My solo trips by sitmarine @ เชียงใหม่

 สวัสดีครับ บทความและเนื้อหาดังต่อไปนี้ไม่ได้เป็นการรีวิวหรือแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวหรือร้านอาหาร แต่เป็นเพียงเรื่องเล่าและอยากแชร์ประสบการณ์ในการเดินทาง สิ่งที่ได้พบเจอระหว่างทาง ซึ่งผมเองก็ไม่ได้เป็นนักถ่ายภาพ กล้องที่ใช้ก็เป็นกล้องจาก Smart Phone ภาพถ่ายที่ได้จึงเป็นเพียง “ภาพถ่ายของสิ่งปลูกสร้างและธรรมชาติที่สวยงาม”  ไม่ได้เป็นภาพถ่ายที่สวยงาม  

     ผมมีความคิดที่ต้องการเดินทางไปเยือนเชียงใหม่อีกครั้ง ในหลายปีที่ผ่านมาก็มีไปเที่ยวมาหลายครั้ง แต่ส่วนใหญ่เป็นช่วงฤดูหนาวการเดินทางผ่านตัวเมืองแล้วขึ้นดอยไปแค้มป์ปิ้ง กางเต้นท์นอนอยู่กับธรรมชาติซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงที่อยู่ในวัยที่ต้องการหาความสุขใส่ตัวเป็นหลัก แต่ในครั้งนี้มีความคิดเปลี่ยนไป มีบางอย่างเพิ่มเข้ามา คืออยากเดินทางไปคนเดียว อยากเที่ยวคนเดียว เข้าวัดไหว้พระ ดูศิลปะล้านนาในวัด แวะหาเพื่อนเก่า อยากขับรถมอเตอร์ไซค์เที่ยวในช่วงฤดูฝน และนี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของ My solo trips by sitmarine @ เชียงใหม่

     5 กค. 65 
     ก่อนหน้านี้มีผมความคิดอยากลองเดินทางด้วยรถไฟด่วนพิเศษตู้นอนรุ่นใหม่ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ แต่ด้วยเรื่องของระยะเวลาในการเดินทางที่จำกัด ความสะดวกในการเดินทาง จึงต้องเลือกการเดินทางด้วยเครื่องบินน่าจะดีที่สุดเพราะมีเวลาเพียง 6 วันสำหรับการเดินทางในครั้งนี้ จากนั้นนิ้วจึงเริ่มทำหน้าที่ของมันด้วยการ คลิกจองตั๋วนกแอร์ทันที จากนั้นเริ่มวางแผนการเดินทางและสถานที่พัก เริ่มจาก 2 คืนแรกสำหรับการเที่ยวตระเวนไหว้พระในตัวเมืองเชียงใหม่ ถัดมาอีก 2 วันที่แม่กำปอง คืนที่ 5 ที่บ้านคลองแม่สาย อ. พร้าว และคืนสุดท้ายกลับมาที่เชียงใหม่อีกครั้งเพื่อเตรียมตัวกลับในวันรุ่งขึ้น 

