เนื่องจากป้าไปเที่ยวเกาหลีครั้งแรก และเป็นคนชื่นชอบชุดประจำชาติ จึงไม่พลาดเช่าชุดฮันบกในแผนเที่ยว แต่พอไปคนเดียวและอยากได้รูปสวยๆ เลยลองหาแพ็คเกจดู จนลงตัวที่นี่
#1 Hanbok Photoshoot All in One Package - Best in Seoul (habkorea.net)
แพ็คเกจนี้ประกอบไปด้วยการเช่าชุดฮันบก 1.5 ชม. ที่ Hanboknum สาขาเคียงบกกุงตอน 10 โมง การแต่งหน้า และถ่ายรูปที่พระราชวังเคียงบกกุง 1.5 ชม. ตอนเที่ยง โดยลูกค้าสามารถอัพเกรดจาก traditional hanbok เป็น theme hanbok และเพิ่มเวลาเช่าก็ได้
พอก่อนวันจริง กังวลเรื่องสภาพอากาศมากเพราะวันก่อนถ่ายฝนตกทั้งวัน แล้วเท่าที่อ่านต้องไปแต่งหน้าอีกที่ ห่างจากร้านเช่าฮันบกไปอีก เลยส่งอีเมล์ไปหา HabKorea ก่อน เป็นโชคดีที่ติดต่อไปเพราะกลายเป็นว่าต้องไปแต่งหน้าก่อนที่ร้าน Lala Hong ย่าน Jonggak แล้วถึงไปร้าน Hanboknam และช่างภาพจะมาตอนบ่ายโมง ที่จริง HabKorea จะให้ไปแต่งหน้าตอน 10 โมง แต่ป้าขอไป 9 โมงครึ่ง เพราะรีวิวบอกว่าถ้าไปช้า ฮันบกสวยๆ อาจไม่เหลือแล้ว
ร้าน Lala Hong หาตึกไม่ยาก แต่ร้านอยู่ในสุด เดินหายากหน่อย ช่างแต่งหน้าใช้เวลา 1 ชม. ในการแต่งหน้าให้ป้า เป็นการแต่งหน้าแนวธรรมชาติที่ป้าชอบมาก ไม่ลงอะไรหนาหนัก แต่งานละเอียด
ร้าน Hanboknam อ่านรีวิวมาดีมาก ทำให้ความคาดหวังสูง ประสบการณ์จริงไม่ได้ดีอย่างที่คาด แต่ก็ไม่ได้แย่ ข้อดีคือพนักงานที่เคาน์เตอร์พูดอังกฤษได้คล่อง บริการทำผมแบบง่ายฟรี แต่เครื่องประดับผม กระเป๋า รองเท้า ฯลฯ ต้องเช่าเพิ่ม (ผม 3,000 วอน กระเป๋า 2,000 วอน) ข้อเสียคือพนักงานไม่ได้เข้ามาดูแลเทคแคร์อย่างที่คาด ขนาดป้าเป็นลูกค้าในร้านคนเดียว แต่ถ้าเข้าไปถามหรือขอให้ช่วย เค้าก็ช่วยนะ พนักงานมาช่วยแต่งตัวให้ ซึ่งก็ไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่ สายกระโปรงข้างในหลุดตลอดวันโดยที่ป้าไม่รู้ตัว ส่วนอีกวันลูกค้าเยอะต้องแต่งเอง ซึ่งก็แต่งมั่วๆ เอา มารู้ทีหลังว่าแต่งผิด แต่ยังดีไม่เสียหายเท่าไหร่
ที่ Hanboknam มีชุดและราคา 3 ระดับ คือ traditional hanbok, theme hanbok และ premium hanbok ซึ่งแบบสุดท้ายแพงสุด 35,000 วอนต่อชม./45,000 วอนต่อ 3 ชม. แต่จะไม่มีขายแพ็คเกจออนไลน์ ต้องติดต่อที่ร้าน
