คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 33
ตอบในฐานะที่ตัวเองเป็นรุ่นที่ 3 ดีกว่า (อายุประมาณ 40 ต้น ๆ/ อาม่าฝั่งป่าป๊า เพิ่งเสียไปเมื่อปีที่แล้ว อายุ 97) ถ้าเป็นอากงยังมีชีวิตอยู่ก็คง 99
1. ยุคนั้นเป็นช่วงที่เมืองจีน ประสบปัญหาอะไร คนถึงต้องหนีออกมา (ใช่ช่วงสงครามนานกิงรึเปล่า)
=จากการสอบถามพบว่า สมัยนั้นมีคนจีนอพยพมาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เยอะมาก โดยเฉพาะมณฑลกวางโจว ฟูเจี้ยน (ใกล้ญี่ปุ่น ฮ่องกง)
ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มาก็คือ ประเทศไทย มาเลย์เซีย สิงคโปร์ อาจจะมีกัมพูชาบ้าง ลักษณะร่วมของคนจีนมณฑลนี้คือ
แต้จิ๋ว ฮกเกี้ยน (มีไหหลำ จีนแคะในไทยด้วย สังเกตอาหารและอาชีพคนสมัยก่อนได้) สาเหตุที่มาเขาบอกว่า ตอนนั้น ทางโน้นแห้งแล้ง
ขาดแคลน เศรษฐกิจไม่ได้ดี จำได้ว่า ตอนเด็ก ๆ อากงเคยส่งเงินไปเมืองจีนด้วย เพราะญาติที่นั่นยากจน (ใครดูหนังสมัยก่อนจะมีเรื่อง
ลอดลายมังกร นพพลเล่น) เอามาฉายยุคนี้คงแปลก ๆ เพราะสมัยนี้ เรามีทัศนคติต่อจีนกันอีกแบบ ตอนนี้บ้านเมืองที่จีนเริ่มยิ่งใหญ่ขึ้น
2. ที่หนีออกมาได้ เหมือนจะอยู่ขอบทะเลกันทั้งนั้น เช่นเกาะไหหลำ ... แล้วคนที่อยู่ลึกเข้าไปในแผ่นดินล่ะครับ มีชะตาชีวิตแบบไหน สบายกว่าหรือตายเกลื่อน
ส่วนใหญ่เป็นแถว ๆ ชายทะเลทั้งนั้น อันนี้เข้าใจอย่างหนึ่งว่า คนอยู่ใกล้ทะเล กับภูเขาจะมีลักษณะแตกต่างกัน จีนมณฑลที่มาเมืองไทยจะเป็น
คนจีนตัวเล็ก ๆ หน่อย เมื่อเทียบกับจีนตอนบนของประเทศที่ตัวใหญ่ คนจีนที่มาเมืองไทยพวกนี้จะโดดเด่นด้านอาหาร ศิลปะ การค้าขาย (สังเกต
ว่าพวกนี้ชอบเป็นพ่อค้าและสนับสนุนการเรียนหนังสือเยอะมาก รุ่นหมอพรทิพย์ประมาณอาอี๊เรา (น้องสาวของแม่) ไม่ได้ถึงกับตาย แต่ขาดแคลน
และหาโอกาส นิสัยคนจีนแถวนี้ (มณฑลนี้เป็นอย่างงี้เยอะ) มีลักษณะเป็น Entrepreneurs กันเยอะ ตอนไปเรียนต่างประเทศ เรียนอินเตอร์ในไทย
สอนหนังสืออินเตอร์ในไทย ก็เห็นมีเด็กมณฑลประมาณนี้มาเรียน ลักษณะต่างจากจีนมณฑลบน ๆ ชัดเจนมาก
3. ช่วงไม่สงบดังกล่าว กินเวลานานแค่ไหน (เห็นบางครอบครัวเป็นยุคคุณทวด บางครอบครัวพึ่งเป็นยุคคุณปู่นี่เอง งง Timeline)
ถ้าให้กำหนดก็ประมาณ 30 ปีขึ้นไป เพราะว่า อากงมาอยู่จนมีลูกเลยมา 18-19 แล้วก็ตั้งใจว่า พอรวยก็จะกลับ เห็นส่งเงินกลับด้วย
มีอาม่าจากเมืองจีน (ฝั่งเราอยู่แล้ว) ตอนหลังมาเมืองไทยก็มีย่าฝั่งไทย พออายุสัก 50 กว่าก็ยังอยู่ไทยเลย (เราว่าตอนนั้นมีตังแล้วนะ)
แต่ก็เข้าใจว่าจีนยังไม่ได้เจริญมากมาย แต่น่าจะดีขึ้น สังเกตว่า ตอนเราเด็ก ๆ ตอนไปเมืองจีน อายุ 20 จีนยังไม่มีประตูห้องน้ำเลย
แต่ตอนนี้ล่าสุดไปมา คนละเรื่องเลย จีนยิ่งใหญ่มาก ตึกใหญ่มากเลย
คำถามด้านเศรษฐศาสตร์
4. ที่จีนร่ำรวยแบบทุกวันนี้ได้ เป็นเพราะเริ่มต้นด้วยการก๊อปสินค้า U.S. ขายเป็นของปลอม แบบที่เห็นทุกวันนี้ หลังเปิดประเทศรึเปล่าครับ : หรือเขามีตัวเปิดเป็นจุดเริ่มต้นอย่างอื่นมาก่อน ที่จะรับบทเป็นโรงงานโลก
ลักษณะการเจริญเติบโตของประเทศสไตล์จีน ประกอบด้วยองค์ประกอบ 4 อย่าง
1. การรวบอำนาจเข้าสู่ส่วนกลาง (อันนี้เห็นชัด เป็นทุกที่เลย สิงคโปร์ก็เป็น ออกแนว ๆ เผด็จการแต่ได้ทรัพยากรมากขึ้น
และทุกคนก็เต็มใจที่จะทำเนื่องจากเห็นประโยชน์ร่วม ธุรกิจคนจีนเกือบทุกที่ จะเริ่มแบบกงสี รวมส่วนกลางเพิ่มอำนาจและทุน)
2. ความประหยัดและการอดออมอย่างสูง (High Saving) โดยจะไม่กินไม่ใช้สิ่งที่ไม่จำเป็น อันนี้คนรุ่นก่อนจะเข้าใจดี
3. การมุ่งเน้นเรื่องการศึกษา (Education) เป็นไปตามค่านิยมขงจื๊อ พวกนี้จะชอบส่งลูกหลานเรียนหมอ อาจารย์ หรืออาจารย์แนวขุนนาง
4. การมีลักษณะเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneur) ที่เน้นการทำ (Action) มากกว่าปรัชญา จะสังเกตว่า แนวคิดของจีนจะเป็นแบบ
Apply มากกว่า Theory (ในสมัยก่อนประเทศจะมีสิ่งประดิษฐ์เยอะ) แนวคิดจีนจะเป็นแบบธรรมชาตินิยม เน้นการวิเคราะห์ การผลลัพธ์
ดังนั้น อะไรที่คิดเยอะ Innovative แต่ผลตอบแทนน้อยหรือช้า แนวคิดทางปรัชญาอะไรที่ลึกมากแต่ยังเข้าใจยาก จีนจะไม่ค่อยทำ
เวลาเริ่มต้นถ้าต้องการให้ประสบความสำเร็จ จีนและประเทศสไตล์จีน (Confucianism Sphere) จะใช้วิธีการเรียนลัด ก้อปปี้ ญี่ปุ่นก็เป็น
เกาหลี ไต้หวัน ฯลฯ วิธีการคือเน้นผลิตอะไรก็ได้ ง่าย ๆ ถูก ๆ เนื่องจากต้นทุนน้อยก็ทำวิธีง่าย ๆ ไปก่อน แล้วพอมีทุนค่อยพัฒนาไป สมัยก่อน
คนก็มองสินค้าญี่ปุ่นแบบเดียวกัน ตอนหลัง ๆ ค่อย ๆ มีทัศนคติต่อสินค้าญี่ปุ่นที่ดีขึ้น (ประเทศแนว ๆ จีนใช้วิธีเดียวกันหมดเลย).
