คล็อปคงจะตั้งเป้าคว้าทุกแชมป์กับหงส์แดงให้ได้ ยังขาดแชมป์ยูโรป้า ซึ่งในปีนี้ ฟอร์มแบบนี้ นับว่าสบโอกาสแล้ว
รวมทั้งไปคว้าแชมป์เปี้ยนชิพในปีหน้าต่อได้เลย
การแพ้แมนยู 0-4 ในนัดอุ่นเครื่องที่ไทยและฟอร์มลุ่มๆดอนๆนัดอื่น คงไม่ใช่แค่ภาพลวงตาหรือแค่นัดอุ่นเครื่องตามที่แฟนหงส์สายอวยค้านคอเป็นเอ็น
เพราะเริ่มฤดุกาลมา 3 นัดแล้ว ฟอร์มย่ำแย่ลงเรื่อยๆ
1. ระบบการเล่น โดยเฉพาะเกมรุก ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าโยนบอลไปข้างหน้า/ไปแถวหน้าประตู ให้นักเตะกองหน้าใช้ความเร็วในวัยหนุ่ม(ตอนนี้แก่แล้วไม่ได้ผลแล้ว) วิ่งควบบอล/รับบอลไปยิง พอเจอทีมรับลึก...ก็...บ๊อท่า ดูแล้วทำให้นึกถึงการเล่นของทีมวิมเบิลดันในอดีต ต่างกันนิดเดียวตรงที่ วิมเบิลดันใช้กองหน้าตัวสูงใหญ่ แต่หงส์แดงทะลึ่งใช้กองหน้าตัวเตี้ยเล็กบอบบาง
2. การเข้าทำประตู สืบเนื่องมาจาก 1. แทบไม่มีการทำประตูจากโอเพ่นเพลย์ แทบไม่มีการต่อบอลทำชิ่ง 1-2-3 อย่างแม่นยำรวดเร็ว ทำให้คู่แข่งขาตายจับทางไม่ถูก จนเข้าไปยิงประตูได้ นึกภาพไม่ออกให้ดูว่าแมนซิเขาต่อบอลทำชิ่งโคตะระโหดอย่างไร และตอนนี้ ปืนใหญ่ก็กำลังทำแบบนั้นเช่นกัน
3. ข้อ 1 ข้อ 2 ทำไม่ได้ เพราะ คล็อปคงไม่ได้เน้นฝึกซ้อมการต่อบอลทำชิ่ง (การฝึกซ้อมแบบลิงชิงบอล น่าจะเสริมทักษะได้อย่างที่เป๊ปฝึกสอนทีม) แต่คงจะเน้นพละกำลัง เน้นวิ่งอึดวิ่งทนวิ่งเร็ว เพราะต้องการให้มีพละกำลังไปวิ่งไล่แย่งบอล รวมทั้งส่วนใหญ่มีทักษะความสามารถเฉพาะตัวค่อนข้างต่ำ เอาตัวรอดในที่แคบแทบไม่ได้เลย เจอคู่แข่ง 2 คนประกบก็จอดแล้ว แค่ 1ต่อ1 ยังเอาตัวรอดลำบากเลย น้อยครั้งมากที่รับบอลแล้วพลิกบอลสับหรอกหนีคู่แข่งผ่านไปข้างหน้าได้ หลายคนแค่จับบอลยังไม่นิ่งเลย กระฉอกแทบทุกครั้ง เลี้ยงบอลก็บอลห่างเท้า ถูกตัดได้ง่าย เข้าใจว่าต้องการวิ่งเร็ว ก็ทำให้ต้องแตะบอลยาวๆไปข้างหน้า....หึๆ...กรรม
4. ส่วนใหญ่รูปร่างเตี้ยเล็กบอบบางอ้อนแอ้น ทำให้มีปัญหากับการเล่นลูกกลางอากาศ การครองบอล บังบอล เบียดปะทะแย่งบอล ร็อบโบ้ อ็อกเล็ต เกอิต้า มิลเนอร์ เอลเลียต คาวัลโย่ มาเน่ ซาล่า ติอาโก้ ดิอาซ โจต้า (โจต้าเล่นลูกโด่งเข้าทำประตูในกรอบเขตโทษได้ดีอยู่บ้าง แต่ไม่ใช่การแย่งโหม่งได้สูงทัดเทียมกับกองหลังหรือแย่งโหม่งเพื่อช่วยเกมรับหน้าประตู กลางสนาม หน้ากรอบเขตโทษ) ถ้าดูไม่ผิดสูงไม่ถึง 180 ซม. บางคนอาจไม่ถึง 175 ซม.