ปลายปี 2552 วงการโทรทัศน์ได้ถือกำเนิดบริษัทผู้ผลิตหน้าใหม่แต่มีประสบการณ์เป็นเลิศ และ “เซ้นส์ เอ็นเทอร์เทนเม้นท์” ภายใต้การนำทัพของ “เอ-วราวุธ เจนธนากุล” ก็เข้ามาประดับจอแก้วอย่างน่าภูมิใจ

ก็เพราะงานสร้างสรรค์รายการแรกคือ “ศึกน้ำผึ้งพระจันทร์” ทำให้ชื่อของ “เซ้นส์” ผงาดขึ้นทำเนียบผู้ผลิตชั้นนำในเวลาอันรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้เซ้นส์จึงเสนอรายการใหม่ ๆ ตามมาอีกหลายรูปแบบ

กระทั่งในปี 2558 รายการควิซโชว์ “ตกสิบหยิบล้าน” ซึ่งออกอากาศทางช่อง 7 HD ประสบความสำเร็จในวงกว้างด้วยเรตติ้งที่สูง ทางช่องจึงให้ความไว้วางใจต่อการเพิ่มรายการ และเซ้นส์ก็ยึดหัวหาดช่วงเย็นเรื่อยมา

แต่จู่ ๆ ในปีนี้ อันเป็นปีที่ 13 ในการดำเนินงานของเซ้นส์ก็เกิดเรื่องทั้งเคราะห์ดีและเคราะห์ร้าย ตั้งแต่การเพิ่มรายการใหม่ การปรับเปลี่ยนเวลาออกอากาศ ตลอดจนข่าวลือการย้ายช่อง และมีเสียงครหาว่า “เซ้นส์ฟอร์มตก” หรืออาจเรียกว่าเป็นปีอาถรรพ์ของบริษัทก็เห็นจะได้

การเข้ามาและจากไปในระยะเวลาอันสั้นของ “สมรภูมิกีฬา” และ “ดราม่าวันนี้” ทำให้ผู้ผลิตรายการทุกแห่งพึงตระหนักถึงปัญหา “การคิดรูปแบบรายการไม่เป็น” 

การเปลี่ยนแปลงล่าสุดปรากฏว่าเซ้นส์มีรายการโทรทัศน์ที่ยังคงทำอยู่อย่างน้อย 5 รายการ โดยช่อง 3 HD มีรายการ “คู่ไหนใช่เลย” ที่ถูกตัดเวลาเหลือเพียง 45 นาที เพื่อหลีกทางให้กับรายการใหม่จากผู้ผลิตรายอื่น
 
ส่วนช่องวัน 31 ก็เพิ่งเปลี่ยนฉากและเพิ่มตลกขาประจำในรายการ “บริษัทฮาไม่จำกัด” พร้อมกับการย้ายเวลาออกอากาศไปอยู่ในช่วงวันเสาร์ก่อนเที่ยง

แต่ที่หนักใจไม่น้อยก็คือรายการทางช่อง 7 HD  ที่เคยอยู่ในช่วงเวลาปราบเซียนจนต้องหลุดผังกะทันหัน ก็มีอันเลื่อนไปอยู่ในช่วงเวลาที่ว่ากันว่าอาจเสี่ยงขาดทุน โดยรายการ “ร้องต้องรอด” กับ “รู้หน้าไม่รู้วัย” ไปอยู่สี่ทุ่มครึ่งวันธรรมดา และ “ลูกทุ่งไอดอล” ไปอยู่เที่ยงครึ่งวันอาทิตย์

สรุปแล้วว่า “เซ้นส์” ยังไม่ได้มีการเพิ่มรายการแต่อย่างใด แต่ในฐานะผู้ชมก็เชื่อและลุ้นว่าผู้ผลิตที่กำลังอยู่ตัวเช่นนี้จะต้องปรับฟอร์มให้ดีขึ้นกว่าเก่า ซึ่งจะสามารถเลี้ยงชีพและมีแรงในการคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ ให้ดูลงตัวที่สุด

เพราะปราการด่านต่อไปของเซ้นส์ที่เราอยากเห็นเป็นที่สุดก็คือ...“ละครหลังข่าว”

ขอให้โชคดี สวัสดี.