เนื่องจากป้าต่อเวลาเช่าฮันบกเป็น 4 ชม. เพื่อให้มีเวลาใส่ฮันบกชิลล์ๆ เลยเลือกใช้บริการถ่ายภาพในสตูดิโอของ Hanboknam ด้วย โดยซื้อ Package B ที่ได้ไฟล์รูป 40-50 รูป แต่งและพริ้นต์ให้ 1 รูป ราคา 50,000 วอน ช่างจะคอยบอกท่าโพสต์ให้ และที่จริงได้ไฟล์มา 92 รูป รูปที่ช่างแต่งให้คือรูปนี้ค่ะ
ส่วนรูปพวกนี้คือรูปที่ไม่ได้แต่ง
ถ่ายสตูเสร็จแล้ว เราก็ไปถ่าย outdoor กันค่ะ ช่างภาพหน้าตาน่ารักยังกะนางแบบ น้องจอน มาก่อนเวลา ถึงใน voucher จะบอกว่า 1.5 ชม. แต่เค้าถ่ายให้จริงชม.เดียวนะคะ เพราะเผื่อเวลาเดินกลับมาคืนฮันบกด้วย ข้อดีคือช่างภาพเค้าจะรู้จุดที่ถ่ายรูป เราไม่เสียเวลา เดินตามเค้าอย่างเดียวเลย และพอป้าเช่าฮันบกไว้ยาว ก็บอกให้น้องจอนเค้าจบการถ่ายในวังเลย ป้าเที่ยววังต่อเองนิดหน่อยก่อนมาคืนฮันบก น้องจอนพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้แต่เราไม่มีปัญหาเรื่องการสื่อสาร ต่างคนต่างใช้แอพแปลภาษา เค้าจะอัพโหลดรูปให้เราหลังจากวันถ่าย 2-3 วันค่ะ ได้มาประมาณ 300 รูป น้องเค้าจะคอยแนะท่าโพสให้ด้วย ฝีมือโดยรวมใช้ได้ ไม่ได้เก่งเท่าช่างไทยที่เคยใช้บริการ แต่ป้าสบายใจในการทำงานด้วย รูปประมาณนี้ค่ะ
นอกจากแพ็คเกจ All-In-One แล้ว ก่อนไปเกาหลีป้าซื้อ Voucher Klook ไว้อีกด้วย เป็นการเช่า theme hanbok ที่ Hanboknam 1 วัน และ profile photoshoot (20-30 รูปในสตูดิโอ) กะว่าวันนี้จะไปชมพระราชวังอื่นด้วยตัวเอง ไม่มีช่างภาพ outdoor
ทำไมถึง Hanboknam อีกแล้ว
บอกตามตรงว่าที่จริงป้าอยากลองร้านอื่นอย่าง One Day Hanbok ฯลฯ แต่ตอนที่หาข้อมูลร้านปิดตัว Hanboknam เป็นร้านเดียวที่ยัง active และขายแพ็คเกจบนแพลตฟอร์มต่างๆ ในขณะที่เลือกซื้อแพ็คเกจ อย่างไรก็ดี ตอนนี้สถานการณ์ดีขึ้นแล้ว ร้านเช่าฮันบกกลับมาเปิดกัน ลองหาข้อมูลก่อนตัดสินใจ การซื้อแพ็คเกจหรือเวาเชอร์มีความเสี่ยงโดยเฉพาะเรื่องสภาพอากาศ โชคดีวันที่ป้าเลือกทั้ง 2 วัน ฝนตกแค่ตอนเช้า ตอนที่ถ่ายรูปแดดเป็นใจ
ทำไมถึงไม่ซื้อแพ็คเกจช่างภาพ outdoor บน Klook
ตอนที่เห็นราคาแค่ 1,800 บาทต่อครึ่งชม.ก็ตาลุก แต่พออ่านเงื่อนไข ต้องซื้ออย่างน้อย 2 คน แปลว่าชม.เดียวป้าต้องจ่าย 7,200 แพงกว่าแพ็คเกจของ HabKorea
เมื่อป้าผ่านแพ็คเกจ All-In-One ของ HabKorea และแฮปปี้กับช่างแต่งหน้าและช่างภาพ เล็งเห็นแล้วว่าการจ้างมืออาชีพทำให้ได้ภาพสวย เลยซื้อแพ็คเกจอีกครั้งโดยไม่เช่าฮันบก เลือกได้ด้วยว่าจะจ้างเฉพาะช่างภาพหรือเพิ่มแต่งหน้า และนัดแนะสถานที่ได้ โดยป้าเลือกไปถ่ายที่ Bukchon Hanok Village กับพระราชวัง Changdeokgung
