ประสบการณ์แอบเมีย เอาทองไปขาย ใครยังไม่เคยขายทองบ้างครับ? ลองอ่านประสบกาณ์ของผมดูครับ

ผมมีแหวนทองวงนึง 1 สลึง ก็ใส่จนเก่าแล้วหละครับ สีไม่สดใสเหมือนตอนใหม่ๆ แถมใส่ไปใส่มาเบี้ยวอีก ต้องเอามาดัดเอง

พอราคาทองเริ่มแพง ผมก็เลิกใส่ เพราะกลัวหาย กลัวโดนโจรจี้แหวน 

พอราคาทองแพงขึ้นเรื่อยๆ ผมก็คิดว่าเอาลองไปขายดูดีกว่า แค่ 1 สลึงจะได้เท่าไหร่? และเกิดมาก็ไม่เคยขายทองเลย ราคาดีแบบนี้ น่าจะลองดู

ว่าแล้วก็บอกภรรยาสุดที่รักว่า จะออกไปซื้อขนมมาให้ทานนะจ๊ะที่รัก

แล้วก็รีบบึ่ง ไปร้านทองชื่อดังแถวเยาวราชโดยทันที

ปรากฎว่าแถวยาวมากครับ เป็นวันที่คนเยอะจริงๆ เพราะ 3-4 สาขาที่เยาวราชของร้านชื่อดังนี้ วันอาทิตย์จะเปิดแค่ สาขาเดียว

สรุปก็ทนเข้าคิวไปครับ 40 นาทีได้ ก็ได้เดินเข้าไปหาพนักงานที่ตู้ขายทอง

พนักงานของร้านมีหลายคนครับมีทั้งหนุ่มทั้งสาว  แต่คนที่บริการผมเป็นอาเฮียคนนึง เค้าบอกผมว่า

เฮีย :  วันนี้มาทำอะไรครับ


ผมก็ยื่นแหวนไปให้เฮียทันที

ผม :    ขายแหวนวงนี้ครับ


เฮีย :   ซื้อจากที่นี่รึเปล่า?

ผม :    ใช่ครับ

เฮีย:    ขอบัตรประชาชนด้วย

ผมก็รีบยื่นให้ทันที เพราะเห็นคนซื้อทอง ข้างๆและอีกหลายๆคนก็ต้องใช้บัตรประชาชนเหมือนกันนะครับ ไม่แน่ใจว่าเค้าทำอะไรกันบ้างซื้อขายแลกเปลี่ยนสั่งทำ

ผมก็เลยเตรียมบัตรไว้ระหว่างรอคิวอยู่แล้ว

เฮียก็เอาแว่นส่อง แล้วเอาใส่ตาชั่ง

แล้วบอกผมว่า อันนี้ 1 สลึงใช่มั้ย

ผม:   ใช่ครับ


แล้วเฮียก็บอกผมว่า ราคาทองรูปพรรณวันนี้ราคารับซื้อ 29,060 บาท

แหวนผม 1 สลึง  ก็ 29,060 บาทหาร 4    เป็นเงิน 7,265 บาท



เฮีย : จะขายเหรอ จะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นรึเปล่า แล้วจะซื้ออะไรอีกรึเปล่า

ผม: ขายครับ

แล้วเฮียก็ส่องดูรอบนอกแหวนอีกที  แต่โลโก้ร้านจะอยู่ด้านในของแหวนนะครับ ซึ่งเฮียเค้าดูทีเดียวก็รู้แล้วว่าเป็นแบรนด์ของทางร้าน

ที่เฮียส่องผิวนอกนั้นผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเฮียส่องดูอะไรบ้าง

แต่แหวนผมสีเก่าแล้วแต่ดูเหมือนเฮียไม่สนใจ และไม่บ่นอะไรเลย



สรุปเฮียก็เขียนใบรับคืนทองเก่า มีแผ่น copy ให้ผมมาใบนึงด้วย ในใบนั้นจะมีกรอกชื่อที่อยู่ เลขบัตรประชาชน ซึ่งเฮียเป็นคนเขียนให้ทั้งหมด