5. เป็นความจริงไหมที่ว่า จีนมีแต่คนหนีออก // อเมริกามีแต่คนหนีเข้า
จริง เพราะทรัพยากรเยอะ และคนในประเทศจีนเยอะ ทุกวันนี้แม้แต่เมืองไทยก็เป็น หลาย ๆ คนที่เรียนธรรมศาสตร์อินเตอร์และ
เอแบคพ่อแม่ยังเป็นจีน เป็นไต้หวัน ผมสอนก็เจอเยอะแยะ ถามว่า ทำไมเลือกไทย เขาบอกว่า ไทยคล้ายกับจีนเยอะ ไม่ต้องปรับตัวมาก
นิสัยคนไทยก็โอเค หน้าตาก็ไม่ต่างกันเยอะ แนวคิดยิ่งสบาย สังเกตเด็กเอแบค เด็กจุฬา ธรรมศาสตร์สมัยก่อนหน้าจีนมาก ๆ ยิ่งเวลากิน
อาหารในแคนทีนนี่กินเหมือนกันเลย แทบไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก ถ้าเขาอยู่เมืองจีนก็มีการแข่งขันเยอะ แต่มาเมืองไทยก็อยู่สบาย ๆ หน่อย
อเมริกาคนหนีเข้าเยอะ คนไทยเยอะมาก ที่รู้จักก็มีแบบที่หนีเข้าและสมัครเข้าไป คือค่าแรง(เมื่อเทียบกับไทย)มันถูก คนไทยก็เลยไปอยู่ที่นั่น
ทำงานง่าย ๆ เช่น เสริฟ (เพื่อเก็บเงิน 4-5 ปี พอมีเงินหน่อยก็บินกลับ) แต่อย่างคนจีน เขาอยู่แล้วอยู่ยาว เพราะทุกที่มีไชน่าทาวน์และคนจีน
โพ้นทะเลค่อนข้างรักกัน (ขนาดเขาเห็นหน้าผมเขาก็ยังช่วยเหลือเลย) ต่างจากคนไทยอยู่ต่างประเทศแล้วทะเลาะกันบ่อย อีกอย่างคนไทย
อยู่สักพักก็กลับเพราะไม่มีญาติพี่น้อง อยู่แล้วไม่มีสังคม พอเพื่อนกลับก็กลับตาม อย่างคนจีนที่เห็นอยู่ต่างประเทศ ถามว่าทำไมไม่กลับ
เขาก็บอกว่า มันมีไชน่าทาวน์ คนพูดจีนได้เป็นเมืองเลย มีร้านเช่าซีดีหนังจีน อาหารจีน วัดหรือศาลเจ้าอะไรแบบนี้ มันก็เหงาบ้าง แต่ก็บินกลับได้
6. มีประเทศใต้อาณัติใดของจีนบ้าง ที่เจริญทัดเทียมเท่าจีน
เอาจริง ๆ เท่าที่ดูในประวัติศาสตร์จีนก็ไม่ได้ล่าอาณานิคมอะไรเป็นเรื่องเป็นราวแบบฝรั่งนะ เพราะประเทศมันใหญ่อยู่แล้ว ปกครองยาก
แต่ประเทศสไตล์จีน ๆ นี่ส่วนใหญ่รวยไวตามสาเหตุที่กล่าวไป องค์ประกอบของวัฒนธรรม เน้นการศึกษา ทำงานร่วมกัน และประหยัด
ด้านมุมมองต่อความเป็นไปได้ ในอนาคต
7. ถ้าเขากลืนไต้หวันกับฮ่องกงได้จริง จะเกิดสงครามล้างเผ่าพันธุ์ชาวประชาธิปไตย ที่เหมือนเป็นคนละขั้วกับคอมฯ หรือไม่ครับ (อารมณ์จะคล้ายน้ำ กับน้ำมันรึเปล่า)
โดยส่วนตัวมองว่าไม่
สาเหตุน่ะเหรอ ยังจำได้ก่อนอากงป่วย มีข่าวเรื่องจะคืนเกาะฮ่องกง ตอนนั้นอากงบอกว่า เกาะมันจะกลับมาเป็นของเรา ยังจำได้ดีเลย
แสดงว่า ฮ่องกงก็ยอมรับโดยนัยว่าเป็นของจีนมานานแล้ว เคยมีเพื่อนเป็นคนฮ่องกง เขาก็พูดเป็นนัยว่า ฮ่องกงเป็นของจีนนี่แหล่ะถูกแล้ว
แต่คนฮ่องกงอาจไม่ชอบเพราะว่าเขาโตมาแบบฝรั่ง เสรีทุกอย่าง แต่เรื่องคนฮ่องกง ไม่ต้องเป็นห่วงเขาหรอก พวกที่รวยบินไปแคนาดาหมดแล้ว
มีเด็กเรียนเป็นเมืองเลย แล้วเขาก็มีความเป็นแคนาเดี้ยนฮ่องกง และจีนนิดหน่อย ไม่เดือดร้อนอะไร ช่วงหลัง ๆ เจอเพิ่มขึ้นเดี๋ยวนี้ไปอยู่ออสเตรเลีย
กัน เรียนหมอ สังเกตช่วงหลัง ๆ 10 กว่าปีมานี้ พวกฮ่องกงเป็นหมอที่ออสเตรเลียเยอะนะ คนเวียดนามก็เยอะขึ้นด้วย เกาหลีก็มีเพิ่มขึ้นบ้าง
ส่วนไต้หวัน โดยส่วนตัวมองว่า คนเขาแบ่งเป็น2 ฝ่าย คือพวกมองว่าตัวเองเป็นจีน กับพวกที่มองว่าตัวเองเป็นไต้หวัน พวกที่มองว่าตัวเองเป็นจีน
คือคนรุ่นเก่า พวกมองว่าตัวเองเป็นไต้หวันคือคนรุ่นใหม่ ส่วนตัวคิดว่า ถ้าจีนมีผลเฉพาะเศรษฐกิจกับไต้หวันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะว่า
จริง ๆ แล้วไต้หวันก็เป็นเกาะ ๆ หนึ่งที่เจริญของจีน UN ก็รู้อยู่แล้ว ถ้าไม่ได้ขัดแย้งเรื่องอะไรก็ไม่น่าจะมีปัญหา (ยกเว้นแต่มี Divide and Rule)
จากฝ่ายอื่น ๆ มากกว่า ยิ่งตอนนี้จีนยิ่งรวย มันก็ส่งผลกระทบถึงบางประเทศ...