ซะด้วยซ้ำ ถ้าเตี้ย หนาบึกบึน ศูนย์ถ่วงร่างกายต่ำ แต่ทักษะสูงแบบมาราโดน่าก็จะไม่ว่าเลย ส่วนหนึ่งของการต่อบอลทำชิ่งไม่รวดเร็วแม่นยำ เพราะพอโดนคู่แข่งเบียดปะทะมักจะเสียการทรงตัวได้ง่าย ต้องเสียเวลาประคับประคองแต่งบอลหลายจังหวะก่อนส่งบอล หรือเสียการทรงตัวทำให้ส่งบอลไม่แม่นยำ
พวกที่สุง 180 ซม.ขึ้นไป ตัวหลักมีแค่ อลิซง ฟานไดจ์ มาติป โคนาเต้ โกเมซ ฟาบินโย่ เอนโด้ แต่หลายคนอายุมากแล้ว บางคนตัวสูงแต่เล่นลูกโด่งไม่ได้เรื่อง บางคนตัวสูงแต่ตัวบางเหลือเกิน
5. ขาดกลางรุกจอมทัพที่สามารถยิงประตูจากนอกกรอบเขตโทษ ปัญหาเรื้อรังที่ไม่ยอมแก้ไขหรือไม่คิดจะแก้ไขหรือพอจะคิดแก้ไขก็ช้าซะเหลือเกิน เพราะบ้าเกมรุกจากแบ็ค
6. ชักสงสัยว่า การจ่ายค่าเหนื่อย 350000 ปอนด์/สัปดาห์ให้ซาล่าห์ ซึ่งมากกว่าคนอื่นอย่างมาก กำลังทำลายสปิริตทีมหรือไม่ เพราะแฟนหงส์ต่างชื่นชมว่าหงส์แดงเล่นดีกันเป็นทีม หลายนัดมีแมนออฟเดอะแมทช์ได้หลายคน เช่น หงส์แดงชนะ 1-0 มาจากซาล่าห์ยิง แต่ถ้าเกมรับไม่ดี มันจะชนะ 1-0 ได้เหรอ หรือนัดไหน 0-0 ซาล่าห์ยิงไม่ได้ แต่เกมรับดี ถึงไม่ชนะแต่ก็ไม่แพ้ ไม่เป็นผลงานของเกมรับหรือ
นักเตะบางคนปากอาจบอกว่า ซาล่าห์สมควรได้ ค่าแรงของซาล่าห์ไม่มีผลต่อความสามัคคี แต่ในใจจริงๆไม่มีใครรู้หรอก โลกฟุตบอลยุคนี้ ค่าเหนื่อยมีน้ำหนักมากกว่าความรักซื่อสัตย์ต่อสโมสร ซาล่าห์อยู่ต่อก็ไม่ใช่เพราะ 350000 ปอนด์/สัปดาห์นี้หรอกเหรอ ถ้าได้แค่ 340000 ซาล่าห์ก็จะไม่อยู่ต่อใช่มั๊ย
7. สงสัยมาตลอดว่า การฝึกซ้อมและระบบทีมของคล็อป ทำร้ายทำลายสภาพร่างกายนักเตะก่อนเวลาอันควร หรือไม่ เพราะดูเหมือนตั้งแต่คล็อปเริ่มคุมทีมมาจนถึงปัจจุบัน หงส์แดงเจอปัญหานักเตะบาดเจ็บง่ายเจ็บบ่อยมาโดยตลอด ดูเหมือนว่าจะมากกว่าทีมอื่นอย่างเห็นได้ชัด ก็เพราะเน้นการวิ่งให้เร็ว วิ่งไล่แย่งบอล จริงอยู่ระยะหลังอาจดูน้อยลง มีผ่อนหนักผ่อนเบาบ้าง แต่ก็ยังเยอะอยู่ดี หงส์แดงจะไมไ่ด้เน้นการอ่านทางบอล มีความเข้าใจในเกมหรืออ่านเกมการเล่นคู่แข่งออกว่าจะเล่นอย่างไร จะส่งบอลไปทางไหน เพื่อให้ดักทาง/ตัดบอลได้ง่าย แต่หงส์แดงเน้นวิ่งไล่แย่งบอล ทำให้ต้องใช้แรง/พละกำลังร่างกายมาก ร่างกายจึงล้าเร็ว เสื่อมสภาพเร็ว นักเตะหงส์แดงหลายคนอายุ 30 แล้ว แม้จะถือว่าค่อนข้างมากแล้ว แต่สภาพร่างกายกลับแย่เร็วผิดปกติ
