
หากจะพูดถึงนักร้องที่เป็นขวัญใจของคนไทยทั้งประเทศ ไม่ว่าจะอายุเท่าใด หรืออยู่ในช่วงวัยไหน ต่างรู้จักและต้องเคยฟังเพลงอย่างแน่นอนคงจะหนีไม่พ้น
“พี่เบิร์ด” ธงไชย แมคอินไตย์ เจ้าของฉายาซูเปอร์สตาร์อันดับ 1 ของประเทศ ตลอดระยะเวลาเกือบ 40 ปีที่ผ่านมา พี่เบิร์ดได้สร้างปรากฏการณ์ให้แก่วงการบันเทิงไทยไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นทั้งภาพยนตร์ ดนตรี และละคร
มาดูกันว่าซุปตาร์คนนี้สร้างประวัติศาสตร์อะไรไว้บ้าง และผลงานเหล่านั้นได้กลายเป็นผลงานอมตะสุดคลาสสิกที่ใคร ๆ ก็รู้จักอย่างแน่นอน คนรักพี่เบิร์ดห้ามพลาดนะครับ
.
ย้อนไปในปีพุทธศักราช 2501 ในย่านสลัมบางแค ชุมชนแออัดอีกแห่งหนึ่งของธนบุรี
8 ธันวาคม พ.ศ. 2501 ครอบครัวหนึ่งกำลังจะให้กำเนิดลูกชายคนที่ 9 ของครอบครัว นางอุดมกับสามีที่ชื่อเจมส์ แมคอินไตยเป็นคนสก๊อตแลนด์ผสมกับมอญ มีอาชีพเป็นหมอ (หมอสมัยอดีตไม่ได้ร่ำรวยเหมือนสมัยนี้) ด้วยลูกเยอะ ทำให้ครอบครัวแมคอินไตยจึงมีฐานะยากจน ลูกคนที่ 9 นี้ก่อนจะคลอดมิสเตอร์เจมส์ตั้งใจจะให้ชื่อว่า โกยทอง แต่พอคลอดออกมานางอุดมผู้เป็นแม่ไม่เอาชื่อที่สามีตั้ง เธอตั้งชื่อให้เองว่า
ธงไชย แมคอินไตย มีชื่อภาษาอังกฤษว่า อัลเบิร์ต แมคอินไตย จริงๆแล้วจะเรียกชื่อเล่นเขาว่า เบิร์ต ตามชื่ออังกฤษ แต่พอเรียกไปเรียกมาก็เลยเพี้ยนเป็น
"เบิร์ด" ในตอนเด็ก เลยใช้ชื่อนี้ตลอดมา หลังคลอดเบิร์ดไม่นานก็คลอดน้องของเบิร์ดมาอีกคน ครอบครัวแมคอินไตยจึงมีพี่น้อง 10 คน
เพราะความยากจนนี่เองทำให้ทุกคนในบ้านต้องช่วยกันทำงานหาเงิน มากน้อยแค่ไหนพี่น้องทั้ง 10 คนก็ช่วยกัน เบิร์ดเองทั้งพับถุงขาย ยามล็อตเตอรี่ออกก็ไปหาเรียงเบอร์มาวิ่งขาย เห็นกระป๋องนมที่ไหนก็จะเก็บไปขายเอาเงินมารวมกันในบ้าน
เพราะมีพ่อเป็นชาวต่างชาติ ครอบครัวแม็คอินไตยจึงเก่งภาษาอังกฤษ เบิร์ดเองเลยพูดภาษาอังกฤษเก่ง จึงหารายได้พิเศษโดยการไปสอนภาษาอังกฤษให้กับเด็กๆในชุมชนบางแค มีรายได้ครั้งละ 5 - 10 บาท สมัยนั้นถือว่าเยอะ เบิร์ดรับจ้างทุกอย่างเท่าที่มีงานเข้ามา พี่น้องในครอบครัวแมคอินไตยนั้นรักกันดี ยามว่างจากงานจะชอบมาฝึกเล่นดนตรีกัน ส่วนเบิร์ดจะชอบร้องเพลง เบิร์ดเป็นคนอารมณ์ดีมาตั้งแต่เด็ก หัวเราะเฮฮาตลอด ชอบร้องเพลงชอบเต้น จนต่อมาตั้งวงดนตรีเอาแต่คนในครอบครัวชื่อวง