     6 กค. 65
     หลังจากที่เมื่อวานจองตั๋วเครื่องบินได้แล้วถึงคิดได้ว่าเราต้องเดินทางคนเดียว หากเกิดอะไรขึ้นจะทำอย่างไร จะมีใครรู้ไหมจึงคิดได้ว่า อยากทำเลสข้อมือสแตนเลสไว้ใส่โก้ๆ สักเส้น ด้านหน้าสลักชื่อและเบอร์โทรของลูกทั้งสองคนไว้ส่วนด้านหลังสลักชื่อเราเอง (เผื่อมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น เขาจะสามารถติดต่อญาติได้เพราะปกติโทรศัพท์จะถูกล๊อคโดยอัตโนมัติ) และก็ต้องพึ่งอากู๋เหมือนเดิม และอากู๋ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง จึงทำให้ได้รู้จักกับ Facebook fan page เป็นครั้งแรกที่สั่งซื้อสินค้ากับร้าน Carved on jew ผ่าน Facebook ใช้เวลา 3 วันก็ได้รับของตามที่ต้องการ
     ต่อไป... ติดต่อหาเพื่อนที่เชียงใหม่สมัยที่เคยเรียน ปวช. ด้วยกันปัจจุบันไปลงหลักปักฐานอยู่ที่เชียงใหม่ ตลอด 30 กว่าปีเคยพบกันเพียงครั้งเดียวและเป็นเพียงระยะเวลาเพียงสั้นๆ โดยขอให้เพื่อนช่วยจัดการเรื่องหาที่พัก 2 คืนแรก (คืนวันที่ 20-21 กค. 65) ในตัวเมืองเชียงใหม่ และรถมอเตอร์ไซค์เช่า ซึ่งเพื่อนก็รับปากเป็นอย่างดี ส่วนเราก็สบายใจเพราะมีคนพื้นที่ดูแลให้
     เมื่อได้ที่พัก 2 คืนแรกแล้วต่อไปเป็นที่พักอีก 2 คืน (22-23 กค. 65) @แม่กำปอง จากการที่ชอบดูคลิปของยูทูปเบอร์ชื่อดัง ที่ชื่อ เบนซ์ The Gaijin Trips (ขอให้เครดิตกับคุณเบนซ์ The Gaijin Trips) ที่เขามาเที่ยวที่แม่กำปองและทำคลิปได้น่าสนใจมากจึงอยากไปตามรอยเจ้าของคลิป โดยที่พักมีชื่อว่า “ลุงบุลย์โฮมสเตย์แม่กำปอง” ซึ่งมีข้อมูลอยู่ใน Google map ทั้งเบอร์ติดต่อและสถานที่ ผมจึงติดต่อลุงบูลย์ทันที ลุงบูลย์บอกว่าในสถานะการณ์ โควิค 19 ที่ยังมีการระบาดอยู่ เพื่อเป็นการป้องกันจึงคิดในราคา 500฿/คืน โดยให้แยกไปที่บ้านอีกหลังไปเลย เมื่อได้ที่พัก 4 คืนแล้ว จึงติดต่อหาเพื่อนอีกท่านเคยที่เรียน ปวส. มาด้วยกัน ปัจจุบันไปติดใจใช้ชีวิตเป็นเกษตรกร ทำไร่กาแฟและโฮมสเตย์อยู่ที่ บ้านคลองแม่สาย ต. โหล่งขอด อ. พร้าว จ. เชียงใหม่ และที่นี่แหละคือสาเหตุให้ผมต้องใช้เจ้า Honda MSX 125 เป็นรถที่ใช้ในการเดินทางตลอดสำหรับทริป

     7 กค. 65
     ด้วยความตั้งใจที่อยากขับมอเตอร์ไซค์เที่ยวและเพื่อความคล่องตัวในเมือง (ใจจริงอยากจะมีบิ๊กไบค์ไว้ขี่เที่ยวสักคัน) บังเอิญได้ทดลองขี่รถรุ่นที่ต้องการใช้จากคนรู้จักพอดี แล้วรู้สึกว่าขี่ง่ายที่สำคัญคือเวลาจอดรถ เท้าลงถึงพื้นเต็มฝ่าเท้าทั้งสองข้าง น่าจะเอาอยู่

     หลังจากนั้นจึงไปซื้อหมวกกันน๊อค สนับกันกระแทกเข่าและศอก สายรัดของ (จากร้าน 320 SP ราชพฤกษ์), เสื้อกันฝน ถุงคลุมรองเท้ากันเปียก ถุงคลุมเป้กันเปียก (จาก Shopee), เป้ 55 ลิตร กางเกงขายาวแบบถอดขาได้ (จาก เจเจ มาร์เก็ต), ตัดแว่นตาอันใหม่ (จากร้านท๊อปเจริญ), ถุงเท้าอีก 3 คู่ (จากตลาดนกฮูก), เลสข้อมือสลักชื่อและเบอร์โทรของลูกทั้งสองคนไว้ รวบรวมค่าเครื่องแต่งกายแล้วต้องร้อง....เฮ้ยยย... เกือบหมื่นเลยเราะ หวังว่าจะมีทริปต่อๆไปนะ จะได้ดูว่าไม่เป็นการลงทุนมากเกินไป 555