8. ชักสงสัยว่า ที่ผ่านมาคล็อปคุมทีมไม่เกิน 7-8 ปี (ถ้าเข้าใจไม่ผิดนะ) แล้วก็ย้ายทีม อาจเป็นเพราะสไตล์การทำทีมแบบนี้ของคล็อป ทำร้ายทำลายสภาพร่างกายนักเตะของทีม ทำให้ทีมยืนระยะยาวไม่ได้ ไม่มีการพัฒนา คู่แข่งจับทางได้ ทำให้เล่นไม่ออก ทีมเริ่มตกต่ำ คล็อปจึงลาออกจากทีม
สรุป ผมยังคงยืนยันมั่นใจว่า หากหงส์แดงยังนักเตะและระบบทีมแบบที่กล่าวข้างต้น หรือถ้าแมนซิไม่มีตัวเจ็บเยอะมาก จนฟอร์มตกเอง หงส์แดงไม่มีทางแย่งแชมป์จากแมนซิได้แน่ และดูเหมือนนับจากปีนี้และปีต่อๆไป ก็จะมี ปืน สเปอร์ เชลซี มายืนขวางหน้าอยู่ในอันดับลุ้นแชมป์เหนือหงส์แดง และอาจมีนิวคาสเซิ่ล และแมนยู อีกด้วย...หวังว่าหงส์แดงจะไม่กำลังเข้าสู่วงจรอุบาทว์ร้างแชมป์ลีค 30 ปี อีกนะ...ไม่งั้น ผมอาจต้องกลับไปใช้ฉายาเดิม...หงส์ไร้ขน...
อ้อ...หัวข้อบอกว่า ลุ้นแชมป์เปี้ยนชิพ น่ะ ประชดนะครับ เพราะไม่น่าเลวร้ายขนาดนั้น ^^'
ด้วยสภาพทีม ระบบการเล่นของหงส์แดงขณะนี้ คงต้องหวังลุ้นแชมป์ยูโรป้าในปีนี้ และแชมป์เปี้ยนชิพในปีหน้าซะแล้ว
รวมทั้งไปคว้าแชมป์เปี้ยนชิพในปีหน้าต่อได้เลย
การแพ้แมนยู 0-4 ในนัดอุ่นเครื่องที่ไทยและฟอร์มลุ่มๆดอนๆนัดอื่น คงไม่ใช่แค่ภาพลวงตาหรือแค่นัดอุ่นเครื่องตามที่แฟนหงส์สายอวยค้านคอเป็นเอ็น
เพราะเริ่มฤดุกาลมา 3 นัดแล้ว ฟอร์มย่ำแย่ลงเรื่อยๆ
1. ระบบการเล่น โดยเฉพาะเกมรุก ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าโยนบอลไปข้างหน้า/ไปแถวหน้าประตู ให้นักเตะกองหน้าใช้ความเร็วในวัยหนุ่ม(ตอนนี้แก่แล้วไม่ได้ผลแล้ว) วิ่งควบบอล/รับบอลไปยิง พอเจอทีมรับลึก...ก็...บ๊อท่า ดูแล้วทำให้นึกถึงการเล่นของทีมวิมเบิลดันในอดีต ต่างกันนิดเดียวตรงที่ วิมเบิลดันใช้กองหน้าตัวสูงใหญ่ แต่หงส์แดงทะลึ่งใช้กองหน้าตัวเตี้ยเล็กบอบบาง
2. การเข้าทำประตู สืบเนื่องมาจาก 1. แทบไม่มีการทำประตูจากโอเพ่นเพลย์ แทบไม่มีการต่อบอลทำชิ่ง 1-2-3 อย่างแม่นยำรวดเร็ว ทำให้คู่แข่งขาตายจับทางไม่ถูก จนเข้าไปยิงประตูได้ นึกภาพไม่ออกให้ดูว่าแมนซิเขาต่อบอลทำชิ่งโคตะระโหดอย่างไร และตอนนี้ ปืนใหญ่ก็กำลังทำแบบนั้นเช่นกัน
