ตี 4 ชัชชาติขึ้นแท็กซี่ดูน้ำท่วม ใส่ชุดวิ่ง ลากแตะพร้อมลุย จ่อไล่ตรวจจุดก่อสร้างทำระบายยาก
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_3484792
 
 
ตี 4 ชัชชาติขึ้นแท็กซี่ดูน้ำท่วม ใส่ชุดวิ่ง ลากแตะพร้อมลุย จ่อไล่ตรวจจุดก่อสร้างทำระบายยาก
 
เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. วันที่ 2 สิงหาคม ที่แยกทองหล่อ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. ถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กขณะโดยสารรถแท็กซี่เพื่อตรวจสอบสถานการณ์น้ำท่วมหลังฝนตกหนักในช่วงคืนที่ผ่านมา
 
นายชัชชาติกล่าวว่า เมื่อคืนตกหนัก ตื่นเช้าขึ้นมาพบว่าปริมาณน้ำฝนค่อนข้างสูง เขตวัฒนาเกือบ 80 มม. ส่วนภาพรวม 24 ชม. เขตสะพานสูง 170 มม.
 
“เมื่อคืน สักเที่ยงคืนมีน้ำท่วมหลายพื้นที่บนถนนสายหลัก มีรายงานเกือบ 20 จุด เช่น สุขุมวิท แต่พอสักตี 2 ครึ่ง ส่วนใหญ่น้ำแห้งหมดแล้ว ยกเว้นถนนพัฒนาการ เลยจะไปดูหน่อย เห็นว่าน้ำยังท่วมขังอยู่ หามอ’ไซค์ไม่เจอ เลยต้องเอาพี่แท็กซี่มา ไม่อยากขับไปเอง เดี๋ยวหาที่จอดไม่ได้” นายชัชชาติกล่าว
 
จากนั้นนายชัชชาติสอบถามข้อมูลจากคนขับแท็กซี่ ทราบภายหลังว่าชื่อ “สมศักดิ์” ซึ่งกล่าวกับผู้ว่าฯกทม.ว่า ฝนตกสลับไปสลับมา ถนนเอกมัยและซอยทองหล่อน้ำท่วม ที่หนักกว่าคือเอกมัย ถนนตากสินทั้งลมและฝนหนักมาก
 
นายชัชชาติสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาชีพ นายสมศักดิ์ คนขับแท็กซี่ กล่าวว่า ตนเป็นคนกรุงเทพฯ ยึดอาชีพนี้มา 8 ปี พออยู่ได้ เช่ารถแท็กซี่มาขับ วันละ 600 บาท มีช่วงที่กลับไปนอนพัก โดยออกมาขับเวลา 21.00 น. เมื่อคืนพอได้ลูกค้าบ้าง
 
นายชัชชาติกล่าวว่า เชื่อว่าซอยย่อยน่าจะยังมีน้ำท่วมขังอยู่ ใครออกจากบ้านไม่ได้ แจ้งเลย จะได้ส่งรถไปช่วย เมื่อคืนตนแจ้งทุกเขตให้เตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชน
 
“เมื่อคืนนอนตั้งแต่ 3 ทุ่ม เพราะรู้ว่าวันนี้ออกเช้าแน่ มาดูน้ำ เช้านี้ขอให้วางแผนการเดินทางกันให้ดี” นายชัชชาติกล่าว
 
ทั้งนี้ เมื่อถึงถนนพัฒนาการสายหลักพบน้ำท่วมขังเป็นบางจุด เช่น ช่องทางซ้ายช่วงก่อนลงอุโมงค์ และช่วงก่อนถึงพัฒนาการซอย 35
 
ระหว่างนี้นายชัชชาติสอบถามถึงชีวิตนายสมศักดิ์ คนขับแท็กซี่อีกครั้ง นายสมศักดิ์เล่าว่า มีลูก 1 คน เรียนคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ปี 3 ได้ทุนจุฬาฯ-ชนบท จบแล้วอยากให้รับราชการ
 
นายชัชชาติอุทาน “โอ้ว เก่งมากเลย สุดยอด”
  
