10 คาเฟ่ 10 ฟิลลิ่ง ทายนิสัยคุณ…รีวิวร้านใหม่กระจายรอบกรุงฯ
สวัสดีครับ วันนี้แวะมาอัพเดทคาเฟ่ใหม่ที่เปิดไปไม่นาน กระจายตามจุดต่างๆ ของกรุงเทพฯ หลายสไตล์ หลายฟีลลิ่ง พร้อมกับทายนิสัยคุณไปพร้อมๆ กัน หวังว่าเพื่อนๆ จะได้สนุกไปกับคอนเท้นท์นี้นะครับ
1. Tempered Cooperative
ฟีลสายเกา สายแฟ
พิกัด : Prim Raumrudee ซอยร่วมฤดี 2 แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.
เวลาเปิด-ปิด : 8:00-18:00 น. / โทร : 092-828-5444
ประเดิมร้านแรกด้วยพิกัดใจกลางเมืองที่ย่านเพลินจิต ในซอยร่วมฤดี ร้านลับที่ต้องเข้าซอยแล้ว เข้าซอยอีก พอไปถึงก็เห็นแต่ลานจอดรถ
“มาครั้งแรกหรือเปล่าครับ” พี่ รปภ. ถาม คือเราดูเลิ่กลั่กใช่ไหม? ... “กดลิฟท์ไปชั้น 2 หรือเดินขึ้นบันไดไปก็ได้ครับ”
การดีไซน์ร้านรู้สึกได้ถึงความชิคๆ คูลๆ ดูได้จากผนังปูนเปลือยที่ดูดิบเท่ บวกเสน่ห์จากการตกแต่งแบบมินิมอลสไตล์
พร้อมกลิ่นอายซาวด์ดนตรีที่เหมือนกับงานแฟชั่นโชว์
“ร้านเราชื่อเทมเพิร์ดค่ะ ไม่ได้อ่านว่า เทมเพอร์เร็ดนะคะ” น้องที่ร้านได้กล่าวไว้... ผมนี่ไปไม่เป็นเลย พยายามห่อลิ้น พูดรวบคำตามน้องเค้า 55
“ที่มาของชื่อร้านจริงๆ มาจาก Temperative ที่เกี่ยวกับอุณหภูมินะคะ เพราะว่าที่นี่เวลาชงกาแฟ หรืออบขนมก็จะเกี่ยวข้องกับอุณหภูมิทั้งสิ้นค่ะ ที่นี่เราอบขนมกันสดๆ เลย ที่พี่เห็นจากห้องกระจกใสนี้ค่ะ”
“ตอนนี้เปิดเป็นซอฟท์ โอเพ่นนิ่ง เป็นคาเฟ่ 2 ชั้นก่อนค่ะ และในอนาคตจะเปิดเพิ่มเป็นสโลว์บาร์ที่ชั้นดาดฟ้าค่ะ” น้องได้กล่าวไว้ (เช่นเดียวกัน)
ชั้น 2 นี้ เราสามารถสั่งเครื่องดื่ม แล้วไปนั่งลืมกันแบบชิวๆ ในสไตล์เอ้าท์ดอร์ ก็พอเห็นต้นไม้เขียวๆ ที่อยู่ตรงหน้าได้ ขึ้นไปชั้น 3 จะเป็นโซนแอร์ ก็นั่งแช่กันไปยาวๆ จะไปยืนถ่ายรูปริมกระจก รับแสงเงายามบ่าย ก็จะได้ช็อตที่ปังมากก ถ้าถ่ายกันดีๆ ก็เหมือนคุณพี่ไปอยู่เกาหลีเลยเด้อ
ถ้าคุณชอบร้านนี้แสดงว่า ทายว่าคุณเป็นคนที่ไม่ชอบอยู่นิ่ง สไตล์หนุ่มสาวอินเทรนด์ อะไรมา เราก็ต้องมี (ที่จะไม่มี คือเงินในกระเป๋าชั้นเอง) เป็นคนที่รักเพื่อนมากๆ จริงใจ แฟร์ๆ แฟร๊งค์ๆ
2. Craftsman at Bamrungmueng
ฟีลสุนทรีย์ รู้สึกดีในอดีตวันวาน
พิกัด : 83 ถ. บำรุงเมือง แขวง เสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. 10200
โทร : 085-820-4010
เปิด-ปิด : วันจันทร์-พฤหัส เวลา 7:30-18:00 น. / วันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 7:30-22:00 น.
