ใครอยากฉีดฟิลเลอร์ ต้องรู้เกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียก่อนฉีดนะคะ อย่าพึ่งรีบตัดสินใจไปฉีดเพราะดูรีวิวแล้วสวยจนอยากฉีดตาม ควรหาความรู้สักนิดก่อน เพราะถ้าพลาดแล้วจะย้อนเวลากลับไปแก้ไขก็คงไม่ทันแล้วค่ะ ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าการฉีดฟิลเลอร์คืออะไร
การฉีดฟิลเลอร์ปาก คือการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือที่ในวงการทางแพทย์เรียกสารชนิดนี้ว่า “ฟิลเลอร์” มาฉีดบริเวณริมฝีปาก เพื่อเติมเต็มให้ปากมีความอวบอิ่ม ชุ่มชื้น เต่งตึงขึ้น นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์ปากยังช่วยปรับรูปปากให้เป็นทรงต่าง ๆ ได้ตามความต้องการ ช่วยแก้ปัญหาปากบาง ปากไม่เท่ากันได้ด้วยค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วดียังไง?
1. สารไฮยาลูรอนิค เอซิด หรือฟิลเลอร์เป็นสารที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายของเราค่ะ เนื่องจากเป็นสารที่สกัดมาจากธรรมชาติ ไร้สารปนเปื้อน และสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
2. สามารถแก้ไขปากให้อวบอิ่ม รูปทรงชัด และคนที่มีปัญหาปาก เช่น ยิ้มแล้วปากหาย
3. เห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังฉีด ในเวลา 30 - 45 นาที
4. วิธีดูแลรักษาหลังฉีดฟิลเลอร์ง่าย เนื่องจากไม่มีรอยแผลใหญ่จากการฉีดฟิลเลอร์ปาก มีพียงรอยเข็มเล็ก ๆ ที่จะหายไปได้เองภายใน 1 สัปดาห์
5. ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับบ้านทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติทันทีหลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก
ฟิลเลอร์ปากต้องระวังอะไรบ้าง?
1. การฉีดฟิลเลอร์ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่ถาวร เนื่องจากสารฟิลเลอร์จะมีการย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ส่วนระยะเวลาการสบายตัวจะขึ้นอยู่ยี่ห้อฟิลเลอร์แต่ละตัวค่ะ โดยส่วนมากจะอยู่ได้นานถึง 6 เดือนขึ้นไปค่ะ
2. ในช่วงแรก ๆ หลังฉีดควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ร้อนจัด เพราะอาจจะทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วกว่าอายุจริงของฟิลเลอร์ได้
ฟิลเลอร์ปาก ใครฉีดได้บ้าง?
เมื่ออายุมากขึ้น เนื้อริมฝีปากจะบางลงเรื่อย ๆ เนื่องจากคอลลาเจนที่สร้างน้อยลง สำหรับริมฝีปากที่คอลลาเจนน้อยลงจะดูไม่อิ่มเอิบ เห็นริ้วรอยได้ง่าย ดูแห้ง และมีอายุมากขึ้น เมื่อริมฝีปากบางลง หรือ แห้งแตกเป็นร่องชัดเจน จะเกิดปัญหาเวลาที่ทาลิปสติก เนื้อลิปสติกจะตกลงไปในร่อง สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ปาก เพราะฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มร่องลึกบริเวณริมฝีปากให้ตื้นขึ้น ชุ่มชื้น ดูอวบอิ่มยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยแก้ปัญหามุมปากตก ลักษณะรูปปากที่ไม่ได้สัดส่วน ริมฝีปากบางเกินไป ริมฝีปากไม่เท่ากันได้อีกด้วย หรือคนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน การฉีดฟิลเลอร์ สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ค่ะ
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จากทาง : Sowon Clinic
ฟิลเลอร์ปาก ดีจริงมั้ยคะ ?
การฉีดฟิลเลอร์ปาก คือการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือที่ในวงการทางแพทย์เรียกสารชนิดนี้ว่า “ฟิลเลอร์” มาฉีดบริเวณริมฝีปาก เพื่อเติมเต็มให้ปากมีความอวบอิ่ม ชุ่มชื้น เต่งตึงขึ้น นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์ปากยังช่วยปรับรูปปากให้เป็นทรงต่าง ๆ ได้ตามความต้องการ ช่วยแก้ปัญหาปากบาง ปากไม่เท่ากันได้ด้วยค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วดียังไง?
1. สารไฮยาลูรอนิค เอซิด หรือฟิลเลอร์เป็นสารที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายของเราค่ะ เนื่องจากเป็นสารที่สกัดมาจากธรรมชาติ ไร้สารปนเปื้อน และสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
2. สามารถแก้ไขปากให้อวบอิ่ม รูปทรงชัด และคนที่มีปัญหาปาก เช่น ยิ้มแล้วปากหาย
3. เห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังฉีด ในเวลา 30 - 45 นาที
4. วิธีดูแลรักษาหลังฉีดฟิลเลอร์ง่าย เนื่องจากไม่มีรอยแผลใหญ่จากการฉีดฟิลเลอร์ปาก มีพียงรอยเข็มเล็ก ๆ ที่จะหายไปได้เองภายใน 1 สัปดาห์
5. ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับบ้านทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติทันทีหลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก
ฟิลเลอร์ปากต้องระวังอะไรบ้าง?
1. การฉีดฟิลเลอร์ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่ถาวร เนื่องจากสารฟิลเลอร์จะมีการย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ส่วนระยะเวลาการสบายตัวจะขึ้นอยู่ยี่ห้อฟิลเลอร์แต่ละตัวค่ะ โดยส่วนมากจะอยู่ได้นานถึง 6 เดือนขึ้นไปค่ะ
2. ในช่วงแรก ๆ หลังฉีดควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ร้อนจัด เพราะอาจจะทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วกว่าอายุจริงของฟิลเลอร์ได้
ฟิลเลอร์ปาก ใครฉีดได้บ้าง?
เมื่ออายุมากขึ้น เนื้อริมฝีปากจะบางลงเรื่อย ๆ เนื่องจากคอลลาเจนที่สร้างน้อยลง สำหรับริมฝีปากที่คอลลาเจนน้อยลงจะดูไม่อิ่มเอิบ เห็นริ้วรอยได้ง่าย ดูแห้ง และมีอายุมากขึ้น เมื่อริมฝีปากบางลง หรือ แห้งแตกเป็นร่องชัดเจน จะเกิดปัญหาเวลาที่ทาลิปสติก เนื้อลิปสติกจะตกลงไปในร่อง สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ปาก เพราะฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มร่องลึกบริเวณริมฝีปากให้ตื้นขึ้น ชุ่มชื้น ดูอวบอิ่มยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยแก้ปัญหามุมปากตก ลักษณะรูปปากที่ไม่ได้สัดส่วน ริมฝีปากบางเกินไป ริมฝีปากไม่เท่ากันได้อีกด้วย หรือคนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน การฉีดฟิลเลอร์ สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ค่ะ
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จากทาง : Sowon Clinic