Nope: ไม่
" โชคดีที่หนังเอาตัวรอดได้ในครึ่งหลัง มิฉะนั้น คงจะสอบตกอย่างแน่แท้ ! "
สวัสดีครับทุกท่าน ! หลังจาก
Nope (2022) หนึ่งในภาพยนตร์ที่หลายคนรอคอยได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ล่าสุดผมมีโอกาสได้รับชม และรู้สึกแปลกใจบางอย่างจนอยากจะมาแชร์มุมมอง เผื่อว่าท่านใดสนใจหรืออยากแลกเปลี่ยนความเห็นนะครับ
เรื่องย่อ
NOPE | Official Trailer 2 | Thai Sub | UIP Thailand
Nope (2022) ภาพยนตร์เรื่องที่ 3 ในการกำกับภาพยนตร์ของ
Jordan Peele ผู้กำกับที่มีผลงานชื่อดังอย่างเรื่อง
Get Out (2017)
หนังเล่าเรื่องราวของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่กันดารลึกเข้าไปในรัฐแคลิฟอร์เนีย
โอเจ (Daniel Kaluuya) และ
เอ็ม (Keke Palmer) สองพี่น้องผู้สูญเสียพ่อจากสิ่งของประหลาดตกใส่หัว ได้สังเกตเห็นถึงความผิดปกติในฟาร์มม้าของพวกเขา และได้ไอเดียในการวางแผนถ่ายรูปสิ่งลึกลับนี้ เพื่อนำไปขายสร้างความร่ำรวยและชื่อเสียงให้กับตนเอง
ความรู้สึกหลังชม
- สิ่งแรกที่อยากพูดถึง คือ
"ส่วนผสมที่ยังไม่ลงตัวในภาพยนตร์" หนังให้ทั้งความรู้สึกชอบและไม่รู้สึกชอบในเวลาเดียวกัน...
ในส่วนครึ่งเรื่องแรก (จนถึงค่อนท้ายเรื่อง) หนังอารัมภบท / บรรยายพรรณนาปมประเด็นต่าง ๆ ค่อนข้างยืดย้วย บางครั้งก็มีร่ายสิ่งที่ไม่จำเป็นมากไป จนอาจทำให้รู้สึกเบื่อได้ (จุดนี้ รู้สึกว่าค่อนข้างคล้ายกับหนัง M.Night ในช่วงที่แกเริ่มฟอร์มดร็อป)
ทว่าพอหนังเข้าสู่ช่วง Climax หนังกลับมาสร้างความตื่นเต้นให้กับเราได้ พาให้เราอยากลุ้นเอาใจทีมถ่ายรูปให้มันถ่ายจานบินให้ได้ 😂 รวมถึงไหวพริบในการสังเกตสัญชาตญาณของจานบิน ขั้นตอนในการวางแผนถ่ายรูป วิธีการต่าง ๆ ดูฉลาดน่าสนใจ พาให้รู้สึกว้าวบ้างและลากเรากลับมาสนุกได้อีกครั้ง
จากภาพรวมเรื่อง หนังจึงดูยังไม่ลงตัว มีทั้งจุดที่น่าชื่นชมและน่าติ ทั้งนี้ ถ้าพูดถึงอีกสิ่งที่น่าประทับใจ ก็คงเป็น "บรรยากาศความพิศวง" นี่เป็นส่วนสำคัญของภาพยนตร์สไตล์ Jordan Peele... เป็นอีกส่วนที่แข็งแกร่งในภาพยนตร์เรื่องนี้
- จุดถัดมาที่น่าสนใจ ก็คือ
"Genre หนังที่แปลกไปจากเรื่องอื่น" จะว่าเป็น Horror ก็ไม่ใช่สักทีเดียว ออกเป็นแนว Mystery ผสมกับไซไฟที่ดูลึกลับ คลุมเครือ มีความกำกวม แม้ว่าสไตล์นี้ อาจเป็นสไตล์ที่โดดเด่น Jordan Peel แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า พอทิศทางหนังไม่ชัดเจน ก็ทำให้หนังดูสับสนและมีส่วนดร็อปได้
