
ขออนุญาตแชร์ประสบการณ์การสร้างบ้านสวนในฝันหลังนี้ 🏠ให้แก่เพื่อนๆเริ่มตั้งแต่การออกแบบ การเตรียมที่ดินและการสรรหา ผู้รับเหมาก่อสร้าง การตรวจรับงาน เพื่อเป็นแนวทางการสร้างบ้านของเพื่อนๆสมาชิกที่มีความฝันเหมือนกัน...ในวันนี้ความฝันผมเป็นจริงแล้วไม่ใช่ความฝันอีกต่อไปจึงอยากจะนำประสบการณ์ที่ดีนี้ส่งต่อครับ
"จุดเริ่มต้น"ของการสร้างบ้านหลังนี้เกิดจากการที่พ่อแม่ของภรรยาได้ยกที่ดิน จ.ชัยภูมิให้และในที่ดินนั้นมีสระน้ำถึง2บ่อ ที่ดินที่อยู่ตรงกลางเว้นว่างไว้ ความคิดที่จะมีบ้านริมน้ำในจินตนาการของเราทั้ง2จึงเกิดขึ้นทันที หลังจากนั้นได้หาดูรูปแบบของบ้าน
ที่ชอบจนสรุปได้ว่าอยากได้บ้านประมาณนี้
ขั้นตอนต่อไปคือ"หาคนเขียนแบบบ้าน" เนื่องที่ดินที่มีอยู่ถูกจำกัดด้วยพื้นที่บ่อน้ำทั้ง2ฝั่ง สามารถสร้างบ้านได้ลึกสุด 11เมตรแต่มีขนาดกว้างเพียง 8-9เมตร
ซึ่งไม่เพียงพอต่อแบบบ้านสำเร็จรูปที่เขาขายทางOnlineกัน จนน้องที่เคยร่วมทำงานกันแนะนำเพื่อนให้เป็นวิศวกรไฟฟ้าแต่สามารถทำงานออกแบบได้ นับว่าเป็นความโชคดี เพราะคนที่รู้จักสามารถปรึกษาได้จนกระทั่งจบงาน การออกแบบจึงได้เริ่มขึ้น ตามข้อกำหนดที่มี
จบที่ขนาดบ้าน6X8เมตร=48ตารางเมตร ซึ่งตรงกับความต้องการและเงินในกระเป๋า



ระหว่างที่ทำการออกแบบอยู่นั้นก็ขออนุญาตก่อร้างและ"
หาช่างผู้รับเหมาสร้างบ้าน"
ซึ่งขั้นตอนนี้ เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ไม่แพ้ขั้นตอนการออกแบบบ้าน แต่แตกต่างกันตรงที่ว่าการออกแบบบ้านเราสามาถทำใหม่ได้หากไม่ถูกใจ แต่สำหรับการหาผู้รับเหมาคือหากไม่เป็นไปตามแบบที่เรากำหนดจะต้องทุบทิ้งหรือผู้รับเหมาทิ้งงาน จะเสียทั้งเงินและเวลา

ในการสรรหาช่างผู้รับเหมาเป็นขั้นตอนที่ยากที่สุด ผมอธิบายถึงตรงนี้อาจต้องมีหลักการหน่อย
เพราะว่าเรากับผู้รับเหมาไม่เคยรู้จักกันมาก่อน หากได้ช่างที่รู้จักกันก็จะมีข้อดีคือได้เห็นผลงานรู้ถึงฝีมือกันแต่ก็จะมีข้อเสียก็คือถ้างานไม่ตรงตามเจ้าของบ้านหรือผู้ว่าจ้างต้องการ ก็อาจจะไม่กล้าบอกให้แก้งานหรือตำหนิ เพียงเพราะคำว่า "คนกันเอง" นี่ยังไม่รวมถึงการเบิกค่างวดหรือค่าแรง ดังที่ผมกล่าวมาผมเริ่มตั้งเป้าหมายการหาผู้รับเหมาก่อร้างบ้านซึ่ง ผู้รับเหมาในความคิดหรือในอุดมคติของผมก็คือ
1.จะต้องเป็นคนในพื้นที่หรือระแวกไกล้เคียง เพื่อเวลาเดินทางมาทำงานมีอุปสรรคน้อยที่สุด และหากเอาคนต่างพื้นที่มาจะต้องมีค่าใช้จ่ายของผู้รับเหมาเพิ่มขึ้นซึ่งก็อาจทำให้ราคาค่าก่อสร้างสูงกว่าที่ควรจะเป็น
