ปัญหาต่อมทอนซิลอักเสบพบได้บ่อยทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ โดยจะมีอาการมากน้อยแตกต่างกันออกไป
หากมีการอักเสบบ่อย ๆ เป็นซ้ำหลาย ๆ ครั้งภายในปีเดียว อาจเรื้อรังจนรุนแรงได้ จึงไม่ควรชะล่าใจ
วันนี้พี่หมอฝั่งธน...จะมาให้ความรู้ ต่อมทอนซิลอักเสบเป็นอย่างไร
ต่อมทอนซิล คืออะไร?
เป็นต่อมน้ำเหลือง 2 ต่อมคู่ข้างซ้ายและขวาในลำคอที่อยู่ด้านข้างใกล้กับโคนลิ้น
มีหน้าที่หลักในการจับและทำลายเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายผ่านทางเดินอาหาร และช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ให้กับร่างกาย
ทอนซิลอักเสบ ส่วนใหญ่เกิดจากไวรัสและการติดเชื้อแบคทีเรีย
สังเกตอาการหรือสัญญาณเตือนของโรคต่อมทอนซิลอักเสบ
ต่อมทอนซิลบวมแดง กดแล้วเจ็บ กลืนอาหารลำบาก เจ็บคอเวลากลืน ปวดศีรษะ มีไข้ หนาวสั่น
เสียงแหบหรือเสียงเปลี่ยน เนื่องมาจากภาวะต่อมทอนซิลโต มีกลิ่นปาก
คลำได้ต่อมน้ำเหลืองที่คอบวม โต ปวดร้าวที่หู อาจมีอาการอาเจียนหลังรับประทานอาหาร
เมื่อเป็นต่อมทอนซิลอักเสบ คนไข้สามารถดูแลตนเองในเบื้องต้น พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้คอชุ่มชื้น
รับประทานอาหารอ่อนๆ เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม และดื่มเครื่องดื่มที่ช่วยให้สบายคอ เช่น น้ำอุ่น ชาที่ปราศจากคาเฟอีน น้ำอุ่นผสมน้ำผึ้ง
กลั้วปากด้วยน้ำเกลือ จะช่วยให้บรรเทาอาการเจ็บคอลงได้ รักษาความชุ่มชื้นของบ้าน
หลีกเลี่ยงอากาศแห้งเนื่องจากจะส่งผลให้ระคายเคืองที่คอและเจ็บคอยิ่งขึ้น
เด็กที่อายุมากกว่า 4 ปีขึ้นไปอาจอมยาอมเพื่อบรรเทาอาการระคายคอ
หลีกเลี่ยงสารที่ก่อความระคายเคืองที่คอ เช่น ควันบุหรี่ และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทั้งหลาย
การรักษาภาวะต่อมทอนซิลอักเสบ แพทย์จะตรวจวินิจฉัยและทำการรักษาตามอาการ
หากมีอาการอักเสบไม่มาก เจ็บคอเล็กน้อย ไม่มีไข้ อาจไม่จำเป็นต้องใช้ยาค่ะ
คนไข้ที่มีอาการมากแพทย์จะวินิจฉัยให้รักษาโดยการใช้ยาปฏิชีวนะ
เช่น การให้ยาบรรเทาอาการเจ็บคอ ยาลดน้ำมูก หรือลดไข้ ให้ยาแก้อักเสบเพื่อกำจัดเชื้อที่เป็นสาเหตุ
ถ้าการอักเสบนั้นเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ส่วนใหญ่คนไข้โรคต่อมทอนซิลอักเสบ จะมีอาการดีขึ้นในช่วง 3-7 วันหลังเข้ารับการรักษา
การรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด กรณีที่การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะไม่ได้ผล เกิดภาวะแทรกซ้อนมีภาวะต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรัง
อาจจะต้องทำการรักษาโดยการผ่าตัด ตัดต่อมทอนซิล
การรักษาโดยวิธีการผ่าตัดจะช่วยให้อาการต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรังหายเป็นปกติได้
คนไข้ควรปรึกษาพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ และรักษาอย่างถูกต้องเพราะต่อมทอนซิลที่เกิดการอักเสบ
จะส่งผลกระทบต่อคุณภาพในการใช้ชีวิตประจำวัน หรืออาจส่งผลให้เกิดโรคร้ายแรงได้ค่ะ
มารู้จัก..ต่อมทอนซิลอักเสบเป็นอย่างไร?