จุดนี้เหมือนเป็นดาบสองคม ความคลุมเครืออาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้แฟนหนังบางท่านหลงใหลในความแปลกของโทนเรื่อง แต่บางท่านก็อาจจะรู้สึกว่ามันดูไม่ชัดเจน จนเกิดอาการเสียงแตกได้เช่นกัน
- วิธีการเล่าเป็นตอนย่อย ยังดูไม่เฉียบคมมาก หลายครั้งทำให้ผู้ชมสับสนแทนที่จะเป็นการแสดงความสร้างสรรค์ อีกส่วนที่น่าปรับปรุงก็คือ
"การลำดับ / ตัดต่อภาพ" มีหลายช็อตที่บิ้วอารมณ์มาอย่างดี แต่ตัดฉับข้ามไปอีกซีน ทำให้อารมณ์หนังดูไม่ต่อเนื่อง ไม่ Flow เท่าที่ควร
- ความระทึกของเรื่องอยู่ในระดับที่ใช้ได้ แต่ถ้าหนังสร้างความระทึก หรือสร้างความลึกลับได้มากกว่านี้ ก็จะดียิ่งขึ้น
- ไอเดียการดีไซน์ UFO ถือว่าสร้างสรรค์ ส่วนนี้ขอให้คะแนนความสร้างสรรค์👍 อีกส่วนที่ทำได้เยี่ยม ก็ Cinematography หนังถ่ายบรรยากาศความเวิ้งว้างของฟาร์มม้า ทุ่งหญ้า และหุบเขาได้อย่างสวยงามสะดุดตา น่าชื่นชม หรือแม้แต่การจัดแสงในเวลากลางคืน เรายังคงเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ชัดเจน ซึ่งโดยปกติ มันจะมืดจนมองไม่เห็น !
สรุป - โดยรวมถือว่า
"สอบผ่านตามมาตรฐาน มีความแปลกที่น่าสนใจ แต่อาจจะไม่ได้สร้างความประทับใจให้กับเราได้ทุกคน"... ผลงานของ
Jordan Peele ยังคงมีความแปลกน่าติดตาม และหวังว่าในเรื่องถัดไป ผู้กำกับจะสามารถแก้ไขจุดผิดพลาดและคืนฟอร์มเก่งได้อีกครั้ง
ส่วนที่ชอบเป็นพิเศษ ก็เป็นพวกบรรยากาศความพิศวงในเรื่อง รวมถึงความสนุกในช่วงท้ายเรื่อง... นับว่า โชคดีที่หนังสามารถดึงอารมณ์ / แก้ตัวจนเอาตัวรอดไปได้ ไม่งั้นคงกลายเป็นสอบตกอย่างแน่แท้ 😂
_________________________________
ป.ล. อีกหนึ่งช่องทางการติดต่อทาง Facebook เผื่อสนใจอยากพุดคุยหรือติดต่อกับผม
Nope (2022) - ฤาจะเข้าสู่ช่วงขาลงของ Jordan Peele
เรื่องย่อ
หนังเล่าเรื่องราวของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่กันดารลึกเข้าไปในรัฐแคลิฟอร์เนีย โอเจ (Daniel Kaluuya) และ เอ็ม (Keke Palmer) สองพี่น้องผู้สูญเสียพ่อจากสิ่งของประหลาดตกใส่หัว ได้สังเกตเห็นถึงความผิดปกติในฟาร์มม้าของพวกเขา และได้ไอเดียในการวางแผนถ่ายรูปสิ่งลึกลับนี้ เพื่อนำไปขายสร้างความร่ำรวยและชื่อเสียงให้กับตนเอง
