ผลงานทีม และนักเตะที่ยังไม่นิ่งเท่าไหร่ มีตัวขึ้นๆ ลงๆ และมีตัวทีมรองที่พุ่งแรงขึ้นมา เช่น โรดริโก้, กรอสส์ ยิ่งคะแนนต่อเนื่อง GW1-3 ไม่น่าพึงพอใจ ทำให้หลายคนเริ่มมองถึงการใช้ Wildcard อย่างไรก็ดี อยากเตือนให้ระวังแมทช์เตะถี่ซึ่งจะเริ่มต้นกันจริงจัง GW4 สุดสัปดาห์นี้ ต่อด้วย GW5-6 ในระยะห่างแมทช์ละเพียง 3-4 วัน เพราะการโรเตชันจะเข้ามามีบทบาท และทำให้ตัวที่คุณเลือกลงเล่นไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย

เช่นเคยกับเนื้อหาปกติ เราจะมาสรุป GW3 กัน ก่อนจะแนะนำทีเด็ดสำหรับ GW4 ก่อนที่ EP หน้า จะต้องมีการปรับคอนเทนท์ เนื่องจากมีแมทช์กลางสัปดาห์เข้ามากวนแล้ว ติดตามกันไปตลอด จะพยายามนำเสนอให้ครบถ้วนที่สุดครับ (ถ้าอะไรตกหล่น ไปตามต่อในกลุ่มเฟซบุ๊คได้ ลิงค์ด้านล่างมี)

คะแนน Gameweek 3 : 46 คะแนน

คะแนนรวม : 187 คะแนน

อันดับโลก : 1,156,790 (ตกมาจาก 699,143)

อันดับชาวไทย : 7,561 (ตกมาจาก 4,762)

อันดับ The.Macho League : 657 (ตกมาจาก 496)

อันดับร่วงต่อเนื่องหลังจบ GW3 ถึงแม้กัปตันซาล่าห์ จะมาช่วยให้คะแนนไม่เลวร้ายมากนัก แต่ด้วยตัวแตกต่างไม่มีเข้าเป้าให้น่าตื่นเต้น คะแนนเลยต่ำกว่า Average ส่งผลต่ออันดับอย่างที่เห็น

ถึงจะได้ดายเยอร์มาในวีคที่ไม่ค่อยคลีนชีตกัน แต่การเบิ้ลเกมรับลิเวอร์พูล บวกกับดิวส์บิวรี-ฮอลล์ และคูลูเชฟสกี้ ที่คาดหวังไว้ ไม่มาตามนัด ทำให้คะแนนจากตัวมาร์ติเนลลี, ฮาลันด์, เฆซุส หรือแม้แต่ซาล่าห์ ไม่เพียงพอจะช่วยให้ลูกศรเขียว เพราะถือเป็นตัว template ที่ใช้กันทั่วไป

ด้วยผลงาน GW2-3 ที่ไม่ค่อยดี ถึงจะยังพอมองระยะยาวได้ตามแผนเดิม แต่ยอมรับว่า มีคิดถึงการ “ปรับใหญ่” อยู่เหมือนกัน แต่คงยังไม่ใช่กับ GW4 เดี๋ยวไปแชร์ไอเดียกันเพิ่มเติมด้านล่างอีกทีครับ

ผู้รักษาประตู : อารอน แรมส์เดล (6 คะแนน)

กองหลัง : รีส เจมส์ (1 คะแนน), นีโค วิลเลียมส์ (1 คะแนน)

กองกลาง : เดยัน คูลูเชฟสกี้ (3 คะแนน), โม ซาล่าห์ (8 คะแนน)

กองหน้า : กาเบรียล เฆซุส (4 คะแนน)

Differential : เจมส์ แมดดิสัน (7 คะแนน)

