ตอนที่ผมเรียน อยู่ รร.เอกชนที่เป็นคอทอริก ใน จังหวัดอุบล ตอน ม.3 ผมเป็นเด็กไร้เดียงสาคนหนึ่ง ที่เคยมีปัญหาบ้างกับเพื่อนในห้องแต่ไม่สาหัสร้ายแรง แต่ก็คุยกันปกติ มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมได้ยินว่า พวกเพื่อนร่วมห้อง เล่ากันว่า จะไปสอบเข้า ม.4 ที่ รร.รัฐชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัด ซึ่งก็เป็น รร.ที่มี นักเรียนเหล่าหัวกะทิ เรียนกัน ผมรัก รร.นั้นมาก ผมใผ่ฝันอยากลองสอบเข้าสายวิทย์ คำนวณ และด้วยที่ผมไว้ใจเพื่อนในห้อง ผมจึงถามเพื่อนร่วมห้องว่า
ผม : เค้าอยาก ไป สอบ รร.(ชื่อ รร.รัฐชื่อดังแห่งในอุบล) ไปสอบยังไงหรอ
เพื่อน : รร. นั้นหมดรอบสอบ แล้ว
ผม : อ้าว (รู้สึกผิดหวังมาก)
ผมเลยจำใจเรียน ม.4 ต่อ ที่ รร.เอกชน และบังเอิญผม เผลอไปเลือกเรียน สายภาษา โดยไม่ได้ตั้งใจ ผมก็เลยเรียนภาษา แบบ ไม่ได้ตั้งใจ( ตอนนั้น ผมไม่ได้ซีเรียส เรื่อง สายเรียน )
ต้องขอบอกว่า รร.เอกชนที่ผมเรียน มันแย่ ตรงที่ว่า เคยมีคุณครูวิทย์ท่านหนึ่ง เวลาเข้าสอนทีไร แกให้แต่งานให้ นักเรียนเขียนสรุป บลา ๆๆ จนผมรู้สึกเบื่อ ไม่ใช่แต่ ครูวิทย์ เท่านั้น ครูวิชาอื่นก็มี แล้วครูดีมีไหม มีครับ แต่น้อย ครุที่ผมรักศรัทธา คือ ครู ภาษาไทย เพราะ ท่านสอนและรักษาจรรยาบรรณครู ไว้ได้
พอผมเริ่ม เรียน ม.4 สายภาษา ที่โรงเรียนเอกชน ดังกล่าว ผมรู้สึกไม่ enjoy กับการเรียนภาษา เรียนภาษาแล้วหงุดหงิด อีกทั้ง สังคมในห้องเรียน ก็ค่อนข้างแย่ ในห้องเรียน มี นักเรียน ประมาณ 20 คน เพื่อนในห้อง บ้าง ก็ เป็นพวกเด็กสก๊อย เด็กอันธพาล ติดยา เวลาครูไม่เข้ามาสอน ก็จะนอนพื้น โดยไม่สนแยใคร เวลาใครเดินผ่าน บ้าง ก็เต้นท่าวาดหวิว ในเชิงลามก ต่อหน้าประตูกระจก และหนักสุดเจอกระเทยคนหนึ่งที่ชอบมาบูลลี่ผมเรื่องการเรียน ผมถาม ตัวเองว่า "นี่ตรู มาเรียนผิด รร.ผิดที่รึเปล่านี่ ? " ผมจำได้ว่า เคยมีเพื่อนร่วมห้องคนหนึ่ง ได้ขอย้าย รร. เพียงเพราะ ไม่ชอบ ห้องเรียน แต่ยังไรก็ดี ถึงห้องจะเป็นสายภาษา แต่ก็มีการสอนวิชาวิทยาศาตร์ แต่สอบแบบไม่ค่อยจริงจัง ผมสนใจวิทยาศาสตร์ ผมเลยขอครุย้ายห้องไปสายวิทย์ ตอน เทอม 2