3. ข้อ 1 ข้อ 2 ทำไม่ได้ เพราะ คล็อปคงไม่ได้เน้นฝึกซ้อมการต่อบอลทำชิ่ง (การฝึกซ้อมแบบลิงชิงบอล น่าจะเสริมทักษะได้อย่างที่เป๊ปฝึกสอนทีม) แต่คงจะเน้นพละกำลัง เน้นวิ่งอึดวิ่งทนวิ่งเร็ว เพราะต้องการให้มีพละกำลังไปวิ่งไล่แย่งบอล รวมทั้งส่วนใหญ่มีทักษะความสามารถเฉพาะตัวค่อนข้างต่ำ เอาตัวรอดในที่แคบแทบไม่ได้เลย เจอคู่แข่ง 2 คนประกบก็จอดแล้ว แค่ 1ต่อ1 ยังเอาตัวรอดลำบากเลย น้อยครั้งมากที่รับบอลแล้วพลิกบอลสับหรอกหนีคู่แข่งผ่านไปข้างหน้าได้ หลายคนแค่จับบอลยังไม่นิ่งเลย กระฉอกแทบทุกครั้ง เลี้ยงบอลก็บอลห่างเท้า ถูกตัดได้ง่าย เข้าใจว่าต้องการวิ่งเร็ว ก็ทำให้ต้องแตะบอลยาวๆไปข้างหน้า....หึๆ...กรรม
4. ส่วนใหญ่รูปร่างเตี้ยเล็กบอบบางอ้อนแอ้น ทำให้มีปัญหากับการเล่นลูกกลางอากาศ การครองบอล บังบอล เบียดปะทะแย่งบอล ร็อบโบ้ อ็อกเล็ต เกอิต้า มิลเนอร์ เอลเลียต คาวัลโย่ มาเน่ ซาล่า ติอาโก้ ดิอาซ โจต้า (โจต้าเล่นลูกโด่งเข้าทำประตูในกรอบเขตโทษได้ดีอยู่บ้าง แต่ไม่ใช่การแย่งโหม่งได้สูงทัดเทียมกับกองหลังหรือแย่งโหม่งเพื่อช่วยเกมรับหน้าประตู กลางสนาม หน้ากรอบเขตโทษ) ถ้าดูไม่ผิดสูงไม่ถึง 180 ซม. บางคนอาจไม่ถึง 175 ซม.ซะด้วยซ้ำ ถ้าเตี้ย หนาบึกบึน ศูนย์ถ่วงร่างกายต่ำ แต่ทักษะสูงแบบมาราโดน่าก็จะไม่ว่าเลย ส่วนหนึ่งของการต่อบอลทำชิ่งไม่รวดเร็วแม่นยำ เพราะพอโดนคู่แข่งเบียดปะทะมักจะเสียการทรงตัวได้ง่าย ต้องเสียเวลาประคับประคองแต่งบอลหลายจังหวะก่อนส่งบอล หรือเสียการทรงตัวทำให้ส่งบอลไม่แม่นยำ
พวกที่สุง 180 ซม.ขึ้นไป ตัวหลักมีแค่ อลิซง ฟานไดจ์ มาติป โคนาเต้ โกเมซ ฟาบินโย่ เอนโด้ แต่หลายคนอายุมากแล้ว บางคนตัวสูงแต่เล่นลูกโด่งไม่ได้เรื่อง บางคนตัวสูงแต่ตัวบางเหลือเกิน
5. ขาดกลางรุกจอมทัพที่สามารถยิงประตูจากนอกกรอบเขตโทษ ปัญหาเรื้อรังที่ไม่ยอมแก้ไขหรือไม่คิดจะแก้ไขหรือพอจะคิดแก้ไขก็ช้าซะเหลือเกิน เพราะบ้าเกมรุกจากแบ็ค
6. ชักสงสัยว่า การจ่ายค่าเหนื่อย 350000 ปอนด์/สัปดาห์ให้ซาล่าห์ ซึ่งมากกว่าคนอื่นอย่างมาก กำลังทำลายสปิริตทีมหรือไม่ เพราะแฟนหงส์ต่างชื่นชมว่าหงส์แดงเล่นดีกันเป็นทีม หลายนัดมีแมนออฟเดอะแมทช์ได้หลายคน เช่น หงส์แดงชนะ 1-0 มาจากซาล่าห์ยิง แต่ถ้าเกมรับไม่ดี มันจะชนะ 1-0 ได้เหรอ หรือนัดไหน 0-0 ซาล่าห์ยิงไม่ได้ แต่เกมรับดี ถึงไม่ชนะแต่ก็ไม่แพ้ ไม่เป็นผลงานของเกมรับหรือ
