คือบ้านอยู่ติดกันเลยไม่มีกำเเพงระยะหว่างบ้านประมาณ 2 เมตร เพราะเป็นญาติสนิทกันอยู่มานาน เเต่คือข้างบ้านจะมีเเค่คนเดียวที่เสียงดังมากๆ เช่น
เรื่องที่1 : โทรศัพท์คุยงานตอนเช้าดังมากๆ คือเเค่เสียงริงโทนก็สะดุ้งตื่นกันทั้งบ้านเเล้วเจอเสียงเจ้าตัวพูดไปอีกเหมือนใช้โทรโข่งคุยเพราะเขาเป็นคนที่เสียงดังปกติอยู่เเล้ว เเล้วจะคุยเเบบนี้ตอน 6.00น.- 9.00น. เกือบทุกวัน วันไหนเร็วหน่อยก็ออกไปทำงานตอนเเปดโมง ละคือบ้านเรามันบ้านเล็กๆไง มีอยู่2ห้องเองเเล้วเราก็นอนอยู่อะ คุยอยู่ติดกำเเพงห้องเราเลย กำเเพงบ้านทั่วไปไม่มีฉนวนกันเสียงใดๆ ได้ยินทุกคำทุกประโยคเลย
เรื่องที่2 : เอาเหล็กเอาอะไรไม่รู้มันทุบเเป๋งๆๆดังมาก อยู่บ่อยๆ ตอนเช้าๆ 6-8 โมงเช้า อาจจะไม่ทุกวันเเต่บ่อย ทุบอยู่ข้างๆกำเเพงนี่เเหละ ไม่เสียงเหล็ก ก็เสียง ตุบตับๆอะไรสักอย่าง นอนไปจะเป็นประสาทไป
เรื่องที่3 : ซ่อมรถขนาดใหญ่ 6-8 โมงเช้า คือปกติเราจะให้เขาจอดไว้ตรงลานกว้างบ้านเรา เเต่มันก็อยู่ห่างจากห้องเราเเค่ 3-4 เมตร ละซ่อมทีบริ้นๆๆๆๆๆ ตีเหล็กเคาะแป๋งๆ ละมันไม่ใช่รถคันเล็กๆไง คันใหญ่ๆเลย
เรื่องที่ 4 : ตัดหญ้า ขยันตัดหญ้ามาก เนื่องจากบริเวณบ้านเรา มันเป็นดินหญ้าก็ขึ้นรถปกติ เเต่เราก็ไม่ได้ใช้งานพื้นที่ตรงนั้นอยู่เเล้ว คือขอบคุณมากที่อุส่าห์ตั้งใจตัดให้เเต่ ตัดเเค่พอดีพองามก็พอมั้ง ไม่ต้องกวาดเอาสักทุกต้นก็ได้ ตัดทีนึง 3ชั่วโมง++ ละตัดติดๆกัน 2-3วัน วันไหนเราไม่อยู่บ้าน ไม่ตัด วันไหนจะพักผ่อนเหนื่อย เสียงเครื่องมาก่อนละ บางทีก็ตั้งเเต่ 7 โมงเช้าเลย ตัดเสร็จก็เสียงอื่นๆสารพัด สรุปละจะได้นอนไหม
ทุกเรื่องที่กล่าวมาบางทีก็เช้าบางทีก็เย็น บางทีก็ทั้งวัน เช้า บ่าย เย็น
เรื่องหลักๆก็ประมาณนี้เเหละเเต่ที่จริงมันก็มีเรื่องหยุมหยิมอีกหลายเรื่องเเต่เราก็เออปล่อยได้ปล่อย เเต่ 4 เรื่องข้างต้นคือไม่ไหวจริง คือเรื่องอี่นๆเเกเป็นคนดีนะ ช่วยเหลือเรามาหลายๆเรื่อง เรื่องอื่นคือโอเคหมดยกเว้น ชอบสร้างเสียงดังก่อกวน (เเบบโคตรๆ) นี่เเหละที่ไม่ไหว ละประเด็นคือไม่มีใครกล้าคุย กล้าบอก เเม้เเต่คนในบ้านเเกก็ตาม เพราะเเกมีนิสัยไม่ฟังใครเลย จะด้วยเหตุผลหรืออะไรก็เเล้วเเต่ถ้าจะไม่ฟังก็คือไม่ฟัง เเม้เเต่เรื่องเล็กๆน้อยๆ คนในบ้านยังพูดไม่ได้ คนอื่นอย่าหวังว่าจะคุยได้ ละเเกเป็นคนเสียงดังมากอยู่เเล้วเลยไม่มีใครเถียงเเกไหวสักคน ญาติๆ3-4 บ้านที่สนิทกันยังรู้ๆกันเลย ไม่มีใครกล้าเเหยม จะเอาเรื่องก็เอาไม่ได้เพราะเราต้องพึ่งพาอาศัยเขา เช่นพื้นที่เปิดร้าน เรื่องในชีวิตประจำวันต่างๆ เช่น