เกือบเสียเงิน ฟรี ???? 7,000 บาทในการซ่อมแอร์ รถยนต์ ที่เสียตรงจุดที่คาดไม่ถึง

กระทู้คำถาม
วันนี้ ผมขอเล่าประสบการณ์ ปัญหาเรื่องแอร์ รถยนต์ ที่ผม เจอเป็นปัญหาเรื้อรังมาเป็นปีแล้ว อาจมีรายละเอียดมากหน่อย เผื่อไว้เป็นข้อมูล ซึ่งอาจมี
 
ประโยชน์กับ เจ้าของรถคันอื่น ที่อาจจะประสบปัญหา เรื่อง แอร์รถยนต์ เพราะฉะนั้นต้องขออภัยที่ อาจเล่ายาวไปหน่อยแต่อย่างให้เห็นถึง Timeline
 
และ รายละเอียดของปัญหา ที่เกิดขึ้น ถ้าใครไม่อยากอ่าน ให้ข้ามไปอ่านย่อหน้าสุดท้ายเลยครับ 
 
คือ ผมมีรถยนต์ suzuki swift 2012 อยู่ 1 คัน อายุรถ ประมาณ 10 ปี 3-4 วัน ใช้ขับไปตลาดที เพราะคันเล็กสะดวกในการไปตลาด ขับไปไกลประมาณ
 
10-15 กิโลเมตร นานๆ ครั้งใช้ขับไปทำธุระ ไปกลับประมาณ 60 กิโลเมตร เคยทำการเปลี่ยน คลัชคอมแอร์ + รีเลย์ ไปแล้วประมาณ 2 ปีที่แล้ว แต่ประ
 
มาณ เกือบ 1 ปี ที่ผ่าน มีปัญหา คลัชคอมแอร์ ไม่ทำงาน จับบ้าง ไม่จับบ้าง อาการคือ สตารท์รถแล้ว คลัชไม่จับ ต้องขับไปซักระยะ คลัชถึงจะทำงาน
 
เคยให้ช่างที่ศูนย์ ช่วยเช็คให้แล้ว วันนั้นตอนขับไปศูนย์ คลัชไม่ทำงานเลย ร้อนตลอดทาง ช่างเช็คแล้ว บอกว่า คลัชคอมแอร์เสียเพราะ มีไฟเข้าที่คอม
 
แอร์(คลัชคอมแอร์) แต่คลัชไม่ดูด ต้องเปลี่ยนคลัช ต้องสั่งอะไหล่ไว้ก่อน แล้วมาเปลี่ยนคราวหน้า ค่าใช้จ่าย มีค่าคลัช ค่าน้ำยาแอร์ และ ค่าน้ำมันคอมฯ
 
เพราะต้องถอดคอมแอร์ออกมาเปลี่ยนคลัช ทำให้ต้องปล่อยน้ำยาแอร์ทิ้ง และ รวมค่าแรงด้วย ประมาณไม่เกิน 7,000 บาท ตอนนั้นเพิ่งเปลี่ยนคลัชแอร์
 
มาเพียง 1 ปี เอง ก็เลยยังไม่ค่อยเชื่อว่าจะเป็นที่ คลัชคอมแอร์ ก็เลยยังไม่สั่งอะไหล่ แต่ ให้เปลี่ยน น้ำมันเกียร หัวเทียน ฯลฯ ไปแทน  แต่พอขากลับ
 
ขับไปซักพักประมาณ 10 นาที คลัชดังแต๊ก กลับมาทำงานเป็นปกติ เฉยเลย พอกลับถึงบ้าน ก็เลยคิดไปเองว่า ปลั๊กคอมฯ อาจจะชื้นเพราะที่บ้านอยู่ที่
 
เชิงเขา อากาศเย็น ทุกเช้าจะมีละอองน้ำเกาะตัวถังรถทั้งคัน ก็เลยเอา สเปร์ย sonax มาฉีด ปรากฏว่า ได้ผลอาการหายเป็นปกติ ใช้ได้มาอีก 4-5 เดือน
 
แต่แล้วก็มีอาการอีก  ก็เลยฉีด sonax ใหม่ ก็กลับมาใช้ได้อีก 4-5 เดือน จน 2 เดือนที่ผ่านมาเริ่มมีอาการอีก แต่คราวนี้พอฉีด sonax กลับไม่หายยังมี
 