"มองดูเลี่ยน" เล่นในชุมชน และเดินสายประกวดตามงานวัดต่างๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ถ้าหลับตานึกถึงภาพตอนพี่เบิร์ดยังเป็น ด.ช.ธงไชย อยู่ พี่เบิร์ดจะนึกถึงภาพอะไรครับ
พี่นึกถึงภาพป๋ากับแม่ร้องเพลงด้วยกัน กีตาร์เก่าๆ ที่สายไม่ครบ แล้วก็บ้านเก่าๆ ในสลัมบางแค บ้านของพี่เอาความรักกับเสียงดนตรีที่ป๋าแต่งเพลงให้แม่ร้องมาคาราเมลชีวิตพวกเราตลอด ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีอะไรข้างหน้ากินเลย แต่ใช้ความรักและความสุขมาคลุกข้าวให้เรากิน รอบบ้านเต็มไปด้วยเสียงคนตีกัน มีกลิ่นน้ำเน่าบ้าง ส้วมแตกบ้าง เวลาปวดท้องเข้าห้องน้ำ ต้องเอากระดาษหนังสือพิมพ์ค่อยๆ สอดตรงที่มันเป็นรูโบ๋ เพราะอีกบ้านชั้นบนมีคนเย็บจักรอยู่ ถ้ามองลงมานี่คือตรงที่พี่นั่งอึเลย มีอยู่ครั้งหนึ่ง เอากระดาษหนังสือพิมพ์ปิดแล้ว ลมพัด! พี่นั่งอึอยู่มองขึ้นไปสบตากับคนบนบ้านเลย Hello?! (หัวเราะ)
ทุกวันนี้สลัมบางแคที่พี่เคยอยู่ไม่มีแล้ว แต่เป็นความทรงจำที่ดีเหลือเกิน
Cr. https://thestandard.co/talk-with-bird-thongchai-mcintyre
เบิร์ด-ธงไชย เข้าเรียนชั้นประถมที่โรงเรียนวัดนิมมานนรดี เมื่อเรียนจบชั้นประถมเบิร์ดก็มาเรียนต่อมัธยมฯที่โรงเรียนปัญญาวรคุณ ระหว่างนั้นก็รับเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือครูในกิจกรรมร้องรำทำเพลงต่าง ๆ เสมอ และเป็นคนร่าเริง กล้าแสดงออก เมื่อจบมัธยมฯก็มาเรียนต่อที่วิทยาลัยพาณิชยการธนบรี สาขาการจัดการ เรียนจบในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ป.ว.ส.)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้- ภาพตอนปวช.1 ปี 2519 ผู้หญิงสองคนเป็นอาจารย์ฝึกสอนที่มาสอนพวกปวช.1ครับ

Cr. ลูกกวาดมอมแมม
- ภาพปี2522 ช่วงที่พี่เบิร์ดเรียนปวส.การจัดการ ขวาสุดพี่เสริฐ นักร้องนำวงTRY สตริงขวัญใจวัยรุ่นยุคนั้น พาณิชย์ธนฯช่วงนั้นจะมีนักเรียน นักศึกษาเป็นนักร้องนักดนตรีเยอะ (วงTRY วงบรั่นดี รุ่นต่อมาก็ฟอร์เอฟเวอร์)

- ปี2524 ภาพนี้พี่เบิร์ดถ่ายคู่กับเพื่อนปวส.การจัดการ พาณิชย์ธนฯ

- ปี 2524 พี่เบิร์ดอายุ 23 ในสมัยเรียนวิทยาลัยพาณิชยการธนบรี

อยากบอกทุกๆ คนว่า ชีวิตช่วงวัยรุ่นนั้นสอนและให้เราสอบผ่านให้ ได้ทุกวัน การเรียนรู้และการแบ่งแยกความคิดไปในทางที่ดี ไม่จำเป็นต้องมีทุก อย่างพร้อม คนเราจะดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับตัวเราเท่านั้น เอาใจช่วยทุกคนครับ – ธงไชย แมคอินไตย์ (Cr.หนังสือ วันวารของเรา ปี 2544)
.