    ด้วยความที่นึกถึงเรื่อง Safety เป็นหลักจึงต้องซื้อหมวกกันน๊อดที่มีคุณสมบัติของความปลอดภัยที่ดีกว่าหมวกที่ทางร้านเช่ารถมอเตอร์มีไว้ให้จึงเลือกที่จะซื้อไว้ใช้เป็นของตัวเองซะเลย

     9 กค. 65
     เดินทางไปเกาะเกร็ด นนทบุรี จุดประสงค์เพียงอย่างเดียวคือต้องการไปอุดหนุนสินค้า OTOP สมุนไพรบ้านย่าสา เพื่อที่จะนำไปเป็นของฝากให้เพื่อนจากเมืองนนท์ โดยซื้อ “สเปรย์มะกรูดตะไคร้ไล่ยุง” ขนาดขวดพกพาและขนาด Refill ด้วยครั้งที่เพื่อนมาจากเชียงใหม่อุดสาห์นำใส้อั่วจากเชียงใหม่มาให้เพื่อนๆ ที่กรุงเทพฯ  

      17 กค. 65
      ค่ำๆ วันนี้จึงติดต่อหาเพื่อนที่เชียงใหม่อีกครั้ง ก็พบกับอุปสรรคแรกคือ เพื่อนบอกว่า ..!!! กูขอโทษก่อนนะ...ไม่ต้องมาคิดถึงกูตอนนี้แล้วนะ “กูกับเมียติดโควิค” (แทนที่ผมจะเป็นห่วงเพื่อนกับภรรยากลับคิดถึงตัวเองก่อนซึ่งเป็นความคิดที่แย่มาก) อ้าวววเฮ้ย...แล้วเรื่องที่พักกับรถกูหละ หลังจากนั้นคงต้องพึ่งอากู๋แล้วสินะ ว่าแล้วก็รีบหาข้อมูลร้านให้เช่ารถมอเตอร์ไซค์จาก Google Map เพราะต้องการได้รถรุ่น Honda MSX 125 (เพื่อนที่ อ. พร้าว บอกว่าให้ใช้รถที่มีท้องสูงๆ อย่าใช้พวกสกุ๊ตเตอร์จะเป็นรถแบบวิบากยิ่งดี) และที่สำคัญ เราขี่รถสกุ๊ตเตอร์ไม่เป็น ด้วยความที่เลิกขี่มอเตอร์ไซค์มา 30 กว่าปี นี่จึงเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีที่กลับมาขี่มอเตอร์ไซค์แบบยาวๆ ไกลๆ อีกทั้งต้องขึ้นดอยสูงๆ จึงต้องเน้นรถที่มีความคุ้นเคยมาก่อนคือรถที่มี ครัชมือ แบบ Mini bike น่าจะดีกว่า จากนั้นก็ทักไปที่ร้านต่างๆ ที่ขึ้นในแผนที่ ก็ได้รถที่ต้องการใช้จากร้าน "Buddy Motorbike Rental" (จากการติดต่อผ่าน Facebook Messenger "Buddy Motorcycle Rental" ที่ขึ้นอยู่ใน Google map) ในราคา 300 ฿/วัน จึงบอกว่าจะ เช่า 6 วันลดได้ไหม ซึ่งทางร้านก็กรุณาลดให้ 50 ฿/วัน (ค่าประกัน 3,000 ฿ จะได้รับคืนตอนคืนรถ) แถมบริการรับและส่งคืนรถให้ที่สนามบินโดยไม่มีค่าชาร์จเพิ่ม (เราสามารถชำระเป็นเงินสดทั้งหมดหรือใช้โอนผ่าน Mobile banking ในวันรับรถที่สนามบินก็ได้ไม่จำเป็นต้องจ่ายล่วงหน้าใดๆ) หลังจากที่ฟังทางร้าน Offer ทั้งหมดก็ตกลงจองทันที่ (กลัวจะหารถที่ต้องการไม่ได้เพราะรถรุ่นนี้มีน้อย ส่วนมากจะเป็นรถแบบสกุ๊ตเตอร์จะเป็นรถที่ได้รับความนิยมมากกว่า) โดยทางร้านบอกว่าจะเตรียมรถไว้ให้เป็นอย่างดี แนะนำร้านนี้เลยครับ
     รถได้แล้วต่อไปก็ที่พักอาศัย Agoda ครับ โดยเลือกจากราคาต่ำสุด เพราะเราเอาไว้อาบน้ำและซุกหัวนอนเท่านั้นก็เลยเปิดดูไปเรื่อย ๆ ไปสะดุดตากับที่พักแห่งหนึ่งชื่อ บ้านก๋องคำ ดูจากรูปแล้ว เก่า (Vintage) ราคาคืนละ 400 ฿ ดูใน Google map เพิ่มเติม จากในรูปดูดีนะ ไม่ใหญ่ ร่มรื่น มีที่จอกรถ น่าจะเงียบเพราะอยู่ห่างเมืองนิดหน่อย นึกในใจดูเก่าเข้ากับคนแก่แบบเราดี ก็เลยตกลงใจเลือกที่นี่แหละ (หากดูใน Google map ให้ใช้คำภาษาอังกฤษว่า “Baan Gong Kham” เพราะถ้าดูตำแหน่งที่เป็นภาษาไทยแล้วเขาจะมาร์คไว้ผิดที่นิดหน่อย) เมื่อจองห้องพัก 2 คืนแรกในตัวเมืองเชียงใหม่สำหรับการใช้เป็นที่พักในการเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ และไหว้พระวัดในตัวเมือง โดยชำระเงินผ่าน Agoda (เป็นครั้งแรกอีกนั่นแหละที่ใช้บริการนี้) เรียบร้อย แล้วทาง Agoda จะส่งอีเมล์มา Confirm ผลการจองห้องพักพร้อมรายละเอียดที่สามารถใช้ในการติดต่อที่โรงแรมไว้ให้ (แต่เสือ...ไม่ดูเอง)   