ในช่วงเลิกเรียน ตอนเย็น ในขณะที่ผมกำลังจะกลับบ้าน ผมเห็น เพื่อนคนหนึ่งที่ผมเคยถามเรื่องสอบเข้า รร.ชื่อดัง เขาใส่ ชุดเครื่องแบบ ของ รร.ของ รร.ชื่อดัง เขามาเยี่ยมผม พร้อมกับ เพื่อนคนอื่น ที่เคย รร. เอกชนที่ผมเรียนอยู่ เขาก็มาคุยว่าสบายดีไหม ( ถ้าย้อน ไปได้ ผมจะถามหนักๆว่า ทำไมไม่ชวนไปสอบ เข้า รร.ดัง ตอนนั้น และอยากจะ kill เพื่อนแสบคนนั้นมาก )
เมื่อผมมา เรียนห้อง สาย วิทย์ ผมนึกว่า จะได้เจอสภาพแวดล้อมที่ดีกว่า กลับรู้สึกมันแย่กว่าเดิม เจอแต่พวกสก๊อย เด็กติดยา พวกเด็กไร้อนาคต อีกทั้งผมยังหนีไม่พ้นการบูลลี่ สภาพแวดล้อม แย่ไม่แพ้ ห้องสายภาษา ที่ผมเคยเรียน
พอช่วงปิดเทอม จะเข้า ม.5 ผมได้มาทราบทีหลังจากรุ่นน้องว่า รร.ชื่อดังที่ผมอยากเข้า ความจริงแล้ว เขายังไม่ได้ปิดสอบ เขาเปิดถึงเดือนมีนา ไม่ก็เมษา (ถ้าจำไม่ผิดนะ) ผมรู้สึก หดหู่ เคยอยากคิดสั้น จบชีวิต แต่แม่มาห้ามไว้ และ บอกว่า ให้อดทนอยู่ต่อไป จนจบ ม.6 ผมก็เลยทำตามที่แม่บอก
ในช่วง ม.5 ผมอ่านหนังสืออย่างหนัก เพื่อ ชอบวิชาชีวะ แต่ที่โคตรแย่ คือ เมื่อถึงสอบ คุณครูกลับบอกให้เด็กดูโพลเฉลย ผมไม่พอใจอย่างแรง อุตส่าห์ อ่านหนังสือแทบเป็นแทบตาย ผมไม่พอใจการเรียนการสอนขแงครู ใน รร. อย่างมาก จนมีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมได้สังเกตเพื่อนคนหนึ่งที่ดูเหมือนว่า จะไม่สนเรื่องเรียน แต่กลับมีเกรดเฉลี่ยสูง ๆ เพราะ จ่ายค่าพิเศษให้ครู และ ช่วยครูต่าง ๆ ผมก็หาทาง ให้ได้ เกรดเฉลี่ย โดยทำตามวิธีของเพื่อน คนนั้น จากที่ผมเคยใฝ่หา ความรู้ ต้องกลายมาเป็น พวกเหลี่ยมอยากได้เกรดสูง แต่หารู้ไหม ว่า ได้เกรดสูง มันไม่ได้ช่วยเข้ามหาลัยใหญ่ ๆ
จากที่ผมเคยสนใจ เรื่องวิทย์ กลายมาเป็น เด็ก ขยันปั่นเกรด ด้วยวิธีกลเหลี่ยม ตอนนั้น ผมไม่เริ่มค่อยชอบวิชาวิทย์ เพราะ การสอนครุ มันแย่ห่วยแตก แล้วมาหันมาปั่นเกรดแบบมิชอบ ขอย้ำว่า เป็นวิธี ที่ไม่ถูกต้อง
