บุพเพสันนิวาส 2 : ออเจ้ากลับมาทำให้พี่ยิ้มได้อีกครั้ง

7.5/10 คะแนน

              นับว่าเป็นการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่สมการรอคอยมากๆกลับอดีตละครหลังข่าวทางช่อง 3 ที่กำลังพุ่งทะยานทำเงินในภาค 2 ในโรงหนังทั่วประเทศ เกิดกระแสออเจ้ากันล้นหลามเพราะปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าหนังทำออกมาได้สนุกกับการรอคอยไม่เสียชื่อ GDH เลยจริงๆ
 
              เนื้อเรื่องก็เดาได้ไม่ยากเท่าใดดอกหนา อย่างภาคแรกที่แม่เกศสุรางค์ตายและวิญญาณได้ไปสิงร่างแม่การะเกดผู้ร้ายประดุจพี่กิ๊ก สุวัจนี และได้พิสูจน์ให้ทุกคนในเรือนเห็นว่าการะเกดคนใหม่นั้นมิได้ชั่วช้าเช่นเดิมและพิชิตใจพี่หมื่นไปได้จนจบอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง ... ในภาคนี้ก็เช่นกัน เรื่องราวเกิดขึ้นจากเด็กหนุ่มที่ชื่อ เมธัส ที่มีเชื้อสายสืบทอดมาจากต้นตระกูลที่เคยร่ำรวยในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์เพราะบรรพบุรุษเป็นเจ้าของห้างหันแตรที่รุ่งเรือง ส่วนพระเอกคือนายช่างใหญ่ ขุนสมบัติบดี หรือ ภพ และนางเอกคือ เกสร ที่หมั้นหมายกันตั้งแต่เด็กเพราะมีคำทำนายทายทักไว้ว่าหากไม่แต่งงานกันคนใดคนหนึ่งหรือทั้งสองคนจะอายุสั้น ต้องตายในเร็ววัน
 
              แล้วก็มีเหตุการณ์มิคาดฝันที่เมธัสต้องย้อนไปในช่วงที่พ่อภพกับแม่เกสรย้อนนั่นแหละ แถมตัวเขาเองก็จับพลัดจับผลูได้ไปเป็นมือขวาของเจ้าของห้างหันแตรที่เป็นบรรพบุรุษของตัวเองเสียด้วย โดยในตอนแรกนั้นพ่อภพพระเอกของเราก็มิได้ชอบใจเมธัสเท่าใดนักเพราะเข้าใจว่าจะเกี้ยวพาราสีแม่เกสรคู่หมั้นตนที่เพิ่งไปขอถอนหมั้นก่อนจะเจอหน้ากันแค่ไม่กี่นาที เมื่อตกหลุมรักตั้งแต่แรกภพเพราะพ่อภพฝันเห็นเกสรมานานนับสิบปี การจีบสาวให้กลับคืนสถานะเดิมแบบวุ่นวายจึงเกิดขึ้น แต่ก็ทำได้ยากเพราะนางเอกอย่างแม่เกสรเองก็เป็นผู้หญิงหัวก้าวหน้า ได้เล่าเรียนกับครูฝรั่งที่โบสถ์และขัดใจที่ถูกจับคลุมถุงชน และเมื่อรู้ว่าภพได้ถอนหมั้นตนก็หมั่นไส้ พาลเกลียดและไม่แยแสจนเมธัสต้องเข้ามาคอยช่วยอีกแรง
 
              การได้ร่ำเรียนกับครูฝรั่งที่โบสถ์นี้เองทำให้เกสรได้รับบันทึกของคุณหญิงการะเกดที่มีชีวิตอยู่ตั้งแต่สมัยอโยธยาเป็นเมืองหลวง ในนั้นบันทึกถึงเรื่องการย้อนเวลาด้วยภาษาที่แปร่งหู พอเจอเมธัสที่ย้อนเวลากลับมาเช่นกันจึงให้ช่วยอ่าน แต่ถูกห้ามเพราะไม่อยากให้มีใครล่วงรู้อนาคต 
 