จากนั้นนายชัชชาติกล่าวเพิ่มเติมถึงรายงานน้ำท่วมย่านรามอินทรา
 
“ท่วมเกือบทุกซอยเลยมั้ง ส่วนหนึ่งอาจเป็นเรื่องการก่อสร้างรถไฟฟ้าด้วยที่ต้องไปดู วันนี้คงไปไล่ดูจุดก่อสร้างต่างๆ ที่อาจมีผลเรื่องการระบายน้ำ วันนี้แต่งชุดวิ่งมาเลย แต่ใส่รองเท้าแตะ เพราะอาจได้ลุยน้ำ (หัวเราะ)” นายชัชชาติกล่าว

---

‘ชัชชาติ’ ยกย่องเป็นวีรบุรุษตัวจริง เจ้าหน้าที่เฝ้าเครื่องสูบน้ำตลอด 24 ชม.
https://www.dailynews.co.th/news/1314145/
 
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. ได้ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ประจำเครื่องสูบน้ำ เขตพัฒนาการ-สวนหลวง ที่ต้องเฝ้าดูการทำงานของเครื่องสูบน้ำตั้งแต่กลางดึกที่มีฝนตกต่อเนื่อง จนถึง 8 โมงเช้า พร้อม ยกมือไหว้ขอบคุณ กล่าวยกย่องเป็น "วีรบุรุษตัวจริง

เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. ได้ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ขณะลงพื้นที่พบปะประชาชนและตรวจสอบสถานการณ์น้ำท่วม บริเวณเขตพัฒนาการ-สวนหลวง หลังจากช่วงคืนที่ผ่านมามีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำท่วมขังหลายจุดใน กทม. โดยผู้ว่าฯ ได้พูดคุยกับพนักงานของสำนักงานระบายน้ำกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ โดยฝ่ายพนักงานได้เล่าปัญหาที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า ที่น้ำท่วมเป็นประจำก็เพราะมีขยะมูลฝอย ไหลไปอุดตันท่อ จนเครื่องสูบน้ำ 2 เครื่องที่อยู่ที่จุดนี้ทำงานไม่ได้ ซึ่ง นายชัชชาติ ได้ชื่นชมการทำงานของพนักงานรายนี้ ที่ต้องอยู่เฝ้าเครื่องสูบน้ำทั้งคืน โดยระบุว่า 
 
“…อยู่ตั้งแต่เมื่อวานถึง 8 โมงเช้า 24 ชม.แล้ว ขอบคุณมากเลย ยกมือไหว้พี่เลย นี่แหละคือวีรบุรุษตัวจริง ไม่ใช่ผมนะ พี่เขาช่วยพวกเราอยู่ พวกเราชาว กทม. เจ้าหน้าที่เทศกิจ เขตที่กำลังดูไลฟ์อยู่ เห็นมีน้ำท่วมรีบแจ้ง รีบออกมาช่วยชาวบ้านได้แล้วนะครับ ชาวบ้านน่าจะกำลังออกจากบ้านไปทำงานกันแล้ว…”

นายชัชชาติ ยังกล่าวอีกว่า ตอนนี้ น้ำจาก 2 คลอง คลองแสนแสบกับคลองลาดพร้าว อยู่ในสภาวะวิกฤต เช้าวันนี้เตรียมที่จะหารือกับกองทัพบกและเตรียมดำเนินการลอกท่อและระบายน้ำออก ขอฝากไปยังประชาชนให้วางแผนเดินทางล่วงหน้า เพราะการจราจรบางเส้นทางอาจติดขัดอยู่

สามารถติดตามชมคลิปได้ ที่นี่…คลิก... 

---

 
“ไข่ไก่-ไข่เป็ด” กอดคอกันขึ้นราคาพุ่ง
https://www.thansettakij.com/economy/trade/534921

“บังจู” ไขปริศนา ทำไม “ไข่ไก่-ไข่เป็ด” กอดคอกันขึ้นราคา ชี้ “ไข่ไก่” ลุ้นกัมพูชา ผู้ค้ารายใหญ่รับไหวไหม ถ้ารับไม่ไหวก็ตัวใครตัวมัน เพราะไข่ล้นตลาด ส่วน “ไข่เป็ด” เกษตรกร ไม่กล้าลงเป็ด เพราะค่าใช้จ่ายต้นทุนสูง ด้านผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อย โอดไม่ปรับราคาเกษตรกรจ่อล่มสลาย
 