พอถึงตอน ม.6 ความโหดมาถึง เป็นช่วงที่ผมต้องเข้ามหาลัย ผมนึกแรกๆ ว่า ผมจะไปเป็นวิศวะ เพราะ อยู่ดีๆ ความรัก ความชอบ วิทยาศาสตร์ ของผมกลับมา ผมก้ไปศึกษา วิธีเข้ามหาลัยรัฐ ดี ๆ ผมได้ช๊อคทันที เพราะว่า เด็กที่เข้ามหาลัย เป็นเด็ก ที่เคย เข้าไปแข่งขัน สอวน. หรือ เข้าค่าย สสวท. (แม้กระทั่ง เด็ก รร. รัฐดัง ๆ ที่ผม กล่าวไป ก็มีเด็ก ติด สอวน และ ค่าย สสวท ด้วย ) ในขณะที่ผมเอง มี เกรดเฉลี่ย ประมาณ 3.9 กว่า ๆ กิจกรรมก้แค่ระดับ โรงเรียนและจังหวัด แต่เมื่อผมลองเอา ไปยื่นมหาลัย เป็นพอร์ตฟอลิโอ้ ผมก็ไม่ผ่าน ผมก็เลยอยากลองเข้ารอบ 3 ดู แต่เวลาเตรียมตัวก็น้อย บวกกับครูที่ไม่รู้กาละเทศะ ว่าจะสั่งงานในช่วงนี้ ผมเตรียมตัวโดยซื้อหนังสือทำโจทย์ แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย จนกระทั่งผมได้รู้จักสถาบัน กวดวิชา แห่งหนึ่งที่มี เด็ก ติดมหาลัยเยอะสุด ผมก็ ไปดูว่า เด็กที่ติดมหาลัย เขาติดยังไง การที่ผมรู้เกี่ยวกับเด็กคนอื่น ๆ ผมได้ตั้งคำถามว่า ทำไม รร. ผมแย่ ทำไม รร. ผมไม่เคยมีการแนะแนว เหมือน รร. รัฐ อื่น ๆ เลย และทำไม รร.เรา สู้ รร.อื่น ไม่ได้ ทั้งด้านกิจกรรมและวิชาการ ผมซึมมากเลย
ที่แน่ๆ รร.เอกชน ไม่ค่อยมีคอนเนคชั่น เรื่องการเรียน เท่า รร.รัฐ
ต่อมา ผมก็พึ่งรู้ทีหลังว่า อยากเป็น หมอ ผมรู้สึกอยากสอบเข้าหมอ เพราะ ผมรู้วึกสอบวิทยาศาสตร์แนวประยุกต์ และผม ก็ได้บอกพ่อแม่ว่า ผมจะซิ่ว เข้า หมอ และ ผมก้ได้เสียเงินซื้อคอร์ส สถาบันกวดวิชา ในช่วงที่ระหว่างซิ่ว ถึงแม้ผมจะได้หลุดพ้น รร.แสนนรกไป เรื่องร้าย ๆ ที่ผมไม่ได้สอบเข้า รร. รัฐชื่อดัง ประจำจังหวัด ก็ยังมาหลอนผม อยู่ จนแทบควบคุม ไม่ได้ ผมกลายเป็นคนโง่เพราะ รร.เอกชน แห่งหนึ่ง ที่มีสังคมที่แย่มาก จนบางครั้ง ผมอยากกลับไป เรียน ม.4 ใหม่ อยากสมัครลงสอบ สอวน. เหมือน เด็ก คนอื่น ๆ
ถ้าหากครอบครัว ผมได้อ่าน ขอบอกเลยว่า ชีวิตผมพัง เพราะ รร.เอกชน (ผมไม่อยากนึกชื่อ รร.นั้นเลย) ผมไม่ได้อยากเป็นภาระครอบครัว ตั้งแต่ต้นเลย
ปล. ผมชอบสังคม คนหัวกะทิ มากกว่า สังคมสก๊อย ใน รร.เอกชนที่ผมเรียนตอนนั้น เหมือนดั่งที่ว่า คบพาล พาลไปหาผิด คบบัณฑิตไปหาผล
ถ้าท่านคิดว่า ผมควรโทษตัวเอง แล้ว