หากมีการอักเสบบ่อย ๆ เป็นซ้ำหลาย ๆ ครั้งภายในปีเดียว อาจเรื้อรังจนรุนแรงได้ จึงไม่ควรชะล่าใจ
วันนี้พี่หมอฝั่งธน...จะมาให้ความรู้ ต่อมทอนซิลอักเสบเป็นอย่างไร
ต่อมทอนซิล คืออะไร?
เป็นต่อมน้ำเหลือง 2 ต่อมคู่ข้างซ้ายและขวาในลำคอที่อยู่ด้านข้างใกล้กับโคนลิ้น
มีหน้าที่หลักในการจับและทำลายเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายผ่านทางเดินอาหาร และช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ให้กับร่างกาย
ทอนซิลอักเสบ ส่วนใหญ่เกิดจากไวรัสและการติดเชื้อแบคทีเรีย
สังเกตอาการหรือสัญญาณเตือนของโรคต่อมทอนซิลอักเสบ
ต่อมทอนซิลบวมแดง กดแล้วเจ็บ กลืนอาหารลำบาก เจ็บคอเวลากลืน ปวดศีรษะ มีไข้ หนาวสั่น
เสียงแหบหรือเสียงเปลี่ยน เนื่องมาจากภาวะต่อมทอนซิลโต มีกลิ่นปาก
คลำได้ต่อมน้ำเหลืองที่คอบวม โต ปวดร้าวที่หู อาจมีอาการอาเจียนหลังรับประทานอาหาร
เมื่อเป็นต่อมทอนซิลอักเสบ คนไข้สามารถดูแลตนเองในเบื้องต้น พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้คอชุ่มชื้น
รับประทานอาหารอ่อนๆ เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม และดื่มเครื่องดื่มที่ช่วยให้สบายคอ เช่น น้ำอุ่น ชาที่ปราศจากคาเฟอีน น้ำอุ่นผสมน้ำผึ้ง
กลั้วปากด้วยน้ำเกลือ จะช่วยให้บรรเทาอาการเจ็บคอลงได้ รักษาความชุ่มชื้นของบ้าน
หลีกเลี่ยงอากาศแห้งเนื่องจากจะส่งผลให้ระคายเคืองที่คอและเจ็บคอยิ่งขึ้น
เด็กที่อายุมากกว่า 4 ปีขึ้นไปอาจอมยาอมเพื่อบรรเทาอาการระคายคอ
หลีกเลี่ยงสารที่ก่อความระคายเคืองที่คอ เช่น ควันบุหรี่ และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทั้งหลาย
การรักษาภาวะต่อมทอนซิลอักเสบ แพทย์จะตรวจวินิจฉัยและทำการรักษาตามอาการ
หากมีอาการอักเสบไม่มาก เจ็บคอเล็กน้อย ไม่มีไข้ อาจไม่จำเป็นต้องใช้ยาค่ะ
คนไข้ที่มีอาการมากแพทย์จะวินิจฉัยให้รักษาโดยการใช้ยาปฏิชีวนะ
เช่น การให้ยาบรรเทาอาการเจ็บคอ ยาลดน้ำมูก หรือลดไข้ ให้ยาแก้อักเสบเพื่อกำจัดเชื้อที่เป็นสาเหตุ
ถ้าการอักเสบนั้นเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ส่วนใหญ่คนไข้โรคต่อมทอนซิลอักเสบ จะมีอาการดีขึ้นในช่วง 3-7 วันหลังเข้ารับการรักษา
การรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด กรณีที่การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะไม่ได้ผล เกิดภาวะแทรกซ้อนมีภาวะต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรัง
อาจจะต้องทำการรักษาโดยการผ่าตัด ตัดต่อมทอนซิล
การรักษาโดยวิธีการผ่าตัดจะช่วยให้อาการต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรังหายเป็นปกติได้
คนไข้ควรปรึกษาพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ และรักษาอย่างถูกต้องเพราะต่อมทอนซิลที่เกิดการอักเสบ
จะส่งผลกระทบต่อคุณภาพในการใช้ชีวิตประจำวัน หรืออาจส่งผลให้เกิดโรคร้ายแรงได้ค่ะ