พอร์ตลงทุนทั้งหมดผมประมาณ 10 ล้าน แต่ตัวที่สร้าง passive income มีอยู่ประมาณ 7 ล้าน ที่เหลือก็พวกกองทุนระยะยาวไม่มีปันผล reinvest ไปเรื่อยๆ มีพอร์ตหุ้นกับคริปโตเทรดระยะสั้น-กลาง อีกนิดหน่อย ที่ใช้เงินลงทุนน้อยแบบไม่มีนัยยะกับภาพรวมพอร์ต
เงินสดผมมีเหลือติดตัวน้อยมาก 200k
เพราะผมเชื่อว่ายังไงหุ้นมันก็ไม่มีทางแพ้ระยะยาวและการถือเงินสดไว้มันก็แค่รอวันเสื่อมค่า มีไว้แค่สำหรับฉุกเฉินเท่านั้นครับ
แนวทางการลงทุน
- ต้องไม่ลงในตลาดเดียวแต่กระจายลงทุนทั่วโลกให้บาลานซ์ที่สุด
- หุ้นเหล่านั้นต้องปันผล สร้างกระแสเงินสดได้อย่างมั่นคง ไม่ต้องเป็นเบอร์หนึ่งแต่เจ๊งยากในตลาดจริง
- ไม่เอาหุ้นซิ่ง หุ้นต้องพื้นฐานดีๆหนี้ไม่เยอะ ปันผลสม่ำเสมอ เป้าหมายเฉลี่ยต้องเกิน 5% ระยะยาว
- ไม่ใส่ทองคำในพอร์ตเลย เพราะไม่สร้างกระแสเงินสด
สิ่งที่ผมลงทุน
- US stocks ~1.5M
- Thai stocks ~1M
- China stocks ~1M
- REITs ~1M
- Real estate ~2.5M
ปันผลที่ผมได้
- US stocks ==> Yield 3-4% ต่อปี
- Thai stocks ==> Yield 5-6% ต่อปี
- China stocks ==>Yield 6-7% ต่อปี
- REITs ==>Yield 4-6% ต่อปี
- Real estate ==>Yield 5-6% ต่อปี
รวมๆคือผมได้เฉลี่ย 30k+ ต่อเดือน
ข้อดี-ข้อเสีย การลงทุนในแบบของผม
- ข้อดี : ตลาดทั่วโลกมีรอบของมัน ถ้ามีเงินสดและอยากลงทุนก็ไม่จำเป็นต้องรอให้ตลาดมัน crash ผมก็เลือกลงทุนในตลาดที่ valuation มันดี ช่วงนี้หุ้นเมกากับไทยผมว่าแพงดังนั้นผมไม่ซื้อ แต่ในกองรีทกับหุ้นจีนยังมีของถูกอยู่เยอะ คนเริ่มไม่ค่อยสนใจ ผมก็รอจังหวะเก็บสองกลุ่มนี้ไปเรื่อยๆ เพราะมันยังจ่ายปันผลออกมาได้ดี
- ข้อเสีย : ต้องดูหุ้นทั้งหมดกว่า 30 ตัวซึ่งดูไม่ไหวแน่นอน ผมทำได้แค่ใช้วิธีดูแบบหลวมๆ กวาดตาดูแค่ตัวเลขสำคัญๆ แนวโน้มคร่าวๆ ถ้าเห็นตัวไหนเริ่มไม่จ่ายปันผลแปลว่าต้องมีอะไรพิเศษก็จะดูเยอะหน่อย อีกอย่างคือเงินลงทุนผมอยู่ในหุ้นเยอะกอง SSF/RMF ก็หุ้นล้วนๆ คิดว่าไม่ใช่การกระจายการลงทุนที่ดีเท่าไร
สิ่งที่ไม่ชอบที่สุดในพอร์ตลงทุน
- Real estate ปล่อยบ้านให้เช่า เบื่อและวุ่นวายมากที่สุดเพียงแต่จำเป็นต้องมีไว้เพื่อบาลานซ์พอร์ตเพราะมันเป็นตัวที่จ่ายกระแสเงินสดสม่ำเสมอที่สุดทุกเดือน
ชาร์ตข้างล่างนี่ yield ทั้งหมดของหุ้นรายตัวที่ผมซื้อไว้ บางตัวจ่ายปันผลหนักเกิน 10%