2.มีผลงานตัวอย่างเป็นที่ประจักษ์ ที่ไม่ใช่แค่รูปภาพ สามารถขอดูผลงานของผู้รับเหมาได้ ถ้าเป็นไปได้ลงไปดูฝีมือที่หน้างานด้วยตัวเองเลยซึ่งผมได้ให้พ่อตา และ ภรรยาไปดูหน้างาน
3.อดีตผู้ว่าจ้างยอมรับในฝีมือและความตรงไปตรงมา ก็คือกลุ่มลูกค้าเก่าที่ผู้รับเหมาเคยรับงานหรือรับงานอยู่อันนี้ต้องสอบถามอดีตผู้ว่าจ้างให้ละเอียด เรื่องการเบิกเงินก่อนงวดมีมั้ย หากมีให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่า ผู้รับเหมาหมุนเงินไม่ทัน อาจมีปัญหาแบบนี้อีกและผลสุดท้ายถ้าเราไม่ให้งานก็จะไม่เดินบ้านก็จะไม่เสร็จ
4.ปริมาณคนของทีมงานผู้รับเหมา แน่นอนคนเยอะบ้านย่อมเสร็จเร็ว คนน้อยย่อมเสร็จช้า
5.มีที่อยู่ที่พักเป็นหลักแหล่ง ชัดเจน ตรงนี้ผมได้นัดไปเซ็นสัญญาที่บ้านผู้รับเหมาเองเลย จะได้รู้ถึงความเป็นอยู่ของผู้รับเหมาผู้ที่จะมาสานฝันให้เรา

เมื่อได้ผู้รับเหมาและตกลงราคากันหรือข้อกำหนดแล้วก็มาถึงจุดที่เชื่อมต่อระหว่างผู้ว่าจ้างกับผู้รับเหมาซึ่งก็คือ "สัญญาว่าจ้าง"
ซึ่งกล่าวถึงตรงนี้จะต้องเขียนให้รัดกุม และชัดเจน ระบุให้แน่ชัดว่า รวมค่าอุปกรณ์และค่าแรง หรือ ฉเพาะค่าแรงไม่รวมค่าของ พร้อมรายละเอียดของวัสดุชนิดต่างๆ โดยปกติแล้วเนื้อหาของสัญญาส่วนมาก ผู้รับเหมาจะขอค่าดำเนินการส่วนแรกหลังจากเซ็นสัญญา ประมาณ10% เป็นอย่างน้อยซึ่งถือว่าเป็นเงินก้อนงวดแรกที่เราต้องจ่ายให้คู่สัญญาในฐานะผู้รับจ้าง ถือว่าเป็นเงินก้อนที่วัดใจ เพราะหากผู้รับเหมาหนีงานหรือมีเจตนาฉ้อโกงก็จะเป็นปัญหาที่ต้องเป็นภาระให้ผู้ว่าจ้างไปติดตามอีก

เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็ นัดวันยกเสาเอกเสาโทได้เลย
ก่อนจะไปถึงตรงนั้นต้องให้เครดิตทีมงานหน่อยครับ
-งานออกแบบก่อสร้าง ทุกระบบ
ซึ่งผมจะเรียกว่าผู้ออกแบบความฝัน
"บริการงานออกเเบบ ทุกระบบจบที่พร้อมอยุ่"
092-6195254 IDLine : natthapong2133
https://www.facebook.com/pingping.ping.33

-งานโครงสร้างและก่อสร้างจนแล้วเสร็จ
ซึ่งผมจะเรียกว่า"ผู้ทำความฝันให้เป็นจริง"
🏗️ทีมงานช่างแดงก่อสร้างชัยภูมิ🏠
083-389-4359
084-707-5539
https://www.facebook.com/profile.php?id=100045927134209
https://www.facebook.com/profile.php?id=100022829266757
ทีมงานนี้คุณภาพจริงๆครับยืนยัน
ปัญหาที่กลัวว่าจะมีทีมงานนี้แก้ไขได้หมด

งานตีผังขุดหลุมเสา

งานยกเสาเทฐานพื้น อย่าลืมตรวจเช็คสเป็คเหล็กงานโครงสร้างก่อนนะครับ


ต่อจากนั้นเป็นงานเข้าแบบเทปูนซึ่งตรงนี้สิ่งที่ต้องดูเป็นพิเศษคือ
-สเป็คของเหล็ก คาน เสา ให้ตรงตามแบบ
-ค่ากำลังอัดของคอนกรีตให้ตรงกับที่ออกแบบ เช่น 240 280 300 Ksc.
