เรื่องเป็นงี้ครับ
- คนรู้จักพ่อผมส่งของมาจากอเมริกามาให้ เป็นวิตามิน ซึ่งมีขายในบ้านเราด้วย ไม่ใช่ยาอันตรายอะไร แค่ไม่กี่กระปุก
- ของมาถึงศุลกากร ผ่านมาแล้ว 10 วัน ไร้ความคืบหน้า
- พอลองโทรถาม DHL ที่ส่งมา บอกว่า "ทางเราต้องลงทะเบีนกับศุลกากร ถึงจะดึงของมาได้"
- ผมเลยถามเขาว่าทำไมต้องลงทะเบียน เพราะปกติ ขนส่งเอกชน ไม่ว่าจะ DHL หรือ fedex จะต้องดำเนินการให้เรา และหากมีภาษี ก็จะมาเก็บกับเราตอนที่มาส่งของเขา เขาบอกว่าทำให้ไม่ได้
- เขาบอกว่า "เนื่องจากของเราต้องสงสัยว่าเกิน 40,000 บาท เลยต้องลงคลัง แต่เป็นดุลพินิจของศุลกากรที่มองแบบนั้น เพื่อที่จะได้ดึงของออกมาได้ ผู้รับจะต้องลงทะเบียนกับศุลกากร แล้วก็ต้องเชื่อมต่อกับแอพเป๋าตังค์ เสร็จแล้วก็ทำเรื่องให้ DHL เป็นคนดึงของมาได้"
(** เรื่องของเกิน 40,000 เป็นไปไม่ได้เพราะของแค่ไม่กี่พัน ไม่ได้เอามาขายเอง ไม่ได้สั่งจากร้าน แต่เป็นเพื่อนที่เขาซื้อมาให้ แค่ไม่กี่กระปุกเอง)
- นอกจากนี้ยังบอกด้วยว่า "ทางเราในฐานะผู้รับ จะต้องระบุชื่อของที่อยู่ในกล่อง ส่งภาพตัวอย่าง บอกจำนวนชิ้น และราคา เพื่อให้ศุลกากรประเมินภาษีให้ด้วย" 
- ผมเลยถามกลับไปว่า แล้วทาง DHL ทำให้เราไม่ได้เหรอ เพราะในการส่งพัสดุมาจากต่างประเทศ มันต้องมีเอกสารระบุอยู่แล้วว่ามีอะไร มีกี่ชิ้น ราคาเท่าไหร่ ข้อมูลนี้ยังไง DHL หรือ ศุลกากรก็ต้องรู้เพราะมันแปะอยู่บนหน้าพัสดุเลย
- เจ้าหน้าที่บอกว่า "ไม่ได้ และหากทางผมไม่ทำอะไรเลย ทางเราก็จะดึงของมาไม่ได้"
--------------------------
เป็นกรณีแรกที่ผมเจอแบบนี่ เพราะตอนผมสั่งของเอง ไม่ว่าจะมาจากอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น ยังไงก็ไม่เห็นต้องทำอะไรยุ่งยาก ถ้าจะโดนภาษี ผมก็จ่ายกับขนส่งเอกชนตอนมาถึงบ้าน หรือไปจ่ายที่ ปณ. โดยตลอด แล้วที่มันน่าสงสัยคือ ทำไมต้องมีการเชื่อมกับแอพเป๋าตังค์? เพราะแอพเป๋าตังค์มันก็คือแอพธุรกรรมที่เกี่ยวกับเงินในบัญชีของเรา ถ้าจะบอกว่าต้องการยืนยันตัวตน เลขบัตรประชาชนมันก็ยืนยันได้แล้วไม่ใช่เหรอ?
ผมว่าเคสมันแปลกๆ เลยอยากถามว่า มีคนอื่นที่เคยเจอเคสลักษณะนี้ไหมครับ?