จบฤดูกาลการแข่งขัน VNL2022 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่สนามโบโลญญ่า ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2022 ผู้คว้าแชมป์ประจำปีนี้คือทีมบลูส์ ทีมชาติฝรั่งเศส เอาชนะเหนือ USA ในช่วงไทเบรก



ลูกทีมของ Andrea Gianni เริ่มเกมได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยการชนะสองเซตแรก (2-0)แต่แล้วทีมฝรั่งเศสก็ประสบความหย่อนคล้อยและแพ้สองเซตในต่อมา เสมอ USA 2-2 เซต

เดอะบลูส์สร้างความแตกต่างในช่วงไทเบรก นี่เป็นครั้งที่ 3 ที่ฝรั่งเศสซึ่งเป็นแชมป์โอลิมปิกที่ครองราชย์ชนะการแข่งขันครั้งนี้หลังจากคว้าชัยปี 2015 และ 2017 (ชื่อเดิมว่า WL ได้แชมป์ 2 ครั้ง)

ทีมวอลเลย์บอลฝรั่งเศสชนะการแข่งขัน Nations League ครั้งแรก ในประวัติศาสตร์ของรายการ VNL (ชื่อใหม่)

ชนะไทเบรกด้วยสกอร์ (25-16, 25-19, 15-25, 21-25, 15-10) และ Earvin Ngapeth คว้าทองมาครอง + รางวัลตัวตบหัวเสายอดเยี่ยม+ MVP








N’ Gapeth ถูกสื่อหลายสำนักยกเป็น “ผู้เล่นที่มีเวทมนต์ในสนาม”  เขาสามารถเข้าควบคุมเกมได้ทุกบทบาทและทุกสถานการณการณ์ในสนาม และมีส่วนดึงเกมมาสู่ทีมได้ แม้ในจังหวะที่เสียเปรียบของทีม และโต้กลับนำทีมเข้าขึ้นนำและมีส่วนพาทีมคว้าชัยชนะในหลายต่อหลายครั้ง






N’Gapeth ถูกยกย่องเป็นหนึ่งในนักวอลเลย์บอลชาวฝรั่งเศสที่เก่งที่สุด และยังเป็นไอดอลต่อนักกีฬารุ่นใหม่ของใครหลายๆคน นอกจากเป็นนักกีฬาอาชีพ เขายังเกิดมาอุทิศตัวเองให้เป็นนักร้องแร็ปเปอร์และนักแต่งเพลงอีกด้วย

อัลบั้มแรกของเขาเปิดตัวในปี 2010 มีชื่อว่า "Klimatizason" ในปี 2013 Klima ได้ผลิตอัลบั้มอีกชุดที่ชื่อว่า "History repeats self"




ในอดีตยังมีคนอื่นๆ บางคนที่มองว่าเขาเป็นอันธพาลและหุนหันพลันแล่น เกรี้ยวกราด อารมณ์ร้อน กล่าวโดยย่อคือผู้ยั่วยุที่พร้อมจะโจมตีกับผู้เล่นคนอื่นๆ นั่นคือภาพลักษณ์และบุคลิกที่คนภายนอกมองเขาเข้ามา


ในวัยเด็ก N'Gapeth มาจากครอบครัวที่อบอุ่นเขาถูกเลี้ยงดูด้วยความรักและความห่วงใยจากพ่อและแม่ พร้อมน้องชายที่สนิทกันมากด้วย



เขายังคงผูกพันกับพ่อของเขาซึ่งเป็นอดีตนักวอลเลย์บอลซึ่งปัจจุบันเป็นโค้ช นั่นเป็นเหตุผลที่เขาเลียนแบบพ่ออย่างรวดเร็วโดยอุทิศความหลงใหลในกีฬานี้ แม้ว่าในตอนแรกอยากจะเป็นนักฟุตบอลที่เขาชอบ แต่คำแนะนำของพ่อแม่กลับทำให้เขาเปลี่ยนใจ


“  พ่อของผมเห็นว่าผมมีช่วงเวลาที่ดีกับฟุตบอลในระดับแผนก ผมกำลังเล่นกับเพื่อนในโรงเรียนพวกที่มาจากละแวกบ้าน ในขณะที่วอลเลย์บอลไม่ได้มีบรรยากาศเดียวกัน ผมเริ่มเข้าใจเรื่องนี้จริงๆ เมื่ออายุประมาณ 13 ปีในเมืองปัวตีเย ผมเข้าสู่วอลเล่ย์บอลเพราะผมเห็นว่าผมมีคุณสมบัติและมันทำให้ผมเดินทางได้ทั่วฝรั่งเศส”เขากล่าว


ในวัยเด็ก เขาชอบเล่นกีฬา เขามีร่างกายที่แข็งแรงมาก กับเพื่อนๆเขาเข้ากันได้ดี เขามีบุคลิกที่เด็ดเดี่ยวและไม่ยอมแพ้

พ่อของเขาเล่าว่า เออร์วินเป็นเด็กที่มั่นใจตั้งแต่เด็กๆแล้ว เขารักความถูกต้อง ส่วนบุคลิกที่ดู Bad Boy ของเขา มันคือการปกป้องตัวเอง ตอนเด็กๆ เขาเคยไปชกต่อยกับเด็กที่โตกว่า เพราะการถูกเหยียดเรื่องผิวและเชื้อชาติ (เชื่อชาติแคเมอรูน) บางวันลูกชายก็ตาเขียว ตาบวมกลับมาบ้าน พ่อเคยถกเถียงกับลูกชายเกี่ยวกับประเด็นนี้ พ่อสอนลูกเสมอว่า หากเจอคนเหยียดหรือดูถูก อย่าไปโต้ตอบให้เดินหนีและถอยห่างส่วนเออร์วิน ก็โต้ตอบกลับพ่อตลอดว่า “ทำไมต้องยอม “ นี่คือสิ่งที่เขาไม่เห็นด้วยกับคำสอนของพ่อ