หากมองกันตามสถิติระยะหลัง พาเลซเป็นทีมตัวแสบของแมนฯ ซิตี้ อยู่เหมือนกัน และ “เรือใบสีฟ้า” ก็เพิ่งโดนถลุง 3 ประตูมาในเกมล่าสุด แต่ก็ยังรู้สึกว่ารูปเกมของพาเลซ น่าจะมาเล่นเหนียวแน่น กับระบบหลัง 5 และเน้นใช้ซาฮาสวนกลับมากกว่าจะมาเปิดหน้าโจมตี โอกาสโดนส่องของเอแดร์สันจึงมีไม่มาก

ซาฮาเป็นตัวแสบแหละ แต่แมนฯ ซิตี้ น่าจะรับมือได้ดี โอกาสคลีนชีตในเกมนี้จึงค่อนข้างสูง เอแดร์สันก็เป็นตัวชัวร์ในแนวรับ ที่คงไม่โดนโรเตชันในช่วงเกมถี่ หากใครมีติดทีมไว้ ก็น่าจะมีลุ้นเก็บคะแนนช่วงนี้ได้พอสมควร

เข้าใจดีว่าฟอร์มของลิเวอร์พูลน่าห่วง ตัวเจ็บเยอะ และสมดุลทีมที่ยังไม่ลงตัว นอกจากจะส่งผลต่อเกมรุก ก็กระทบเกมรับไปด้วย ถึงจะเปิดโอกาสให้คู่แข่งครองเกมไม่เยอะ แต่ก็โดนไปแล้ว 5 ประตู จาก 3 นัด ในฟอร์มส่วนตัว TAA เองก็ยังไม่มีแอสซิสต์มาฝาก กับราคา 7.5 ล้านปอนด์ จึงเริ่มถูกมองว่าไม่คุ้มค่าที่จะถือไว้

อย่างไรก็ดี บอร์นมัธถือเป็นทีมที่เล่นครึ่งๆ กลางๆ มากที่สุดใน 3 เกมแรก จะรับก็ไม่ดี จะรุกก็ยังกล้าๆ กลัวๆ (อย่างเกมกับอาร์เซน่อล) หาก “หงส์แดง” เล่นได้ตามมาตรฐาน โอกาสลุ้นคลีนชีตมันก็ต้องนัดนี้แหละ ส่วน TAA จริงๆ เขาขยับเข้าไปจ่าย key pass ได้เยอะเลย เพียงแต่มันยังไม่ลงล็อคซะที ก็หวังเช่นกันว่าจะมาในนัดนี้ด้วย

ขอแนะนำกองหลังแค่ตัวเดียว เพราะมีกองกลางน่าแนะนำมากกว่า เริ่มกันที่ซาล่าห์เลย ซึ่งแม้นัดล่าสุดหลายคนจะพูดถึงฟอร์มของมาลาเซีย ที่ทำให้ซาล่าห์เล่นลำบาก แต่หากดูดีๆ ซาล่าห์ยังดิ้นหลุดไปได้หลายหน เพียงแต่โดนซ้อนจนเล่นต่อไม่ถนัด ยิ่งเกมด้านซ้ายบอด คู่แข่งก็รู้เลยว่าหนีมาขวาแน่ จึงคุ้นภาพโดนรุมกินโต๊ะตลอด (ก็ยังอุตส่าห์ยิงได้ 1 ประตู)

มาตรฐานของซาล่าห์ยังสูงอยู่ เรียกได้ว่าแทบจะเป็นเพียงไม่กี่คนของ “หงส์แดง” ที่ฟอร์มทำได้ตามมาตรฐาน เกมกับบอร์นมัธมันคือวีคดีเดย์แหละ เกมน่าจะติดขัดบ้าง แต่คงมีคะแนนจากโมมาฝากไม่มากก็น้อย จะใส่กัปตันเลยก็ไม่ผิด

นักเตะเนื้อหอมของไบรท์ตัน นอกจากซานเชซที่หนึบหนับ ก็คงเป็นกรอสส์ ที่เรียกฟอร์มเก่งกลับมายึดตัวจริงต่อเนื่องในซีซันนี้ แต่ที่เลือกแนะนำทรอสซาด์ เพราะเขาเป็นตัวที่มักจะดอดเข้าจู่โจมในขณะที่เวลเบ็คดึงเกมรับเข้ามาประกบ เหมือนที่เขาทำได้ในเกมกับเวสต์แฮม