เขียนมาถึงตรงนี้เพื่อนๆอาจงงที่ผมจะอธิบายต่อก็คือ ค่า Ksc.
ksc. ย่อมาจาก kilogram square centimetre. หรือก็คือกิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตรนั่นเอง โดยปกติแล้ว “กำลังคอนกรีต” ที่เราใช้กันเป็นมาตรฐานก็คือกำลังคอนกรีตที่ 240 ksc ดังนั้นจะขอนำมาอธิบายให้แบบง่ายๆ สมมุติว่าเราสั่งคอนกรีตแรงอัด 240 ksc นั่นหมายถึง คอนกรีตผสมเสร็จที่ได้จะรับแรงต่อพื้นที่ได้ที่ 240 กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร หรือทุก ๆ พื้นที่ทางกว้างและยาว 1 เซนติเมตร จะสามารถรับน้ำหนักได้ 240 กิโลกรัมนั่นเอง ดังนั้นควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับการรับน้ำหนักของเสา และพื้นบ้าน ที่สำคัญอย่าลืมขอดูเอกสารจากรถคอนกรีต จะได้แน่ใจ
-ตอนเทคอนกรีตลงแบบช่างเขาก็จะมีเครื่องจี้ปูนให้ปูนไหลไปตามซอกจนเต็มแบบ
ถอดแบบคานแล้วก็ขนดินเข้าบ้านซึ่งตรงนี้ผู้ว่าจ้างหรือเจ้าของบ้านจะต้องหารถดินมาเทไว้รอตอนเขาถอดแบบเลยงานจะได้ต่อเนื่อง ขนดินเข้าต้องบดอัดให้แน่นด้วยนะ
งานต่อไปวางเหล็กพื้น/เทคอนกรีตพื้น
งานต่อไป เข้าแบบเสา เทปูนพื้น ซึ่งตรงนี้มีความรู้มาแชร์ให้ผู้อ่านได้ทราบนิดนึงครับ
เมื่อครู่นี้ผู้เขียนได้กล่าวถึงค่าKsc.ซึ่งปกติแล้วค่าKsc.จะมีอยู่2แบบ
คือ cylinder กับ cube ค่าจะไม่เท่ากัน 240 ของ cylinder จะเท่ากับ 210 cube ตรงนี้คือเทคนิคเล็ก ๆ ในการใช้งานคอนกรีต ดังนั้นควรถามให้แน่ใจก่อน เนื่องจากการรับน้ำหนักและราคาคอนกรีตจะไม่เท่ากัน ด้านล่างนี้จะเป็นตัวเลขที่เปรียบเทียบระหว่างค่ากำลังอัดของคอนกรีตรูปทรงกระบอก (Cylinder) และกำลังอัดคอนกรีตรูปทรงลูกบาศก์ (Cube)

คอนกรีตผสมเสร็จที่ใช้กันทั่วไปในการออกแบบให้มีกำลังอัดตั้งแต่ 180-400 ksc และนิยมใช้กันมากที่สุดคือ 240 ksc cylinder นอกจากนี้กำลังอัดของคอนกรีต จะพัฒนาได้อย่างสมบูรณ์ ต้องใช้เวลา 28 วัน เป็นมาตรฐาน นับตั้งแต่วันผลิต

เพราะการบ่มคอนกรีตที่ 28 วัน มีการทดสอบมาแล้วว่าเป็นจุดที่ได้กำลังคอนกรีตมากที่สุดแล้ว (บ่มนานกว่านี้ก็ไม่เพิ่มอีกแล้ว) ขอยืมถาพจากอินเตอร์เนต
