เจอพนักงานแบบนี้ควรทำยังไงคะ ฟ้องหมิ่นได้ไหม

สวัสดีค่ะ กลับมาอีกแล้ว วันนี้จะถือว่ารีวิวการทำงานกับแบรนด์หนึ่งและถามคำถามไปในตัวค่ะ รบกวนอ่านทุกบรรทัดก่อนเม้นนะคะเราได้ทำงานพาร์ทไทม์กับแบรนด์ๆหนึ่งซึ่งเป็นแบรนด์รองเท้าในระยะสั้นเพราะเป็นแค่งานลดราคา เราได้ทำคนเดียวตลอดทั้งงานทั้งทีร้านแต่ละร้านจะมีพี่พนักงานอยู่ด้วย อีกทั้งวันสุดท้ายของงานแบรนด์แต่ละแบรนด์จะส่งคนมาช่วยเก็บของซึ่งเราไม่มีตรงนี้ทำให้เราทำงานล่าช้าลากเวลาเก็บของไปสองวัน ซึ่งวันที่เก็บเสร็จต้องเอาของไปไว้ในห้างเราเก็บคนเดียวกับรองเท้าที่เยอะๆเรารู้สึกไม่ไหวจึงได้โทรให้น้องมาช่วยเก็บ ช่วยกันเสร็จช่วง22.30น.ซึ่งมันเลยเวลาห้างแล้วที่ห้างก็ไม่ยอมให้เข้า ก็เลยจึงโทรหาพี่พนักงานของแบรนด์เพราะพี่เขาน่าจะประสานทางห้างไว้ให้ ปรากฏไม่ได้ประสานอะไรไว้เลย (บอกก่อนว่าแต่ละแบรนด์จะมีขนส่งเข้ามารับเขาเก็บเสร็จก็กลับ) แต่เราต้องขนไปด้วยสรุปพี่พนักงานแบรนด์พูดให้เราว่าบอกให้เก็บตั้งแต่เช้าทำไมไม่เก็บทั้งที่เราเก็บก่อนทุกร้านอีกแต่เพราะฝนตกและมันเป็นกล่องลังด้วยจึงยากมากในการเก็บเราจึงรอฝนหยุดตกแล้วเก็บใหม่ แต่มันดึกแล้วขนไม่ทันจึงมาขนในวันรุ่งขึ้นกับน้องลังรองเท้าไม่ไหร่แต่มันหนักตรงที่วางรองเท้า เราทำกับน้องสองคนเช่นเคย จนน้องบอกว่าไม่ไหวอีกทั้งเราผู้หญิงทั้งคู่ยกไม่ได้แน่ เราปรึกษากันและได้โพสต์หาคนมาช่วย โดยจ้างรถขนของ 2 เที่ยว เที่ยวละ 200 และจ้างคนขนอีกสองคน คนละ 300 บาท พี่พนักงานจึงโทรมาถามว่าวันนี้จะเสร็จไหม เราเลยบอกว่าได้จ้างรถขนกับคนช่วยขน จึงเสร็จ พี่เขาบอกว่าจ้างทำไมแค่ไม่กี่ลัง แค่ไม่กี่ลังของเขาคือ 69 ลัง กับอุปกรณ์อีก เขากลัวบริษัทรู้จึงโอนเงินค่ารถขนมาให้เราก็ไม่ได้ว่าอะไร ต่อมามีการนับรองเท้าต้องแยกรุ่นแยกเบอร์อีก แต่ใบเสร็จที่แบรนด์ส่งมาไม่ได้บอกว่ามีกี่รุ่นกี่สีเบอร์อะไรบ้าง มีแต่บอกว่ามาทั้งหมดกี่กล่อง  กล่องสี่ห้าร้อยมีกี่กล่องแค่นั้นแต่เรากลับต้องมาแยกรุ่นสีเบอร์ราคาทุกอย่างเองซึ่งมันเสียเวลาเรามากแทนที่จะเทียบใบเสร็จกับของที่ขายออกไป โชคดีที่เราช่วยแม่เช็คสินค้าอยู่บ่อยๆเรื่องนี้จึงถือว่าทำได้ เราก็ส่งเอกสารกลับคืนบริษัทไป ถือว่าสิ้นสุดการทำงานแล้ว ต่อมาอีกผ่านไปได้สักอาทิตย์พี่คนเดิมโทรมาถามเราว่าเหมือนจะขาดไปลังหนึ่ง 12 กล่อง