เราโดนแฟนโทรมาบอกเลิกเมื่อ 10 เดือนก่อนค่ะ โดยเขาให้เหตุผลกับเราว่า "เขาเหนื่อย" พอถามว่าเหนื่อยเรื่องอะไร เรื่องเรา?เรื่องที่เขากำลังเรียนป.โทอยู่? หรือเรื่องอื่น ๆ เราพยามคุยอย่างมีเหตุมีผลเพราะหวังจะแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดที่สุด แต่เขากลับไม่สามารถให้คำตอบกับเราได้และตอบกลับมาว่า "ไม่รู้ รู้แต่ว่าเหนื่อย" พอได้ฟังอย่างนี้เราก็รู้สึกว่าเขาอาจจะบอกเลิกเราด้วยอารมณ์ชั่ววูบหรือเปล่า เพราะวันก่อนหน้านี้เรายังคุยกันดีอยู่เลย แต่พอมาอีกวันกลับบอกเลิก เราเลยรู้สึกว่ามันไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ เราจึงเสนอให้นัดวันมาคุยกันซึ่ง ๆ หน้า เพราะตอนนั้นเขาได้ย้ายไปเรียนต่ออีกจังหวัดก่อนหน้าที่จะบอกเลิกเราได้ 3-4 เดือน เรายอมรับว่าตอนนั้นเราคิดว่าเพราะระยะทางหรือเปล่าที่เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เขาเลือกที่จะบอกเลิกเรา เพราะอย่างงั้นเราก็เลยอยากให้มาคุยกันต่อหน้า จะได้เคลียร์ประเด็นนี้ให้ชัดเจนไปเลย เเละเขาก็ตอบตกลงค่ะ
แต่ในวันต่อมา เขากลับเมินข้อความและสายเรียกเข้าจากเราจนเรารู้สึกโกรธมาก ๆ ว่าทำไมถึงเลือกที่จะหายและตัดการติดต่อจากเราไปดื้อ ๆ เพราะก็พึ่งตกลงกันไปเมื่อวาน หรือถ้าเกิดเปลี่ยนใจก็ทักมาบอกเราหน่อยก็ยังดีว่าไม่อยากเห็นหน้าไม่อยากติดต่อด้วยแล้ว
ช่วงที่เขาอยู่ ๆ ก็หายตัวไป 2-3 วันเเรก เราก็ได้โทรและข้อความไปปรึกษาเพื่อนในกลุ่มเขาที่เราสนิทด้วยค่ะ ตอนนั้นคือเราอยากรู้เหตุผล ว่าการหายไปของเขาเเบบนี้หมายความว่ายังไง เพื่อน ๆ ในกลุ่มเขาส่วนมากก็ไม่ทราบค่ะว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็รับปากเราว่าจะทักไปคุยให้ ยกเว้นคนหนึ่ง ซึ่งคนนี้เป็นคนที่สนิทกับเขาที่สุดและอยู่กับเขาด้วยในตอนนั้น เขาได้แต่บอกเราว่าอย่ารู้เหตุผลเลย เราเองจะเสียใจเปล่า ๆ พร้อมกับพยายามผลักให้เรามูฟออน ส่วนตัวเราไม่ต้องการอะไรมากเลยค่ะ เราเเค่ต้องการเหตุผล และยิ่งพอมาเจอเพื่อนเขาพูดแบบนี้ เรายิ่งรู้สึกมึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นไปใหญ่
เราใช้เวลาร่วม 2 เดือนในการเดินหน้าต่อ จนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เพื่อนสนิทเราซึ่งเป็นคนสนิทกับเเฟนเก่าเราด้วย ได้มาเปรย ๆ เรื่องเเฟนเก่าเราจนเราสงสัยว่าเพื่อนไปรู้อะไรมาค่ะ เราถามจนเพื่อนยอมบอกว่า เเฟนเก่าเรามาบอกเหตุผลกับพวกเพื่อน ๆ เขาว่า เขาไม่ชอบแม่ของเราที่คอยส่งข้อความหาเขาตลอดเรื่องของเราค่ะ ในตอนนั้นเราป่วยต้องนอนรพ.บ่อยและสภาพจิตใจเราไม่ค่อยดีด้วย แม่เลยเห็นว่าควรจะทักอัพเดทเรื่องอาการของเราให้แฟนลูกสาวรู้หน่อย เพื่อที่แฟนเราจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง พร้อมกับฝากนิดหน่อยว่าให้ดูแลกันดี ๆ นะ คอยเป็นกำลังใจให้กันนะ ประมาณนี้ค่ะที่แม่เราส่งไป