(ที่จอดรถหน้าร้าน ชั่วโมงละ 30 บาท)
ขยับมาฝั่งเมืองเก่ากันบ้าง ย่านเสาชิงช้า กับร้านคาเฟ่ฮิปๆ ที่หยิบเอาแกลเลอรี่ผสมเข้าไปด้วย แล้วไปอาศัยแฝงตัวอยู่ในตึกเก่าสวยๆ ถือได้ว่าเป็นการทวิสต์กันได้อย่างลงตัว
จากสาขา บ้านพักของ อ.ศิลป์ พีระศรี ตึกสวยสไตล์ฝรั่ง ที่ปิดตัวลงไป จนมาถึงสาขาปัจจุบันที่ “บำรุงเมือง” ที่พร้อมเสิร์ฟอยู่ในโรงพิมพ์เก่าอายุกว่า 100 ปี ตึกนี้เรียกได้ว่าสวยแบบคลาสสิค จะไปจิกกล้องมุมไหนก็ปัง
ร้านนี้เปิดเป็นแบบ “ป๊อป อัพ” คือแบบชั่วคราว อยู่ยาวถึงเดือน ก.ย. นี้เท่านั้นนะจ๊ะ
เข้าไปในร้านมีทั้งโซนมีแอร์ และไม่มีแอร์ หรือจะเรียกสวยๆ ว่า โอเพ่นแอร์ ซึ่งโซนนี้เค้าจะมีดีเจมาสปินแผ่นด้วย เลยทำให้ตึกเก่าแก่นี้ ดูมีชีวิตชีวา ดูเป็นวัยรุ่นขึ้นเยอะเลย
เมนูซิกเนเจอร์ที่สั่งมาคือ Spice Latte เค้าจะมีกลิ่นหอมของเครื่องเทศ รวมถึงชินนามอนรวมอยู่ด้วย และก็สั่งเค๊กกล้วยหอมหน้าคว่ำมากินอีกหนึ่ง
ถ้าคุณชอบร้านนี้ ขอทายว่าคุณมีความคิดเป็นผู้ใหญ่ เป็นคนที่เป๊ะในทุกเรื่อง ให้ความสำคัญกับมารยาทเป็นที่สุด เป็นคนที่อ่อนไหวทางอารมณ์สูง
3. Hong Sieng Kong (ฮงเซียงกง)
ฟีลสโลว์ไลฟ์ริมแม่น้ำ
พิกัด : 734,736 ซ.วานิช 2 แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กทม.
เปิด-ปิด : วันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) 10:00-22:00 น.
ขยับออกมาอีกนิด ไปที่คาเฟ่สไตล์จีนแบบผสมผสาน ในย่านตลาดน้อย ย่านที่เราสามารถมาสัมผัสวิถีของชุมชน อย่างเดินชมอาคารเก่า ไหว้ศาลเจ้าโจวซือกง หรือเดินงงๆ ไปตามหาสตรีทอาร์ต ภาพวาดผนังตึกสวยๆ ที่กระจายซ่อนอยู่แถวนี้ จะเซล์ฟฟี่หรือถ่ายรูปกับเพื่อนก็เพลินดี (อย่าลืมพอกครีมกันแดดมาด้วยเด้อ)
จากบ้านของคนจีนฮกเกี้ยนอายุกว่า 200 ปี ที่นำมารีโนเวทใหม่ จนกลายเป็นคาเฟ่ และแกเลอรี่แสดงของสะสมได้อย่างลงตัว
หน้าร้านเห็นเป็นห้องแถว 2 คูหา 2 ชั้น สีน้ำเงิน ดูไม่น่าจะใหญ่ แต่เดินเข้าไป เดินเข้าไป ทำไมเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ พื้นที่กว้างมากจนเซอร์ไพรส์ ด้านในเค้าก็มีตึกเล็ก ตึกน้อย อยู่หลายหลัง ส่วนที่นั่งก็มีหลายโซน ทั้งแบบห้องแอร์ และแบบโอเพ่นแอร์ อยากไปนั่งแช่ริมน้ำเจ้าพระยาก็ตามสบายนะ
