สวัสดีค่ะ วันนี้ขอเปิดกระทู้แรกสำหรับการเตรียมตัวต้อนรับเจ้าตัวน้อยสู่โลกอันกว้างใหญ่ ด้วยรีวิวเครื่องซักผ้าดีกว่านะคะ เพราะคิดว่าเรื่องการเตรียมของเด็กอ่อน คนอื่นๆ คงทำกันเยอะแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดของการมีลูกอ่อน คงเป็นเรื่องความสะอาด จากเมื่อก่อน ที่เราอยู่คอนโดกับแฟนสองคน ใช้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญตามคอนโดทั่วไป ก็เจอปัญหา คือ ซักผ้าแล้วมันมีกลิ่นอับ ไม่ก็มีคราบติดตามเสื้อผ้า ทั้งที่ลองเปลี่ยนผงซักฟอกก็แล้ว เปลี่ยนน้ำยาปรับผ้านุ่มก็แล้ว ลองตากแดดให้แห้งสนิทแบบชัวร์ ๆ ก็ยังไม่หาย แถมเสื้อผ้าไม่หอมเลย และยิ่งตอนนี้จะมีเด็กอ่อนในบ้าน เลยคิดว่า การใช้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญต่อไปคงไม่ไหวแน่ ๆ เพราะเราไม่รู้เลยว่าจะสะอาดปลอดภัยเพียงพอสำหรับเด็กอ่อนไหม กังวลว่าผ้าที่ซักจะมีแบคทีเรีย หรือ เชื้อโรคยังค้างบนตัวผ้าอยู่ ที่มันจะทำให้เกิดโรคติดต่อกับลูกได้ เราเลยคุยกับแฟนเรา และตกลงกันได้ว่า ควรซื้อเครื่องซักผ้าไปเลยดีกว่า สะดวกและคุ้มกว่า และที่สำคัญเลย คือ น่าจะปลอดภัยกับตัวเด็กอ่อนกว่าแต่ก่อนมาก ๆ
 
เรากับแฟนเมื่อเกิดความรู้สึกอยากได้เครื่องซักผ้าทั้งที ก็เลยอยากได้เครื่องซักผ้าที่ใช้ได้ยาวๆ  เลยไปสะดุดตากับ เครื่องซักผ้าฝาบน Haier รุ่น HM150-B1978S8 เพราะเซลล์อธิบายให้ฟังซะละเอียดเชียวถึงข้อดีของ Self cleaning เยอะมาก 
     -          ล้างถังซักอัตโนมัติทุกครั้งที่ซักผ้า ไม่ต้องกดโปรแกรมล้างถังให้เสียเวลาครึ่งวัน ไม่ต้องหาวิธีใดๆ มาคอยล้างถังซัก 
     -          ตัวนี้จะมี Smart ball หรือเม็ดยาง ที่ถูกปล่อยออกมาช่วยทำความสะอาดด้านนอกถังซัก ให้อารมณ์เหมือนขัดถังซัก สิ่งสกปรกจากการซักผ้าก็จะไม่ไปตกค้าง
     -          การทำงานของเครื่องซักผ้าตัวนี้จะเงียบและประหยัดพลังงานเพราะมอเตอร์ต่อตรงไร้สายพาน
     -          ถังซักออกแบบมาให้เป็นรูปทรงหมอน จะช่วยลดความเสียหายที่ผ้าที่เกิดขึ้นเวลาผ้าสัมผัสกับถังซักทำให้ถนอมผ้ามากกว่าการซักทั่วๆไป และรูปล่อยน้ำ 720 รู ที่ช่วยให้น้ำเข้าถังซักได้เร็วและสะอาดมากขึ้น 
อันนี้เป็นเพียงข้อมูลคร่าวๆ ที่เราจำได้นะ แถม Haier เค้ารับประกันตัวมอเตอร์ 3 ปี และตัวเครื่องอีกตั้ง 12 ปี ไม่ต้องมาลงทะเบียนให้เสียเวลาด้วยนะ เซลล์บอกว่าซื้อและติดตั้ง ประกันก็เริ่มให้เลย และในระหว่างนี้ ถ้ามีปัญหาอะไรก็หมดห่วงเรื่องค่าใช้จ่าย ฟรีค่าบริการหลังซื้อไปอีก ถูกใจคนเป็นแม่ที่สุด ที่สำคัญ Feature ที่เครื่องนี้มีมาก็ตอบโจทย์เรามากๆ ค่า 
จุดแรกเลยก็ต้อง โหมดซักผ้าเด็ก ที่ตอบโจทย์เราโดยเฉพาะเลยจุดที่สอง เรื่องความสะอาดของเครื่องซักผ้าคือล้างถังซักอัตโนมัติทุกครั้งที่ซัก ทำให้ไม่ต้องเปลืองน้ำ ไม่ต้องเสียเวลาเพิ่ม และไม่ต้องเรียกช่างมาล้างถังซักบ่อย ๆ ประหยัดเวลากว่าระบบ Tub clean ไปเยอะเลยนะ ภายในเครื่องจะมี Smart ball ช่วยทำความสะอาด ขัดสิ่งสกปรกตกค้างในถังออก และมีจานซักผ้ากันสิ่งตกค้างจากเชื้อโรคและแบคทีเรียได้สูงถึง 99.99% เลยอ่ะ เอาแค่ 2 จุดนี้ ก็ตอบโจทย์เรากับแฟน และเจ้าตัวน้อยของเราได้เกือบจะครบแล้วหล่ะ แต่ที่โดนใจเลยก็ตัวเครื่องก็มีดีไซน์ที่สวยงาม ทันสมัยดีนะ วางมุมไหนก็สวย
 