ถ้าท่านเป็นผม ตอน ม.3 ท่านจะทำยังไง
ถ้าท่านเป็นผม ตอน ม.4 ท่านจะทำยังไง
ถ้าท่านเป็นผม ตอน ม.5 ท่านจะทำยังไง
ถ้าท่านเป็นผม ตอน ม.6 ท่านจะทำยังไง
ถ้าท่านเป็นผม ตอนนี้ ถ้าท่านเป็นผม ตอน ม.3 ท่านจะทำยังไง
อนาคตผมดับ เพราะ เพื่อนผม ตอน ม.3 หลอกว่า รร.ดัง ปิดรอบสอบ และ ผมเกลียดชีวิต ม.ปลาย ใน รร.เอกชน ตอนนี้ผมเป็นเด็กซิ่ว
ผม : เค้าอยาก ไป สอบ รร.(ชื่อ รร.รัฐชื่อดังแห่งในอุบล) ไปสอบยังไงหรอ
เพื่อน : รร. นั้นหมดรอบสอบ แล้ว
ผม : อ้าว (รู้สึกผิดหวังมาก)
ผมเลยจำใจเรียน ม.4 ต่อ ที่ รร.เอกชน และบังเอิญผม เผลอไปเลือกเรียน สายภาษา โดยไม่ได้ตั้งใจ ผมก็เลยเรียนภาษา แบบ ไม่ได้ตั้งใจ( ตอนนั้น ผมไม่ได้ซีเรียส เรื่อง สายเรียน )
ต้องขอบอกว่า รร.เอกชนที่ผมเรียน มันแย่ ตรงที่ว่า เคยมีคุณครูวิทย์ท่านหนึ่ง เวลาเข้าสอนทีไร แกให้แต่งานให้ นักเรียนเขียนสรุป บลา ๆๆ จนผมรู้สึกเบื่อ ไม่ใช่แต่ ครูวิทย์ เท่านั้น ครูวิชาอื่นก็มี แล้วครูดีมีไหม มีครับ แต่น้อย ครุที่ผมรักศรัทธา คือ ครู ภาษาไทย เพราะ ท่านสอนและรักษาจรรยาบรรณครู ไว้ได้
พอผมเริ่ม เรียน ม.4 สายภาษา ที่โรงเรียนเอกชน ดังกล่าว ผมรู้สึกไม่ enjoy กับการเรียนภาษา เรียนภาษาแล้วหงุดหงิด อีกทั้ง สังคมในห้องเรียน ก็ค่อนข้างแย่ ในห้องเรียน มี นักเรียน ประมาณ 20 คน เพื่อนในห้อง บ้าง ก็ เป็นพวกเด็กสก๊อย เด็กอันธพาล ติดยา เวลาครูไม่เข้ามาสอน ก็จะนอนพื้น โดยไม่สนแยใคร เวลาใครเดินผ่าน บ้าง ก็เต้นท่าวาดหวิว ในเชิงลามก ต่อหน้าประตูกระจก และหนักสุดเจอกระเทยคนหนึ่งที่ชอบมาบูลลี่ผมเรื่องการเรียน ผมถาม ตัวเองว่า "นี่ตรู มาเรียนผิด รร.ผิดที่รึเปล่านี่ ? " ผมจำได้ว่า เคยมีเพื่อนร่วมห้องคนหนึ่ง ได้ขอย้าย รร. เพียงเพราะ ไม่ชอบ ห้องเรียน แต่ยังไรก็ดี ถึงห้องจะเป็นสายภาษา แต่ก็มีการสอนวิชาวิทยาศาตร์ แต่สอบแบบไม่ค่อยจริงจัง ผมสนใจวิทยาศาสตร์ ผมเลยขอครุย้ายห้องไปสายวิทย์ ตอน เทอม 2
