พรีวิว MG VS HEV ใหม่ เผยโฉมแล้ว ก่อนเปิดตัวเปิดราคา อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 8.8 เดือนหน้า


VS HEV ถือเป็น SUV Segment เดียวกับ ZS โดย มีการปรับรายละเอียดหน้าตาให้ทันสมัย 
 

EXTERIOR DESIGN: ทะลายกรอบการออกแบบเดิมๆ พลิกโฉมเอสยูวีสู่ภาพจำครั้งใหม่ 
NEW MG VS HEV กับครั้งใหม่ของงานดีไซน์รถยนต์ไฮบริด ด้วยกระจังหน้า Electrified Matrix Grille 
Design ที่บ่งบอกความเป็นยานยนต์สมัยใหม่ใส่เอกลักษณ์ความเป็นสปอร์ตตี้ ไฮบริด เอสยูวีไว้ทุกอณูตั้งแต่ไฟ
หน้าแบบ LED Projector เปิด-ปิดอัตโนมัติที่มาพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับขับขี่เวลากลางวัน (DAYTIME 
RUNNING LIGHT) ไปจนถึงไฟท้ายแบบ LED โฉบเฉี่ยวด้วยล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว มาพร้อม 
AERO WHEEL COVER ที่จะช่วยลดแรงต้านลม เพิ่ม AERODYNAMIC ให้ดียิ่งขึ้น และ เพิ่มความสปอร์ต
กับสีภายนอกแบบทูโทนหลังคา


INTERIOR DESIGN: นิยามบทใหม่ของการออกแบบภายในที่ก้าวล ้ากว่าที่เคย 
ห้องโดยสารของ NEW MG VS HEV ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้มากกว่าที่เคยกับ 2 ทางเลือก สีทูโทน (ดำ-ขาว)
และสีดำ ครั้งแรกของรถกลุ่ม B-SUV

ที่มาพร้อมกับ Dual Widescreen Cockpit เสริมความสะดวกสบายในการ
ขับขี่และให้ผู้ใช้งานได้เต็มที่กับทุกกิจกรรม ด้วยจอคู่ HD ขนาดใหญ่ ที่ประกอบด้วย หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ
แบบ Full Virtual Dashboard ขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอ Touch Screen ขนาด 12.3 นิ้ว ควบคุมการทำงาน
ผ่าน Illuminated Touch Panel ล ้ากว่าที่เคยด้วยดีไซน์คอนโซลแบบ Double Layer เพิ่มอรรถประโยชน์การใช้
งานสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารเต็มขั้น

ไม่ว่าจะเป็น Wireless Charger และ ช่องเชื่อมต่อ USB TYPE C และ
TYPE A 

รวมถึงช่องปรับอากาศตอนหลัง 
 เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง พร้อมที่พักแขนด้านหน้า
 หลังคา Panoramic Sunroof
 
 พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ - วางสายโทรศัพท์
 กระจกมองหลังแบบตัดแสง
 ลำโพง 6 จุด
 รองรับระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android 
 ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อมปุ่ม Push Start
 ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล
 ช่องจ่ายไฟ Power Outlet 12V 
 

PERFORMANCE: ประสบการณ์สปอร์ตตี้ ไฮบริดทรงประสิทธิภาพครั้งใหม่ที่ขับสนุกและเร้าใจ 
NEW MG VS HEV มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว VTi-TECH พร้อมขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า
ท าให้ NEW MG VS HEV มีพละก าลังสูงสุดที่ 177 แรงม้า ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ E-CVT สามารถเลือกโหมด
ขับขี่ได้3 รูปแบบ ได้แก่ Eco, Comfort และ Sport
 แบตเตอรี่ Lithium-Ion
 ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ
SAFETY: ขับขี่ปลอดภัย อุ่นใจได้ทุกการเดินทาง 

NEW MG VS HEV มาพร้อมกล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ High Definition และระบบความปลอดภัยอย่าง
เต็มขั้น มั่นใจในการขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป SYNCHRONIZED PROTECTION 
SYSTEM 12 ระบบ ได้แก่
 ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
 ระบบป้องกันการไหลของรถ AVH (Auto Vehicle Hold) 
 ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS (Anti-lock Brake System) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก 
EBD (Electronic Brake force Distribution)
 ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist) 
 ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
 ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control) 
 ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) 
 ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
 ระบบควบคุมความเร็วรถขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control System)
 ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System) 
 ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
 ระบบจ ากัดความเร็ว ASL (Active Speed Limit)

CONNECTION: เชื่อมต่อไลฟ์สไตล์ได้ไม่สิ้นสุดด้วยระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART 
NEW MG VS HEV เชื่อมต่อไลฟ์สไตล์ในยุคดิจิทัลเข้ากับฟังก์ชันอันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์เอ็มจี 
ด้วยระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART มาพร้อมกับ Digital Key Technology รับ – ส่งกุญแจดิจิทัลผ่าน
สมาร์ทโฟนได้ 
เตรียมพบกับ สปอร์ตตี้ ไฮบริด เอสยูวี เหนือระดับด้วยดีไซน์ส่งมอบการขับขี่ที่สนุกและเร้าใจจากขุมพลังไฮบริด

เอสยูวีขุมพลังไฮบริด 177 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ E-CVT ภายในห้องโดยสารติดตั้ง Dual Widescreen Cockpit หน้าจอขนาด 12.3 นิ้ว จำนวน 2 จอ เตรียมเปิดราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ที่ 8 สิงหาคมนี้


 MG VS HEV 2023 ใหม่ เป็นการนำเอา MG ZS รุ่นปัจจุบันมาปรับรูปลักษณ์ด้านหน้าใหม่แสดงถึงความเป็นรถยนต์ไฮบริด ติดตั้งกระจังหน้าแบบ Electrified Matrix Grille Design พร้อมไฟหน้าแบบ LED Projector เปิด-ปิดอัตโนมัติ และไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED ติดตั้งไฟท้ายแบบ LED และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อม Aero Wheel Cover ช่วยลดแรงต้านอากาศ เพิ่มความสปอร์ตด้วยตัวถังสีทูโทนหลังคาดำ


ภายในห้องโดยสารติดตั้งหน้าจอ Dual Widescreen Cockpit เป็นครั้งแรกในรถกลุ่ม B-SUV ประกอบไปด้วยหน้าจอ Full Virtual Dashboard ขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว แสดงผลด้วยความละเอียดระดับ HD ควบคุมการทำงานผ่าน Illuminated Touch Panel พร้อมดีไซน์คอนโซลแบบ Double Layer เสริมด้วยอุปกรณ์มาตรฐาน เช่น ระบบที่ชาร์จไร้สาย Wireless Charger, ช่องเชื่อมต่อ USB-A/USB-C และช่องปรับอากาศตอนหลัง

ส่วนราคา มาวันที่ 8.8 นี้ ครับ