 นอกจากจุดที่เราบอกไปแล้ว เครื่องซักผ้า Haier ก็ยัง มีโหมดสำหรับซักผ้าประเภทต่างๆ ให้เลือกแบบเยอะ และครบมาก มีทั้ง ซักผ้านวม ผ้าฝ้าย ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์ ผ้ายับง่าย ชุดกีฬา ซักแบบถนอมผ้า ซักแบบประหยัดพลังงาน ซักผ้าสกปรกมาก แช่ผ้า  ซักด่วน หูยยยยย…เมนูการซักเยอะจริงค่ะ แต่อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ ที่ตอบโจทย์ และใช้บ่อย ๆ เลยก็จะเป็น โหมดซักผ้าเด็ก และซักแบบประหยัดพลังงานเนี่ยแหละ เพราะอย่างโหมดซักผ้าเด็ก เครื่องซักผ้า Haier เค้าคิดมาให้แล้วจริงๆ เพราะเครื่องก็จะล้างน้ำหลายรอบกว่าการซักแบบอื่น นี่เลยค่อนข้างมั่นใจว่าจะซักสะอาด ไม่มีสิ่งสกปรกหรืออะไรตกค้างมาที่เสื้อผ้าได้จริงๆ 
และเนื่องจากรุ่นนี้เป็นมอเตอร์แบบ Direct Drive ที่แบรนด์เค้าเคลมว่าทำงานเงียบ ประหยัดพลังงาน เราวัดจากการซักผ้าวันละสองสามตัวต่อวันเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ ค่าน้ำค่าไฟขึ้นมาจากแต่ก่อนไม่ได้เยอะเลยนะ คุ้มจริง และที่สำคัญเสียงเงียบมาก ไม่หนวกหูเลยค่ะ
ยกตัวอย่างการซักที่ประทับใจนอกจากซักผ้าลูกที่เน้นในเรื่องของความสะอาดมากๆแล้ว  ก็มีการซักเสื้อผ้าของสามี พวกเสื้อทำงาน และชุดออกกำลังกายไรงี้ ไม่มีกลิ่นอับหลงเหลืออยู่เลย กลิ่นเสื้อผ้าคือหอมกว่าแต่ก่อนชัดเจนมากๆ แถมติดทนนานด้วยนะ เคยได้ยินแต่ว่าเครื่องฝาหน้าซักผ้าได้หอม เราก็อยากได้ผ้าหอมๆนะ แต่ฝาหน้ามันใช้เวลาซักนานเกินไปหน่อย เราเลยซื้อฝาบนดีกว่า และจนตอนนี้ก็คือรู้เลยว่าตัดสินใจถูกที่สุด เพราะได้ทั้งความสะอาด และความหอมติดเสื้อผ้าแบบไม่ต้องฉีดน้ำหอมเลย เราล่ะเป็นปลื้ม เพราะนอกจากความสะอาดที่อยากได้ก็คือ การซักผ้าแล้วกลิ่นหอมติดเสื้อผ้านี่แหละ
 
สรุปโดยรวมเลย เรารู้สึกชอบมากๆ นะ กดซักผ้าที เสื้อผ้าสะอาดไม่พอ ถังซักก็สะอาดไปด้วย ไม่มีคราบสกปรกจากถังหลุดรอดมาปนเปื้อนกับเสื้อผ้าให้เห็นเลย ไม่มีกลิ่นเหม็นอับ และเราก็ไม่ต้องคอยกด Tub Clean บ่อยๆ ให้เสียเวลาที เกือบครึ่งวัน แถมไม่ต้องเรียกช่างให้มาล้างถังซักบ่อย ๆ ด้วยนะ (เห็นอากู๋บอกว่าเรียกช่างทีหลักพันเลยนะ)  ยุคเศรษฐกิจแบบนี้ เรารู้สึกว่ามันต้องประหยัดอะ อะไรที่สามารถเลือกที่จะประหยัดได้ ก็ต้องทำ ส่วนช่วงนี้ก็ต้องบอกว่าเราสนุกสนานกับการซักกางเกง  ซักเสื้อของคุณลูกและคุณสามี วนไปยาวๆ เลยค่า ยิ่งซักก็ยิ่งสบายใจในความสะอาด คุณแม่นี่เลิฟเลยค่า…