ในช่วงเลิกเรียน ตอนเย็น ในขณะที่ผมกำลังจะกลับบ้าน ผมเห็น เพื่อนคนหนึ่งที่ผมเคยถามเรื่องสอบเข้า รร.ชื่อดัง เขาใส่ ชุดเครื่องแบบ ของ รร.ของ รร.ชื่อดัง เขามาเยี่ยมผม พร้อมกับ เพื่อนคนอื่น ที่เคย รร. เอกชนที่ผมเรียนอยู่ เขาก็มาคุยว่าสบายดีไหม ( ถ้าย้อน ไปได้ ผมจะถามหนักๆว่า ทำไมไม่ชวนไปสอบ เข้า รร.ดัง ตอนนั้น และอยากจะ kill เพื่อนแสบคนนั้นมาก )
เมื่อผมมา เรียนห้อง สาย วิทย์ ผมนึกว่า จะได้เจอสภาพแวดล้อมที่ดีกว่า กลับรู้สึกมันแย่กว่าเดิม เจอแต่พวกสก๊อย เด็กติดยา พวกเด็กไร้อนาคต อีกทั้งผมยังหนีไม่พ้นการบูลลี่ สภาพแวดล้อม แย่ไม่แพ้ ห้องสายภาษา ที่ผมเคยเรียน
พอช่วงปิดเทอม จะเข้า ม.5 ผมได้มาทราบทีหลังจากรุ่นน้องว่า รร.ชื่อดังที่ผมอยากเข้า ความจริงแล้ว เขายังไม่ได้ปิดสอบ เขาเปิดถึงเดือนมีนา ไม่ก็เมษา (ถ้าจำไม่ผิดนะ) ผมรู้สึก หดหู่ เคยอยากคิดสั้น จบชีวิต แต่แม่มาห้ามไว้ และ บอกว่า ให้อดทนอยู่ต่อไป จนจบ ม.6 ผมก็เลยทำตามที่แม่บอก
ในช่วง ม.5 ผมอ่านหนังสืออย่างหนัก เพื่อ ชอบวิชาชีวะ แต่ที่โคตรแย่ คือ เมื่อถึงสอบ คุณครูกลับบอกให้เด็กดูโพลเฉลย ผมไม่พอใจอย่างแรง อุตส่าห์ อ่านหนังสือแทบเป็นแทบตาย ผมไม่พอใจการเรียนการสอนขแงครู ใน รร. อย่างมาก จนมีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมได้สังเกตเพื่อนคนหนึ่งที่ดูเหมือนว่า จะไม่สนเรื่องเรียน แต่กลับมีเกรดเฉลี่ยสูง ๆ เพราะ จ่ายค่าพิเศษให้ครู และ ช่วยครูต่าง ๆ ผมก็หาทาง ให้ได้ เกรดเฉลี่ย โดยทำตามวิธีของเพื่อน คนนั้น จากที่ผมเคยใฝ่หา ความรู้ ต้องกลายมาเป็น พวกเหลี่ยมอยากได้เกรดสูง แต่หารู้ไหม ว่า ได้เกรดสูง มันไม่ได้ช่วยเข้ามหาลัยใหญ่ ๆ
จากที่ผมเคยสนใจ เรื่องวิทย์ กลายมาเป็น เด็ก ขยันปั่นเกรด ด้วยวิธีกลเหลี่ยม ตอนนั้น ผมไม่เริ่มค่อยชอบวิชาวิทย์ เพราะ การสอนครุ มันแย่ห่วยแตก แล้วมาหันมาปั่นเกรดแบบมิชอบ ขอย้ำว่า เป็นวิธี ที่ไม่ถูกต้อง
พอถึงตอน ม.6 ความโหดมาถึง เป็นช่วงที่ผมต้องเข้ามหาลัย ผมนึกแรกๆ ว่า ผมจะไปเป็นวิศวะ เพราะ อยู่ดีๆ ความรัก ความชอบ วิทยาศาสตร์ ของผมกลับมา ผมก้ไปศึกษา วิธีเข้ามหาลัยรัฐ ดี ๆ ผมได้ช๊อคทันที เพราะว่า เด็กที่เข้ามหาลัย เป็นเด็ก ที่เคย เข้าไปแข่งขัน สอวน. หรือ เข้าค่าย สสวท. (แม้กระทั่ง เด็ก