แล้วให้เราเซ็นชื่อ พร้อมใส่เบอร์โทรศัพท์



แล้วเฮียก็นับเงินสดจ่ายให้ตามที่บอกคือ 7,265 บาท


ย้อนกลับไปตอนที่เฮียเขียนใบรับคืนทองเก่า


ผมก็ถามเฮียขึ้นมาว่า ผมมีแหวนอีกวงนึง มันมีรอยสีแดงๆมันเป็นเพราะอะไรครับเฮีย

เฮียก็บอกว่า เอามารึเปล่า

ผมบอกว่าไม่ได้เอามาครับ  เฮียก็ถามว่า ซื้อจากที่นี่รึเปล่า

ผมบอกว่าเปล่าครับ


เฮียก็ถามอีกว่าซื้อที่นี่รึเปล่า ซื้อที่ไหนก็ต้องเอาไปให้ที่นั่นดู


ผมก็บอกว่า  ครับ

แล้วผมก็นิ่งๆไม่ได้พูดอะไรต่อ



แล้วเฮีย ก็คงเห็นว่า ทำไมผมนิ่งจัง เฮียคงชักรู้สึกไม่สบายใจ 

ก็เลยเอ่ยขึ้นว่า ซื้อที่ร้านไหน

ผมก็บอกชื่อร้าน ซึ่งเป็นร้านทองเก่าแก่ที่อยู่ในซอย ข้างๆร้านเฮียนั่นแหละ


เฮียบอกว่า ก็ต้องเอาไปร้านเค้าดู เพราะซื้อที่นั่นก็ต้องให้ร้านที่ขายให้ดู ร้านนั้นเปิด 10 โมงนี่ แต่วันนี้ปิด(วันอาทิตย์)



แลัวเฮียก็ไปเอาเงินสด มาจ่ายให้ผมนับแบงก์พันให้ดูทีละใบวางไว้บนโต๊ะ แบงก์พันมี 7 ใบ แบงก์ ร้อย 2 ใบ แบงก์ 20  และเหรียญ 5 


เป็นอันว่าจบการซื้อขาย


พอเดินออกมาจากร้าน ผมรู้สึกว่าการเก็บทองไว้นี่มันดีจริงๆ ผมยังจำได้ว่า ตอนที่มีแหวนวงนี้ใหม่ๆ ราคามันอยู่ที่ แค่ 4,000 กว่าบาทเองเป็นราคาที่ผมซื้อด้วยนะครับ ไม่ใช่ราคาที่ผมเอาไปขายตอนนั้นขายคงได้ไม่น่าถึง 4,000 บาท (น่าจะประมาณ 7- 8 ปีก่อน)


ตอนนี้มาขายได้ 7,000 บาทซะงั้น


ในช่วงที่ผมรอคิวอยู่ในร้าน มีคนเอาสร้อยทองมาขายเหมือนกัน แต่พนักงานบอกว่าอันนี้ไม่ใช่ของร้านนี้ และบอกให้ไปขายร้านที่ซื้อมา

ดังนั้นผมจึงคิดว่า ซื้อทองนี่ซื้อร้านดังๆใหญ่ๆที่ดูแล้วน่าจะอยู่ไปอีกยาวนานและเปิดวันอาทิตย์ด้วย น่าจะดีที่สุด เพราะตอนเอามาขายมันช่างง่ายดายเหลือเกิน เพียงแต่ต้องรอคิว และรอพนักงานคุยกัน และปรึกษากันเรื่องทองของคนอื่นๆ เพราะผมดันเจอเฮีย ซึ่งคงเป็นผู้อาวุโส กว่าจะได้เงินก็มีพนักงานท่านอื่นเอา ทองลูกค้าลายแปลกๆมาให้เฮียดูว่าจะจัดการซื้อยังไง เฮียบอกต้องตัดหัวเสือออก ซื้อเฉพาะทอง เพราะหัวซื้อเป็นทองกี่เปอร์เซ็นต์ก็ไม่รู้มันมีลายจุดๆด้วยต้องตัดออก เฮียบอกตัดไปก็เสียดายไปบอกเค้าว่าเสียดายนะ เพราะตอนทำมันแพง



และที่สำคัญทำไมผมไม่โดนหักน้ำหนักทองที่หายไประหว่างการใส่แหวน เหมือนที่เคยได้ยินเค้าพูดกันก็ไม่รู้ ว่าแหวนทองนี่ซื้อขาดทุนเยอะเวลาเอาไปขาย น้ำหนักหาย


แต่ตอนที่เฮียแจ้งราคารับซื้อ เฮียก็หยิบแผ่น กระดาษที่เขียนราคาประจำวันออกมาให้ดูด้วยก็คือแผ่นนั้นเค้าเขียนราคาทองในน้ำหนักต่างๆไว้เลย
1สลึง  7,265  บาท ผมก็ได้ตามนี้เลยไม่โดนหักอะไรเลย



นี่แหละครับประสบการณ์ขายทองครั้งแรกของผม สนุกดีครับ 

เดี๋ยวรอทองราคาลด จะกลับไปซื้อที่ร้านนี้ใหม่ ครับ 



และขากลับผมก็ซื้อขนมอร่อยๆไปฝากภรรยา เป็นอันจบเรื่องครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่