อาการติดๆ ดับๆ ของคลัชคอมแอร์ จึงถอดปลั๊กคอมแอร์ ออกมาใช้ สเปร์ย contact cleaner ฉีดอยู่ หลายครั้ง ก็ไม่ดีขึ้น คือ พอฉีดแล้ว รุ่งขึ้น ตอน
 
สตาร์ทรถใหม่ๆ คลัชทำงาน แต่พอขับออกจากบ้านไปได้ประมาณ 10 นาที เอาแล้ว คลัชไม่ทำงาน แอร์ร้อนอีกแล้ว  เป็นอย่างวนไปจน รู้สึกคล้อย
 
ตามช่างที่ศูนย์ว่า น่าจะเป็นที่คลัชคอมแอร์จริง 
 
 
      จึงได้ทำการโทรไปจองคิวที่ศูนย์ได้คิว วันจันทร์ที่ผ่านมา แต่ในวันอาทิตย์ ก็มาคิดว่า ถ้าเอาไปซ่อมที่ศูนย์ ต้องขับรถที่ไม่มีแอร์ ไปกลับ 3 เที่ยว
 
คือ  1. ขับไป ให้ช่าง เช็ค(คงไม่ต้องเช็คแล้วเพราะช่างเคย แจ้งแล้วว่าคลัชคอมเสีย) แล้วสั่งอะไหล่  จ่ายมัดจำ  2. ขับกลับ 3. ขับไปซ่อมเมื่ออะไหล่ที่
 
สั่งมา จึงมีความคิดว่าทำไมไม่เอาไปซ่อม ร้านแอร์รถ ใกล้ๆ บ้านดูก่อน จึงโทรไป cancel ที่ศูนย์ แล้ว ขับไปร้านแอร์ แถวตลาดสด ใกล้บ้าน จริงๆ ร้าน
 
นี้เคยมาเช็คทีหนึ่งแล้ว ช่างก็บอกแบบเดียวกันเลยว่า คลัชคอมแอร์เสีย แต่แนะนำให้ไปเคลมที่ร้านที่เปลี่ยนคลัชคอมมา เพราะเพิ่งเปลี่ยนเกินปีไปนิด
 
เดียว แถมไม่คิดค่าเช็คด้วย ก็เลยลองมาซ๋อมที่นี่ดู  เอาละเข้าเรื่องเลย
 
 
     พอขับเข้ามาจอดหน้าร้าน (ร้านซ่อมนี้เป็นร้านเก่าๆ มากกก น่าจะเปิดมานานแล้ว 10 ปีขึ้นไป ซ๋อมทั้งแอร์ ไดนาโม แบตเตอรี่) ซ่อมกันหน้าร้านนี้หล่ะ
 
ไปถึง ก็ลงไปแจ้งช่างว่า รถแอร์ไม่เย็น มีอาการคือ คลัชคอมแอร์ไม่ทำงาน  คือ ทำงานเฉพาะตอน สตาร์ทใหม่ๆ  พอขับออกมาซักระยะ แอร์ก็จะไม่ทำ
 
งาน มีการเปลี่ยนคลัชคอมแอร์ ไปเมื่อประมาณ ปีกว่าๆ ช่างก็มาเช็คแรงดันน้ำยาแอร์ เช็คกล่อง ฟิวส์ กับ รีเลย์ก่อนเลย ต่อมาก็มาตรวจบริเวณคลัชคอม

แอร์ ซักพักก็กลับเข้าไปในร้าน  ออกมาพร้อม กับ กรรไกร ตัด ก๋วยเตี๋ยวหลอด หลายคนคงนึกภาพออก แล้วก็ไม่พูดพล่ามทำเพลง ตัดสายไฟที่มาเลี้ยง

คลัชคอมแอร์ ฉับ(ตัดให้ขาดเลย ชับๆๆๆ 555) ในใจผมนึกเอาแล้วไง  ตูมาซ่อมนะ ไม่ได้มาทำลาย คิดถูกหรือเปล่าเนี่ยที่มาซ่อมที่นี่ แล้วก็ก้มทำอะไร