1. ยุคนั้นเป็นช่วงที่เมืองจีน ประสบปัญหาอะไร คนถึงต้องหนีออกมา (ใช่ช่วงสงครามนานกิงรึเปล่า)
=จากการสอบถามพบว่า สมัยนั้นมีคนจีนอพยพมาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เยอะมาก โดยเฉพาะมณฑลกวางโจว ฟูเจี้ยน (ใกล้ญี่ปุ่น ฮ่องกง)
ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มาก็คือ ประเทศไทย มาเลย์เซีย สิงคโปร์ อาจจะมีกัมพูชาบ้าง ลักษณะร่วมของคนจีนมณฑลนี้คือ
แต้จิ๋ว ฮกเกี้ยน (มีไหหลำ จีนแคะในไทยด้วย สังเกตอาหารและอาชีพคนสมัยก่อนได้) สาเหตุที่มาเขาบอกว่า ตอนนั้น ทางโน้นแห้งแล้ง
ขาดแคลน เศรษฐกิจไม่ได้ดี จำได้ว่า ตอนเด็ก ๆ อากงเคยส่งเงินไปเมืองจีนด้วย เพราะญาติที่นั่นยากจน (ใครดูหนังสมัยก่อนจะมีเรื่อง
ลอดลายมังกร นพพลเล่น) เอามาฉายยุคนี้คงแปลก ๆ เพราะสมัยนี้ เรามีทัศนคติต่อจีนกันอีกแบบ ตอนนี้บ้านเมืองที่จีนเริ่มยิ่งใหญ่ขึ้น
2. ที่หนีออกมาได้ เหมือนจะอยู่ขอบทะเลกันทั้งนั้น เช่นเกาะไหหลำ ... แล้วคนที่อยู่ลึกเข้าไปในแผ่นดินล่ะครับ มีชะตาชีวิตแบบไหน สบายกว่าหรือตายเกลื่อน
ส่วนใหญ่เป็นแถว ๆ ชายทะเลทั้งนั้น อันนี้เข้าใจอย่างหนึ่งว่า คนอยู่ใกล้ทะเล กับภูเขาจะมีลักษณะแตกต่างกัน จีนมณฑลที่มาเมืองไทยจะเป็น
คนจีนตัวเล็ก ๆ หน่อย เมื่อเทียบกับจีนตอนบนของประเทศที่ตัวใหญ่ คนจีนที่มาเมืองไทยพวกนี้จะโดดเด่นด้านอาหาร ศิลปะ การค้าขาย (สังเกต
ว่าพวกนี้ชอบเป็นพ่อค้าและสนับสนุนการเรียนหนังสือเยอะมาก รุ่นหมอพรทิพย์ประมาณอาอี๊เรา (น้องสาวของแม่) ไม่ได้ถึงกับตาย แต่ขาดแคลน
และหาโอกาส นิสัยคนจีนแถวนี้ (มณฑลนี้เป็นอย่างงี้เยอะ) มีลักษณะเป็น Entrepreneurs กันเยอะ ตอนไปเรียนต่างประเทศ เรียนอินเตอร์ในไทย
สอนหนังสืออินเตอร์ในไทย ก็เห็นมีเด็กมณฑลประมาณนี้มาเรียน ลักษณะต่างจากจีนมณฑลบน ๆ ชัดเจนมาก
3. ช่วงไม่สงบดังกล่าว กินเวลานานแค่ไหน (เห็นบางครอบครัวเป็นยุคคุณทวด บางครอบครัวพึ่งเป็นยุคคุณปู่นี่เอง งง Timeline)
ถ้าให้กำหนดก็ประมาณ 30 ปีขึ้นไป เพราะว่า อากงมาอยู่จนมีลูกเลยมา 18-19 แล้วก็ตั้งใจว่า พอรวยก็จะกลับ เห็นส่งเงินกลับด้วย
มีอาม่าจากเมืองจีน (ฝั่งเราอยู่แล้ว) ตอนหลังมาเมืองไทยก็มีย่าฝั่งไทย พออายุสัก 50 กว่าก็ยังอยู่ไทยเลย (เราว่าตอนนั้นมีตังแล้วนะ)
แต่ก็เข้าใจว่าจีนยังไม่ได้เจริญมากมาย แต่น่าจะดีขึ้น สังเกตว่า ตอนเราเด็ก ๆ ตอนไปเมืองจีน อายุ 20 จีนยังไม่มีประตูห้องน้ำเลย
แต่ตอนนี้ล่าสุดไปมา คนละเรื่องเลย จีนยิ่งใหญ่มาก ตึกใหญ่มากเลย
คำถามด้านเศรษฐศาสตร์
4. ที่จีนร่ำรวยแบบทุกวันนี้ได้ เป็นเพราะเริ่มต้นด้วยการก๊อปสินค้า U.S. ขายเป็นของปลอม แบบที่เห็นทุกวันนี้ หลังเปิดประเทศรึเปล่าครับ : หรือเขามีตัวเปิดเป็นจุดเริ่มต้นอย่างอื่นมาก่อน ที่จะรับบทเป็นโรงงานโลก
ลักษณะการเจริญเติบโตของประเทศสไตล์จีน ประกอบด้วยองค์ประกอบ 4 อย่าง
1. การรวบอำนาจเข้าสู่ส่วนกลาง (อันนี้เห็นชัด เป็นทุกที่เลย สิงคโปร์ก็เป็น ออกแนว ๆ เผด็จการแต่ได้ทรัพยากรมากขึ้น
และทุกคนก็เต็มใจที่จะทำเนื่องจากเห็นประโยชน์ร่วม ธุรกิจคนจีนเกือบทุกที่ จะเริ่มแบบกงสี รวมส่วนกลางเพิ่มอำนาจและทุน)
2. ความประหยัดและการอดออมอย่างสูง (High Saving) โดยจะไม่กินไม่ใช้สิ่งที่ไม่จำเป็น อันนี้คนรุ่นก่อนจะเข้าใจดี
3. การมุ่งเน้นเรื่องการศึกษา (Education) เป็นไปตามค่านิยมขงจื๊อ พวกนี้จะชอบส่งลูกหลานเรียนหมอ อาจารย์ หรืออาจารย์แนวขุนนาง
4. การมีลักษณะเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneur) ที่เน้นการทำ (Action) มากกว่าปรัชญา จะสังเกตว่า แนวคิดของจีนจะเป็นแบบ