The Best Seoul Photographer - #1 Travel Snap in Seoul (habkorea.net) ส่วนตัวคิดว่าเลือกแพ็คเกจนี้ดีกว่า All-In-One เพราะที่ Hanboknam เหมือนไม่ได้โคกับ HaBKorea ทำให้การใช้แพ็คเกจไม่ราบรื่นเท่าไหร่ และสามารถเลือกเช่าชุดร้านอื่นได้ด้วย
นอกจากนั้น ป้าไปเก็บเวาเชอร์ฟรีใน Klook ซึ่งเวิร์คมากเพราะช้อปแค่ $20 ก็ได้บัตรเช่าฮันบกฟรี 2 ชม. กับขึ้น N-Seoul Tower ฟรี ไม่รวมส่วนลดอื่นๆ ที่ได้ ที่จริงร้านเช่าฮันบกเลือกได้ 2 ที่คือ Hanboknam สาขาเดิม กับ ABC Hanbok แต่ดูแล้ว Hanboknam ค่าเช่าแพงกว่า น่าจะคุ้มกว่า แล้วต้องไปใช้เวาเชอร์อื่นที่นั่นอยู่แล้ว ไปรวดเดียวไม่เสียเที่ยว
เวาเชอร์ช้อปปิ้งที่ชินเซเกดิวตี้ฟรี (Shinsegae Duty Free) สาขาเมียงดง/กังนัม สำหรับนักท่องเที่ยว FIT ในโซล - Klook ประเทศไทย
สรุปแล้ววันที่ 2 ป้าใช้เวาเชอร์และถ่ายรูปแบบนี้ค่ะ
1. แต่งหน้าที่ Lala Hong
2. เช่าฮันบกด้วย voucher ฟรี 2 ชม. และใช้ voucher Klook ถ่ายรูปโพรไฟล์ในสตูดิโอ ได้รูปจริงมา 40 รูป ไม่แต่ง
3. เช่าฮันบกด้วย voucher Klook และถ่ายรูปที่ Bukchon Hanok Village กับพระราชวัง Changdeokgung (เนื่องจากเช่าชุดทั้งวันเลยจองตั๋ว Secret Garden และชมพระราชวัง Changgyeonggung ต่อด้วย)
วันนี้เนื่องจากเป็นการเจอกันครั้งที่ 2 ช่างแต่งหน้าเลยแต่งให้เข้มกว่ารอบแรก ซึ่งก็แมทช์กับฮันบกที่ป้าเลือกพอดี และใช้เวลาแต่งแค่ 40 นาที ที่เหลือเค้าไดร์ผม หนีบผม ง่ายๆ ให้
พอเป็นของฟรี ป้าก็เลือกฮันบกแบบฉีกแนวไปหน่อย ช่างภาพคนเดิม แต่ถ่ายรูปน้อยลงตามแพ็คเกจ ผลงานออกมาแบบนี้ค่ะ ป้าโอเคกับเงิน 500 บาทที่จ่าย
ส่วนการถ่ายนอกสตูกับน้องจอน เปลี่ยนชุดและได้รูปประมาณนี้
ข้อแนะนำเล็กๆ น้อยๆ สำหรับการแต่งฮันบก
· เนื่องจากป้าไปหน้าร้อน ทุกวันร่างละลาย เลยเลือกใส่เสื้อกล้ามกับกางเกงกีฬาขาสั้นไว้ด้านใน
· เลือกฮันบกจากกระโปรงก่อน ถามพนักงานได้ว่าท่อนบนแบบไหนถึงจะเข้ากัน เพราะเสื้อกับกระโปรงไม่ได้แมทช์กันได้หมดทุกชุด
· ระวังอย่าให้กระโปรงยาวลากพื้นจนชายเปื้อน
จากประสบการณ์แต่งชุดประจำชาติมาหลายชาติ ป้าชอบชุดฮันบกโดยเฉพาะสุ่มที่ทำให้ผู้สวมใส่สง่างาม ยิ่งการใส่เที่ยวพระราชวังยิ่งฟินกับกลิ่นอายอดีต หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่สนใจเช่าฮันบกนะคะ
