญาติน้องจริงๆครูจะรู้ได้ยังไง
และอีกเรื่องคือเราก็ยังพาน้องออกจากโรงเรียนไม่ได้เพราะครูไม่มาเซ็นต์เอกสารให้
ทางเจ้าหน้าที่ที่อยู่ห้องประตูก็จะไม่ให้ออก เราเลยโทรไปหาคุณครูแจ้งให้มาเซ็นให้
ครูกลับตอบกลับมาว่า ก็ให้เพื่อนไปส่งเด็กแล้วไง??
เราเลยบอกไปว่า ต้องมีเอกสารให้เซ็ฯต์ด้วยนะคะ
ครูก็ตอบกลับมาว่า เออเดี๋ยวไป แล้วก็ตัดสายไป (นี่เราใจเย็นมากกกก)
จนครูมาถึง ก็ไปคุยกับเจ้าหน้าที่ว่าทำไมต้องมีการเซ็ฯต์อะไรด้วย คือมันก็ต้องเซ็นต์รึป่าวคะ ถ้าเด็กไปกับคนอื่น ทางโรงเรียนรับผิดชอบไหวไหมเอ่ย??
ฉากสุดท้ายคือ ครูท่านนี้หันไปคุยกับเจ้าหน้าที่ ว่าเท่านี้ใช่ไหม แล้วนางก็ปาปากกาลงโต๊ะไปเลยจ้าาา
แบบนี้เราควรทำยังไงดี ตัวเราคิดว่าไม่ได้เป็นที่โรงเรียน แต่เป็นที่ตัวบุคลากรมากกว่า แต่ก็กลัวว่าถ้ามีปัญหาไปลูกเราก็จะแย่ตอนอยู่ที่โรงเรียน
ห่วงลูกก็ห่วง แต่ก็รู้สึกว่าพฤติกรรมครูไม่เหมาะสมเท่าไหร่