Apply มากกว่า Theory (ในสมัยก่อนประเทศจะมีสิ่งประดิษฐ์เยอะ) แนวคิดจีนจะเป็นแบบธรรมชาตินิยม เน้นการวิเคราะห์ การผลลัพธ์
ดังนั้น อะไรที่คิดเยอะ Innovative แต่ผลตอบแทนน้อยหรือช้า แนวคิดทางปรัชญาอะไรที่ลึกมากแต่ยังเข้าใจยาก จีนจะไม่ค่อยทำ
เวลาเริ่มต้นถ้าต้องการให้ประสบความสำเร็จ จีนและประเทศสไตล์จีน (Confucianism Sphere) จะใช้วิธีการเรียนลัด ก้อปปี้ ญี่ปุ่นก็เป็น
เกาหลี ไต้หวัน ฯลฯ วิธีการคือเน้นผลิตอะไรก็ได้ ง่าย ๆ ถูก ๆ เนื่องจากต้นทุนน้อยก็ทำวิธีง่าย ๆ ไปก่อน แล้วพอมีทุนค่อยพัฒนาไป สมัยก่อน
คนก็มองสินค้าญี่ปุ่นแบบเดียวกัน ตอนหลัง ๆ ค่อย ๆ มีทัศนคติต่อสินค้าญี่ปุ่นที่ดีขึ้น (ประเทศแนว ๆ จีนใช้วิธีเดียวกันหมดเลย).
5. เป็นความจริงไหมที่ว่า จีนมีแต่คนหนีออก // อเมริกามีแต่คนหนีเข้า
จริง เพราะทรัพยากรเยอะ และคนในประเทศจีนเยอะ ทุกวันนี้แม้แต่เมืองไทยก็เป็น หลาย ๆ คนที่เรียนธรรมศาสตร์อินเตอร์และ
เอแบคพ่อแม่ยังเป็นจีน เป็นไต้หวัน ผมสอนก็เจอเยอะแยะ ถามว่า ทำไมเลือกไทย เขาบอกว่า ไทยคล้ายกับจีนเยอะ ไม่ต้องปรับตัวมาก
นิสัยคนไทยก็โอเค หน้าตาก็ไม่ต่างกันเยอะ แนวคิดยิ่งสบาย สังเกตเด็กเอแบค เด็กจุฬา ธรรมศาสตร์สมัยก่อนหน้าจีนมาก ๆ ยิ่งเวลากิน
อาหารในแคนทีนนี่กินเหมือนกันเลย แทบไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก ถ้าเขาอยู่เมืองจีนก็มีการแข่งขันเยอะ แต่มาเมืองไทยก็อยู่สบาย ๆ หน่อย
อเมริกาคนหนีเข้าเยอะ คนไทยเยอะมาก ที่รู้จักก็มีแบบที่หนีเข้าและสมัครเข้าไป คือค่าแรง(เมื่อเทียบกับไทย)มันถูก คนไทยก็เลยไปอยู่ที่นั่น
ทำงานง่าย ๆ เช่น เสริฟ (เพื่อเก็บเงิน 4-5 ปี พอมีเงินหน่อยก็บินกลับ) แต่อย่างคนจีน เขาอยู่แล้วอยู่ยาว เพราะทุกที่มีไชน่าทาวน์และคนจีน
โพ้นทะเลค่อนข้างรักกัน (ขนาดเขาเห็นหน้าผมเขาก็ยังช่วยเหลือเลย) ต่างจากคนไทยอยู่ต่างประเทศแล้วทะเลาะกันบ่อย อีกอย่างคนไทย
อยู่สักพักก็กลับเพราะไม่มีญาติพี่น้อง อยู่แล้วไม่มีสังคม พอเพื่อนกลับก็กลับตาม อย่างคนจีนที่เห็นอยู่ต่างประเทศ ถามว่าทำไมไม่กลับ
เขาก็บอกว่า มันมีไชน่าทาวน์ คนพูดจีนได้เป็นเมืองเลย มีร้านเช่าซีดีหนังจีน อาหารจีน วัดหรือศาลเจ้าอะไรแบบนี้ มันก็เหงาบ้าง แต่ก็บินกลับได้
6. มีประเทศใต้อาณัติใดของจีนบ้าง ที่เจริญทัดเทียมเท่าจีน
เอาจริง ๆ เท่าที่ดูในประวัติศาสตร์จีนก็ไม่ได้ล่าอาณานิคมอะไรเป็นเรื่องเป็นราวแบบฝรั่งนะ เพราะประเทศมันใหญ่อยู่แล้ว ปกครองยาก
แต่ประเทศสไตล์จีน ๆ นี่ส่วนใหญ่รวยไวตามสาเหตุที่กล่าวไป องค์ประกอบของวัฒนธรรม เน้นการศึกษา ทำงานร่วมกัน และประหยัด
ด้านมุมมองต่อความเป็นไปได้ ในอนาคต
7. ถ้าเขากลืนไต้หวันกับฮ่องกงได้จริง จะเกิดสงครามล้างเผ่าพันธุ์ชาวประชาธิปไตย ที่เหมือนเป็นคนละขั้วกับคอมฯ หรือไม่ครับ (อารมณ์จะคล้ายน้ำ กับน้ำมันรึเปล่า)
โดยส่วนตัวมองว่าไม่
สาเหตุน่ะเหรอ ยังจำได้ก่อนอากงป่วย มีข่าวเรื่องจะคืนเกาะฮ่องกง ตอนนั้นอากงบอกว่า เกาะมันจะกลับมาเป็นของเรา ยังจำได้ดีเลย
แสดงว่า ฮ่องกงก็ยอมรับโดยนัยว่าเป็นของจีนมานานแล้ว เคยมีเพื่อนเป็นคนฮ่องกง เขาก็พูดเป็นนัยว่า ฮ่องกงเป็นของจีนนี่แหล่ะถูกแล้ว
แต่คนฮ่องกงอาจไม่ชอบเพราะว่าเขาโตมาแบบฝรั่ง เสรีทุกอย่าง แต่เรื่องคนฮ่องกง ไม่ต้องเป็นห่วงเขาหรอก พวกที่รวยบินไปแคนาดาหมดแล้ว
มีเด็กเรียนเป็นเมืองเลย แล้วเขาก็มีความเป็นแคนาเดี้ยนฮ่องกง และจีนนิดหน่อย ไม่เดือดร้อนอะไร ช่วงหลัง ๆ เจอเพิ่มขึ้นเดี๋ยวนี้ไปอยู่ออสเตรเลีย
กัน เรียนหมอ สังเกตช่วงหลัง ๆ 10 กว่าปีมานี้ พวกฮ่องกงเป็นหมอที่ออสเตรเลียเยอะนะ คนเวียดนามก็เยอะขึ้นด้วย เกาหลีก็มีเพิ่มขึ้นบ้าง