จากนั้นก็เริ่มต้นชีวิตการทำงาน
เมื่อ เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย เรียนจบป.ว.ส. จากวิทยาลัยพาณิชยการธนบุรี ก็ไปสมัครทำงานที่ธนาคารกสิกรไทย เบิร์ดมีความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษ ที่ธนาคารมีความต้องการอย่างมาก สมัยนั้นหาคนเก่งภาษาอังกฤษค่อนข้างยาก เบิร์ดได้บรรจุเป็นพนักงานฝ่ายต่างประเทศสาขาซอยนานา บนถนนสุขุมวิท ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ การบรรจุในที่ซอยนานา เบิร์ดทำงานอยู่สาขาซอยนานาอยู่พักใหญ่ก็ได้ย้ายมาอยู่สาขาท่าพระ สาขานี้ถือเป็นสาขาใหญ่สาขาหนึ่งของฝั่งธนบุรี แล้วที่นี่เองที่เป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของเบิร์ด ธงไชย ที่ธนาคารกสิกรไทยสาขาท่าพระนี้เป็นแหล่งรวมคนช่อง 3 ก็ว่าได้ เพราะเป็นธนาคารสาขาใหญ่ที่อยู่ใกล้สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง3 หนองแขม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พี่เบิร์ดยังจำสัมภาษณ์งานครั้งแรกได้ไหมครับ
ตอนนั้นพี่เบิร์ดทำงานที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาท่าพระ ตอนนั้นยังไม่รู้หรอกว่าเราชอบหรือไม่ชอบ เห็นเขาสมัครแบงก์กันก็ไปสมัคร แล้วสมัครเนี่ยก็เป็นคนสุดท้ายเพราะแต่งตัวผิดระเบียบ ต้องกลับไปแต่งตัวใหม่ ไปยืมเสื้อที่หอเพื่อน พี่จำได้เลยว่า คนที่สัมภาษณ์เขามองหน้าพี่และบอกว่า ถ้าผมให้เลขคุณ 10 ข้อ คุณทำมาข้อแรกผิด ผมไม่เอาคุณเลยนะ คุณว่าไง พี่เบิร์ดบอกว่า ผมก็ไม่ทำงานกับคุณ เพราะว่าคุณไม่ให้โอกาสคนเลย คุณไม่รู้หรอกว่าข้อ 2 ถึงข้อ 10 อาจจะถูกก็ได้ ถ้าคุณตัดสินอย่างนี้ผมก็ไม่ทำงานกับคุณ ปรากฏว่าพี่ได้ที่ 1 เพราะว่าปากหมา (หัวเราะ)
พี่เบิร์ดเวอร์ชันมนุษย์ออฟฟิศเป็นอย่างไรบ้างครับ
เราเป็นคนที่ใครให้ช่วยงานอะไรก็ทำได้หมด ไม่มีปฏิเสธ สมัยก่อนพี่บวกเลขเก่งมากเลยนะ แล้วงานแบงก์มันเป็นงานที่อยู่กับเงินไง แต่ไม่ใช่เงินเราเลย (หัวเราะ) จำได้ว่าได้เงินเดือน 3,750 บาท มีเงินเดือนออกปั๊บรีบวิ่งไปซื้อเป็ดมาให้แม่ให้พี่น้องเรากิน เราก็ดีใจที่ทุกคนได้กินในสิ่งที่เราอยากให้กิน
ที่แบงก์มันจะมีปุ่มที่กดแล้วไปดังที่สถานีตำรวจเวลาเกิดเหตุร้าย พี่ก็กดเล่น ตำรวจก็มา (หัวเราะ) พี่ต้องหาเรื่องเอ็นเตอร์เทนตัวเอง ทำไปสักพักหนึ่ง ทุกคนรู้ว่าพี่เบิร์ดร้องเพลงได้ เวลามีงานรวมสาขา เราก็ไปเป็นดาวเด่นร้องเพลง เราเป็นตัวแจ๋นของสาขาท่าพระเลยนะ ไอ้นี่แหละไอ้ตัวกดหวอเลยล่ะ (หัวเราะ)
Cr. https://thestandard.co/talk-with-bird-thongchai-mcintyre
ระหว่างที่ธงไชยทำงานอยู่แผนกต่างประเทศของธนาคารกสิกรไทย สาขาท่าพระ เขายังยังรับจ็อบพิเศษอื่น ๆ เช่น ถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา รวมถึงเป็นพนักงานใน ฟลามิงโก ดิสโก้เธคในโรงแรมแอมบาสเดอร์ และได้เจอกับ
“ไก่ - วรายุฑ มิลินทจินดา” ผู้จัดละครชื่อดัง