พอพวกเพื่อน ๆ เขารู้ เขาก็เอามาคุยกันต่อในกลุ่มเพื่อนของเรา โดยที่ไม่มีเราอยู่ด้วย ด้วยเหตุผลว่าเป็นเรื่องของคนสองคน และหน้าที่บอกเหตุผลไม่ใช่หน้าที่ของพวกเขา แต่เรากลับรู้สึกว่าพวกเขาทั้งหมดเข้าข้างแฟนเก่าเราค่ะ เพราะแม่เราเคยส่งข้อความไปหาพวกเพื่อน ๆ เรา ว่าเราอยู่ด้วยไหมเพราะเราไม่ค่อยรับมือถือค่ะเขาเลยคิดว่าแม่เราทำเกินไปเเละเห็นใจแฟนเก่าเราพร้อมบอกว่าเเม่ของจขกท.อ่ะหรอ ใครจะไปทนได้ แต่ส่วนตัวเราคิดว่าถ้ามันเป็นเพราะแม่เราจริง ๆ ทำไมแฟนเก่าเราถึงไม่บอกเราตั้งแต่ทีแรก จะได้หาทางแก้ด้วยกัน แล้วก็ถ้าเพื่อน ๆ คิดว่าเป็นเรื่องของคนสองคนจริง ๆ ก็ไม่ควรเอามาเล่าต่อให้คนอื่นรู้ น่าจะจบที่เพื่อนแฟนเราก็พอที่รู้จากปากแฟน ทั้งนี้ตอนที่เขาเอาเรื่องเรามาเล่าให้กลุ่มเพื่อนของเราฟัง คนที่อยู่ในวงตอนนั้นไม่ได้มีเเค่เฉพาะกลุ่มเพื่อนเรา แต่ยังมีคนอื่นด้วยซึ่งเราไม่ได้สนิทกับพวกเขาเหล่านั้นมากเท่าไหร่ ตอนนี้กลายเป็นว่าทุกคนรอบตัวรู้เรื่องเราหมดเลยและพยามปกปิดเรา ตอนนี้เรารู้สึกหมดความเชื่อใจกับเพื่อนและก็พวกเพื่อนเเฟนเก่าเรามาก ๆ เลยค่ะ และก็รู้สึกโกรธมาก ๆ ด้วย ไม่อยากแม้แต่จะมองหน้าเลย แต่พอเราเเสดงความรู้สึกกับเพื่อสนิทที่ยอมบอกเรา เขากลับบอกเราว่ามันเป็น การโกหกสีขาว white lie โกหกเพื่อปกป้องไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกแย่ เราเลยรู้สึกว่า นี่เราไม่สิทธิโกรธใช่ไหม อีกฝ่ายทำถูกแล้วอย่างงั้นหรอ
ผิดไหมที่โกรธแฟนเก่าและเพื่อนเราที่ช่วยกันปิดบังเหตุผลที่แฟนเก่าขอเลิก
แต่ในวันต่อมา เขากลับเมินข้อความและสายเรียกเข้าจากเราจนเรารู้สึกโกรธมาก ๆ ว่าทำไมถึงเลือกที่จะหายและตัดการติดต่อจากเราไปดื้อ ๆ เพราะก็พึ่งตกลงกันไปเมื่อวาน หรือถ้าเกิดเปลี่ยนใจก็ทักมาบอกเราหน่อยก็ยังดีว่าไม่อยากเห็นหน้าไม่อยากติดต่อด้วยแล้ว
ช่วงที่เขาอยู่ ๆ ก็หายตัวไป 2-3 วันเเรก เราก็ได้โทรและข้อความไปปรึกษาเพื่อนในกลุ่มเขาที่เราสนิทด้วยค่ะ ตอนนั้นคือเราอยากรู้เหตุผล ว่าการหายไปของเขาเเบบนี้หมายความว่ายังไง เพื่อน ๆ ในกลุ่มเขาส่วนมากก็ไม่ทราบค่ะว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็รับปากเราว่าจะทักไปคุยให้ ยกเว้นคนหนึ่ง ซึ่งคนนี้เป็นคนที่สนิทกับเขาที่สุดและอยู่กับเขาด้วยในตอนนั้น เขาได้แต่บอกเราว่าอย่ารู้เหตุผลเลย เราเองจะเสียใจเปล่า ๆ พร้อมกับพยายามผลักให้เรามูฟออน ส่วนตัวเราไม่ต้องการอะไรมากเลยค่ะ เราเเค่ต้องการเหตุผล และยิ่งพอมาเจอเพื่อนเขาพูดแบบนี้ เรายิ่งรู้สึกมึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นไปใหญ่