ส่วนไต้หวัน โดยส่วนตัวมองว่า คนเขาแบ่งเป็น2 ฝ่าย คือพวกมองว่าตัวเองเป็นจีน กับพวกที่มองว่าตัวเองเป็นไต้หวัน พวกที่มองว่าตัวเองเป็นจีน
คือคนรุ่นเก่า พวกมองว่าตัวเองเป็นไต้หวันคือคนรุ่นใหม่ ส่วนตัวคิดว่า ถ้าจีนมีผลเฉพาะเศรษฐกิจกับไต้หวันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะว่า
จริง ๆ แล้วไต้หวันก็เป็นเกาะ ๆ หนึ่งที่เจริญของจีน UN ก็รู้อยู่แล้ว ถ้าไม่ได้ขัดแย้งเรื่องอะไรก็ไม่น่าจะมีปัญหา (ยกเว้นแต่มี Divide and Rule)
จากฝ่ายอื่น ๆ มากกว่า ยิ่งตอนนี้จีนยิ่งรวย มันก็ส่งผลกระทบถึงบางประเทศ...
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
สำหรับช่วงเวลาในการอพยพของชาวจีนเข้าสู่ไทยแบ่งได้เป็นหลายกลุ่ม ดังนี้
กลุ่มที่ 1 คือกลุ่มที่อพยพเข้ามาตั้งแต่ก่อนสมัยอยุธยา ซึ่งมักจะเป็นพวกกะลาสีเรือ พ่อค้า พวกโจรสลัด (สิง ฮุ่ยหยู; 2000 : 58) พวกนี้เริ่มเข้ามาอยู่ที่เมืองท่าต่างๆ เช่น สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ปัตตานี ชาวจีนเหล่านี้อาจเข้ามาตั้งหลักแหล่งตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถังแล้ว (แสงอรุณ กนกพงศ์ชัย; 2539 : 102)
กลุ่มที่ 2 คือพวกที่เข้าไทยในสมัยอยุธยา (พ.ศ. 1967-2310) การผลัดเปลี่ยนราชวงศ์ ทำให้เกิดการหยุดชะงัก ชาวจีนอพยพช่วงนี้จะเป็นพวกพ่อค้า และเป็นพวกที่ประสบความสำเร็จในทางการค้าที่ศาสตราจารย์นิธิ เอียวศรีวงศ์ เรียกว่าจีนเก่า (โยชิกาว่า โทริฮารุ; 2534 : 70)
กลุ่มที่ 3 คือพวกที่เข้ามาในสมัยพระเจ้าตากสิน (พ.ศ. 2310-25) จนถึงรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (พ.ศ. 2393-2411) ชาวจีนอพยพในช่วงนี้จะเป็นชาวจีนแต้จิ๋วเป็นส่วนใหญ่ เพราะพระเจ้าตากสินทรงมีเชื้อสายจีนแต้จิ๋ว
กลุ่มที่ 4 เป็นกลุ่มที่อพยพเข้ามาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จนถึงปลายรัชกาล (พ.ศ. 2411-53)
กลุ่มที่ 5 เป็นช่วงที่กระแสโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงในสมัยรัชกาลที่ 6 จนถึงปี พ.ศ. 2493 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายที่รัฐบาลกำหนดให้มีชาวจีนอพยพเข้ามาน้อยที่สุด (ประพฤทธิ์ ศุกลรัตนเมธี; 2515 : 39)
ชาวจีนอพยพเข้ามาในไทย อาจแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ พวกจีนเก่าและจีนใหม่ (เกียรติศักดิ์ มั่นศรี; 2519: 5) พวกจีนแท้ หมายถึงพวกที่อพยพเข้าสู่ไทยตั้งแต่โบราณกาลมา คือ ชาวจีนอพยพกลุ่มที่ 1, 2, 3, 4 ดังได้กล่าวมาแล้ว และชาวจีนกลุ่มที่ 5 คือ พวกจีนใหม่ที่ได้อพยพเข้ามาตั้งแต่จีนมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในช่วงปี ค.ศ. 1912 ซึ่งนับมาถึงปัจจุบันนี้ก็ประมาณ 90 กว่าปีแล้ว
https://www.silpa-mag.com/history/article_26173
กลุ่มที่ 1 คือกลุ่มที่อพยพเข้ามาตั้งแต่ก่อนสมัยอยุธยา ซึ่งมักจะเป็นพวกกะลาสีเรือ พ่อค้า พวกโจรสลัด (สิง ฮุ่ยหยู; 2000 : 58) พวกนี้เริ่มเข้ามาอยู่ที่เมืองท่าต่างๆ เช่น สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ปัตตานี ชาวจีนเหล่านี้อาจเข้ามาตั้งหลักแหล่งตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถังแล้ว (แสงอรุณ กนกพงศ์ชัย; 2539 : 102)
กลุ่มที่ 2 คือพวกที่เข้าไทยในสมัยอยุธยา (พ.ศ. 1967-2310) การผลัดเปลี่ยนราชวงศ์ ทำให้เกิดการหยุดชะงัก ชาวจีนอพยพช่วงนี้จะเป็นพวกพ่อค้า และเป็นพวกที่ประสบความสำเร็จในทางการค้าที่ศาสตราจารย์นิธิ เอียวศรีวงศ์ เรียกว่าจีนเก่า (โยชิกาว่า โทริฮารุ; 2534 : 70)
