สายตาเย็นชาคู่นั้น

ได้ยินข่าวการจัดช่วงอายุวัยรุ่นใหม่ จากสื่อไหนสักที่ เนื่องจากประชากรโลกมีอายุเฉลี่ยสูงขึ้น วัยรุ่นตอนปลายสิ้นสุดที่ 45 ปี .. เออม เลยวัยมานิดเดียว 
ย้อนเวลาไป 2 ปีก่อน คือช่วงเวลาเปลี่ยนแปลงใหญ่ของชีวิตวัยรุ่นตอนปลาย โลกหมุนรอบเรา เอาเรื่องราวมากมายมาฝาก ชีวิตวัยรุ่นตอนปลายไม่ค่อยมีความสุขนัก 
 
โดยเฉพาะสายตาของคนข้างๆ ที่มองมา เย็นชาลงทุกวันๆ อย่างน่าสังเกต ชายวัยรุ่นตอนปลายยิ่งเริ่มไตร่ตรอง มองย้อน และทบทวน คนข้างๆที่เคยคิดว่าจะอยู่ข้างๆกันไปตลอด อาจไม่เป็นแบบที่คิด สัญชาตญาณ ความช่างสังเกตุ สัมผัสพิเศษที่เชี่ยวชาญ เริ่มทำงาน และรู้สึกได้ถึงสิ่งต่างๆที่กำลังจะต้องเกิดขึ้นในไม่ช้า
 
ด้วยความขลาดเขลา ก็ยังได้แต่หลอกตัวเองให้ผ่านไปวันๆ ไม่กล้าที่จะเปิดใจ พูดคุย หรือลองแก้ไขบาดแผลใดๆ ระหว่างกัน ยังคงปล่อยผ่านให้มันผังลึกลงไปเรื่อยๆ ยังคงแสดงความเป็นตัวตนที่เกรี้ยวกราด เพื่อปลอดปล่อยความรู้สึกเย็นชาที่ได้รับ เพื่อหนีปัญหาที่ค้างคา และเพื่อให้เรื่องราวมันดำเนินไปเรื่อยๆ ผ่านไปอีกวันและอีกวัน 
 
และเมื่อถึงเวลาของคนเย็นชา เจ้าของสายตาคู่นั้นเกินจะอัดอั้น เรื่องราวของรอยร้าวก็กลายเป็นระเบิดเวลา พลั่งพลูออกมาเป็นเรื่องราวหลายปี ที่ชายวัยรุ่นตอนปลายสร้างไว้ ทิ้งเจ้าของสายตาเย็นชาไว้ข้างหลังคนเดียว ลืมดูแลสายตาคู่นั้น แถมทำร้ายจิตใจมากมากเสียเหลือเกิน 
 
และในวันที่ชายวัยรุ่นตอนปลาย เลยวัย กลายเป็นชายวัยกลางคน เมื่อร้อยเรียงเรื่องราวมากมาย จึงเพิ่งเข้าใจสิ่งที่เคยทำไว้ บาดแผลทีละเล็กละน้อย ฝังลึกลงในหัวใจเล็กๆ จนเกิดสายตาเย็นชาคู่นั้น และนำมาสู่เรื่องราวบทใหม่ของชีวิต วันที่ระเบิดเวลาได้ระเบิดออกมา วันที่สายตาเย็นชา ต้องการมองหารักครั้งใหม่ วันที่สายตาเย็นชาคู่นั้น อยากเดินออกไปสู่ความเป็นอิสระ วันนั้นสายตาเย็นชาคู่นั้นเริ่มมีแววตาสดใสขึ้นทันที เพราะได้ส่งมอบความทุกข์มากมายตลอดหลายปี มาสู่ชายวัยกลางคน คนนี้ ให้แบกไว้บ้าง 
 