ไปรับไปส่งบ้างในบางครั้ง คือเราก็ขอบคุณในบุญคุณทุกๆอย่างนะ ยกเว้นเรื่องนี้ คือมันเกินไปอะ ต่อให้เราทำดีกับใครเเค่ไหนเราก็ไม่ใช่เจ้าของชีวิตเขา ไม่มีสิทธิ์ไปรุกล้ำสิทธิ์ในชีวิตเขาจริงปะ เราก็อยู่ของเราเงียบๆดีๆ ไม่เคยไปก่อความเดือดร้อนเรื่องเสียงดังให้เลย ละเราต้องถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียวโดยที่ไม่สามารถสู้อะไรได้เลย เพราะเราจำเป็นต้องพึ่งเขา ถ้าเขาไม่พอใจขึ้นมาเราก็จบ เหมือนสร้างบุญคุณไว้ละจะทำอะไรกับชีวิตเราก็ได้หรอ ความเกรงใจกันอยู่ตรงไหน สามัญสำนึกต่างๆ รู้ก็รู้อยู่บ้านเรามีเเค่นั้นคนมันก็ต้องอยู่ในนั้น ไม่มีทางที่จะไม่รู้ ว่ามีคนอยู่ รถก็จอดอยู่ รู้ทั้งรู้เเหละเเต่ทำไมฉันจะทำงี้หรอ คิดว่าเรามีที่มุดหัวหนีรึไง คิดว่าจะมุดหัวไปหลบอยู่ใต้ดินหรอ? เเล้วเป็นแบบนี้มานานเเล้วนะ เเต่ก็ทำเหมือนเดิม วิธีเดียวคือย้ายบ้านหนี กับสร้างห้องกันเสียง เเต่คำถามคือย้ายบ้านคือไม่ใช่จะหาตังได้ง่ายๆนะ เเล้วห้องกันเสียงก็ไม่ใช่ถูกๆ ละต้องกันระดับไหนถึงจะกันเสียงที่ประชิดกำเเพงห้องดังปรอทเเตกนี้ได้ ทำไมรู้สึกชีวิตต้องถูกคุกคาม ถูกกระทำเเบบไม่มีทางเลือกเเบบนี้ด้วย ละอีกสาเหตุที่ไม่อยากเอาเรื่องเพราะ คนในบ้านเขาจะเดือดร้อนไปด้วยทั้งๆที่คนอื่นๆก็ไม่ได้สร้างความเดือดร้อน ลำบากใจมาก
ข้างบ้านเสียงดังเเบบดังเกือบทุกวันจริงๆ
เรื่องที่1 : โทรศัพท์คุยงานตอนเช้าดังมากๆ คือเเค่เสียงริงโทนก็สะดุ้งตื่นกันทั้งบ้านเเล้วเจอเสียงเจ้าตัวพูดไปอีกเหมือนใช้โทรโข่งคุยเพราะเขาเป็นคนที่เสียงดังปกติอยู่เเล้ว เเล้วจะคุยเเบบนี้ตอน 6.00น.- 9.00น. เกือบทุกวัน วันไหนเร็วหน่อยก็ออกไปทำงานตอนเเปดโมง ละคือบ้านเรามันบ้านเล็กๆไง มีอยู่2ห้องเองเเล้วเราก็นอนอยู่อะ คุยอยู่ติดกำเเพงห้องเราเลย กำเเพงบ้านทั่วไปไม่มีฉนวนกันเสียงใดๆ ได้ยินทุกคำทุกประโยคเลย
เรื่องที่2 : เอาเหล็กเอาอะไรไม่รู้มันทุบเเป๋งๆๆดังมาก อยู่บ่อยๆ ตอนเช้าๆ 6-8 โมงเช้า อาจจะไม่ทุกวันเเต่บ่อย ทุบอยู่ข้างๆกำเเพงนี่เเหละ ไม่เสียงเหล็ก ก็เสียง ตุบตับๆอะไรสักอย่าง นอนไปจะเป็นประสาทไป
เรื่องที่3 : ซ่อมรถขนาดใหญ่ 6-8 โมงเช้า คือปกติเราจะให้เขาจอดไว้ตรงลานกว้างบ้านเรา เเต่มันก็อยู่ห่างจากห้องเราเเค่ 3-4 เมตร ละซ่อมทีบริ้นๆๆๆๆๆ ตีเหล็กเคาะแป๋งๆ ละมันไม่ใช่รถคันเล็กๆไง คันใหญ่ๆเลย