กลุ่มที่ 3 คือพวกที่เข้ามาในสมัยพระเจ้าตากสิน (พ.ศ. 2310-25) จนถึงรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (พ.ศ. 2393-2411) ชาวจีนอพยพในช่วงนี้จะเป็นชาวจีนแต้จิ๋วเป็นส่วนใหญ่ เพราะพระเจ้าตากสินทรงมีเชื้อสายจีนแต้จิ๋ว
กลุ่มที่ 4 เป็นกลุ่มที่อพยพเข้ามาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จนถึงปลายรัชกาล (พ.ศ. 2411-53)
กลุ่มที่ 5 เป็นช่วงที่กระแสโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงในสมัยรัชกาลที่ 6 จนถึงปี พ.ศ. 2493 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายที่รัฐบาลกำหนดให้มีชาวจีนอพยพเข้ามาน้อยที่สุด (ประพฤทธิ์ ศุกลรัตนเมธี; 2515 : 39)
ชาวจีนอพยพเข้ามาในไทย อาจแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ พวกจีนเก่าและจีนใหม่ (เกียรติศักดิ์ มั่นศรี; 2519: 5) พวกจีนแท้ หมายถึงพวกที่อพยพเข้าสู่ไทยตั้งแต่โบราณกาลมา คือ ชาวจีนอพยพกลุ่มที่ 1, 2, 3, 4 ดังได้กล่าวมาแล้ว และชาวจีนกลุ่มที่ 5 คือ พวกจีนใหม่ที่ได้อพยพเข้ามาตั้งแต่จีนมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในช่วงปี ค.ศ. 1912 ซึ่งนับมาถึงปัจจุบันนี้ก็ประมาณ 90 กว่าปีแล้ว
https://www.silpa-mag.com/history/article_26173
ความคิดเห็นที่ 6
1. คนจีนรู้จักประเทศไทยนานแล้วครับ ในแง่ของการค้าขาย คนจีนก็เข้ามาเรื่อยๆ จนช่วงสงครามกลางเมือง
2.จีนพื้นที่อุดมสมบูรณ์จริง ไม่ได้ มีทุกที่ครับ และการเดินทางไปแต่เมืองไม่ได้ง่าย จะสังเกตได้เมืองจีนที่ใหญ่จะเป็นเมืองท่า หรือเมืองปากแม่น้ำ เมืองที่ใหญ่ใน maindland มีแต่ไม่ได้เยอะครับ แต่ก่อนคนจีนอาศัยการเดินทาง ทางเรือ ครับ
3.ก็ยาวนาน ครับ ยุคที่ จีนเป็นคอม วิธีชีวิตก็ไม่ต่างจากเดิม ยุคก๊กมิน warlord มีอำนาจก็ปล้น กดขี่ประชาชน พอเป็นคอมก็แค่กระจายอำนาจให้ท้องถิ่น ปัญหาจริงคือ ยุคที่เหมา great leap เพื่อตามโซเวียดให้ทัน ประกอบพายุ และความแห้งแล้ว คนเลยตายเยอะ คนจีนหนีไปที่ต่างๆ ก็เลยอะ ที่นี้ก็เป้นยุคอดยากจริงๆจังๆ คนเน้นมีลูกผู้ชายไม่อยากมีลูกสาว
4.ไม่จริงครับ คนชอบคิดว่า จีนก็อปชาวบ้าน จริงๆ ถ้าพูดแบบนั้นก็แย่ครับ เพราะทุกคน ก็ก็อปคนอื่นเหมือนกันแค่มันจะทำเงินได้ไหม ต้องย้อนดูแนวทางเติ้ง เสียว ผิง ที่เปิดประเทศตอนนั้นที่ชาวบ้านไปไกล แต่ตัวเองมีทุกอย่างแต่ได้แค่นี้ เติ้งมองความจริงว่าไม่มีทางไปไกลกว่านี้ เลยเปิดประเทศให้ ประเทศทุนนิยม เข้ามาลงทุน ทุนโดยเฉพาะเมกากับยุ่นที่เศรษฐกิจเพิ่ง ฟองสบู่ เลยเข้ามาจีน ตอนนั้น จีนกำลังมีปัญหากับโซเวียดเรื่องเกาะ zhenbao ในแม่น้ำทางเหนือติดโซเวียด
เมกาเลยพยายาม จะดึงจีนเข้ามาเป็นพวกหลายครั้ง แต่ตอนนั้นเหมา และ ภรรยาเหมา ยังอยู่พวกนี้ มีแนวคิดเดิม ไม่ต้องการให้เมกามายุ่งเรื่องตัวเองครับ เติ้งลงทุนไปเมกา ได้การย้อนรับดีมาก ท้ายสุด เปิดเขตการค้าเสรี ที่ทางใต้ ทุนนอกที่ต้องการแรงงานถูกเลยเข้าไป แล้วค่อยดีขึ่นเรื่อยๆ ไม่ได้ดีในทันทีแบบที่คนคิดครับ มันใช้เวลาเป็นยี่สิบปีได้ครับ คนที่สานต่อ นโยบายแก้คือ เจียง เจอหมิน
5. อันนี้ไม่ทราบ แต่ผมเห็นแต่ นักวิชาการและ คนเก่งๆ พอแก่ๆ ก้ย้ายกลับจีนคืน หลายคนครับ วัฒนธรรมเอเชีย อยุ่ที่ไหนก้ไม่สุขใจเท่าบ้านเกิด ผมคิดว่ามันยังใช้ได้ ส่วนเมกา ใครก็อยากไปอยู่แล้วครับ แต่ไปในฐานะ อะไรนั้นอีกเรื่อง
6. จีนไม่มีประเทศอะไร แบบนั้นครับ เหมือนเมกาครับ จีนมีแต่ปล่อยเงินพัฒนา แล้วก้ไปพัฒนากันเอง แต่ถ้าทำไม่ได้ก็พร้อมทำให้แบบลาว เขมร ต้องเข้าใจด้วยว่า ความสัมพันธ์จีน กับชาติอื่นเพิ่งเปิดกว้างแบบนี้ไม่นานมานี้เองครับ แต่อนาคตน่าสนใจ ยุโรป กับ แอฟริกา หลายประเทศวางแผนทำการค้าร่วม