ปัจจุบันเค้าไม่ใช่วัยรุ่นอีกแล้ว เพราะวัยรุ่นคงไม่สามารถแบกความทุกข์ได้เท่านี้ เค้าคือชายกลางคนผู้ซึ่งเคยทะนงตัวเองมาตลอดว่าสามารถรับมือกับทุกสิ่งทุกอย่างได้อย่างสบาย ประคับประคองสิ่งมีชีวิตรอบตัวที่เดินเข้ามาในชีวิตของเค้าด้วยกราฟชีวิตแนวระนาบตลอดหลายสิบปี ไม่มีขึ้นลง หรือหวือหวา จนผู้คนรอบกายต่างอิจฉา ชายผู้ประคองคนรอบกายไว้ด้วยการโอบกอด คำปลอบประโลม แสนอบอุ่น มิตรภาพมากมาย รายล้อมด้วยผู้คนที่ปรารถนาดี แต่เค้ากลับหลงระเริงกับความเหงา ความโดดเดี่ยวจากชายตาคู่นั้น เค้าจึงตีตัวออกห่างเจ้าของสายตาเย็นชาคู่นั้น ทั้งๆที่ใจยังรักและผูกพัน แต่เค้าไม่กล้าพอที่จะพูด ไม่กล้าพอที่จะโอบกอด ประคอง หรือปลอบใจ เหมือนที่เคยทำกับคนรอบข้าง แต่กับคนข้างๆ เค้ากลับตอบโต้ด้วยการส่งชายตาเย็นชากลับคืนไป กลายเป็นสายตาแห่งความเจ็บปวดที่สร้างบาดแผลให้ ดวงตาทั้ง 2 คู่ อย่างไม่รู้ตัว
 
 
 
 
อดีต..
เรื่องราวของคนสองคนเริ่มต้นจากความรัก ความรักในวัยที่เหมาะสม สมควร สมบูรณ์ จับมือกัน เหมือนทั้งโลกหมุนรอบเราสองคน เพลงทุกเพลงเปิดให้เรา หญิงสาวผู้งดงาม และชายหนุ่มที่สมบูรณ์ด้วยความสุข ทั้งคู่อายุเท่ากัน รสนิยมเดียวกัน มองโลกมุมเดียวกัน ชายหนุ่มพาเธอไปพบเจอโลกของเค้า ที่มีมิตรภาพรายล้อม มีสีสัน อิ่มเอมความสุข ชีวิตที่ค่อยๆเดิน อย่างไม่ลำบาก พาเธอออกไปท่องเที่ยวพร้อมพบเจอสิ่งใหม่ โลกที่หญิงสาวไม่เคยพบเจอ หญิงสาวตกลงยอมรับโลกใบนี้ อยากเข้าไปสัมผัสให้ลึกลงไปว่าชายหนุ่มใจดีคนนี้ทำไมถึงมีความสุขมากมายนัก อยากได้ความสุขจากเค้าบ้างจัง
 
ชายหนุ่ม หลงรักหญิงสาวผู้งดงาม เธอมาพร้อมดวงตาโต สดใสสวยงาม แววตามั่นใจ เข้มแข็ง เธอคือความภูมิใจของครอบครัว เธอดูแลครอบครัวมาตั้งแต่เด็ก ไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรคที่เข้ามา เดินหน้าชีวิต ไม่เคยถอยหลัง และพยายามค้นหาความสุขของเธอให้เจอตลอดเวลา แม้ภายในใจเธอจะบอบบาง มีแผลเป็นจากปัญหามากมาย แต่ภายนอกเธอเข้มแข็งเสมอ ชายหนุ่มมอบความรักให้หมดใจ อยากดูแลหญิงสาวให้มีความสุข มองอนาคตใหม่ไปพร้อมกับเธอ ยอมทิ้งชีวิตโสดที่สนุกสนาน โลดโผน อยากที่จะมีเธอเข้ามาในโลกของเค้า ทั้งคู่จึงตกลงใช้ชีวิตร่วมกัน 
 
ในโลกของการมีชีวิตคู่ ชายหนุ่มผู้มีชีวิตโลดโผน โง่เขลา มองโลกเปลี่ยนไป ความรู้สึกของคำว่า “คู่ชีวิต” เข้าครอบงำเค้า ชายหนุ่มขยับตัวเองขึ้นไปเหนือกว่าคู่ของเค้า เพราะสถานะของผู้ชาย เค้ากดความรู้สึกหญิงสาวผู้น่ารักไว้ใต้คำพูดดูแขลน การเอาชนะ การเป็นเจ้าของ การคาดหวัง แม้ว่าการกระทำใดๆที่แสดงออกไปทำร้ายจิตใจทั้งคู่ แต่ชายหนุ่มยังรักเธอ และรักดวงตาคู่นั้นไม่เจือจาง 
 