นักเตะบางคนปากอาจบอกว่า ซาล่าห์สมควรได้ ค่าแรงของซาล่าห์ไม่มีผลต่อความสามัคคี แต่ในใจจริงๆไม่มีใครรู้หรอก โลกฟุตบอลยุคนี้ ค่าเหนื่อยมีน้ำหนักมากกว่าความรักซื่อสัตย์ต่อสโมสร ซาล่าห์อยู่ต่อก็ไม่ใช่เพราะ 350000 ปอนด์/สัปดาห์นี้หรอกเหรอ ถ้าได้แค่ 340000 ซาล่าห์ก็จะไม่อยู่ต่อใช่มั๊ย
7. สงสัยมาตลอดว่า การฝึกซ้อมและระบบทีมของคล็อป ทำร้ายทำลายสภาพร่างกายนักเตะก่อนเวลาอันควร หรือไม่ เพราะดูเหมือนตั้งแต่คล็อปเริ่มคุมทีมมาจนถึงปัจจุบัน หงส์แดงเจอปัญหานักเตะบาดเจ็บง่ายเจ็บบ่อยมาโดยตลอด ดูเหมือนว่าจะมากกว่าทีมอื่นอย่างเห็นได้ชัด ก็เพราะเน้นการวิ่งให้เร็ว วิ่งไล่แย่งบอล จริงอยู่ระยะหลังอาจดูน้อยลง มีผ่อนหนักผ่อนเบาบ้าง แต่ก็ยังเยอะอยู่ดี หงส์แดงจะไมไ่ด้เน้นการอ่านทางบอล มีความเข้าใจในเกมหรืออ่านเกมการเล่นคู่แข่งออกว่าจะเล่นอย่างไร จะส่งบอลไปทางไหน เพื่อให้ดักทาง/ตัดบอลได้ง่าย แต่หงส์แดงเน้นวิ่งไล่แย่งบอล ทำให้ต้องใช้แรง/พละกำลังร่างกายมาก ร่างกายจึงล้าเร็ว เสื่อมสภาพเร็ว นักเตะหงส์แดงหลายคนอายุ 30 แล้ว แม้จะถือว่าค่อนข้างมากแล้ว แต่สภาพร่างกายกลับแย่เร็วผิดปกติ
8. ชักสงสัยว่า ที่ผ่านมาคล็อปคุมทีมไม่เกิน 7-8 ปี (ถ้าเข้าใจไม่ผิดนะ) แล้วก็ย้ายทีม อาจเป็นเพราะสไตล์การทำทีมแบบนี้ของคล็อป ทำร้ายทำลายสภาพร่างกายนักเตะของทีม ทำให้ทีมยืนระยะยาวไม่ได้ ไม่มีการพัฒนา คู่แข่งจับทางได้ ทำให้เล่นไม่ออก ทีมเริ่มตกต่ำ คล็อปจึงลาออกจากทีม
สรุป ผมยังคงยืนยันมั่นใจว่า หากหงส์แดงยังนักเตะและระบบทีมแบบที่กล่าวข้างต้น หรือถ้าแมนซิไม่มีตัวเจ็บเยอะมาก จนฟอร์มตกเอง หงส์แดงไม่มีทางแย่งแชมป์จากแมนซิได้แน่ และดูเหมือนนับจากปีนี้และปีต่อๆไป ก็จะมี ปืน สเปอร์ เชลซี มายืนขวางหน้าอยู่ในอันดับลุ้นแชมป์เหนือหงส์แดง และอาจมีนิวคาสเซิ่ล และแมนยู อีกด้วย...หวังว่าหงส์แดงจะไม่กำลังเข้าสู่วงจรอุบาทว์ร้างแชมป์ลีค 30 ปี อีกนะ...ไม่งั้น ผมอาจต้องกลับไปใช้ฉายาเดิม...หงส์ไร้ขน...
อ้อ...หัวข้อบอกว่า ลุ้นแชมป์เปี้ยนชิพ น่ะ ประชดนะครับ เพราะไม่น่าเลวร้ายขนาดนั้น ^^'