     18 กค. 65
     2 วันก่อนเดินทาง ขอยืนยันกับที่พักและร้านเช่ารถล่วงหน้าอีกครั้ง สำหรับร้านเช่ารถ... แจ้งสายการบินที่เดินทางและเวลาเครื่องลง ซึ่งทางร้านตอบรับเป็นอย่างดี แต่สำหรับที่พัก ใช้เบอร์โทรติดต่อที่มีอยู่ใน Google map แล้วโทรเข้าไปปรากฏว่า.... อ้าวเฮ้ยยยย ติดต่อไม่ได้เขาบอกว่า.... “เลขหมายนี้ไม่สามารถใช้งานได้ชั่วคราว” งานเข้าละสิ เอาไงดีละทีนี้อยากพักที่เก่าๆ Vintage ติดต่อไม่ได้..!!! เป็นไง...เก่าสมใจมึ.... ไหมละ จากนั้นจึงค่อยๆ ใช้สติที่เคยได้จากการไปเรียนนั่งสมาธิ ค่อยๆ เรียบเรียงความคิด ว่า..ยกเลิกได้ไหม (ตอนจองเขาบอกไว้แล้วว่าหากชำระเงินแล้วจะยกเลิกแล้วขอคืนเงินไม่ได้) ถ้างั้นหาที่พักใหม่ดีไหม เข้าไปดูอีเมล์ที่ Agoda ตอบกลับมาหลังจอง นั่น...มีเอกสาร Booking Confirmation แนบมาให้ด้วย นี่ไงละ... เบอร์ติดต่อที่เป็นเบอร์มือถือ ว่าแล้วก็จัดการโทรหาทันที่ มีสัญญานสายเรียกเข้า... มีผู้รับสาย... จากนั้นจึงได้สอบถามรายการจองห้องพัก ผลปรากฎว่ามีรายการการจองห้องพักไว้ให้แล้ว... เฮ้ออออ... โล่งแล้วกรู   ***มีภาคต่อที่สอง***
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่