 คู่ชีวิต ต่างจาก ชีวิตคู่ คำสองคำที่ต่างกันมาก ทั้งสองคนมาจากคนละที่ ประสบการณ์ชีวิตที่แตกต่าง บาดแผล ที่แตกต่าง การใช้ชีวิตคู่ช่างยากลำบาก สับสน ชายหนุ่มไม่เคยหยุดชีวิตโลดโผน และยังคงเกรี้ยวกราดตามอารมณ์ แค่ลดน้อยลงตามวัยและสถานะ 
หญิงสาว ไม่เคยหยุดความอ่อนแอในใจ ไม่เคยลืมบาดแผลเล็กน้อยในอดีต คอยหยิบกลับมาทำลายความรักตลอดเวลา จนวันที่ทั้งคู่ตกลงมีพยานรัก ทุกสิ่งเหมือนจะดีขึ้น ทุกความรักเทไปที่สิ่งที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตของสองเรา ใช้เวลาทุ่มเทมอบความรักให้หมดใจ แต่ความจริงสวนทาง คู่รักเริ่มห่างออกไปไกลกว่าเดิม ความสัมพันธ์ห่างเหินกว่าเดิม ความรักของคนรักจางหาย เพราะทุ่มเททั้งหมดให้กับความรักของดวงใจเล็กๆ ที่กำลังเติบโต
 
ทั้งคู่รู้สึกได้ แต่ใครคือคนขี้ขลาด คนที่เดินห่างออกไป … ชายหนุ่มผู้ขี้ขลาด หลอกตัวเองว่าความรักที่มีให้ทุกคน ทุกดวงตาที่งดงาม ดวงตาเล็กๆที่ถอดแบบมาจากหญิงสาว คือความรักที่ยิ่งใหญ่ ที่เค้าทำให้ได้ เค้าทำดีที่สุดแล้ว ดูแลทุกสิ่งแล้ว ทำไมหญิงสาวไม่เข้าใจเค้า ตัวตนของเค้าทำไมรับเค้าในแบบนี้ไม่ได้ ชายหนุ่มยังทะนงตัวเองกับความทุ่มเทของเค้า 
ตลอดหลายปี เรื่องราวยิ่งแย่ลง เค้าลืมดูแลคนรักในอดีต เค้ามัวดูแลแม่ของลูกๆ ความเหินห่างเข้ามาแทนที่ตรงกลาง 
ความสัมพันธ์เริ่มซับซ้อน สัมผัสที่อบอุ่นเริ่มจางหายไป หญิงสาวตอบแทนเค้าด้วยความเย็นชาพร้อมดวงตาที่เปลี่ยนไป
 
หญิงสาวที่บอบบางใช้ความรู้สึกนำทางชีวิตคู่ เธอจมกับความเจ็บปวด บนความเปราะบางของบาดแผลในจิตใจเธอ แต่เธอไม่เคยอธิบาย ชายหนุ่มผู้โง่เขลา แสร้งไม่เข้าใจเธอ ยังคงใช้อารมณ์นำทาง ใช้คำพูดกัดกร่อยหัวใจ เพื่อเป็นผู้ชนะเสมอมา เมื่อสำนึกผิดได้ ชายหนุ่มก็ก้าวเข้าสู่ชายวัยกลางคนผู้เจ็บช้ำและผิดหวังที่สุด 
 
เมื่อความสัมพันธ์เข้าขั้นวิกฤต เกินกว่าจะเยียวยา หญิงสาวไม่พูดในสิ่งที่ต้องเอ่ย ชายหนุ่มไม่กล้าที่จะโอบกอดในสิ่งที่เค้ารักมากที่สุด ชีวิตคู่จึงเดินทางมาถึงตอนที่แตกสลาย เหลือไว้แต่สิ่งสำคัญกว่าคู่รัก นั้นคือดวงตาคู่เล็กๆสวยงามทั้ง2 คู่ ที่มองเค้าทั้งสองคนอยู่ ผูกเกี่ยวคำว่า ครอบครัวไว้ แม้จะเจ็บปวดเพียงใด หญิงสาวเจ้าของสายตาเย็นชาคู่นั้น และชายวัยกลางคนก็ยังต้องทนความเจ็บปวดอยู่ 
 
