ผมบังเอิญเปิดเวบไปเจอประวัติของโบลซ์มานน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้คิดค้นทฤษฎีเธอร์โมไดนามิกส์ 
แล้วมาเอะใจตรงประวัติ
ทวิช เอดูอาร์ท บ็อลทซ์มัน เป็นนักฟิสิกส์ชาวออสเตรีย ผู้มีชื่อเสียงจากการเป็นส่วนหนึ่งของการค้นพบด้านกลศาสตร์สถิติและอุณหพลศาสตร์สถิติ เป็นหนึ่งในบรรดานักวิทยาศาสตร์ผู้คิดค้นทฤษฎีอะตอมในยุคที่แบบจำลองวิทยาศาสตร์ด้านอะตอมยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ วิกิพีเดีย
เกิด: 20 กุมภาพันธ์ 2387, เวียนนา, ออสเตรีย
เสียชีวิตเมื่อ: 5 กันยายน 2449, Duino, อิตาลี
รางวัล: ภาคีสมาชิกราชสมาคมแห่งลอนดอน (พ.ศ. 2442)
เท่าที่ผมทราบในสมัยนั้นแม้แต่หลอดไฟยังไม่มี
นักฟิสิกส์ที่ชอบเรื่องเธอร์โมไดนามิกส์มักเป็นช่างเครื่องจักรไอน้ำ
ช่างหล่อปืนใหญ่ (โบลซ์มานน์ เป็นนักฟิสิกส์ตรงๆแต่อาจเคยซ่อมเครื่องจักรไอน้ำก็ได้
เพราะสมัยนั้นเขาไม่แยกออกเป็นเด็กเทคนิกกับวิศวะ)
ตอนนี้ผมมาคิดว่าประเทศไทยตอนนี้น่าจะมีความเจริญทางวิทยาศาสตร์มากกว่าออสเตรีย
ตอนปี 2440 (อย่าบอกว่าไทยเรายังไปไม่ถึงนะ!)
เป็นไปได้ไหมว่า ที่มุมหนึ่งของประเทศไทยมีช่างซ่อมรถยนต์ หรือซ่อมหม้อน้ำ
กำลังคิดถึงความเป็นไปได้ของการถ่ายเทความร้อนในรูปแบบต่างๆ
และอาจคิดค้นวิชาเธอร์โมไดนามิกส์ขึ้นมา โดยไม่เคยได้ยิน หรือไม่เคยศึกษาเรื่องนี้มาก่อน

สาเหตุหนึ่งที่ผมคิดถึงเรื่องแบบนี้ คือ
1.เมื่อหลายปีก่อน 
ผมเคยซ่อมท่อระบายน้ำในบ้านครั้งใหญ่ และได้จ้าง
"ทีมนักขุด" ซึ่งผมก็เพิ่งรู้ว่ามีอาชีพแบบนี้ คือนักขุดดิน
ด้วยพลั่ว และเสียม รวมกันเป็นทีม ในดินที่เราไม่สามารถเจาะได้
แม้แต่นิ้วเดียว พวกเขาขุดจนมิดตัวพลั่ว

ตอนนี้ในทีมนี้มีนักขุดวัยรุ่น ซึ่งเขาพูดให้ผมฟังหลายครั้งว่า
ความฝันของเขาคือการขุดเจอฟอสซิลของไดโนเสาร์
ผมดูเขามีความฝันเรื่องนี้จริงๆ ถ้าเกิดในยุโรปและอเมริกาเขาอาจได้เป็นนักบรรพชีวินจริงๆก็ได้
ผมก็เลยสงสัยว่ามีช่างที่ฝันถึงเรื่องฟิสิกส์หรือเปล่า

2. ในยุคหลังโบลซ์มานน์คือประมาณยุคไอสไตน์
ในอินเดียก็มีเด็กชนบทมากมายที่สนใจฟิสิกส์/ดาราศาสตร์
เช่นคนที่คิด "จันทรสิกขาลิมิต" ซึ่งต่อมาก็ได้รางวัลโนเบล
ซึ่งตอนนี้นอินเดียน่าจะด้อยความเจริญกว่าไทยตอนนี้มาก