จากตัวเลขและกราฟสังเกตได้ว่าในช่วง 14 วันแรก กำลังคอนกรีตเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูง (87%) ดังนั้นเราต้องดูแลกำลังคอนกรีตให้ดีเป็นพิเศษ เพื่อให้คอนกรีตผสมเสร็จมีคุณภาพ และได้ตรงตามค่ามาตรฐานการออกแบบ

ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เพียงจะบอกว่าหากเทคอนกรีตไปแล้วเราจะต้องมีการบ่มคอนกรีตตามระยะเวลาที่เหมาะสม และห้ามไปเจาะ เคาะ หรือตี คอนกรีต ในระหว่างที่ทำการบ่ม อันจะทำให้ค่ากำลังอัดหรือค่าKsc.ลดลง
ซึ่งการบ่มคอนกรีตมีอยุ่หลายวิธี
- บ่มโดยการเพิ่มความชื้นเพื่อช่วยทดแทนการระเหยน้ำออกจากคอนกรีต เช่น การทำนบกั้นไม่ให้น้ำไหลออกสำหรับงานพื้น, การรดน้ำให้ผิวคอนกรีตเปียกโดยผิวหน้าคอนกรีตที่ยังไม่แข็งตัวต้องไม่ถูกชะล้างออกไปหมด, หรือการคลุมด้วยผ้าใบแล้วราดน้ำให้เปียกชุ่มอยู่เสมอ
- บ่มโดยป้องกันไม่ให้ความชื้นระเหยออก เช่น ทิ้งแบบหล่อให้อยู่กับคอนกรีตที่หล่อไว้ให้นานที่สุด และคอยดูแลให้ผิวด้านบนคอนกรีตมีน้ำอยู่, ใช้กระดาษกันน้ำซึมหรือแผ่นผ้าพลาสติกคลุมทับผิวคอนครีตให้สนิท, หรือการพ่นสารเคมีเคลือบลงบนผิวคอนกรีตป้องกันการระเหยน้ำออกจากคอนกรีต ซึ่งต้องพ่นในขณะที่ผิวคอนกรีตยังชื้นอยู่ครับ


ระหว่างรอบ่มปูนประมาณ2สัปดาห์กว่าๆก็ว่างเลยหากิจกรรมทำกัน
[img
รีวิวสร้างบ้านสวน ในฝัน 1ห้องนอน 1ห้องโถง1ห้องน้ำ งบประมาณไม่เกิน5แสน
ขออนุญาตแชร์ประสบการณ์การสร้างบ้านสวนในฝันหลังนี้ 🏠ให้แก่เพื่อนๆเริ่มตั้งแต่การออกแบบ การเตรียมที่ดินและการสรรหา ผู้รับเหมาก่อสร้าง การตรวจรับงาน เพื่อเป็นแนวทางการสร้างบ้านของเพื่อนๆสมาชิกที่มีความฝันเหมือนกัน...ในวันนี้ความฝันผมเป็นจริงแล้วไม่ใช่ความฝันอีกต่อไปจึงอยากจะนำประสบการณ์ที่ดีนี้ส่งต่อครับ
"จุดเริ่มต้น"ของการสร้างบ้านหลังนี้เกิดจากการที่พ่อแม่ของภรรยาได้ยกที่ดิน จ.ชัยภูมิให้และในที่ดินนั้นมีสระน้ำถึง2บ่อ ที่ดินที่อยู่ตรงกลางเว้นว่างไว้ ความคิดที่จะมีบ้านริมน้ำในจินตนาการของเราทั้ง2จึงเกิดขึ้นทันที หลังจากนั้นได้หาดูรูปแบบของบ้าน