หญิงสาวเข้มแข็งกว่าเค้าเยอะ ผ่านอะไรมามากมาย สู้อะไรมามากมาย แต่ชายหนุ่มวัยกลางคน ผู้เสพแต่ความสุข เมื่อรับรู้เรื่องราว ก็ทนรับไม่ไหว เค้าไม่สามารถรับมือจัดการความเจ็บปวดนี้ได้ เค้าเสียหลักและเสียใจที่สุด เค้าก้าวข้ามผ่านความทุกข์ใจไม่ไหวอีกแล้ว คำสัญญาที่จะดูแลครอบครัวอาจทำไม่ได้อีก และนี้คือเรื่องราวของเค้าและเธอ ชายหนุ่มผู้โง่เขลาและหญิงสาวเจ้าของดวงตาเย็นชาคู่นั้น 
 
วันหนึ่งของทุกวันในวันที่แตกสลาย 
หลายวัน หลายเดือนรวมเป็นปี ที่ชายวัยกลางคนเริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนไป แต่ยังคงหลอกตัวเองให้ผ่านไปอีกวัน เค้ารับรู้ว่าหญิงสาว มองเค้าด้วยสายตาเปลี่ยนไป เค้าครุ่นคิดและพยายามแก้ไข จนวันที่สามารถรวบรวมความกล้าทั้งหมดเดินไปหาหญิงสาว และระเบิดคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเรา 
 
ชายวัยกลางคนรับรู้ รู้สึกตลอดเวลาว่าเค้าทิ้งคนรัก แม่ของลูก ภรรยา เค้าไว้นานเกิน หลายปีที่ไม่เคยจับมือ ไม่เคยให้เวลาสองคนร่วมกัน เค้าคิดเสมอว่าไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดี และคิดเผื่อว่าเธอคงต้องไปหาที่พึ่งทางใจกับคนใหม่ แต่ชายวัยกลางคนยังคงปลอมใจตัวเอง ว่าปล่อยให้ทุกสิ่งดำเนินแบบนี้ แบบที่ทุกคนทำหน้าที่ของกันและกัน ดูแลกันไปในแบบที่ควรจะเป็น อย่าไปรับรู้อะไรมาก และเค้ายังคงใช้ชีวิตโลดโผน หลอกตัวเองอย่างมีความสุขต่อไป 
จนวันที่ทุกสิ่งสวนทาง คำถามเกิดในใจ และกล้าที่จะเข้าไปถาม ..
ชายหนุ่ม : เกิดอะไรขึ้นระหว่างเรา 
หญิงสาว : ราไม่รักกันนานแล้ว  ฉันไม่รักเธอแล้ว เราอยู่กันแบบนี้แหละ เพื่อลูกๆ หลายปีที่เธอทิ้งชั้นไว้คนเดียว เธอจะต้องการอะไรจากฉัน 
ชายหนุ่ม : งั้นเราคงต้องเลิกกัน 
……………………………
 
บทสนทนาที่กัดกินหัวใจทั้งคู่ หญิงสาวสาดอารมณ์ระบายความในใจจนหมดหลายปีที่เจ็บซ้ำ 
ชายหนุ่มงุนงง และหาทางออกไม่เจอ เดินหนีปัญหา และปล่อยให้มันผ่านไปเหมือนเคย 
 
วันคืนผ่านไป ชายหนุ่มครุ่นคิด ชีวิตคู่ และคู่ชีวิต กำลังจะถึงจุดจบจริงหรือ ไม่จริงใช่มั้ย เค้าเริ่มหาคำตอบ 
แต่ดูเหมือนโชคชะตา เล่นตลก ในที่สุดเค้าก็พบบางสิ่งยืนยันว่า เธอหมดใจ ปันใจให้คนอื่น คนที่คอยปลอบประโลมหัวใจเธอ คนที่เธอเคยรู้สึก คนที่เธอเคยหวัง แต่เป็นไปไม่ได้ เพราะเธอรักเด็กน้อยที่มีดวงตาเหมือนเธอ และยังต้องการพ่อของเด็กน้อย แต่เธอไม่ได้รักชายวัยกลางคนคนนี้อีกแล้ว คนที่ทำร้ายจิตใจเธอมาตลอด เธอร้องไห้ เสียใจ และหมดใจ 
 