อนาคตก็จะป้อนทรัพยากรให้จีนแลกด้วยเงินที่เหมาะสม ยุโรป เมกา จะเป็นตลาดในการซื้อสินค้าที่ใหญ่มากๆ เมกาพลาดเรื่องพวกนี้ที่เน้นเรื่องน้ำมันครับ ซาอุเค้าเปลี่ยนนโยบาย ทุกอย่างเลยเปลี่ยนไปเยอะ ตอนนี้เงินเฟ้อ และราคาสินค้าที่พุ่งมากๆในเมกา น่ากลัวมากครับ ท้ายสุด ถ้าทำสงครามจริงๆ เมกาก้เจ้บหนักกว่าเดิมครับ เพราะราคาสินค้าจะเฟ้อหนักกว่าเดิมมากหลายเท่า และความต้องการทุกอย่างจะเพิ่ม เมกาโรงงานการผลิตมันไม่พอกับความต้องการครับ และราคาต้นทุนก็สูงโดยเฉพาะค่าแรงงาน
มีวิธีเดียวที่จะแข่งได้ คือเอาแรงงานเถื่อนจาก เมกาใต้ มาทำงานโดยจ้างถูกๆ แต่จะขัดขาตัวเองเรื่องสิทธิ์มนุษย์ที่ตัวเองชอบอ้างครับ ในขนาดที่จีนเค้าลงทุนทรัพยากรในแอฟริกา หรือหลายๆที่ไว้เยอะ เมกาอยู่ดีๆ จะขุดหรือ ทำโรงงานใน หนึ่งถึงสองปีไม่มีทางเป็นไปได้เลยครับ จีนเค้าได้เปรียบมากเรื่องนี้
7.ไม่มีครับ ไร้สาระมาก จีนรู้อยู่แล้วครับ ว่าการยึดเกาะเป็นไปได้ยาก เพราะอะไร ง่ายๆ อ่าน article 9 ของยุ่นครับ ตอนสงครามกลางเมืองจีน จีนก๊กหมิน หนีมาไต้หวัน ได้ส่วนหนึ่ง คือการช่วยเหลือจาก เมกาและยุ่น สองประเทศนี้เและรวมเกาหลีใต้ มีหน้าที่ป้องกันภัยรวมกัน ถ้าเปิดสงครามยึดเกาะเท่ากับประกาศสงครามทั้งโลก
การลงทุนที่ลงทุนไปมันจะสูญเปล่า ซึ่งเมกาต้องการแบบนั้นครับ สิ่งที่จีนทำได้คือ ข่มขู่ และบีบ จริงๆ เงินทุนจากจีนแผ่นดินใหญ่ลงทุนในไต้หวันก็มีอยุ่เยอะครับ เอาออกไต้หวันก้เสียหายหนัก ตอนนี้ ถ้าจีนงดการส่งออก ไต้หวันก็กระอักแล้วครับ ้เพราะตัวเองเป็นประเทศบริโภคเป็นหลัก ต้องนำเข้าในราคาสูงก็แย่แล้วครับ
ถ้าถามว่า ใครจะฆ่าใคร อยากให้ย้อนอ่านไต้หวันสมัยประกาศกฏอายัการศึก ยาวนานถึง เกือบ 40 ปีและแบนคนที่ต้องสงสัยว่าเป็นคอมหมด นี้น่ากลัวกว่าเยอะครับ คนไต้หวันท้องถิ่นก็ไม่ได้ชอบพรรคก็กหมิน เท่าไหร่ดูจากคะแนนเสียงหลังๆ มานี้ได้
2.จีนพื้นที่อุดมสมบูรณ์จริง ไม่ได้ มีทุกที่ครับ และการเดินทางไปแต่เมืองไม่ได้ง่าย จะสังเกตได้เมืองจีนที่ใหญ่จะเป็นเมืองท่า หรือเมืองปากแม่น้ำ เมืองที่ใหญ่ใน maindland มีแต่ไม่ได้เยอะครับ แต่ก่อนคนจีนอาศัยการเดินทาง ทางเรือ ครับ
3.ก็ยาวนาน ครับ ยุคที่ จีนเป็นคอม วิธีชีวิตก็ไม่ต่างจากเดิม ยุคก๊กมิน warlord มีอำนาจก็ปล้น กดขี่ประชาชน พอเป็นคอมก็แค่กระจายอำนาจให้ท้องถิ่น ปัญหาจริงคือ ยุคที่เหมา great leap เพื่อตามโซเวียดให้ทัน ประกอบพายุ และความแห้งแล้ว คนเลยตายเยอะ คนจีนหนีไปที่ต่างๆ ก็เลยอะ ที่นี้ก็เป้นยุคอดยากจริงๆจังๆ คนเน้นมีลูกผู้ชายไม่อยากมีลูกสาว
4.ไม่จริงครับ คนชอบคิดว่า จีนก็อปชาวบ้าน จริงๆ ถ้าพูดแบบนั้นก็แย่ครับ เพราะทุกคน ก็ก็อปคนอื่นเหมือนกันแค่มันจะทำเงินได้ไหม ต้องย้อนดูแนวทางเติ้ง เสียว ผิง ที่เปิดประเทศตอนนั้นที่ชาวบ้านไปไกล แต่ตัวเองมีทุกอย่างแต่ได้แค่นี้ เติ้งมองความจริงว่าไม่มีทางไปไกลกว่านี้ เลยเปิดประเทศให้ ประเทศทุนนิยม เข้ามาลงทุน ทุนโดยเฉพาะเมกากับยุ่นที่เศรษฐกิจเพิ่ง ฟองสบู่ เลยเข้ามาจีน ตอนนั้น จีนกำลังมีปัญหากับโซเวียดเรื่องเกาะ zhenbao ในแม่น้ำทางเหนือติดโซเวียด
เมกาเลยพยายาม จะดึงจีนเข้ามาเป็นพวกหลายครั้ง แต่ตอนนั้นเหมา และ ภรรยาเหมา ยังอยู่พวกนี้ มีแนวคิดเดิม ไม่ต้องการให้เมกามายุ่งเรื่องตัวเองครับ เติ้งลงทุนไปเมกา ได้การย้อนรับดีมาก ท้ายสุด เปิดเขตการค้าเสรี ที่ทางใต้ ทุนนอกที่ต้องการแรงงานถูกเลยเข้าไป แล้วค่อยดีขึ่นเรื่อยๆ ไม่ได้ดีในทันทีแบบที่คนคิดครับ มันใช้เวลาเป็นยี่สิบปีได้ครับ คนที่สานต่อ นโยบายแก้คือ เจียง เจอหมิน