เรื่องที่ 4 : ตัดหญ้า ขยันตัดหญ้ามาก เนื่องจากบริเวณบ้านเรา มันเป็นดินหญ้าก็ขึ้นรถปกติ เเต่เราก็ไม่ได้ใช้งานพื้นที่ตรงนั้นอยู่เเล้ว คือขอบคุณมากที่อุส่าห์ตั้งใจตัดให้เเต่ ตัดเเค่พอดีพองามก็พอมั้ง ไม่ต้องกวาดเอาสักทุกต้นก็ได้ ตัดทีนึง 3ชั่วโมง++ ละตัดติดๆกัน 2-3วัน วันไหนเราไม่อยู่บ้าน ไม่ตัด วันไหนจะพักผ่อนเหนื่อย เสียงเครื่องมาก่อนละ บางทีก็ตั้งเเต่ 7 โมงเช้าเลย ตัดเสร็จก็เสียงอื่นๆสารพัด สรุปละจะได้นอนไหม
ทุกเรื่องที่กล่าวมาบางทีก็เช้าบางทีก็เย็น บางทีก็ทั้งวัน เช้า บ่าย เย็น
เรื่องหลักๆก็ประมาณนี้เเหละเเต่ที่จริงมันก็มีเรื่องหยุมหยิมอีกหลายเรื่องเเต่เราก็เออปล่อยได้ปล่อย เเต่ 4 เรื่องข้างต้นคือไม่ไหวจริง คือเรื่องอี่นๆเเกเป็นคนดีนะ ช่วยเหลือเรามาหลายๆเรื่อง เรื่องอื่นคือโอเคหมดยกเว้น ชอบสร้างเสียงดังก่อกวน (เเบบโคตรๆ) นี่เเหละที่ไม่ไหว ละประเด็นคือไม่มีใครกล้าคุย กล้าบอก เเม้เเต่คนในบ้านเเกก็ตาม เพราะเเกมีนิสัยไม่ฟังใครเลย จะด้วยเหตุผลหรืออะไรก็เเล้วเเต่ถ้าจะไม่ฟังก็คือไม่ฟัง เเม้เเต่เรื่องเล็กๆน้อยๆ คนในบ้านยังพูดไม่ได้ คนอื่นอย่าหวังว่าจะคุยได้ ละเเกเป็นคนเสียงดังมากอยู่เเล้วเลยไม่มีใครเถียงเเกไหวสักคน ญาติๆ3-4 บ้านที่สนิทกันยังรู้ๆกันเลย ไม่มีใครกล้าเเหยม จะเอาเรื่องก็เอาไม่ได้เพราะเราต้องพึ่งพาอาศัยเขา เช่นพื้นที่เปิดร้าน เรื่องในชีวิตประจำวันต่างๆ เช่น ไปรับไปส่งบ้างในบางครั้ง คือเราก็ขอบคุณในบุญคุณทุกๆอย่างนะ ยกเว้นเรื่องนี้ คือมันเกินไปอะ ต่อให้เราทำดีกับใครเเค่ไหนเราก็ไม่ใช่เจ้าของชีวิตเขา ไม่มีสิทธิ์ไปรุกล้ำสิทธิ์ในชีวิตเขาจริงปะ เราก็อยู่ของเราเงียบๆดีๆ ไม่เคยไปก่อความเดือดร้อนเรื่องเสียงดังให้เลย ละเราต้องถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียวโดยที่ไม่สามารถสู้อะไรได้เลย เพราะเราจำเป็นต้องพึ่งเขา ถ้าเขาไม่พอใจขึ้นมาเราก็จบ เหมือนสร้างบุญคุณไว้ละจะทำอะไรกับชีวิตเราก็ได้หรอ ความเกรงใจกันอยู่ตรงไหน สามัญสำนึกต่างๆ รู้ก็รู้อยู่บ้านเรามีเเค่นั้นคนมันก็ต้องอยู่ในนั้น ไม่มีทางที่จะไม่รู้ ว่ามีคนอยู่ รถก็จอดอยู่ รู้ทั้งรู้เเหละเเต่ทำไมฉันจะทำงี้หรอ คิดว่าเรามีที่มุดหัวหนีรึไง คิดว่าจะมุดหัวไปหลบอยู่ใต้ดินหรอ? เเล้วเป็นแบบนี้มานานเเล้วนะ เเต่ก็ทำเหมือนเดิม วิธีเดียวคือย้ายบ้านหนี กับสร้างห้องกันเสียง เเต่คำถามคือย้ายบ้านคือไม่ใช่จะหาตังได้ง่ายๆนะ เเล้วห้องกันเสียงก็ไม่ใช่ถูกๆ ละต้องกันระดับไหนถึงจะกันเสียงที่ประชิดกำเเพงห้องดังปรอทเเตกนี้ได้ ทำไมรู้สึกชีวิตต้องถูกคุกคาม ถูกกระทำเเบบไม่มีทางเลือกเเบบนี้ด้วย ละอีกสาเหตุที่ไม่อยากเอาเรื่องเพราะ คนในบ้านเขาจะเดือดร้อนไปด้วยทั้งๆที่คนอื่นๆก็ไม่ได้สร้างความเดือดร้อน ลำบากใจมาก