-------------------------------------------------------------------------------------------------
เหมือนโลกพังทลาย
เมื่อชายหนุ่ม (วัยกลางคน) รับรู้ข้อความ เหมือนโลกทั้งใบของความทะนงได้พังทลายไป เค้าเดินต่อไปไม่ได้อีก เค้าขอร้องให้หญิงสาวเล่าเรื่องของความรู้สึกทั้งหมดที่เกิดขึ้น เพื่อเยียวยาหัวใจที่บอบซ้ำของเค้า
ยิ่งเค้ารับรู้ว่า ตลอดหลายปี ที่ชายหนุ่มาสร้างความทุกข์ สร้างรอยร้าว สร้างสายตาเย็นชาคู่นั้น ชายหนุ่มยิ่งเสียใจแค่ไหน มันเกินกว่าจะบรรยายได้ ความผิดที่เค้าสร้าง ก่อเป็นกำแพงอิฐแกร่ง บดบังทุกสิ่งจากเค้า จนเธอเลือกเปิดใจลองรับการเยียวยาจากคนอื่น บาดแผลของเธอมันใหญ่เกินกว่าชายหนุ่มจะเข้าใจ แม้จะพยายามเข้าไปแก้ไข แต่กำแพงที่หญิงสาวได้สร้างขึ้น เพื่อบดบังความรู้สึกผิดของเธอต่อเค้า และความเสียใจที่ผ่านมาของเธอ มันสูงเกินกว่าชายหนุ่มจะปีนข้ามมันไปได้ อิฐทุกก้อนของกำแพงนี้มาจากความผิดที่ชายหนุ่มก่อขึ้น หญิงสาวกล่าวเปลยให้ได้คิด..
 
 
เหมือนบางสิ่งเล่นตลกกับเรา 2 ปี ที่โลกตีกลับ เล่นงานมนุษย์ โรคร้ายพาความทุกข์มา ความรักก็เล่นงานเราหนักหน่วงเหมือนกัน ความทุกข์กลับมาอยู่ที่ชายหนุ่มผู้โง่เชลา หญิงสาวปลดปล่อยความทุกข์ใจ เธอแข็งแรง พร้อมเพรียง สดใสขึ้น เพราะวันที่เธอได้ระบายทุกสิ่ง
 
วันหนึ่งในวันที่ทุกข์ใจ ขอพูดคุยกันเพื่อระบาย
เราจับมือกัน เล่าเรื่องราวทั้งหมด ความเสียใจพลั่งพลูออกมาจากทั้งคู่ น้ำตาลูกผู้ชายไหลพร้อมเสียงสะอื้น ตลอดหลายปีแห่งความผิดพลาด 
เราไม่เคยจับมือกัน เราไม่เคยปลอบประโลมจิตใจกัน 
เราไม่เคยกินข้าวกัน 2 คน 
เราไม่เคยรู้เธอชอบหนังเรื่องอะไร ฟังเพลงอะไรอยู่ 
เธอมองเราด้วยหางตา ข่มเราตลอดเวลา
เธอไม่เคยชื่นชมเรา ไม่เคยชอบในสิ่งที่เราภูมิใจ
เธอก็มองเราด้วยสายตาเย็นชาตลอด 
เราทะเลาะกันต่อหน้าลูก 
 
ดวงตาน้อยๆ เสียใจร้องไห้ เพราะความเกรียวกราดของเธอ 
เธอไม่เคยแสดงความเป็นผู้ชายที่จะเข้ามาปลอมฉันเมื่อฉันร้องไห้ 
เธอเอาชนะในคำพูดที่ทำให้ฉันเจ็บ 
ฉันทนอยู่เพราะดวงใจน้อยๆ ของฉันทั้งสองคน 
เพระเธอเป็นพ่อที่ดี แต่เป็นคนรักที่แย่…..
ฉันไม่เคยรู้สึกเลยว่าเธอรักฉัน 
สิ่งที่ฉันทำผิด มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะเธอไม่เคยแคร์อะไรอยุ่แล้ว
เรื่องนั้นมันผ่านมาแล้ว ฉันขอแค่ให้เธออยู่ตรงนี้เพื่อหัวใจของลูกๆ 
ถึงฉันจะเกเร ซุกซน แต่ฉันไม่เคยก้าวข้ามเส้นคำว่ารัก ฉันรักเธอคนเดียว ทำไมเธอต้องเผลอใจให้ใคร
ฉันไม่ตั้งใจ ให้เป็นแบบนี้ แต่เธอไม่เคยอยู่ตรงนั้น…
เราไม่ได้รักกันแล้ว …
 
เสียงสะอื้นของหญิงสาวที่ดังในหัวใจชายหนุ่ม หลอกหลอนเค้าทุกคืน คืนแล้วคืนเล่า
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่