รร. รัฐดัง ๆ ที่ผม กล่าวไป ก็มีเด็ก ติด สอวน และ ค่าย สสวท ด้วย ) ในขณะที่ผมเอง มี เกรดเฉลี่ย ประมาณ 3.9 กว่า ๆ กิจกรรมก้แค่ระดับ โรงเรียนและจังหวัด แต่เมื่อผมลองเอา ไปยื่นมหาลัย เป็นพอร์ตฟอลิโอ้ ผมก็ไม่ผ่าน ผมก็เลยอยากลองเข้ารอบ 3 ดู แต่เวลาเตรียมตัวก็น้อย บวกกับครูที่ไม่รู้กาละเทศะ ว่าจะสั่งงานในช่วงนี้ ผมเตรียมตัวโดยซื้อหนังสือทำโจทย์ แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย จนกระทั่งผมได้รู้จักสถาบัน กวดวิชา แห่งหนึ่งที่มี เด็ก ติดมหาลัยเยอะสุด ผมก็ ไปดูว่า เด็กที่ติดมหาลัย เขาติดยังไง การที่ผมรู้เกี่ยวกับเด็กคนอื่น ๆ ผมได้ตั้งคำถามว่า ทำไม รร. ผมแย่ ทำไม รร. ผมไม่เคยมีการแนะแนว เหมือน รร. รัฐ อื่น ๆ เลย และทำไม รร.เรา สู้ รร.อื่น ไม่ได้ ทั้งด้านกิจกรรมและวิชาการ ผมซึมมากเลย
ที่แน่ๆ รร.เอกชน ไม่ค่อยมีคอนเนคชั่น เรื่องการเรียน เท่า รร.รัฐ
ต่อมา ผมก็พึ่งรู้ทีหลังว่า อยากเป็น หมอ ผมรู้สึกอยากสอบเข้าหมอ เพราะ ผมรู้วึกสอบวิทยาศาสตร์แนวประยุกต์ และผม ก็ได้บอกพ่อแม่ว่า ผมจะซิ่ว เข้า หมอ และ ผมก้ได้เสียเงินซื้อคอร์ส สถาบันกวดวิชา ในช่วงที่ระหว่างซิ่ว ถึงแม้ผมจะได้หลุดพ้น รร.แสนนรกไป เรื่องร้าย ๆ ที่ผมไม่ได้สอบเข้า รร. รัฐชื่อดัง ประจำจังหวัด ก็ยังมาหลอนผม อยู่ จนแทบควบคุม ไม่ได้ ผมกลายเป็นคนโง่เพราะ รร.เอกชน แห่งหนึ่ง ที่มีสังคมที่แย่มาก จนบางครั้ง ผมอยากกลับไป เรียน ม.4 ใหม่ อยากสมัครลงสอบ สอวน. เหมือน เด็ก คนอื่น ๆ
ถ้าหากครอบครัว ผมได้อ่าน ขอบอกเลยว่า ชีวิตผมพัง เพราะ รร.เอกชน (ผมไม่อยากนึกชื่อ รร.นั้นเลย) ผมไม่ได้อยากเป็นภาระครอบครัว ตั้งแต่ต้นเลย
ปล. ผมชอบสังคม คนหัวกะทิ มากกว่า สังคมสก๊อย ใน รร.เอกชนที่ผมเรียนตอนนั้น เหมือนดั่งที่ว่า คบพาล พาลไปหาผิด คบบัณฑิตไปหาผล
ถ้าท่านคิดว่า ผมควรโทษตัวเอง แล้ว
ถ้าท่านเป็นผม ตอน ม.3 ท่านจะทำยังไง
ถ้าท่านเป็นผม ตอน ม.4 ท่านจะทำยังไง
ถ้าท่านเป็นผม ตอน ม.5 ท่านจะทำยังไง
ถ้าท่านเป็นผม ตอน ม.6 ท่านจะทำยังไง
ถ้าท่านเป็นผม ตอนนี้ ถ้าท่านเป็นผม ตอน ม.3 ท่านจะทำยังไง