ซักพัก แล้วก็ให้ผมเข้าไปกดปุ่ม AC ในรถ ใช้ซะตูเป็นลูกน้อง ไม่ใช่ลูกค้าเลย (คิดนะครับคิด 555 ล้อเล่น ผมยินดีเพราะจะได้ความรู้ไปด้วย) ตอนนั้นรถ

ติดเครื่องอยู่ ปรากฏว่าเฮ้ย คลัชคอมทำงาน ว๊อด เกิดไรขึ้น แล้วช่างก็เข้าไปในรถปิดประตู เร่งเครื่อง เร่งแอร์ แล้วให้ผมช่วยดูว่า คลัชตัดการทำงานหรือ

ไม่ซักพัก คลัชก็ตัดการทำงาน แล้วซักพักก็ทำงานใหม่ สลับกันไป สุดท้ายช่างก็ออกมาจากรถแล้วบอกว่า ซ่อมเสร็จแล้วครับ ปัญหาอยู่ที่ ตัวเซ็นเซอร์

ท้ายคอมเพรสเซอร์??? มันเสีย ผม(ช่าง) ก็เลยต่อตรงเลย หน้าปัทม์รถ ไม่โชว์ ไฟผิดปกติ คอมมีการตัดต่อเมื่ออุณหภูมิ ถึงที่ตั้งไว้ แสดงว่า เป็นรุ่น

ธรรมดา เพราะถ้าเป็นคอมรุ่นพิเศษ ตัวเซ็นเซอร์ จะเช็ครอบการหมุนของคอมด้วย ว่าหมุนช้าไป เร็วไป หรือ ช่วงเร่งแซงก็จะตัดการทำงานของคอมแอร์

 ถ้าเป็นรุ่นพิเศษนี้ จะไม่สามารถต่อตรงได้ ไฟจะโชว์ คอมจะไม่ทำงาน ผมเลยถามไปว่า อ้าว ทำไมไม่เปลี่ยนเซ็นเซอร์ตัวที่ว่านี้เลย ล่ะครับ ช่างเขา

บอกว่า อะไหล่ตัวนี้ไม่มีขาย ต้องเปลี่ยนคอมทั้งตัว เพราะไม่ค่อยมีเสียกัน จะเสียก็คือ คอมไหม้ไปเลย ประมาณนี้ จริงดิ้ เสร็จสรรพ ผมถามค่าซ่อม 

ช่างบอก 1 ร้อยบาท (ฮ้า 1 ร้อย ศูนย์บอกต้องเปลี่ยน คลัช + ทำระบบใหม่ ค่าซ่อม 7 พัน) ผมก็เลย ให้ไป 1 ร้อย แถมทิปให้ช่าง ไป 100 บาท แล้วขับ

ออกมาอย่าง งงๆ ว่าต่อตรงไม่ผ่าน เซ็นเซอร์ได้ด้วย หรือว่าญี่ปุ่นทำเกิน 555 แต่ขาขับรถกลับเนี่ย เย็นฉ่ำ มากกก แต่ก็ระแวงนิดหน่อยว่า ถ้าต่อตรง

ไม่ผ่านเซ็นเซอร์แล้ว จะมีผลอะไรในภายหลัง หรือไม่ เท่าที่มีความรู้อันน้อยนิด คิดว่า เซ็นเซอร์ตัวนี้ น่าจะเป็น เทอร์โมฟิวส์ หรือ ตัวจับความร้อน

ของ คอมเพรสเซอร์ ในกรณีที่ น้ำยาแอร์รั่ว หรือ คอมมีปัญหาจะเกิดความร้อนขึ้น เซ็นเซอร์ตัวนี้ก็จะตัดการทำงานคอมไปไม่ทราบ ใช่ หรือ ไม่ ขอเป็น

ความรู้จากเพื่อนสมาชิกที่เชี่ยวชาญ เรื่องแอร์รถยนต์ด้วยครับ แล้ว ทางออกที่ถูกต้องในการแก้ไขปัญหานี้ จริงๆ ควรทำอย่างไร ครับ เช่น เปลี่ยนคอม

ใหม่เลย ไปเช็คที่ศูนย์ว่ามี อะไหล่ตัวนี้ไหม ฯลฯ หรือ ก็ใช้ไปก่อน ถ้าคอมเสียค่อยไปเปลี่ยนทีหลัง เพราะยังไงก็ต้องเปลี่ยนคอมอยู่แล้ว ใช้ให้คุ้มก่อน