- พี่เบิร์ดกับการถ่ายแบบในนิตยสารดิฉัน ฉบับสิงหาคม 2526 ในสมัยที่ทำงานธนาคารกสิกรไทย ก่อนจะมาเล่นละครเรื่องแรกในเวลาต่อมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


Cr. ดิฉัน ปีที่ 7 ฉบับที่ 156 สิงหาคม 2526
ผู้จัดละคร วรายุฑ มิลินทจินดา ซึ่งเป็นแขกของโรงแรมในวันนั้น โดยผู้จัดการใหญ่ให้เบิร์ดไปดูแลทีมงานนี้ที่มากันเต็มโต๊ะ เบิร์ดได้สร้างความสนุกสนานให้กับคุณไก่-วรายุทธ รวมทั่งเพื่อนๆคุณไก่ กระทั่งได้ชักชวนให้พี่เบิร์ดได้มาเล่นละครเรื่องแรกในชีวิตนั่นก็คือ
“น้ำตาลไหม้” (2526) ทางช่อง 3 ทำให้เบิร์ดเป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงหน้าใหม่
นพพล โกมารชุน, พรพรรณ เกษมมัสสุ
และนักแสดงหน้าใหม่ ธงไชย แมคอินไตย์ พบกันในละคร
น้ำตาลไหม้ (2526)

Cr. Thai Movie Posters
ผลงานละครเรื่องแรกคือ น้ำตาลไหม้ เบิร์ดรับบทเป็นนักแสดงสมทบ เพียงแค่เรื่องเดียวด้วยพรสวรรค์ของเบิร์ด-ธงไชย เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมรางวัลเมขลา ในปี พ.ศ. 2526 แต่พลาดให้ จิระศักดิ์ ปิ่นสุวรรณ จาก สองพธู เรียกว่าละครเรื่องนี้แจ้งเกิดให้นักแสดงหน้าใหม่อย่างธงไชย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พอได้มาเป็นดาราจริง มันเหมือนกับที่พี่เบิร์ดคิดไว้ไหมครับ
มันไม่มีภาพของความเป็นดาราอะไรในหัวพี่เบิร์ดเลย ไม่มีเลย เพราะเมื่อก่อนนี้อยู่บางแค จะได้เห็นดาราก็อยู่แต่บนปฏิทินฉีก ทีวีก็ไม่มีดูครับ เพราะฉะนั้นพอมาอยู่แล้วพี่สนุกในการเรียนรู้มากว่าการเป็นนักแสดงที่ดีเขาเป็นอย่างไร เราศึกษาจากคนที่เป็นนักแสดงอยู่ พี่เล่นเรื่องแรกคือ น้ำตาลไหม้ (2526) โอ้โฮ! เจอของจริงหมดเลยครับ คุณลินดา ค้าธัญเจริญ คุณชลิต เฟื่องอารมย์ คุณนพพล โกมารชุน ต่อมาได้เจอคุณภัทราวดี มีชูธน กับพี่เต๋อ-เรวัต พุทธินันทน์ ชีวิตพี่โชคดีมากได้เจอแต่ตัวจริงระดับซังกุงของวงการหมด พี่ก็นั่งสังเกต อะไรคือสิ่งที่ดาราควรทำ อะไรคือวินัย อะไรคือความรับผิดชอบของดารา เราเรียนรู้หมดเลยครับ แล้วก็จะเลือกเอาแต่สิ่งที่ดี อันไหนไม่ดีก็กลัวว่าทำแล้วเดี๋ยวเราจะไม่ได้เป็นดาราก็จะไม่ทำ
แอบถามได้ไหมครับว่า ตอนที่พี่เบิร์ดเข้าวงการใหม่ๆ ตอนที่ยังไม่ดังเลย พี่เบิร์ดเคยเจอการเลือกปฏิบัติจากคนที่ดังกว่าหรือจากคนรอบตัวเพียงเพราะเราไม่ใช่ดาราที่มีชื่อเสียงไหมครับ
พี่ว่าพี่ไม่เคยเห็นเลย อาจจะเป็นเพราะว่าพี่ไม่ได้มองก็ได้ เพราะตอนนั้นพี่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย แล้วให้ท่องบทอะไรนะ พี่ท่องแหลกเลย ให้พี่ต้องทำอะไร พี่ต้องซ้อม เป็นบ้าอย่างนั้นเลยครับ ฉะนั้น พี่จะสนุกกับเรื่องพวกนี้ แต่เรื่องอื่นๆ นี่พี่ไม่รู้เรื่องเลย แล้วกลับมาบ้านก็จะมานั่งเล่าให้พี่ๆ น้องๆ เราฟังว่าไปเจออะไรบ้าง มันมีความสุขเหมือนดอกไม้บานตลอด
Cr. https://thestandard.co/talk-with-bird-thongchai-mcintyre
ย้อนวันวานกับเส้นทางชีวิตของพี่เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ ซูเปอร์สตาร์ที่อยู่เหนือกาลเวลา