แชร์เท่านี้ ลองดูนะครับ เผื่อใครชอบลองศึกษาดูครับ
แชร์แนวทางการลงทุน diversified portfolio เพื่อสร้าง passive income เดือนละ 30k+
เงินสดผมมีเหลือติดตัวน้อยมาก 200k
เพราะผมเชื่อว่ายังไงหุ้นมันก็ไม่มีทางแพ้ระยะยาวและการถือเงินสดไว้มันก็แค่รอวันเสื่อมค่า มีไว้แค่สำหรับฉุกเฉินเท่านั้นครับ
แนวทางการลงทุน
- ต้องไม่ลงในตลาดเดียวแต่กระจายลงทุนทั่วโลกให้บาลานซ์ที่สุด
- หุ้นเหล่านั้นต้องปันผล สร้างกระแสเงินสดได้อย่างมั่นคง ไม่ต้องเป็นเบอร์หนึ่งแต่เจ๊งยากในตลาดจริง
- ไม่เอาหุ้นซิ่ง หุ้นต้องพื้นฐานดีๆหนี้ไม่เยอะ ปันผลสม่ำเสมอ เป้าหมายเฉลี่ยต้องเกิน 5% ระยะยาว
- ไม่ใส่ทองคำในพอร์ตเลย เพราะไม่สร้างกระแสเงินสด
สิ่งที่ผมลงทุน
- US stocks ~1.5M
- Thai stocks ~1M
- China stocks ~1M
- REITs ~1M
- Real estate ~2.5M
ปันผลที่ผมได้
- US stocks ==> Yield 3-4% ต่อปี
- Thai stocks ==> Yield 5-6% ต่อปี
- China stocks ==>Yield 6-7% ต่อปี
- REITs ==>Yield 4-6% ต่อปี
- Real estate ==>Yield 5-6% ต่อปี
รวมๆคือผมได้เฉลี่ย 30k+ ต่อเดือน
ข้อดี-ข้อเสีย การลงทุนในแบบของผม
- ข้อดี : ตลาดทั่วโลกมีรอบของมัน ถ้ามีเงินสดและอยากลงทุนก็ไม่จำเป็นต้องรอให้ตลาดมัน crash ผมก็เลือกลงทุนในตลาดที่ valuation มันดี ช่วงนี้หุ้นเมกากับไทยผมว่าแพงดังนั้นผมไม่ซื้อ แต่ในกองรีทกับหุ้นจีนยังมีของถูกอยู่เยอะ คนเริ่มไม่ค่อยสนใจ ผมก็รอจังหวะเก็บสองกลุ่มนี้ไปเรื่อยๆ เพราะมันยังจ่ายปันผลออกมาได้ดี
- ข้อเสีย : ต้องดูหุ้นทั้งหมดกว่า 30 ตัวซึ่งดูไม่ไหวแน่นอน ผมทำได้แค่ใช้วิธีดูแบบหลวมๆ กวาดตาดูแค่ตัวเลขสำคัญๆ แนวโน้มคร่าวๆ ถ้าเห็นตัวไหนเริ่มไม่จ่ายปันผลแปลว่าต้องมีอะไรพิเศษก็จะดูเยอะหน่อย อีกอย่างคือเงินลงทุนผมอยู่ในหุ้นเยอะกอง SSF/RMF ก็หุ้นล้วนๆ คิดว่าไม่ใช่การกระจายการลงทุนที่ดีเท่าไร
สิ่งที่ไม่ชอบที่สุดในพอร์ตลงทุน
- Real estate ปล่อยบ้านให้เช่า เบื่อและวุ่นวายมากที่สุดเพียงแต่จำเป็นต้องมีไว้เพื่อบาลานซ์พอร์ตเพราะมันเป็นตัวที่จ่ายกระแสเงินสดสม่ำเสมอที่สุดทุกเดือน
ชาร์ตข้างล่างนี่ yield ทั้งหมดของหุ้นรายตัวที่ผมซื้อไว้ บางตัวจ่ายปันผลหนักเกิน 10%
แชร์เท่านี้ ลองดูนะครับ เผื่อใครชอบลองศึกษาดูครับ