ความรู้สึกหลังชม
ในส่วนครึ่งเรื่องแรก (จนถึงค่อนท้ายเรื่อง) หนังอารัมภบท / บรรยายพรรณนาปมประเด็นต่าง ๆ ค่อนข้างยืดย้วย บางครั้งก็มีร่ายสิ่งที่ไม่จำเป็นมากไป จนอาจทำให้รู้สึกเบื่อได้ (จุดนี้ รู้สึกว่าค่อนข้างคล้ายกับหนัง M.Night ในช่วงที่แกเริ่มฟอร์มดร็อป)
ทว่าพอหนังเข้าสู่ช่วง Climax หนังกลับมาสร้างความตื่นเต้นให้กับเราได้ พาให้เราอยากลุ้นเอาใจทีมถ่ายรูปให้มันถ่ายจานบินให้ได้ 😂 รวมถึงไหวพริบในการสังเกตสัญชาตญาณของจานบิน ขั้นตอนในการวางแผนถ่ายรูป วิธีการต่าง ๆ ดูฉลาดน่าสนใจ พาให้รู้สึกว้าวบ้างและลากเรากลับมาสนุกได้อีกครั้ง
จากภาพรวมเรื่อง หนังจึงดูยังไม่ลงตัว มีทั้งจุดที่น่าชื่นชมและน่าติ ทั้งนี้ ถ้าพูดถึงอีกสิ่งที่น่าประทับใจ ก็คงเป็น "บรรยากาศความพิศวง" นี่เป็นส่วนสำคัญของภาพยนตร์สไตล์ Jordan Peele... เป็นอีกส่วนที่แข็งแกร่งในภาพยนตร์เรื่องนี้
จุดนี้เหมือนเป็นดาบสองคม ความคลุมเครืออาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้แฟนหนังบางท่านหลงใหลในความแปลกของโทนเรื่อง แต่บางท่านก็อาจจะรู้สึกว่ามันดูไม่ชัดเจน จนเกิดอาการเสียงแตกได้เช่นกัน
- วิธีการเล่าเป็นตอนย่อย ยังดูไม่เฉียบคมมาก หลายครั้งทำให้ผู้ชมสับสนแทนที่จะเป็นการแสดงความสร้างสรรค์ อีกส่วนที่น่าปรับปรุงก็คือ "การลำดับ / ตัดต่อภาพ" มีหลายช็อตที่บิ้วอารมณ์มาอย่างดี แต่ตัดฉับข้ามไปอีกซีน ทำให้อารมณ์หนังดูไม่ต่อเนื่อง ไม่ Flow เท่าที่ควร
- ความระทึกของเรื่องอยู่ในระดับที่ใช้ได้ แต่ถ้าหนังสร้างความระทึก หรือสร้างความลึกลับได้มากกว่านี้ ก็จะดียิ่งขึ้น
- ไอเดียการดีไซน์ UFO ถือว่าสร้างสรรค์ ส่วนนี้ขอให้คะแนนความสร้างสรรค์👍 อีกส่วนที่ทำได้เยี่ยม ก็ Cinematography หนังถ่ายบรรยากาศความเวิ้งว้างของฟาร์มม้า ทุ่งหญ้า และหุบเขาได้อย่างสวยงามสะดุดตา น่าชื่นชม หรือแม้แต่การจัดแสงในเวลากลางคืน เรายังคงเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ชัดเจน ซึ่งโดยปกติ มันจะมืดจนมองไม่เห็น !
ส่วนที่ชอบเป็นพิเศษ ก็เป็นพวกบรรยากาศความพิศวงในเรื่อง รวมถึงความสนุกในช่วงท้ายเรื่อง... นับว่า โชคดีที่หนังสามารถดึงอารมณ์ / แก้ตัวจนเอาตัวรอดไปได้ ไม่งั้นคงกลายเป็นสอบตกอย่างแน่แท้ 😂