หากจะพูดถึงนักร้องที่เป็นขวัญใจของคนไทยทั้งประเทศ ไม่ว่าจะอายุเท่าใด หรืออยู่ในช่วงวัยไหน ต่างรู้จักและต้องเคยฟังเพลงอย่างแน่นอนคงจะหนีไม่พ้น “พี่เบิร์ด” ธงไชย แมคอินไตย์ เจ้าของฉายาซูเปอร์สตาร์อันดับ 1 ของประเทศ ตลอดระยะเวลาเกือบ 40 ปีที่ผ่านมา พี่เบิร์ดได้สร้างปรากฏการณ์ให้แก่วงการบันเทิงไทยไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นทั้งภาพยนตร์ ดนตรี และละคร
มาดูกันว่าซุปตาร์คนนี้สร้างประวัติศาสตร์อะไรไว้บ้าง และผลงานเหล่านั้นได้กลายเป็นผลงานอมตะสุดคลาสสิกที่ใคร ๆ ก็รู้จักอย่างแน่นอน คนรักพี่เบิร์ดห้ามพลาดนะครับ
.
ย้อนไปในปีพุทธศักราช 2501 ในย่านสลัมบางแค ชุมชนแออัดอีกแห่งหนึ่งของธนบุรี 8 ธันวาคม พ.ศ. 2501 ครอบครัวหนึ่งกำลังจะให้กำเนิดลูกชายคนที่ 9 ของครอบครัว นางอุดมกับสามีที่ชื่อเจมส์ แมคอินไตยเป็นคนสก๊อตแลนด์ผสมกับมอญ มีอาชีพเป็นหมอ (หมอสมัยอดีตไม่ได้ร่ำรวยเหมือนสมัยนี้) ด้วยลูกเยอะ ทำให้ครอบครัวแมคอินไตยจึงมีฐานะยากจน ลูกคนที่ 9 นี้ก่อนจะคลอดมิสเตอร์เจมส์ตั้งใจจะให้ชื่อว่า โกยทอง แต่พอคลอดออกมานางอุดมผู้เป็นแม่ไม่เอาชื่อที่สามีตั้ง เธอตั้งชื่อให้เองว่า ธงไชย แมคอินไตย มีชื่อภาษาอังกฤษว่า อัลเบิร์ต แมคอินไตย จริงๆแล้วจะเรียกชื่อเล่นเขาว่า เบิร์ต ตามชื่ออังกฤษ แต่พอเรียกไปเรียกมาก็เลยเพี้ยนเป็น "เบิร์ด" ในตอนเด็ก เลยใช้ชื่อนี้ตลอดมา หลังคลอดเบิร์ดไม่นานก็คลอดน้องของเบิร์ดมาอีกคน ครอบครัวแมคอินไตยจึงมีพี่น้อง 10 คน
เพราะความยากจนนี่เองทำให้ทุกคนในบ้านต้องช่วยกันทำงานหาเงิน มากน้อยแค่ไหนพี่น้องทั้ง 10 คนก็ช่วยกัน เบิร์ดเองทั้งพับถุงขาย ยามล็อตเตอรี่ออกก็ไปหาเรียงเบอร์มาวิ่งขาย เห็นกระป๋องนมที่ไหนก็จะเก็บไปขายเอาเงินมารวมกันในบ้าน
เพราะมีพ่อเป็นชาวต่างชาติ ครอบครัวแม็คอินไตยจึงเก่งภาษาอังกฤษ เบิร์ดเองเลยพูดภาษาอังกฤษเก่ง จึงหารายได้พิเศษโดยการไปสอนภาษาอังกฤษให้กับเด็กๆในชุมชนบางแค มีรายได้ครั้งละ 5 - 10 บาท สมัยนั้นถือว่าเยอะ เบิร์ดรับจ้างทุกอย่างเท่าที่มีงานเข้ามา พี่น้องในครอบครัวแมคอินไตยนั้นรักกันดี ยามว่างจากงานจะชอบมาฝึกเล่นดนตรีกัน ส่วนเบิร์ดจะชอบร้องเพลง เบิร์ดเป็นคนอารมณ์ดีมาตั้งแต่เด็ก หัวเราะเฮฮาตลอด ชอบร้องเพลงชอบเต้น จนต่อมาตั้งวงดนตรีเอาแต่คนในครอบครัวชื่อวง "มองดูเลี่ยน" เล่นในชุมชน และเดินสายประกวดตามงานวัดต่างๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เบิร์ด-ธงไชย เข้าเรียนชั้นประถมที่โรงเรียนวัดนิมมานนรดี เมื่อเรียนจบชั้นประถมเบิร์ดก็มาเรียนต่อมัธยมฯที่โรงเรียนปัญญาวรคุณ ระหว่างนั้นก็รับเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือครูในกิจกรรมร้องรำทำเพลงต่าง ๆ เสมอ และเป็นคนร่าเริง กล้าแสดงออก เมื่อจบมัธยมฯก็มาเรียนต่อที่วิทยาลัยพาณิชยการธนบรี สาขาการจัดการ เรียนจบในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ป.ว.ส.)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
.