ที่ชอบจนสรุปได้ว่าอยากได้บ้านประมาณนี้
ซึ่งไม่เพียงพอต่อแบบบ้านสำเร็จรูปที่เขาขายทางOnlineกัน จนน้องที่เคยร่วมทำงานกันแนะนำเพื่อนให้เป็นวิศวกรไฟฟ้าแต่สามารถทำงานออกแบบได้ นับว่าเป็นความโชคดี เพราะคนที่รู้จักสามารถปรึกษาได้จนกระทั่งจบงาน การออกแบบจึงได้เริ่มขึ้น ตามข้อกำหนดที่มี
จบที่ขนาดบ้าน6X8เมตร=48ตารางเมตร ซึ่งตรงกับความต้องการและเงินในกระเป๋า
ซึ่งขั้นตอนนี้ เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ไม่แพ้ขั้นตอนการออกแบบบ้าน แต่แตกต่างกันตรงที่ว่าการออกแบบบ้านเราสามาถทำใหม่ได้หากไม่ถูกใจ แต่สำหรับการหาผู้รับเหมาคือหากไม่เป็นไปตามแบบที่เรากำหนดจะต้องทุบทิ้งหรือผู้รับเหมาทิ้งงาน จะเสียทั้งเงินและเวลา
ในการสรรหาช่างผู้รับเหมาเป็นขั้นตอนที่ยากที่สุด ผมอธิบายถึงตรงนี้อาจต้องมีหลักการหน่อย
เพราะว่าเรากับผู้รับเหมาไม่เคยรู้จักกันมาก่อน หากได้ช่างที่รู้จักกันก็จะมีข้อดีคือได้เห็นผลงานรู้ถึงฝีมือกันแต่ก็จะมีข้อเสียก็คือถ้างานไม่ตรงตามเจ้าของบ้านหรือผู้ว่าจ้างต้องการ ก็อาจจะไม่กล้าบอกให้แก้งานหรือตำหนิ เพียงเพราะคำว่า "คนกันเอง" นี่ยังไม่รวมถึงการเบิกค่างวดหรือค่าแรง ดังที่ผมกล่าวมาผมเริ่มตั้งเป้าหมายการหาผู้รับเหมาก่อร้างบ้านซึ่ง ผู้รับเหมาในความคิดหรือในอุดมคติของผมก็คือ
1.จะต้องเป็นคนในพื้นที่หรือระแวกไกล้เคียง เพื่อเวลาเดินทางมาทำงานมีอุปสรรคน้อยที่สุด และหากเอาคนต่างพื้นที่มาจะต้องมีค่าใช้จ่ายของผู้รับเหมาเพิ่มขึ้นซึ่งก็อาจทำให้ราคาค่าก่อสร้างสูงกว่าที่ควรจะเป็น
2.มีผลงานตัวอย่างเป็นที่ประจักษ์ ที่ไม่ใช่แค่รูปภาพ สามารถขอดูผลงานของผู้รับเหมาได้ ถ้าเป็นไปได้ลงไปดูฝีมือที่หน้างานด้วยตัวเองเลยซึ่งผมได้ให้พ่อตา และ ภรรยาไปดูหน้างาน
3.อดีตผู้ว่าจ้างยอมรับในฝีมือและความตรงไปตรงมา ก็คือกลุ่มลูกค้าเก่าที่ผู้รับเหมาเคยรับงานหรือรับงานอยู่อันนี้ต้องสอบถามอดีตผู้ว่าจ้างให้ละเอียด เรื่องการเบิกเงินก่อนงวดมีมั้ย หากมีให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่า ผู้รับเหมาหมุนเงินไม่ทัน อาจมีปัญหาแบบนี้อีกและผลสุดท้ายถ้าเราไม่ให้งานก็จะไม่เดินบ้านก็จะไม่เสร็จ