ฯลฯ  จบแล้วครับ การซ่อมแอร์ครั้งนี้ของผม ที่โชคดี ที่ตัดสินใจไม่ไปซ่อมที่ศูนย์  แล้วยังโชคดีที่ ไปเข้าร้านแอร์ ที่มีความเป็นช่าง ไม่หลอกให้เปลี่ยน

โน้นนี่(หรือเปล่า เนี่ยผมเข้าใจถูกใช่ไหม) เลยไม่ถูกฟันหัวแบะ 

สุดท้ายนี้ผมหวังว่าจะมีประโยชน์ กับเพื่อนสมาชิกบ้าง ไม่มากก็น้อยนะครับ  ขอบคุณมากครับ
 
ปล. อยากทราบด้วยครับว่า เจ้าเซ็นเซอร์ ตัวนี้ไม่ค่อยมีเสียกันจริงหรือเปล่าครับ ใครทราบช่วยบอกหน่อยครับ มันคาใจ 555
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
ตัวป้องกันความร้อน กรณีคอมแอร์ ทำงานร้อนจัดจะตัดการทำงานครับ



ช่างคงต่อตรง แต่ จขกท. เช็คระบบแอร์ประจำ ก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่สำหรับคนบางคน ถ้าไม่รู้เรื่อง แอร์ เกิดความร้อนจัด ชุดคอมก็ทำงาน อาจจะส่งผลให้ไฟไหม้ หรือ คอมแอร์น๊อต หรือระบบโรตารี่ หรือลูกสูบ เสียหาย ตอนนั้น เปลี่ยนยกลูก อย่างเดียวครับ ประมาณนี้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
แค่อ่านเจอว่า ต้องรื้อคอม เพื่อเปลี่ยนคลัทช์ แถมค่าเปลี่ยน7000 ผมก็หลุดขำก๊ากแล้วครับ^^ ดีนะ ที่คุณไหวตัวทัน  
คลัทช์คอม ผมซื้อของยี่ห้อทั่วไปพัน สองพัน ไปร้านแอร์ เจ้าประจำ คิดค่าแรง 500 ทำคารถ ไม่ต้องรื้อคอมครับ
หลังๆมา ผมรื้อเองแล้วครับ คลัทช์คอม  รื้อตั้งระยะฟรีใหม่

ส่วนเซ็นเซอรวัดรอบคอมแอร์ ผมเห็นแว็บๆ ในเว็บว่า ของ denso  มีแยกขายอยู่นะครับ ใช่ตัวที่มันติดอยู่ข้างๆตัวคอม มีสายต่อไปหน้าคลัทช์มั้ย? ถ้าใช
ใช่ หลักร้อยครับ ไม่ถึงพัน  ถ้าไม่อยากสั่งเว็บ อยากให้แน่ใจ ไปร้านอะไหล่ ขอเทียบก่อนก็ได้  หรือไปเชียงกง  ถามดูว่าขอซื้อแยกได้มั้ย



ระบบการทำงานของเช็นเซอร ก็อย่างที่คุณเข้าใจครับ คือ ถ้าเราใช้รอบสูง  เซ็นเซอรจับได้ ก็จะตัดการทำงานคลัทชคอม เพื่อไม่ให้แรงหมุนเครื่องยนต์ ทำคอมแอร์ หรือหน้าคลัทชเสียหายครับ ง่ายๆ มันคือ ตัวตัดต่อac อัตโนมัติ ซ้อนสวิทชacอีกชั้นนึง  จะมีแต่รถรุ่นใหม่ๆ  
รถรุ่นเก่าๆ ส่วนใหญ่ จะไม่มีเซ็นเซอรตัวนี้ครับ  
ถามว่าถ้าไม่มี จะใข้งานได้มั้ย ได้ครับ อย่างที่ช่างมือกรรไกรทำ คือต่อตรง  เหมือนรถรุ่นเก่าๆ ครับ  
ผมไม่รู้นะ แต่ ถ้าออกแบบมาแบบนี้ หมายถึง คอมแอร์รุ่นนี้ไม่ถึกเท่ารุ่นเก่าๆรึเปล่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่