แฟนอยากให้ติดโควิดด้วยกัน

รบกวนช่วยวิเคราะห์หน่อยค่ะ
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าแฟนเรารักเรามากๆ ดูแลดีตั้งแต่วันแรกที่เจอจนตอนนี้ตกลงเป็นแฟนกันได้เกือบปีแล้วค่ะ แฟนเราเป็นพวกทำงานฟรีแลนด์แล้วก็เรียนออนไลน์ไปด้วย ส่วนเราทำงานเป็นพนง.ออฟฟิศ เข้างาน9.00-16.30 แฟนเราก็ทำหน้าที่มารับมาส่ง
ตอนคบกันแรกๆแฟนเราเคยพูดว่าอยากให้ตัวเองไม่สบายจัง เราจะได้ไปดูแลเขา ตอนนั้นเราใจฟูมาก มันฟังแล้วรู้สึกดียังไงไม่รู้
แต่พออาทิตย์ที่แล้วแฟนเราตรวจพบเชื่อโควิด เราเลยรีบกันตัวเองออกจากแฟนทันที แบ่งห้องนอน แบ่งโซนต่างๆภายในบ้าน เพราะบริษัทก็สั่งกักตัวเรา5วันเพื่อดูอาการ
เนื่องจากเราอยู่กับแฟน 2 คน เราเลยใช้วิธีใส่แมส แต่งตัวมิดชิดเวลาเข้าไปปลุกเค้ากินข้าวกินยา แต่ทุกครั้งที่เค้าใกล้เราเค้าจะดึงเราไปกอด ไปหอม ทำทุกอย่างเพื่อสัมผัสกับเรา (ตอนนั้นเราไม่มีอาการอะไรเลยตรวจATKทุกวันก็ไม่พบเชื่อ)
เราพยายามบอกเค้าว่าเรากลัวติด หัวหน้าเราดุมาก ถ้าเราหยุดนานกว่านี้งานต้องท่วมหัว บลาๆๆๆ เราพูดทุกอย่าง เขาไม่ฟังเลย จนที่สุดเขาจับเรามีอะไรด้วยจนได้
พอหลังจากนั้น3วันเราเริ่มมีอาการ สุดท้ายเราก็ติดโควิด
เราไม่รู้หรอกว่าเราติดตอนที่เขาตั้งใจแพร่ หรือก่อนหน้านั้น แต่เขาไม่ควรทำแบบนั้นกับเราเลย
ตอนนี้หยุดอยู่ห้องด้วยกันครบ 5 วันแล้ว อาการเราหนักมาก ในขณะที่แฟนเรากำลังดีขึ้น พ่อแม่เราเป็นห่วง หัวหน้าบ่นเราจนหูชา
วันนี้เราเลยตัดสินใจถามแฟน…
เรา: เธอ…ทำไมเธออยากให้เค้าติดไข้เธอหรอ? เธอดีใจมั้ยที่เค้าติดไข้เธอ
แฟน: ดีใจ(ยิ้ม)
เรา: ทำไมล่ะ
แฟน: เค้าจะได้หยุดอยู่กับเธอนานๆ
เรา: แต่เค้าทรมาร เจ็บคอมาก
แฟน: เค้าก็เจ็บ … และเค้าไม่เสียใจนะที่มันเป็นแบบนี้

เท่านั้นเราก็น้ำตาไหลเลย เราสับสนว่าทำไมเขาคิดแบบนี้ ตกลงเขารักเรามากจริงๆหรือแค่เห็นแก่ความสุขตัวเอง
ช่วยเราวิเคราะห์หน่อยนะคะ😢

อัฟเดต 1 วันหลังตั้งกระทู้

หลังจากถามไปแล้วได้คำตอบมาแบบนี้เราก็ทำตัวปกติไม่ได้อีกต่อไป จนแฟนเราจับสังเกตุได้และถามเรา
ทีนี้พอลองได้มานั่งคุยกัน เราบอกทุกความรู้สึก พูดในสิ่งที่เราไม่โอเคเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะเราก็รักเขามาก ลึกๆแล้วการที่มานั่งคุยกันเราก็อยากให้เขาเปลี่ยนความคิดใหม่ ซึ่งคำตอบของแฟนเราก็คือ…

“ที่เค้าทำแบบนั้น(พยายามสัมผัสเราอย่างที่เล่าไป) เพราะเค้ารู้อยู่แล้วว่าเธอต้องติด แล้วเธอจะมาคิดอะไรอีกในเมื่อสุดท้ายตอนนี้เธอก็ติด…อีกอย่างคนที่ดูแลเธอก็ต้องเป็นเค้าไม่ใช่หรอ”

หลังจากนั้นเราก็พยายามพูดกับเขา ประมาณว่าเราไม่ได้มองตรงนั้นว่าเราติดจากไหน ตอนไหน สิ่งที่เราติดอยู่ในใจคือ ทำไมเขาถึงเจตนาอยากให้เราติดด้วยกัน ถ้าเขายืนยันว่ามันติดมาตั้งแต่แรก แล้วทำไมไม่ทำตามที่เราขอ ยอมเว้นระยะ ยอมไม่ใกล้ไม่คุย และ สุดท้ายถ้าเราติดอย่างน้อยเราก็รู้สึกดีกว่านี้

เถียงกันอยู่นานจนเราตะโกนใส่หน้าเขาเสียงดังมากกกกก เพราะเราไม่ไหวเลย ไม่โอเคที่เขาพยายามแก้ต่างให้ตัวเอง เถียงข้างๆคูๆ ในที่สุดก็จบด้วยการเขาขอโทษเราแล้วขอให้เราเลิกพูดถึงเรื่องนี้ ทั้งที่ในใจเราไม่เคลียร์อะไรสักอย่าง

กลายเป็นว่าเรื่องนี้มันจะติดอยู่ในใจเราไปตลอด มันอาจจะดูไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับหลายคน แต่สำหรับเรา ความรู้สึกมันเปลี่ยนไป คงรักเหมือนเดิมนะ แต่คงมองเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว….
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่