4.ปริมาณคนของทีมงานผู้รับเหมา แน่นอนคนเยอะบ้านย่อมเสร็จเร็ว คนน้อยย่อมเสร็จช้า
5.มีที่อยู่ที่พักเป็นหลักแหล่ง ชัดเจน ตรงนี้ผมได้นัดไปเซ็นสัญญาที่บ้านผู้รับเหมาเองเลย จะได้รู้ถึงความเป็นอยู่ของผู้รับเหมาผู้ที่จะมาสานฝันให้เรา
เมื่อได้ผู้รับเหมาและตกลงราคากันหรือข้อกำหนดแล้วก็มาถึงจุดที่เชื่อมต่อระหว่างผู้ว่าจ้างกับผู้รับเหมาซึ่งก็คือ "สัญญาว่าจ้าง"
ซึ่งกล่าวถึงตรงนี้จะต้องเขียนให้รัดกุม และชัดเจน ระบุให้แน่ชัดว่า รวมค่าอุปกรณ์และค่าแรง หรือ ฉเพาะค่าแรงไม่รวมค่าของ พร้อมรายละเอียดของวัสดุชนิดต่างๆ โดยปกติแล้วเนื้อหาของสัญญาส่วนมาก ผู้รับเหมาจะขอค่าดำเนินการส่วนแรกหลังจากเซ็นสัญญา ประมาณ10% เป็นอย่างน้อยซึ่งถือว่าเป็นเงินก้อนงวดแรกที่เราต้องจ่ายให้คู่สัญญาในฐานะผู้รับจ้าง ถือว่าเป็นเงินก้อนที่วัดใจ เพราะหากผู้รับเหมาหนีงานหรือมีเจตนาฉ้อโกงก็จะเป็นปัญหาที่ต้องเป็นภาระให้ผู้ว่าจ้างไปติดตามอีก
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็ นัดวันยกเสาเอกเสาโทได้เลย
ก่อนจะไปถึงตรงนั้นต้องให้เครดิตทีมงานหน่อยครับ
-งานออกแบบก่อสร้าง ทุกระบบ
ซึ่งผมจะเรียกว่าผู้ออกแบบความฝัน
"บริการงานออกเเบบ ทุกระบบจบที่พร้อมอยุ่"
092-6195254 IDLine : natthapong2133
https://www.facebook.com/pingping.ping.33
-งานโครงสร้างและก่อสร้างจนแล้วเสร็จ
ซึ่งผมจะเรียกว่า"ผู้ทำความฝันให้เป็นจริง"
🏗️ทีมงานช่างแดงก่อสร้างชัยภูมิ🏠
083-389-4359
084-707-5539
https://www.facebook.com/profile.php?id=100045927134209
https://www.facebook.com/profile.php?id=100022829266757
ทีมงานนี้คุณภาพจริงๆครับยืนยัน
ปัญหาที่กลัวว่าจะมีทีมงานนี้แก้ไขได้หมด
งานตีผังขุดหลุมเสา
-สเป็คของเหล็ก คาน เสา ให้ตรงตามแบบ
-ค่ากำลังอัดของคอนกรีตให้ตรงกับที่ออกแบบ เช่น 240 280 300 Ksc.
เขียนมาถึงตรงนี้เพื่อนๆอาจงงที่ผมจะอธิบายต่อก็คือ ค่า Ksc.