เราเลยบอกว่าไม่รู้นะเพราะเราเช็คหมดแล้วเราจำได้ทั้งรุ่นแล้วราคาทุกรุ่นเลยแหละแบรนด์ก็ไม่บอกว่ามีรุ่นไหนมาบ้าง (เราไม่ได้เช็คสต็อกช่วงของเข้านะคะเพราะช่วงนั้นต้องเป็นพี่พนักงานเช็คแต่แกบอกว่าขนส่งมาค่ำไม่ต้องเช็คเทียบยอดเอาเราก็อ่ะพี่เขาน่าจะจัดการแหละ เราเลยปล่อยไปจนเป็นปัญหา ) ทีนี้พี่แกบอกเราว่าทำไมไม่เทียบยอดเราก็ไม่รู้ว่าเทียบยอดของพี่เขาหมายถึงอะไรเราเลยบอกไปว่าเราเช็คหมดเลย แกเลยบอกว่าอยากให้ไปเช็คให้ใหม่เราก็โอเค แต่ไม่ใช่ตอนนี้เพราะเรากลับบ้านแกบอกว่าก็ตีรถกลับมาเช็ค เราขึ้นรถทัวร์กลับนะคะ เราก็คิด แล้วเงินที่เสียไปล่ะใครจะจ่าย เราเลยบอกแกว่ากลับไปนับตอนนี้ให้ไม่ได้เพราะเรามีธุระกลับบ้าน นั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลยและเงินที่ทำยังไม่ได้ด้วยนะคะ ต่อมาเราก็รู้สึกผิดเลยบอกแกว่ากลับไปแล้วจะไปนับให้ แกบอกไม่ต้องแล้ว เราก็ อ่ะเค วันต่อมาโทรมาหาเราบอกว่าว่างไหมช่วงประมาณหนึ่งทุ่ม เราเลยว่าว่าง งั้นไปช่วยขนของช่วยพี่พนักงานอีกคนหน่อยมีน้องพาร์ทไทม์ด้วย มาถึงตรงนี้เราไม่ได้เป็นพนักงานพาร์ทไทม์พี่เขาแล้วนะคะจบงานแล้ว แต่นี่มีจัดลดราคาเดือนใหม่ เราเลยบอกโอเค เราก็ไปกับน้องไปก็ช่วยๆกันขนจนเสร็จ และก็ช่วยจัดด้วยแต่ที่นี้ที่เรามาโพสต์เพราะช่วงถัดไปนี่แหละค่ะ เรามีนัดตอนนี้22.30น.เลยบอกพี่พนักงานคนใหม่ไปว่าพี่คะ หนูช่วยถึง 21.30น. นะคะ มีธุระ พี่เขาก็ เคๆ แต่ก็ยังไม่กลับเราช่วยเขาจนถึง 22.30น.เลยและเหลืออีกไม่กี่ลังก็เสร็จแค่จัดของ เราเลยบอกว่างั้นหนูกลับนะคะ มันค่ำแล้วมีนัดบ้านก็ไกลด้วยมันเปลี่ยว เหลือไม่กี่ลัง พี่เขาก็พยักกหน้า เราก็เลยลากลับ ที่นี้พี่ที่จ้างเขาโทรมาว่าทำไมทำแปบเดียวเราเลย งง เราทำตั้งแต่ 1 ทุ่ม เลิก 22.30น. เราทำทุกอย่างเหมือนมาขายเองขนกล่องเข็นกล่องจัดกล่องทั้งที่ พนักงานพาร์ทไทม์ของเขานอกจากแกะกล่องแล้วไม่ทำไรเลย เราก็บอกพี่เขาว่า มีกันสี่คนค่ะ หนูเอาน้องมาช่วยด้วยก็เลยเสร็จไว พี่เขาตอบว่า ก็รู้ แต่ทำไม ทำแปบเดียว  เราก็ยัง งง นะคะ ตรงจุดนี้เลยย้ำไปว่าก็ทำหลายคนงานเลยเสร็จไว  ทีนี้เขาเริ่มโมโหแล้วค่ะ บอกว่าทำไมไม่ช่วยจนเสร็จ เราก็เลยตอบกลับว่าก็ช่วยเกือบจะเสร็จอ่ะค่ะ เหลือลังเล็กๆไม่กี่ลัง( บอกก่อนว่าไม่กี่ลังคือ เหลือ หกลังนะคะ และในหกลังมีรองเท้าแค่หกคู่) ต่างคนต่างเงียบ แกก็ถามอีกว่าทำไมไม่ช่วยพี่ ก เขาบอกว่าเรากลับแล้ว