จากนั้นก็เริ่มต้นชีวิตการทำงาน
เมื่อ เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย เรียนจบป.ว.ส. จากวิทยาลัยพาณิชยการธนบุรี ก็ไปสมัครทำงานที่ธนาคารกสิกรไทย เบิร์ดมีความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษ ที่ธนาคารมีความต้องการอย่างมาก สมัยนั้นหาคนเก่งภาษาอังกฤษค่อนข้างยาก เบิร์ดได้บรรจุเป็นพนักงานฝ่ายต่างประเทศสาขาซอยนานา บนถนนสุขุมวิท ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ การบรรจุในที่ซอยนานา เบิร์ดทำงานอยู่สาขาซอยนานาอยู่พักใหญ่ก็ได้ย้ายมาอยู่สาขาท่าพระ สาขานี้ถือเป็นสาขาใหญ่สาขาหนึ่งของฝั่งธนบุรี แล้วที่นี่เองที่เป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของเบิร์ด ธงไชย ที่ธนาคารกสิกรไทยสาขาท่าพระนี้เป็นแหล่งรวมคนช่อง 3 ก็ว่าได้ เพราะเป็นธนาคารสาขาใหญ่ที่อยู่ใกล้สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง3 หนองแขม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ระหว่างที่ธงไชยทำงานอยู่แผนกต่างประเทศของธนาคารกสิกรไทย สาขาท่าพระ เขายังยังรับจ็อบพิเศษอื่น ๆ เช่น ถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา รวมถึงเป็นพนักงานใน ฟลามิงโก ดิสโก้เธคในโรงแรมแอมบาสเดอร์ และได้เจอกับ “ไก่ - วรายุฑ มิลินทจินดา” ผู้จัดละครชื่อดัง
- พี่เบิร์ดกับการถ่ายแบบในนิตยสารดิฉัน ฉบับสิงหาคม 2526 ในสมัยที่ทำงานธนาคารกสิกรไทย ก่อนจะมาเล่นละครเรื่องแรกในเวลาต่อมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผู้จัดละคร วรายุฑ มิลินทจินดา ซึ่งเป็นแขกของโรงแรมในวันนั้น โดยผู้จัดการใหญ่ให้เบิร์ดไปดูแลทีมงานนี้ที่มากันเต็มโต๊ะ เบิร์ดได้สร้างความสนุกสนานให้กับคุณไก่-วรายุทธ รวมทั่งเพื่อนๆคุณไก่ กระทั่งได้ชักชวนให้พี่เบิร์ดได้มาเล่นละครเรื่องแรกในชีวิตนั่นก็คือ “น้ำตาลไหม้” (2526) ทางช่อง 3 ทำให้เบิร์ดเป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงหน้าใหม่
นพพล โกมารชุน, พรพรรณ เกษมมัสสุ
และนักแสดงหน้าใหม่ ธงไชย แมคอินไตย์ พบกันในละคร น้ำตาลไหม้ (2526)
Cr. Thai Movie Posters
ผลงานละครเรื่องแรกคือ น้ำตาลไหม้ เบิร์ดรับบทเป็นนักแสดงสมทบ เพียงแค่เรื่องเดียวด้วยพรสวรรค์ของเบิร์ด-ธงไชย เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมรางวัลเมขลา ในปี พ.ศ. 2526 แต่พลาดให้ จิระศักดิ์ ปิ่นสุวรรณ จาก สองพธู เรียกว่าละครเรื่องนี้แจ้งเกิดให้นักแสดงหน้าใหม่อย่างธงไชย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้