[CR] รีวิวเช่าชุดฮันบกและแพ็คเกจแต่งหน้า-ถ่ายรูปที่เกาหลี (3 ชุดในทริปเดียว)
แพ็คเกจนี้ประกอบไปด้วยการเช่าชุดฮันบก 1.5 ชม. ที่ Hanboknum สาขาเคียงบกกุงตอน 10 โมง การแต่งหน้า และถ่ายรูปที่พระราชวังเคียงบกกุง 1.5 ชม. ตอนเที่ยง โดยลูกค้าสามารถอัพเกรดจาก traditional hanbok เป็น theme hanbok และเพิ่มเวลาเช่าก็ได้
พอก่อนวันจริง กังวลเรื่องสภาพอากาศมากเพราะวันก่อนถ่ายฝนตกทั้งวัน แล้วเท่าที่อ่านต้องไปแต่งหน้าอีกที่ ห่างจากร้านเช่าฮันบกไปอีก เลยส่งอีเมล์ไปหา HabKorea ก่อน เป็นโชคดีที่ติดต่อไปเพราะกลายเป็นว่าต้องไปแต่งหน้าก่อนที่ร้าน Lala Hong ย่าน Jonggak แล้วถึงไปร้าน Hanboknam และช่างภาพจะมาตอนบ่ายโมง ที่จริง HabKorea จะให้ไปแต่งหน้าตอน 10 โมง แต่ป้าขอไป 9 โมงครึ่ง เพราะรีวิวบอกว่าถ้าไปช้า ฮันบกสวยๆ อาจไม่เหลือแล้ว
ร้าน Lala Hong หาตึกไม่ยาก แต่ร้านอยู่ในสุด เดินหายากหน่อย ช่างแต่งหน้าใช้เวลา 1 ชม. ในการแต่งหน้าให้ป้า เป็นการแต่งหน้าแนวธรรมชาติที่ป้าชอบมาก ไม่ลงอะไรหนาหนัก แต่งานละเอียด
ร้าน Hanboknam อ่านรีวิวมาดีมาก ทำให้ความคาดหวังสูง ประสบการณ์จริงไม่ได้ดีอย่างที่คาด แต่ก็ไม่ได้แย่ ข้อดีคือพนักงานที่เคาน์เตอร์พูดอังกฤษได้คล่อง บริการทำผมแบบง่ายฟรี แต่เครื่องประดับผม กระเป๋า รองเท้า ฯลฯ ต้องเช่าเพิ่ม (ผม 3,000 วอน กระเป๋า 2,000 วอน) ข้อเสียคือพนักงานไม่ได้เข้ามาดูแลเทคแคร์อย่างที่คาด ขนาดป้าเป็นลูกค้าในร้านคนเดียว แต่ถ้าเข้าไปถามหรือขอให้ช่วย เค้าก็ช่วยนะ พนักงานมาช่วยแต่งตัวให้ ซึ่งก็ไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่ สายกระโปรงข้างในหลุดตลอดวันโดยที่ป้าไม่รู้ตัว ส่วนอีกวันลูกค้าเยอะต้องแต่งเอง ซึ่งก็แต่งมั่วๆ เอา มารู้ทีหลังว่าแต่งผิด แต่ยังดีไม่เสียหายเท่าไหร่
ที่ Hanboknam มีชุดและราคา 3 ระดับ คือ traditional hanbok, theme hanbok และ premium hanbok ซึ่งแบบสุดท้ายแพงสุด 35,000 วอนต่อชม./45,000 วอนต่อ 3 ชม. แต่จะไม่มีขายแพ็คเกจออนไลน์ ต้องติดต่อที่ร้าน
เนื่องจากป้าต่อเวลาเช่าฮันบกเป็น 4 ชม. เพื่อให้มีเวลาใส่ฮันบกชิลล์ๆ เลยเลือกใช้บริการถ่ายภาพในสตูดิโอของ Hanboknam ด้วย โดยซื้อ Package B ที่ได้ไฟล์รูป 40-50 รูป แต่งและพริ้นต์ให้ 1 รูป ราคา 50,000 วอน ช่างจะคอยบอกท่าโพสต์ให้ และที่จริงได้ไฟล์มา 92 รูป รูปที่ช่างแต่งให้คือรูปนี้ค่ะ
