" เราเลิกกันเถอะ เรารู้สึกว่าเธอเป็นภาระในชีวิตเรา อยากได้อะไรก็เงินเรา แล้วนี่มาบอกว่าอยากได้รถ สุดท้ายมันก็คือรายจ่ายที่เราต้องรับผิดชอบเองทั้งหมด การที่เราบอกเลิกเธอมันเหมือนการยกภูเขาออกจากอก เราขอเลิกนะ "
เรื่องมีอยู่ว่าเราเคยคบผู้ชายคนนึง อายุรุ่นเดียวกัน สมัยคบกันตอนแรกก็เหมือนจะดีแหละ แต่พอเราทำงานมีเงินเดือนเท่านั้นแหละ คือผู้ชายทำงานเป็นพนักงานเอกชน ปกตินางจะเดินทางไปทำงานโดยรถมอเตอร์ไซด์ มาวันนึงช่วงหน้าฝน นางก็โพสต์ในเฟซบุ๊กว่า " ฝนตกขับรถไปทำงานลำบาก เป็นแบบนี้ออกรถกระบะดีกว่า " ประมาณนี้ หลังจากนั้น นางก็มาบอกเราว่า " อยากออกรถกระบะ แต่ไม่มีเงินดาวน์ แล้วก็จะไม่กู้เงินด้วย เพราะวางแผนจะลาออกจากงานอยู่ " เราก็เงียบแล้วก็ได้แต่คิดในใจว่า เงินไม่มี อยากได้รถ แต่จะให้เรารับผิดชอบเหรอ "
ต้องบอกก่อนว่าที่ผ่านมาเราคอยช่วยเหลือเรื่องเงินตลอด เงินหลักพันคือขอ หลักหมื่นคือยืม
ขออะครั้งละ 3000 - 4000 ขอคือนับครั้งไม่ถ้วน หลังนางเรียนจบ ตกงานเป็นปี เราก็คอยช่วยเหลือเรื่องเงินทุกเดือน พอมีงานทำแล้วก็ยังต้องช่วย อยากได้อะไรก็ยังต้องขอเงินเรา มีทั้งให้ซื้อของให้อีก ส่วนเงินที่ว่ายืมก็มีทั้ง ยืมให้แม่นางใช้หนี้บ้าง และก้อนล่าสุดที่ยืมแล้วยังไม่คืน คือเงินจำนวน 30,000 ที่ยืมเพื่อซื้อโทรศัพท์ ยืมจนผ่านมาเป็นปีในระหว่างที่คบกันก็ยังทำเงียบอยู่ไม่มีการคืน
หลังจากที่เราบอกเลิกแล้ว นางก็พยายามตามง้อหลายครั้ง ด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานา ทั้งยังมาบอกว่าจะไปเอาเงินลุงมาดาวน์รถบ้าง คือเราก็ปฎิเสธตลอด เราบอกว่าเราขอเลิกแล้ว ไม่มีอะไรที่ต้องเกี่ยวข้องกันแล้ว คือเราบอกตัวเองเลยว่าพอกันที ไม่มีทางจะเอากลับคืนมาแน่ ๆ
หลังจากที่นางตามง้อไม่สำเร็จ นางโพสต์ในเฟสบุ๊คว่าขอให้นางเจอคนดีๆ ในชีวิต เราเลยแกล้งลองทักแชทไปถามเงินที่นางเคยยืมซื้อโทรศัพท์ คำตอบที่ได้คือ ไม่มี และเป็นเพราะเราขอเลิกเองเราเลยไม่ได้เงินคืน นี่เราให้เลขบัญชีธนาคารไปทุกวันนี้ผ่านมาเป็นปีก็ยังไม่ได้คืน
แล้วแม่เรามาเล่าให้ฟังหลังตอนเลิกกันแล้วว่าช่วงที่เราคบกับนางอยู่ นางโทรหาแม่เราบอกว่าจะออกรถกระบะด้วยกันกับเรา คือแบบเดี๋ยวก่อนนะ คือเราไม่เคยคุยกันเรื่องนี้นะ แล้วเงินตัวเองจะใช้แต่ละเดือนก็ยังต้องขอเราอยู่ ทำไมกล้าพูดแบบนั้น
หลังจากเลิกกันแล้วนางก็โทรหาแม่เราอีกนะ
บอกว่าเราจะออกมอไซด์ให้นาง แต่นางไม่เอา โอ๊ยน๊ออ.. มันคนละเรื่องเลย คำพูดดูหล่อไปอีก คือนางอะมีมอเตอร์ไซด์คันเก่าที่ใช้อยู่เป็นประจำ แล้วนางเคยพูดว่าอยากออกบิ๊กไบค์ ซึ่งเราก็เบรคนาง เราบอกไปว่าจะดีเหรอ ราคาไม่ใช่ถูก ๆ นะ แล้วนางก็สวนกลับมาว่า ทำไมต้องพูดแบบนี้ คนเงินเดือนเท่ากันกับนางยังซื้อได้เลย
ทุกวันนี้เลิกมาได้เรารู้สึกแบบไม่ต้องมาแบกรับอะไร มันเหมือนยกภูเขาออกจากอกจริงๆ เรื่องแนวคิดการใช้เงินของนางเราไม่โอเคจริง ๆ คนเรามีชีวิตเดียวถ้าจะเลือกคนเข้ามาในชีวิต ก็ขอแบบไม่เป็นภาระดีกว่าเนาะ