ksc. ย่อมาจาก kilogram square centimetre. หรือก็คือกิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตรนั่นเอง โดยปกติแล้ว “กำลังคอนกรีต” ที่เราใช้กันเป็นมาตรฐานก็คือกำลังคอนกรีตที่ 240 ksc ดังนั้นจะขอนำมาอธิบายให้แบบง่ายๆ สมมุติว่าเราสั่งคอนกรีตแรงอัด 240 ksc นั่นหมายถึง คอนกรีตผสมเสร็จที่ได้จะรับแรงต่อพื้นที่ได้ที่ 240 กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร หรือทุก ๆ พื้นที่ทางกว้างและยาว 1 เซนติเมตร จะสามารถรับน้ำหนักได้ 240 กิโลกรัมนั่นเอง ดังนั้นควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับการรับน้ำหนักของเสา และพื้นบ้าน ที่สำคัญอย่าลืมขอดูเอกสารจากรถคอนกรีต จะได้แน่ใจ
-ตอนเทคอนกรีตลงแบบช่างเขาก็จะมีเครื่องจี้ปูนให้ปูนไหลไปตามซอกจนเต็มแบบ
ถอดแบบคานแล้วก็ขนดินเข้าบ้านซึ่งตรงนี้ผู้ว่าจ้างหรือเจ้าของบ้านจะต้องหารถดินมาเทไว้รอตอนเขาถอดแบบเลยงานจะได้ต่อเนื่อง ขนดินเข้าต้องบดอัดให้แน่นด้วยนะ
งานต่อไปวางเหล็กพื้น/เทคอนกรีตพื้น
งานต่อไป เข้าแบบเสา เทปูนพื้น ซึ่งตรงนี้มีความรู้มาแชร์ให้ผู้อ่านได้ทราบนิดนึงครับ
เมื่อครู่นี้ผู้เขียนได้กล่าวถึงค่าKsc.ซึ่งปกติแล้วค่าKsc.จะมีอยู่2แบบ
คือ cylinder กับ cube ค่าจะไม่เท่ากัน 240 ของ cylinder จะเท่ากับ 210 cube ตรงนี้คือเทคนิคเล็ก ๆ ในการใช้งานคอนกรีต ดังนั้นควรถามให้แน่ใจก่อน เนื่องจากการรับน้ำหนักและราคาคอนกรีตจะไม่เท่ากัน ด้านล่างนี้จะเป็นตัวเลขที่เปรียบเทียบระหว่างค่ากำลังอัดของคอนกรีตรูปทรงกระบอก (Cylinder) และกำลังอัดคอนกรีตรูปทรงลูกบาศก์ (Cube)
เพราะการบ่มคอนกรีตที่ 28 วัน มีการทดสอบมาแล้วว่าเป็นจุดที่ได้กำลังคอนกรีตมากที่สุดแล้ว (บ่มนานกว่านี้ก็ไม่เพิ่มอีกแล้ว) ขอยืมถาพจากอินเตอร์เนต
จากตัวเลขและกราฟสังเกตได้ว่าในช่วง 14 วันแรก กำลังคอนกรีตเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูง (87%) ดังนั้นเราต้องดูแลกำลังคอนกรีตให้ดีเป็นพิเศษ เพื่อให้คอนกรีตผสมเสร็จมีคุณภาพ และได้ตรงตามค่ามาตรฐานการออกแบบ
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เพียงจะบอกว่าหากเทคอนกรีตไปแล้วเราจะต้องมีการบ่มคอนกรีตตามระยะเวลาที่เหมาะสม และห้ามไปเจาะ เคาะ หรือตี คอนกรีต ในระหว่างที่ทำการบ่ม อันจะทำให้ค่ากำลังอัดหรือค่าKsc.ลดลง
ซึ่งการบ่มคอนกรีตมีอยุ่หลายวิธี
- บ่มโดยการเพิ่มความชื้นเพื่อช่วยทดแทนการระเหยน้ำออกจากคอนกรีต เช่น การทำนบกั้นไม่ให้น้ำไหลออกสำหรับงานพื้น, การรดน้ำให้ผิวคอนกรีตเปียกโดยผิวหน้าคอนกรีตที่ยังไม่แข็งตัวต้องไม่ถูกชะล้างออกไปหมด, หรือการคลุมด้วยผ้าใบแล้วราดน้ำให้เปียกชุ่มอยู่เสมอ
- บ่มโดยป้องกันไม่ให้ความชื้นระเหยออก เช่น ทิ้งแบบหล่อให้อยู่กับคอนกรีตที่หล่อไว้ให้นานที่สุด และคอยดูแลให้ผิวด้านบนคอนกรีตมีน้ำอยู่, ใช้กระดาษกันน้ำซึมหรือแผ่นผ้าพลาสติกคลุมทับผิวคอนครีตให้สนิท, หรือการพ่นสารเคมีเคลือบลงบนผิวคอนกรีตป้องกันการระเหยน้ำออกจากคอนกรีต ซึ่งต้องพ่นในขณะที่ผิวคอนกรีตยังชื้นอยู่ครับ
[img