นายสุธาศิน อมฤก (บังจู) นายกสมาคมการค้าผู้ค้าไข่ไทย และประธานกลุ่มผู้ค้าไข่ไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ตลาด “ไข่เป็ด”  สภาวะไม่มีตัวเป็ดเลี้ยง เกษตรกร ไม่กล้าลงเป็ด เพราะมีค่าใช้จ่ายต้นทุนสูง และตัวเป็ดก็แพง เป็นเกษตรกรแค่ชาวบ้าน ส่วนรายใหญ่สุด ก็เป็นแค่เกษตรกร ทำให้วันนี้ปริมาณไข่เป็ดน้อยมาก เพราะไม่เลี้ยง แต่ไข่เป็ดก็ไม่ขาดตลาด เพราะเป็นสินค้าทางเลือก ชาวบ้านไม่ได้สนใจ ส่งโรงงานดอง (ไข่เยี่ยวม้า) อย่างเดียว
 
 "สมาคมผู้เลี้ยงเป็ดไข่ แจ้งประกาศราคาไข่เป็ดขึ้น 10 สตางค์ เป็นราคา 4.80 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2565"
 
ส่วน “ไข่ไก่” ทาง 4 สหกรณ์ ประกอบด้วยสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่แปดริ้ว จำกัด,สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ชลบุรี จำกัด ,สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่เชียงใหม่-ลำพูน จำกัด และสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ลุ่มแม่น้ำน้อย จำกัด ประกาศแจ้งราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มเกษตรกร วันที่ 3 สิงหาคม 2565 ราคาแนะนำไข่ไก่คละอยู่ที่ฟองละ 3.50 บาท (น้ำหนัก 20.5 กิโลกรัมขึ้นไป) ทั้งนี้หากมีการเปลี่ยนแปลงราคาจะแจ้งให้ทราบภายหลัง
  
"มีผลทำให้ไข่ไก่คละ และไข่ไก่เบอร์ ทุกเบอร์ ปรับขึ้นอีก 3 บาท/แผง ซึ่งปัจจุบันปริมาณไข่ไก่มีไม่น้อย แต่ได้อานิสงส์จากเพื่อนบ้าน (กัมพูชา) ที่ยังรับเข้าอยู่ แต่ประเมินแล้วคาดจะแผ่วเนื่องจากราคาค่อนข้างสูงแล้ว ก็ต้องลุ้นหลังจากนี้ว่าเพื่อนบ้านจะรับไหวไหม ถ้ารับราคาไม่ได้ก็ตัวใครตัวมัน"
  
แหล่งข่าวเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ภาคใต้ เผยว่า เกษตรกรจะล่มสลาย ต่อไปจะไม่มีไข่ไก่กิน วันนี้อาหารแพงมาก แล้วการที่ขายแพง ก็เพราะต้องการไปซื้ออาหารสัตว์ให้ไก่กิน หากไม่ปรับราคา ก็สู้ไม่ไหว สุดท้ายก็ต้องเลิกเลี้ยง พอเลิกเลี้ยงมากขึ้น ท้ายสุดก็จะไม่มีไข่ไก่รับประทาน พวกที่มีทุนยาวก็อยู่ได้ พวกรายย่อยไม่มีทุนยาวอยู่แล้ว โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายทางภาคใต้ต้นทุนค่าขนส่งสูงกว่า วัตถุดิบอาหารก็สูงกว่าภาคอื่น ของทุกอย่างต้องบรรทุกมาจากภาคกลาง
  
ได้มีการปรับราคาแนะนำไข่ไก่เบอร์แล้ว ดังนี้
 
เบอร์ 0 ฟองละ 4.10 บาท
เบอร์ 1 ฟองละ 3.90 บาท
เบอร์ 2 ฟองละ 3.80 บาท
เบอร์ 3 ฟองละ 3.70 บาท
เบอร์ 4 ฟองละ 3.60 บาท
เบอร์ 5 ฟองละ 3.40 บาท
 
ราคาแนะนำไก่ปลด 42-45 บาท/กิโลกรัม น้ำหนักไก่ 2 กิโลกรัม ทั้งนี้หากมีการเปลี่ยนแปลงราคา ผู้เลี้ยงไก่ไข่ภาคใต้จะแจ้งให้ทราบต่อไป