5. อันนี้ไม่ทราบ แต่ผมเห็นแต่ นักวิชาการและ คนเก่งๆ พอแก่ๆ ก้ย้ายกลับจีนคืน หลายคนครับ วัฒนธรรมเอเชีย อยุ่ที่ไหนก้ไม่สุขใจเท่าบ้านเกิด ผมคิดว่ามันยังใช้ได้ ส่วนเมกา ใครก็อยากไปอยู่แล้วครับ แต่ไปในฐานะ อะไรนั้นอีกเรื่อง
6. จีนไม่มีประเทศอะไร แบบนั้นครับ เหมือนเมกาครับ จีนมีแต่ปล่อยเงินพัฒนา แล้วก้ไปพัฒนากันเอง แต่ถ้าทำไม่ได้ก็พร้อมทำให้แบบลาว เขมร ต้องเข้าใจด้วยว่า ความสัมพันธ์จีน กับชาติอื่นเพิ่งเปิดกว้างแบบนี้ไม่นานมานี้เองครับ แต่อนาคตน่าสนใจ ยุโรป กับ แอฟริกา หลายประเทศวางแผนทำการค้าร่วม
อนาคตก็จะป้อนทรัพยากรให้จีนแลกด้วยเงินที่เหมาะสม ยุโรป เมกา จะเป็นตลาดในการซื้อสินค้าที่ใหญ่มากๆ เมกาพลาดเรื่องพวกนี้ที่เน้นเรื่องน้ำมันครับ ซาอุเค้าเปลี่ยนนโยบาย ทุกอย่างเลยเปลี่ยนไปเยอะ ตอนนี้เงินเฟ้อ และราคาสินค้าที่พุ่งมากๆในเมกา น่ากลัวมากครับ ท้ายสุด ถ้าทำสงครามจริงๆ เมกาก้เจ้บหนักกว่าเดิมครับ เพราะราคาสินค้าจะเฟ้อหนักกว่าเดิมมากหลายเท่า และความต้องการทุกอย่างจะเพิ่ม เมกาโรงงานการผลิตมันไม่พอกับความต้องการครับ และราคาต้นทุนก็สูงโดยเฉพาะค่าแรงงาน
มีวิธีเดียวที่จะแข่งได้ คือเอาแรงงานเถื่อนจาก เมกาใต้ มาทำงานโดยจ้างถูกๆ แต่จะขัดขาตัวเองเรื่องสิทธิ์มนุษย์ที่ตัวเองชอบอ้างครับ ในขนาดที่จีนเค้าลงทุนทรัพยากรในแอฟริกา หรือหลายๆที่ไว้เยอะ เมกาอยู่ดีๆ จะขุดหรือ ทำโรงงานใน หนึ่งถึงสองปีไม่มีทางเป็นไปได้เลยครับ จีนเค้าได้เปรียบมากเรื่องนี้
7.ไม่มีครับ ไร้สาระมาก จีนรู้อยู่แล้วครับ ว่าการยึดเกาะเป็นไปได้ยาก เพราะอะไร ง่ายๆ อ่าน article 9 ของยุ่นครับ ตอนสงครามกลางเมืองจีน จีนก๊กหมิน หนีมาไต้หวัน ได้ส่วนหนึ่ง คือการช่วยเหลือจาก เมกาและยุ่น สองประเทศนี้เและรวมเกาหลีใต้ มีหน้าที่ป้องกันภัยรวมกัน ถ้าเปิดสงครามยึดเกาะเท่ากับประกาศสงครามทั้งโลก
การลงทุนที่ลงทุนไปมันจะสูญเปล่า ซึ่งเมกาต้องการแบบนั้นครับ สิ่งที่จีนทำได้คือ ข่มขู่ และบีบ จริงๆ เงินทุนจากจีนแผ่นดินใหญ่ลงทุนในไต้หวันก็มีอยุ่เยอะครับ เอาออกไต้หวันก้เสียหายหนัก ตอนนี้ ถ้าจีนงดการส่งออก ไต้หวันก็กระอักแล้วครับ ้เพราะตัวเองเป็นประเทศบริโภคเป็นหลัก ต้องนำเข้าในราคาสูงก็แย่แล้วครับ
ถ้าถามว่า ใครจะฆ่าใคร อยากให้ย้อนอ่านไต้หวันสมัยประกาศกฏอายัการศึก ยาวนานถึง เกือบ 40 ปีและแบนคนที่ต้องสงสัยว่าเป็นคอมหมด นี้น่ากลัวกว่าเยอะครับ คนไต้หวันท้องถิ่นก็ไม่ได้ชอบพรรคก็กหมิน เท่าไหร่ดูจากคะแนนเสียงหลังๆ มานี้ได้
แสดงความคิดเห็น
มีคำถามยุคจีนโล้สำเภา เสื่อผืนหมอนใบครับ
2. ที่หนีออกมาได้ เหมือนจะอยู่ขอบทะเลกันทั้งนั้น เช่นเกาะไหหลำ ... แล้วคนที่อยู่ลึกเข้าไปในแผ่นดินล่ะครับ มีชะตาชีวิตแบบไหน สบายกว่าหรือตายเกลื่อน
3. ช่วงไม่สงบดังกล่าว กินเวลานานแค่ไหน (เห็นบางครอบครัวเป็นยุคคุณทวด บางครอบครัวพึ่งเป็นยุคคุณปู่นี่เอง งง Timeline)
คำถามด้านเศรษฐศาสตร์
4. ที่จีนร่ำรวยแบบทุกวันนี้ได้ เป็นเพราะเริ่มต้นด้วยการก๊อปสินค้า U.S. ขายเป็นของปลอม แบบที่เห็นทุกวันนี้ หลังเปิดประเทศรึเปล่าครับ : หรือเขามีตัวเปิดเป็นจุดเริ่มต้นอย่างอื่นมาก่อน ที่จะรับบทเป็นโรงงานโลก
5. เป็นความจริงไหมที่ว่า จีนมีแต่คนหนีออก // อเมริกามีแต่คนหนีเข้า
6. มีประเทศใต้อาณัติใดของจีนบ้าง ที่เจริญทัดเทียมเท่าจีน
(เพราะถ้าเป็นฝั่ง U.S. ส่วนตัวผมมองว่า ญี่ปุ่น, ฮ่องกง, ไต้หวัน, เกาหลี, สิงคโปร์ นี่แทบจะเทียบเท่าได้เลย)
ด้านมุมมองต่อความเป็นไปได้ ในอนาคต
7. ถ้าเขากลืนไต้หวันกับฮ่องกงได้จริง จะเกิดสงครามล้างเผ่าพันธุ์ชาวประชาธิปไตย ที่เหมือนเป็นคนละขั้วกับคอมฯ หรือไม่ครับ (อารมณ์จะคล้ายน้ำ กับน้ำมันรึเปล่า)
ขอบคุณจ้า