ส่วนรูปพวกนี้คือรูปที่ไม่ได้แต่ง
ถ่ายสตูเสร็จแล้ว เราก็ไปถ่าย outdoor กันค่ะ ช่างภาพหน้าตาน่ารักยังกะนางแบบ น้องจอน มาก่อนเวลา ถึงใน voucher จะบอกว่า 1.5 ชม. แต่เค้าถ่ายให้จริงชม.เดียวนะคะ เพราะเผื่อเวลาเดินกลับมาคืนฮันบกด้วย ข้อดีคือช่างภาพเค้าจะรู้จุดที่ถ่ายรูป เราไม่เสียเวลา เดินตามเค้าอย่างเดียวเลย และพอป้าเช่าฮันบกไว้ยาว ก็บอกให้น้องจอนเค้าจบการถ่ายในวังเลย ป้าเที่ยววังต่อเองนิดหน่อยก่อนมาคืนฮันบก น้องจอนพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้แต่เราไม่มีปัญหาเรื่องการสื่อสาร ต่างคนต่างใช้แอพแปลภาษา เค้าจะอัพโหลดรูปให้เราหลังจากวันถ่าย 2-3 วันค่ะ ได้มาประมาณ 300 รูป น้องเค้าจะคอยแนะท่าโพสให้ด้วย ฝีมือโดยรวมใช้ได้ ไม่ได้เก่งเท่าช่างไทยที่เคยใช้บริการ แต่ป้าสบายใจในการทำงานด้วย รูปประมาณนี้ค่ะ
นอกจากแพ็คเกจ All-In-One แล้ว ก่อนไปเกาหลีป้าซื้อ Voucher Klook ไว้อีกด้วย เป็นการเช่า theme hanbok ที่ Hanboknam 1 วัน และ profile photoshoot (20-30 รูปในสตูดิโอ) กะว่าวันนี้จะไปชมพระราชวังอื่นด้วยตัวเอง ไม่มีช่างภาพ outdoor
ทำไมถึง Hanboknam อีกแล้ว
บอกตามตรงว่าที่จริงป้าอยากลองร้านอื่นอย่าง One Day Hanbok ฯลฯ แต่ตอนที่หาข้อมูลร้านปิดตัว Hanboknam เป็นร้านเดียวที่ยัง active และขายแพ็คเกจบนแพลตฟอร์มต่างๆ ในขณะที่เลือกซื้อแพ็คเกจ อย่างไรก็ดี ตอนนี้สถานการณ์ดีขึ้นแล้ว ร้านเช่าฮันบกกลับมาเปิดกัน ลองหาข้อมูลก่อนตัดสินใจ การซื้อแพ็คเกจหรือเวาเชอร์มีความเสี่ยงโดยเฉพาะเรื่องสภาพอากาศ โชคดีวันที่ป้าเลือกทั้ง 2 วัน ฝนตกแค่ตอนเช้า ตอนที่ถ่ายรูปแดดเป็นใจ
ทำไมถึงไม่ซื้อแพ็คเกจช่างภาพ outdoor บน Klook
ตอนที่เห็นราคาแค่ 1,800 บาทต่อครึ่งชม.ก็ตาลุก แต่พออ่านเงื่อนไข ต้องซื้ออย่างน้อย 2 คน แปลว่าชม.เดียวป้าต้องจ่าย 7,200 แพงกว่าแพ็คเกจของ HabKorea
เมื่อป้าผ่านแพ็คเกจ All-In-One ของ HabKorea และแฮปปี้กับช่างแต่งหน้าและช่างภาพ เล็งเห็นแล้วว่าการจ้างมืออาชีพทำให้ได้ภาพสวย เลยซื้อแพ็คเกจอีกครั้งโดยไม่เช่าฮันบก เลือกได้ด้วยว่าจะจ้างเฉพาะช่างภาพหรือเพิ่มแต่งหน้า และนัดแนะสถานที่ได้ โดยป้าเลือกไปถ่ายที่ Bukchon Hanok Village กับพระราชวัง Changdeokgung The Best Seoul Photographer - #1 Travel Snap in Seoul (habkorea.net) ส่วนตัวคิดว่าเลือกแพ็คเกจนี้ดีกว่า All-In-One เพราะที่ Hanboknam เหมือนไม่ได้โคกับ HaBKorea ทำให้การใช้แพ็คเกจไม่ราบรื่นเท่าไหร่ และสามารถเลือกเช่าชุดร้านอื่นได้ด้วย
