Ethereum คือ Smart Contract Platform ที่ถูกสร้างขึ้นในปี 2015 โดยมีสกุลเงิน ETH ที่ใช้ในการทำธุรกรรมต่างๆในระบบ ในปัจจุบัน Ethereum มีโครงสร้างการทำงานแบ่งออกเป็น 2 ชั้น ด้วยกันได้แก่ Consensus Layer ที่ใช้ Proof-of-Work ในการทำฉันทามติ และมี Execution Layer ซึ่งใช้ในการดำเนินธุรกรรมต่างๆบน Smart Contract
The Merge คือ ชื่อเรียกใหม่ที่เกิดจากการแตกย่อยอัพเกรดของ Ethereum 2.0 ออกเป็น 5 ส่วน ได้แก่
- The Merge (2022) — การย้าย Consensus Layer ไปเป็น Proof-of-Stake
- The Surge (2023) — การ scale network ด้วยเทคโนโลยี Sharding
- The Verge (TBD) — การเปลี่ยนวิธีเก็บข้อมูลจาก Merkle Tree ไปเป็น Verkle tree เพื่อช่วยลดปริมาณเก็บข้อมูลของ Validator
- The Purge (TBD) — การ Refactor โค้ดให้เรียบง่ายขึ้นเพื่อลด Technical Debt
- The Splurge (TBD) — อัพเดทอื่นๆ นอกเหนือจากที่กล่าวไป
โดยการอัพเกรด The Merge ที่คาดว่ากำลังจะมาถึงใน Q3 ปีนี้ จะมีผลลัพธ์ดังนี้
- ลดพลังงานไฟฟ้าที่ต้องใช้ของ Platform ลง 99%
- ลดการผลิตเหรียญ ETH จากเดิม 4.62% ลงเหลือ 0.49% ต่อปี
- การผลิตเหรียญใหม่ทั้งหมด รวมถึงค่าธรรมเนียมทั้งหมดที่เหลือจากการเผาจะถูกมอบให้แก่ Staker โดยคาดว่าจะมีผลตอบแทนประมาณ 7-12% ต่อปี ขึ้นอยู่กับจำนวนของ Staker ที่เข้าร่วม
- ทั้งนี้ Staker จะสามารถถอนเหรียญที่ค้ำประกันไว้ได้หลังจากการอัพเกรดนี้ประมาณ 1 ปี
- สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ไม่ต้องทำอะไร โดยกลุ่มผู้ให้บริการจะเป็นฝ่ายที่จัดการอัพเกรดทั้งหมดเอง
- การอัพเกรดนี้ไม่มีการออกเหรียญ ETH2.0 หรือเหรียญใหม่ใดๆทั้งสิ้น
Source :
https://ethereum.org/en/upgrades/merge/
https://ethereum.org/en/upgrades/merge/issuance/
*แก้ไขคำผิด
เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ Ethereum - The Merge
The Merge คือ ชื่อเรียกใหม่ที่เกิดจากการแตกย่อยอัพเกรดของ Ethereum 2.0 ออกเป็น 5 ส่วน ได้แก่
- The Merge (2022) — การย้าย Consensus Layer ไปเป็น Proof-of-Stake
- The Surge (2023) — การ scale network ด้วยเทคโนโลยี Sharding
- The Verge (TBD) — การเปลี่ยนวิธีเก็บข้อมูลจาก Merkle Tree ไปเป็น Verkle tree เพื่อช่วยลดปริมาณเก็บข้อมูลของ Validator
- The Purge (TBD) — การ Refactor โค้ดให้เรียบง่ายขึ้นเพื่อลด Technical Debt
- The Splurge (TBD) — อัพเดทอื่นๆ นอกเหนือจากที่กล่าวไป
โดยการอัพเกรด The Merge ที่คาดว่ากำลังจะมาถึงใน Q3 ปีนี้ จะมีผลลัพธ์ดังนี้
- ลดพลังงานไฟฟ้าที่ต้องใช้ของ Platform ลง 99%
- ลดการผลิตเหรียญ ETH จากเดิม 4.62% ลงเหลือ 0.49% ต่อปี
- การผลิตเหรียญใหม่ทั้งหมด รวมถึงค่าธรรมเนียมทั้งหมดที่เหลือจากการเผาจะถูกมอบให้แก่ Staker โดยคาดว่าจะมีผลตอบแทนประมาณ 7-12% ต่อปี ขึ้นอยู่กับจำนวนของ Staker ที่เข้าร่วม
- ทั้งนี้ Staker จะสามารถถอนเหรียญที่ค้ำประกันไว้ได้หลังจากการอัพเกรดนี้ประมาณ 1 ปี
- สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ไม่ต้องทำอะไร โดยกลุ่มผู้ให้บริการจะเป็นฝ่ายที่จัดการอัพเกรดทั้งหมดเอง
- การอัพเกรดนี้ไม่มีการออกเหรียญ ETH2.0 หรือเหรียญใหม่ใดๆทั้งสิ้น
Source :
https://ethereum.org/en/upgrades/merge/
https://ethereum.org/en/upgrades/merge/issuance/
*แก้ไขคำผิด