แทนพี่พนักงานอีกคนว่า ก นะคะ เราก็ตอบเหมือนเดิมว่าช่วยแล้วนะคะ หนูมีธุระ บอกพี่เขาแล้วที่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร แกก็ตอบกลับมาอีก ว่าพี่เป็นคนจ้าง ไปบอก ก ทำไม แกต้องบอกพี่ (ตอนนั้นก็แบบเออวะลืม อันนี้ความผิดเราเอง เรารีบจนไม่ได้บอกเวลานัดก็เลยมามากแล้ว เร่งฝีเท้าอย่างเดียว) พี่ถามอยู่ว่าเราวางไหม นี่ก็ตอบกลับ ใช่ค่ะ พี่ถามหนูว่าว่างไหมช่วง 1 ทุ่ม หนูบอกว่าง พี่แกก็สู้เด้อ ใช่ไง แกตอบว่าว่าง ฉันก็นึกว่าแกว่างทั้งวัน ถ้าไม่ว่างทั้งวันแล้วจะตอบรับทำไม เราก็ตอบในใจว่า บอกว่าว่างไหม 1ทุ่ม แค่นั้นไม่ถามเราต่อด้วยว่าว่างถึงช่วงไหน เราตอบว่า 1 ทุ่มว่างผิดอะไร    เราต่างคนต่างเงียบเราก็ไม่พูดอะไรค่ะ จนพี่เขาเริ่มอีกล่ะฉันนึกว่าแกว่างทั้งวัน ถ้าไม่ว่างจะได้หาคนใหม่ มันทำฉันเสียเวลากับแก เราเลยว่า ให้กลับเข้าไปช่วยไหมคะ  แกเลยบอกว่า รปภ.จะให้เข้าไปหรือไงออกมาแล้วอ่ะ เราจึงบอกว่าให้เข้านะคะ เพราะรปภ.ยืนอยู่ตรงหน้าเรา แกเลยบอกว่า ไม่ต้องๆกลับเลย ถ้าเป็นแบบนี้หน่ะ ฉันว่าล่ะ ฉันไม่น่าโอนเงินให้ก่อนเลย รู้นี้งานเสร็จถึงโอนดีกว่า แกนี่มัน โกงจริงๆ ฉันไม่น่าไว้ใจแกเลย เราสะอึกกับคำนี้แกมากเลยค่ะ เหมือนเราทำผิดร้ายแรงจนไม่น่าให้อภัย เรามาช่วยเพราะเคยทำมาก่อนรู้ว่าแบกของมันหนัก ของลงเยอะแต่พื้นที่คับแคบ เราผ่านมาเราเลยเข้าใจเขาว่าน่าจะไม่ไหวจึงเข้ามาช่วย เงินแค่ 350 บาท เราไม่เอาก็ได้ค่ะ ตอนนั้นอยากถามพี่เขาว่าให้หนูโอนคืนให้ไหม ถ้ามันขนาดนี้ เราเอาน้องไปช่วยด้วย ค่าแรงน้องไม่ได้สักบาท ต้องนำเงิน350 มาหารสองคน เรากับน้องแบกของหนักแทบตายเราก็ไม่เคยบ่นเลย  มาถึงตอนนี้อยากถามว่าเราควรแจ้งบริษัทเขาไหมคะและถ้าแจ้งต้องแจ้งข้อกล่าวหาว่าดูหมิ่นได้ไหม เพราะแม้คำจะสุภาพแต่ความหมายมันคือทำให้เราไม่น่าไว้วางใจซึ่งน้องเราอยู่ในเหตุการณ์ทุกอย่าง
     (เราเพิ่งจำได้ว่าพี่แกถามว่าช่วงค่ำว่างไหมไปช่วยขนของหน่อยสิเราถามว่าช่วงไหน แกบอกประมาณ1ทุ่มเราก็คิดว่าได้นะเพราะห้างปิด 21.30น.มีนัด 22.30น.ก็ได้แหละเราคิดแบบนี้จึงตกลงไปเพราะคิดว่าเขาน่าจะเอาของเก่ามาขายส่วนที่เหลือน่าจะเป็นของที่ขายหมดไปในช่วงนั้น พอเจอจริงๆไม่จ๊ะ เอามาหมดเหมือนกะจะตั้งร้านแต่คนที่เหนื่อยสุดคือคนเก็บ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่