เราใช้เวลาร่วม 2 เดือนในการเดินหน้าต่อ จนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เพื่อนสนิทเราซึ่งเป็นคนสนิทกับเเฟนเก่าเราด้วย ได้มาเปรย ๆ เรื่องเเฟนเก่าเราจนเราสงสัยว่าเพื่อนไปรู้อะไรมาค่ะ เราถามจนเพื่อนยอมบอกว่า เเฟนเก่าเรามาบอกเหตุผลกับพวกเพื่อน ๆ เขาว่า เขาไม่ชอบแม่ของเราที่คอยส่งข้อความหาเขาตลอดเรื่องของเราค่ะ ในตอนนั้นเราป่วยต้องนอนรพ.บ่อยและสภาพจิตใจเราไม่ค่อยดีด้วย แม่เลยเห็นว่าควรจะทักอัพเดทเรื่องอาการของเราให้แฟนลูกสาวรู้หน่อย เพื่อที่แฟนเราจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง พร้อมกับฝากนิดหน่อยว่าให้ดูแลกันดี ๆ นะ คอยเป็นกำลังใจให้กันนะ ประมาณนี้ค่ะที่แม่เราส่งไป
พอพวกเพื่อน ๆ เขารู้ เขาก็เอามาคุยกันต่อในกลุ่มเพื่อนของเรา โดยที่ไม่มีเราอยู่ด้วย ด้วยเหตุผลว่าเป็นเรื่องของคนสองคน และหน้าที่บอกเหตุผลไม่ใช่หน้าที่ของพวกเขา แต่เรากลับรู้สึกว่าพวกเขาทั้งหมดเข้าข้างแฟนเก่าเราค่ะ เพราะแม่เราเคยส่งข้อความไปหาพวกเพื่อน ๆ เรา ว่าเราอยู่ด้วยไหมเพราะเราไม่ค่อยรับมือถือค่ะเขาเลยคิดว่าแม่เราทำเกินไปเเละเห็นใจแฟนเก่าเราพร้อมบอกว่าเเม่ของจขกท.อ่ะหรอ ใครจะไปทนได้ แต่ส่วนตัวเราคิดว่าถ้ามันเป็นเพราะแม่เราจริง ๆ ทำไมแฟนเก่าเราถึงไม่บอกเราตั้งแต่ทีแรก จะได้หาทางแก้ด้วยกัน แล้วก็ถ้าเพื่อน ๆ คิดว่าเป็นเรื่องของคนสองคนจริง ๆ ก็ไม่ควรเอามาเล่าต่อให้คนอื่นรู้ น่าจะจบที่เพื่อนแฟนเราก็พอที่รู้จากปากแฟน ทั้งนี้ตอนที่เขาเอาเรื่องเรามาเล่าให้กลุ่มเพื่อนของเราฟัง คนที่อยู่ในวงตอนนั้นไม่ได้มีเเค่เฉพาะกลุ่มเพื่อนเรา แต่ยังมีคนอื่นด้วยซึ่งเราไม่ได้สนิทกับพวกเขาเหล่านั้นมากเท่าไหร่ ตอนนี้กลายเป็นว่าทุกคนรอบตัวรู้เรื่องเราหมดเลยและพยามปกปิดเรา ตอนนี้เรารู้สึกหมดความเชื่อใจกับเพื่อนและก็พวกเพื่อนเเฟนเก่าเรามาก ๆ เลยค่ะ และก็รู้สึกโกรธมาก ๆ ด้วย ไม่อยากแม้แต่จะมองหน้าเลย แต่พอเราเเสดงความรู้สึกกับเพื่อสนิทที่ยอมบอกเรา เขากลับบอกเราว่ามันเป็น การโกหกสีขาว white lie โกหกเพื่อปกป้องไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกแย่ เราเลยรู้สึกว่า นี่เราไม่สิทธิโกรธใช่ไหม อีกฝ่ายทำถูกแล้วอย่างงั้นหรอ