              โดยในเรื่องยังมีการผูกปมเกี่ยวกับการซื้อขายเรือเหล็กกลไฟของนายห้างหันแตร แต่กลับกลายเป็นว่าเสด็จในกรมไม่ปลื้มเลยปฏิเสธที่จะไม่จ่ายเงิน ทำให้นายห้างหันแตรจะขายเรือเหล็กกลไฟนี้ให้กับทางเวียดนามแทน นอกจากนั้นยังมีเรื่องของสายลับอังกฤษที่ปลอมตัวมาเพื่อปั่นให้สยาม ณ ตอนนั้นแตกแยกกับประเทศของตนเพื่อหวังตีไปเป็นเมืองขึ้น โดยเหตุการณ์ทั้งหมดนั้นมีเมธัสที่ล่วงรู้และพยายามเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งระหว่างนั้นเอง ภพก็พยายามสร้างเรือกลไฟจำลองเพื่อพิสูจน์ให้เสด็จในกรมเห็นว่ามันมีประโยชน์หากจะซื้อไว้ แต่เรื่องมันไม่จบเพราะภพกับพี่ภู่(สุนทรภู่)ได้เจอการลำเลียงปืนเพื่อหวังจะก่อกบฎในเรือนโรงละครของเสด็จในกรมเสียเอง
 
              ฝั่งเมธัสที่รู้ว่านายห้างหันแตรจะขายเรือให้กับเวียดนาม จากการแอบเข้าไปขโมยอ่านบันทึกของคุณหญิงการะเกดว่าจะมีการยิงปืนใหญ่ขู่และนายห้างจะถูกเนรเทศออกไป เขาจึงพยายามเข้าไปช่วยเหลือ แต่กลับถูกจับขึ้นเรือไปพร้อมกับแม่เกสรและภพ การต่อสู้เพื่อไม่ให้สยามตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษจึงเกิดขึ้น 
 
              เนื้อเรื่องโดยคร่าวๆกึ่งละเอียดก็เป็นไปประมาณนี้ ซึ่งความคิดเห็นส่วนตัวผมคิดว่าทำออกมาได้ดีถึงดีมาก ถึงแม้ CG บนเรือบางฉากจะขัดหูขัดตาไปหน่อย เนื้อเรื่องไม่ได้เน้นปมการก่อกบฎมากเท่าไรนัก แต่นักแสดงก็เอาอยู่ และต้องยกความดีความชอบให้กับบทพี่ปี่ (ปุ๊กกี้ ปวีณ์นุช) ที่แสดงออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ตลกทุกฉากแย่งทุกซีนที่ได้ออก หนังไม่ได้เครียดเลย มันจึงทำให้เวลากว่าสองชั่วโมงในโรงหนังเพลิดเพลินและคุ้มค่า 
 
#ต่อไปเป็นสปอย ว่าทำไมให้คะแนนแค่ 7.5 ทั้งๆที่ชมไม่ขาดปาก

สิ่งที่ไม่ชอบของหนังมีไม่กี่อย่าง ได้แก่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้1.       ตอนจบของเรื่องที่ปืนของเมธัสตกน้ำงมหาไม่เจอ และได้กลายมาเป็นเจ้าของห้างหันแตรจนได้พบรักกับแม่หญิงในยุคนั้นจนได้แต่งงานและสืบทอดสกุล หันตระกูล กัน ... เมื่อลองคิดดีๆ เท่ากับว่า เมธัสจะวนลูปอยู่ไม่จบสิ้น นั้นคือ

 เมธัสแต่งงานกับทวดของทวดของทวด(หรือแค่ทวดก็พอเนาะ) -- > มีลูกหลาน -- > สืบเชื้อสายถึงพ่อแม่เมธัส -- > เมธัสเกิด -- > เมธัสย้อนเวลา -- > เมธัสกลับปัจจุบันไม่ได้ -- > เมธัสเป็นเจ้าของห้างหันแตร -- > เมธัสแต่งงานกับทวดของทวดของทวด ตัวเอง ...

ซึ่งประเด็นนี้คนเขียนบทน่าจะไม่ได้คำนึงถึง แต่ถ้าคิดตามดีๆแล้ว ก็เหมือนคนสายเลือดเดียวกัน มีความสัมพันธ์กันเอง 

2.       เสด็จในกรม บทน้อยไปมาก ... ตอนจะดื้อจะโง่ก็ดูโง่มาก พอจะฉลาดคือฉลาดประดุจไอน์สไตน์แบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

3.       บทของสุนทรภู่ เล่นใหญ่ แต่ได้ซีนน้อย ทั้งๆที่มาแต่ละทีก็สนุก แถมตอนท่องคัมภีร์กฤษณะกาลีก็ยังเป็นฉากที่เรียกเสียงฮาได้ตลอด

ที่ยกมาแค่ส่วนที่นึกออกตอนเขียนรีวิวนะครับ ซึ่งหนังตลกมาก ยอมรับเลย น่าไปดู แต่ติดแค่ประเด็นที่ 1 ตามสปอยจริงๆผมจึงต้องหักคะแนนเรื่องนี้ลงไปเหลือ 7.5/10 ครับ
 
หนังสนุกนะ ไปดูเถอะออเจ้า ดูแล้วอย่าคิดมากเหมือนผมก็พอ...