ลีดส์ฟอร์มดีจริง แต่เกมรับก็ต้องพิสูจน์กันต่อไป ไบรท์ตันพิสูจน์ในซีซันนี้ว่าใช้โอกาสไม่เปลือง จึงน่าจะสู้กันได้สนุก ค่อนข้างเชื่อว่า “เจ้านกนางนวล” จะมีสกอร์ และด้วยเหตุผลด้านบน ทรอสซาด์น่าจะมีลุ้น

ผลงานเชลซีมาสะดุดต่อเนื่องเลย หลังโดนสเปอร์ตีเสมอแบบเซ็งๆ ก่อนบุกไปโดนลีดส์อัดยับอีก ภาพรวมกับนักเตะเชลซีเลยไม่ค่อยน่าสนใจ ตัวที่ยังน่าติดทีมอยู่คงเป็นเจมส์ ที่นอกจากลุ้นคลีนชีต ยังลุ้น attacking return ได้ (และลุ้นใบเหลืองด้วย ฮ่า) แต่ยังมีอีกตัวที่มันเฉี่ยวไปเฉี่ยวมา ไม่ได้สกอร์ซักที นั่นคือสเตอร์ลิง

สเตอร์ลิงเคลื่อนที่เล่นกับแนวรับคู่แข่งได้ดีมาตลอด 3 นัด และควรมีประตูหลายหน เพียงแต่มันยังไม่ลงจังหวะซักที เกมนี้เจอกับเลสเตอร์ที่เกมรับยังมีปัญหาเยอะ ราฮีมคงต้องมาเสียที เขาน่าจะมีลุ้นมากกว่าเมาท์ และฮาแวร์ตซ์ ในมุมมองผม

ถึงจะแพ้มาในเกมล่าสุด แต่เกมรุกของเบรนท์ฟอร์ดยังดีอยู่ พวกเขาทำไปแล้ว 8 ประตูจาก 3 นัด โดยโทนีย์เป็นตัวเป้าที่ยืดหยุ่นดีทีเดียว เป็นได้ทั้งตัวชง และตัวเข้าทำเอง ดูเขาปรับการเล่นของตัวเองให้เสถียรขึ้นกว่าซีซันที่แล้ว

การเจอกับเอฟเวอร์ตันของแลมพาร์ด ถือว่าน่าลุ้น เพราะ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ยังมีปัญหาในหลายจุด เกมรับยึดระบบหลัง 3 ตัว แต่ยังมีช่องให้โดนจู่โจมบ่อยครั้ง โอกาสที่เบรนท์ฟอร์ดจะลุ้นประตูมากกว่า 1 ลูก น่าจะมีอีกนัด

ถึงนัดที่แล้วเยนเซ่นจะลงเล่นแค่ 60 นาที แต่ก็ยังสร้างสมดุลในแดนกลางได้ดี และการเปลี่ยนจังหวะทำเกมรุก ก็ดูเป็นตัวที่ทำได้เด่นกว่ารายอื่น เลยคิดว่าเขาจะยึดตัวจริงต่อไป (ในเกมคาราบาว คัพ ก็ไม่ได้ลงตัวจริง) ในการเปิดบ้านเจอเอฟเวอร์ตัน

โอกาสการลุ้นประตู ก็ตามที่พูดถึงไปในการแนะนำโทนีย์ ยิ่งแดนกลางเอฟเวอร์ตัน พวกเขายังขาดตัวเล่นเกมรับแบบจริงๆ จังๆ และเป็นจุดตายที่ทำให้ลูกทีมของแลมพาร์ด มักจะเสียเปรียบคู่แข่ง เราเลยคาดหวังจากเหล่ามิดฟิลด์ของ “ผึ้งพิฆาต” ได้ด้วย