ส่วนผู้เป็นแม่ เมื่อลูกถูกรังแก ก็ทำได้แค่ร้องไห้ (รวมถึง ข้อความที่เกลียดชังบนโลกออนไลน์)

“เรื่องนี้เป็นชีวิตที่ไม่ดีเลย แม่ร้องไห้กับผมทั้งน้ำตา รังเกียจที่คนพูดถึงผมแบบนั้นในสื่อ เป็นเรื่องจริงที่พฤติกรรมของบางคนทำให้ผมผิดหวัง บางครั้งแม้แต่วันนี้ก็ทำให้ผมนอนไม่หลับ ”เออวินกล่าว


ปัจจุบัน เขาเติบโตขึ้นมาก ผ่านเรื่องราวมากมาย และไม่สนใจกับคอมเม้นแย่ๆในโซเชี่ยลที่บางคนพูดถึงเขาไม่ดี



Earvin Ngapeth มีสื่อหลายสำนักพูดถึงเขา เป็นบุคคลที่มีความขัดแย้งมากที่สุดบนโลกวอลเล่ย์บอล

ในช่วงกลางเดือนมกราคม ในปี 2014 เขาปรากฏตัว ต่อหน้าศาลอาญามงต์เปลลิเยร์เพื่อตอบความรับผิดชอบในการทะเลาะวิวาทด้วยหมัด เท้า และเข็มขัด ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2013 ที่ไนท์คลับแห่งหนึ่งในเมืองลาตเตส ในช่วงเวลาเดียวกัน เขาได้ล้มลุกคลุกคลานกับสโมสรของเขา โดยกล่าวโทษผู้จัดการทีมที่ไม่ได้อำนวยความสะดวกให้เขากลับไปปัวติเยร์เพื่อไปดูการคลอดของลูกชาย


ภาพลูกชาย

เขายังเคยสร้างเรื่องโกลาหลให้กับสโมสรของ Zenit Kazan  ตอนที่ไปเล่นลีกในรัสเซีย เขาออกจากการแข่งขัน Final Four ของ Russian Cup เป็นเวลา 10 วัน


“ ผมเสียสติไปแล้วจริง” นักตบทีมชาติฝรั่งเศสยอมรับ - ที่เบอร์ลิน

“ผมคุยกับเพื่อนชาวฝรั่งเศสจาก "เบอร์ลิน" (Pujol, Le Roux, Carle, Tuya - ed.) ผมคิดถึงภรรยาของผม คิดถึงลูกๆด้วยไม่ได้เจอเด็กมาหลายเดือนแล้ว ผมไม่สามารถต้านทานต่อความคิดถึงครอบครัวได้และในเที่ยวบินแรกผมบินตรงไปปัวตีเยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากสโมสร เมื่อผมกลับมา ผมต้องจ่ายค่าปรับจำนวนมากที่ทำให้ทีมได้รับความเสียหาย ผมยอมรับกับความผิดและการกระทำของผมในครั้งนี้ “Earvin N'Gapethเปิดเผย


เขาเล่าว่า มาเล่นลีกที่รัสเซีย เหงามาก คิดถึงลูกและครอบครัวมากจนเกือบจะกลายเป็นโรคซึมเศร้า



ครั้งนึงเขาเคยถูกจับคุก 3 เดือน ในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ จับก้นสาว


เหตุการณ์ตอนนั้นคือมีงานปาร์ตี้ที่สโมสร Chalazinho ในเขต Estoril
N'Gapeth ยอมรับว่า เขาได้จับก้นผู้หญิงคนนั่นจริง แต่เป็นเพียงความเขาใจผิด เขาอธิบายว่าเขาเข้าใจผิดว่าเธอเป็นเพื่อนของเขาซึ่งเคยติดต่อกันที่ชาเลซินโญ่ในคืนนั้น เขาเสริมว่าในฝรั่งเศส การตบที่ก้นเป็นท่าทางที่ได้รับความนิยมในหมู่เพื่อนฝูงที่สนิท ในระหว่างการให้การเป็นพยาน เขาพยายามขอโทษผู้หญิงคนนั้น แต่คู่กรณีไม่ยอม เลยถูกศาลตัดสิน จำคุก และปรับเงิน 3,000 ยูโร


พฤติกรรมผิดปกติ อารมณ์ร้อนเกินไป หลายสิ่งถูกตำหนิใน Earvin N'Gapeth แต่สิ่งนี้ไม่ได้ขัดขวางเขาจากการให้ความสุขกับผู้ที่ชื่นชอบวอลเลย์บอลหลายหมื่นคนในฝรั่งเศส เช่นเดียวกับสิ่งที่ทุกคนมีคุณสมบัติและข้อบกพร่องของตนเอง

ถึงแม้ Earvin N'Gapeth จะเป็นนักกีฬาที่เคยกระทำความผิดพลาดบางสิ่งบางอย่างในอดีต แต่ปัจจุบันเขาถูกยกเป็นนีกกีฬาที่เก่งที่สุดในโลก ผู้สร้างประวัติศาสตร์ให้กับทีมชาติฝรั่งเศสอย่างต่อเนื่อง นำความภาคภูมิใจมาสู่ประเทศชาติและครอบครัว เขาเป็นนักกีฬาในตำนานอย่างแน่นอนที่สุด