นอกจากนั้น ป้าไปเก็บเวาเชอร์ฟรีใน Klook ซึ่งเวิร์คมากเพราะช้อปแค่ $20 ก็ได้บัตรเช่าฮันบกฟรี 2 ชม. กับขึ้น N-Seoul Tower ฟรี ไม่รวมส่วนลดอื่นๆ ที่ได้ ที่จริงร้านเช่าฮันบกเลือกได้ 2 ที่คือ Hanboknam สาขาเดิม กับ ABC Hanbok แต่ดูแล้ว Hanboknam ค่าเช่าแพงกว่า น่าจะคุ้มกว่า แล้วต้องไปใช้เวาเชอร์อื่นที่นั่นอยู่แล้ว ไปรวดเดียวไม่เสียเที่ยว
เวาเชอร์ช้อปปิ้งที่ชินเซเกดิวตี้ฟรี (Shinsegae Duty Free) สาขาเมียงดง/กังนัม สำหรับนักท่องเที่ยว FIT ในโซล - Klook ประเทศไทย
สรุปแล้ววันที่ 2 ป้าใช้เวาเชอร์และถ่ายรูปแบบนี้ค่ะ
1. แต่งหน้าที่ Lala Hong
2. เช่าฮันบกด้วย voucher ฟรี 2 ชม. และใช้ voucher Klook ถ่ายรูปโพรไฟล์ในสตูดิโอ ได้รูปจริงมา 40 รูป ไม่แต่ง
3. เช่าฮันบกด้วย voucher Klook และถ่ายรูปที่ Bukchon Hanok Village กับพระราชวัง Changdeokgung (เนื่องจากเช่าชุดทั้งวันเลยจองตั๋ว Secret Garden และชมพระราชวัง Changgyeonggung ต่อด้วย)
วันนี้เนื่องจากเป็นการเจอกันครั้งที่ 2 ช่างแต่งหน้าเลยแต่งให้เข้มกว่ารอบแรก ซึ่งก็แมทช์กับฮันบกที่ป้าเลือกพอดี และใช้เวลาแต่งแค่ 40 นาที ที่เหลือเค้าไดร์ผม หนีบผม ง่ายๆ ให้
พอเป็นของฟรี ป้าก็เลือกฮันบกแบบฉีกแนวไปหน่อย ช่างภาพคนเดิม แต่ถ่ายรูปน้อยลงตามแพ็คเกจ ผลงานออกมาแบบนี้ค่ะ ป้าโอเคกับเงิน 500 บาทที่จ่าย
ส่วนการถ่ายนอกสตูกับน้องจอน เปลี่ยนชุดและได้รูปประมาณนี้
ข้อแนะนำเล็กๆ น้อยๆ สำหรับการแต่งฮันบก
· เนื่องจากป้าไปหน้าร้อน ทุกวันร่างละลาย เลยเลือกใส่เสื้อกล้ามกับกางเกงกีฬาขาสั้นไว้ด้านใน
· เลือกฮันบกจากกระโปรงก่อน ถามพนักงานได้ว่าท่อนบนแบบไหนถึงจะเข้ากัน เพราะเสื้อกับกระโปรงไม่ได้แมทช์กันได้หมดทุกชุด
· ระวังอย่าให้กระโปรงยาวลากพื้นจนชายเปื้อน
จากประสบการณ์แต่งชุดประจำชาติมาหลายชาติ ป้าชอบชุดฮันบกโดยเฉพาะสุ่มที่ทำให้ผู้สวมใส่สง่างาม ยิ่งการใส่เที่ยวพระราชวังยิ่งฟินกับกลิ่นอายอดีต หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่สนใจเช่าฮันบกนะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้