" เลิกกับแฟน เหมือนยกภูเขาออกจากอก " ใครเคยบอกเลิกแฟนเพราะเป็นภาระด้านการเงินบ้าง
เรื่องมีอยู่ว่าเราเคยคบผู้ชายคนนึง อายุรุ่นเดียวกัน สมัยคบกันตอนแรกก็เหมือนจะดีแหละ แต่พอเราทำงานมีเงินเดือนเท่านั้นแหละ คือผู้ชายทำงานเป็นพนักงานเอกชน ปกตินางจะเดินทางไปทำงานโดยรถมอเตอร์ไซด์ มาวันนึงช่วงหน้าฝน นางก็โพสต์ในเฟซบุ๊กว่า " ฝนตกขับรถไปทำงานลำบาก เป็นแบบนี้ออกรถกระบะดีกว่า " ประมาณนี้ หลังจากนั้น นางก็มาบอกเราว่า " อยากออกรถกระบะ แต่ไม่มีเงินดาวน์ แล้วก็จะไม่กู้เงินด้วย เพราะวางแผนจะลาออกจากงานอยู่ " เราก็เงียบแล้วก็ได้แต่คิดในใจว่า เงินไม่มี อยากได้รถ แต่จะให้เรารับผิดชอบเหรอ "
ต้องบอกก่อนว่าที่ผ่านมาเราคอยช่วยเหลือเรื่องเงินตลอด เงินหลักพันคือขอ หลักหมื่นคือยืม
ขออะครั้งละ 3000 - 4000 ขอคือนับครั้งไม่ถ้วน หลังนางเรียนจบ ตกงานเป็นปี เราก็คอยช่วยเหลือเรื่องเงินทุกเดือน พอมีงานทำแล้วก็ยังต้องช่วย อยากได้อะไรก็ยังต้องขอเงินเรา มีทั้งให้ซื้อของให้อีก ส่วนเงินที่ว่ายืมก็มีทั้ง ยืมให้แม่นางใช้หนี้บ้าง และก้อนล่าสุดที่ยืมแล้วยังไม่คืน คือเงินจำนวน 30,000 ที่ยืมเพื่อซื้อโทรศัพท์ ยืมจนผ่านมาเป็นปีในระหว่างที่คบกันก็ยังทำเงียบอยู่ไม่มีการคืน
หลังจากที่เราบอกเลิกแล้ว นางก็พยายามตามง้อหลายครั้ง ด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานา ทั้งยังมาบอกว่าจะไปเอาเงินลุงมาดาวน์รถบ้าง คือเราก็ปฎิเสธตลอด เราบอกว่าเราขอเลิกแล้ว ไม่มีอะไรที่ต้องเกี่ยวข้องกันแล้ว คือเราบอกตัวเองเลยว่าพอกันที ไม่มีทางจะเอากลับคืนมาแน่ ๆ
หลังจากที่นางตามง้อไม่สำเร็จ นางโพสต์ในเฟสบุ๊คว่าขอให้นางเจอคนดีๆ ในชีวิต เราเลยแกล้งลองทักแชทไปถามเงินที่นางเคยยืมซื้อโทรศัพท์ คำตอบที่ได้คือ ไม่มี และเป็นเพราะเราขอเลิกเองเราเลยไม่ได้เงินคืน นี่เราให้เลขบัญชีธนาคารไปทุกวันนี้ผ่านมาเป็นปีก็ยังไม่ได้คืน
แล้วแม่เรามาเล่าให้ฟังหลังตอนเลิกกันแล้วว่าช่วงที่เราคบกับนางอยู่ นางโทรหาแม่เราบอกว่าจะออกรถกระบะด้วยกันกับเรา คือแบบเดี๋ยวก่อนนะ คือเราไม่เคยคุยกันเรื่องนี้นะ แล้วเงินตัวเองจะใช้แต่ละเดือนก็ยังต้องขอเราอยู่ ทำไมกล้าพูดแบบนั้น
หลังจากเลิกกันแล้วนางก็โทรหาแม่เราอีกนะ
บอกว่าเราจะออกมอไซด์ให้นาง แต่นางไม่เอา โอ๊ยน๊ออ.. มันคนละเรื่องเลย คำพูดดูหล่อไปอีก คือนางอะมีมอเตอร์ไซด์คันเก่าที่ใช้อยู่เป็นประจำ แล้วนางเคยพูดว่าอยากออกบิ๊กไบค์ ซึ่งเราก็เบรคนาง เราบอกไปว่าจะดีเหรอ ราคาไม่ใช่ถูก ๆ นะ แล้วนางก็สวนกลับมาว่า ทำไมต้องพูดแบบนี้ คนเงินเดือนเท่ากันกับนางยังซื้อได้เลย
ทุกวันนี้เลิกมาได้เรารู้สึกแบบไม่ต้องมาแบกรับอะไร มันเหมือนยกภูเขาออกจากอกจริงๆ เรื่องแนวคิดการใช้เงินของนางเราไม่โอเคจริง ๆ คนเรามีชีวิตเดียวถ้าจะเลือกคนเข้ามาในชีวิต ก็ขอแบบไม่เป็นภาระดีกว่าเนาะ