หวัดดีเราเป็นเด็กอายุเพียง12ที่มาเขียนคือเล่าสู่กันฟังเฉยๆ เราเรย ป.1-6 มาในโรงเรียนเดิมตลอดเรามีเพื่อนสนิทแค่หนึ่งคนแม้จะมีแค่1คนแต่เค้าคนนั้นไม่เคยปล่อยให้เราเหงาเลย เราไม่คิดเลยว่าเราสองคนที่เป็นเด็กสาวตัวเล็กๆจะต้องแยกจากกัน เมื่อถึงเวลาที่ต้องเตรียมเข้า ม.1 เราก็เครียดมาก ทั้งเรื่อง สอบเข้า สอบo-net
สอบปลายภาค และไหนจะการเรียนที่ยากขึ้นทุกปีๆ เราเครียดร้องไห้ทุกวันจอนพ่อกับแม่ต้องพาไปหาหมอจิตเวชเด็ก หมอก็ให้คำแนะนำและยามากินสักพักก็ดีขึ้นเพราะเราสอบเข้าได้ เมื่อถึงวันแรกที่ต้องเข้าโรงเรียนใหม่เราก็ตื่นเต้นมากแต่ในวันนั้นเพื่อนใหม่ก็ใจดีกับเรามากแต่พอผ่านไปเพียงหนึ่งวันเพื่อนฝหม่ก็เรื่อมที่จะใจร้ายกับเรา(เราขอไม่ระบุนะว่าใจร้ายยังไง)
จากนั้นเราจึงเปลี่ยนกลุ่มเพื่อนไปเรื่อยๆแต่มันก็กลับเป็นว่าเพื่อนใหม่ของเรานั้นไม่ใจดีกับเราเลย เราจึงรู้สึกเครียดและร้องไห้อีกครั้ง จากนั้นก็ไปหาหมออีกรอบก็เริ่มดีขึ้นแต่ก็ยังมีร้องไห้อยู่บ้าง เราจึงแชทไลน์คุยกับเพื่อนสนิทคนนั้น
แต่มันกลับทำให้เราอาการแย่ลงเพราะเราคิดถึงเค้าหมอจึงเพิ่มจำนวนยาและพ่อก็ให้ระงับการคุยกับเพื่อนสนิทรอให้อาการดีขึ้นแล้วค่อยคุย
เมื่ออาการดีขึ้นเราก็เริ่มคุยกับเค้าและเราก็ทำใจได้ แต่ชีวิตการมาโรงเรียนของเราตอนนี้ก็ยังต้องเจอเรื่องแย่ๆอยู่ทุกวัน ซึ่งมันทำให้เราไม่เป็นเหมือนเดิมในการใช้ชีวิตที่โรงเรียน ปกติเราเป็นคนพูดมากแต่พอมาที่นี่เราก็ไม่ค่อยพูดแต่จะเก็บไปพูดกับคนในครอบครัวแทน เราจึงลองหาสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขเมื่อเราอยากจะลองเข้าวงการแม่ก็ยอมแต่ตอนนี้เรายังไม่ได้เข้าวงการนะ แล้วพรุ้งนี้เป็นวันที่หมอนัดแล้วเป็นกำลังใจให้เราด้วยนะ
เรื่องราวชีวิตการเข้า ม.1
สอบปลายภาค และไหนจะการเรียนที่ยากขึ้นทุกปีๆ เราเครียดร้องไห้ทุกวันจอนพ่อกับแม่ต้องพาไปหาหมอจิตเวชเด็ก หมอก็ให้คำแนะนำและยามากินสักพักก็ดีขึ้นเพราะเราสอบเข้าได้ เมื่อถึงวันแรกที่ต้องเข้าโรงเรียนใหม่เราก็ตื่นเต้นมากแต่ในวันนั้นเพื่อนใหม่ก็ใจดีกับเรามากแต่พอผ่านไปเพียงหนึ่งวันเพื่อนฝหม่ก็เรื่อมที่จะใจร้ายกับเรา(เราขอไม่ระบุนะว่าใจร้ายยังไง)
จากนั้นเราจึงเปลี่ยนกลุ่มเพื่อนไปเรื่อยๆแต่มันก็กลับเป็นว่าเพื่อนใหม่ของเรานั้นไม่ใจดีกับเราเลย เราจึงรู้สึกเครียดและร้องไห้อีกครั้ง จากนั้นก็ไปหาหมออีกรอบก็เริ่มดีขึ้นแต่ก็ยังมีร้องไห้อยู่บ้าง เราจึงแชทไลน์คุยกับเพื่อนสนิทคนนั้น
แต่มันกลับทำให้เราอาการแย่ลงเพราะเราคิดถึงเค้าหมอจึงเพิ่มจำนวนยาและพ่อก็ให้ระงับการคุยกับเพื่อนสนิทรอให้อาการดีขึ้นแล้วค่อยคุย
เมื่ออาการดีขึ้นเราก็เริ่มคุยกับเค้าและเราก็ทำใจได้ แต่ชีวิตการมาโรงเรียนของเราตอนนี้ก็ยังต้องเจอเรื่องแย่ๆอยู่ทุกวัน ซึ่งมันทำให้เราไม่เป็นเหมือนเดิมในการใช้ชีวิตที่โรงเรียน ปกติเราเป็นคนพูดมากแต่พอมาที่นี่เราก็ไม่ค่อยพูดแต่จะเก็บไปพูดกับคนในครอบครัวแทน เราจึงลองหาสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขเมื่อเราอยากจะลองเข้าวงการแม่ก็ยอมแต่ตอนนี้เรายังไม่ได้เข้าวงการนะ แล้วพรุ้งนี้เป็นวันที่หมอนัดแล้วเป็นกำลังใจให้เราด้วยนะ