ในส่วนอาคารต่างๆ เค้าก็จัดแสดงของสะสมโบราณให้เราได้ชมด้วย ส่วนหนึ่งก็ถูกนำมาตกแต่งอยู่รอบบริเวณร้าน ทำให้ที่นี่มีเสน่ห์ที่ไม่มีใครลอกเลียนแบบได้
ตอนที่เข้ามาที่ร้านจะต้องสั่งขนมและเครื่องดื่มก่อนที่เคาน์เตอร์ จากนั้นถึงค่อยมาหาที่นั่งทานในร้าน วันที่ไปเค้ามีเล่นดนตรีสดด้วยนะ นั่งทานพร้อมฟังเพลงเพราะๆ เป็นอะไรที่ชิลเอามากๆ เลย
ร้านอยู่ติดกับศาลเจ้าโจวซือกง สามารถเอารถมาจอดได้ที่นี่ แต่พี่ๆ ต้องระวัง เพราะซอยแคบมากๆๆ และเป็นวันเวย์ ถ้าใครไหว ไปก่อนเลย แต่ถ้าไม่ไหวแนะให้ไปจอดที่วัดปทุมคงคา หรือ River City แล้วเดินลัดเลาะมาที่ร้าน
ถ้าคุณชอบร้านนี้ ขอทายว่าคุณน่าจะเป็นคนที่ชอบอยู่กับตัวเอง ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวาย ชอบอยู่นิ่งๆ เงียบๆ ชอบอ่านหนังสือ หรือหาความรู้ให้ตัวเองอยู่เสมอ ถึงจะชอบอยู่กับตัวเอง แต่ก็อยากมีคนเข้าใจเราเหมือนกัน มีแอบเหงาบ้างในบางครั้ง
4. Take a Breath Cafe & Eatery
ฟีลเหมือนอยู่เขาใหญ่
พิกัด : ย่านพุทธมณฑลสาย 1 แขวงบางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน กทม.
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน / Cafe 10:00-19:00 น. / ร้านอาหาร 11:00-22:00 น.
โทร : 093-583-7079
เอาใจคนฝั่งธนกันบ้าง เริ่มจากโซนตลิ่งชัน… ร้านนี้มีโครงสร้างที่ดูแปลกตา ดูมีความอาร์ต ผสมผสานกับจากจัดวางพื้นที่ ที่ดูเหมือนเป็นหมู่บ้านย่อมๆ
ที่นี่มีทั้งคาเฟ่ และร้านอาหาร ด้านหลังเป็นลานสนามหญ้า ที่เค้าจัดหาเก้าอี้มาวางให้นั่ง พร้อมฟังวงเล่นสดในตอนเย็นๆ
ด้วยแลนด์สเคปที่ลงตัวของโครงสร้างอาคารต่างๆ รวมถึงการจัดสวนที่เข้ากัน ทำให้หลายคนยกให้ที่นี่เป็นเขาใหญ่แห่งตลิ่งชัน ใครสายถ่ายรูป มาที่นี่จะได้มุมแปลกๆ ดูเก๋ๆ ไม่เหมือนใคร ไหนจะซุ้มโค้ง ไหนจะอาคารหน้าจั่ว ไหนจะหอสูง รับรองว่าจะได้รูปปังๆ กลับไปอย่างแน่นอน
ถ้าคุณชอบร้านนี้ ขอทายว่าคุณเป็นคน 2 บุคคลิก บางครั้งก็เฮฮา บางครั้งก็เงียบไม่อยากสุงสิงกับใคร แล้วแต่อารมณ์ เป็นคนช่างคิด ช่างฝัน ไม่ชอบอยู่ในกรอบ
5. Pulse Bang Khun Thian
ฟีลเหมือนอยู่บนแพกลางน้ำ
พิกัด : 728 ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล แขวง ท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กทม. 10150
เปิด-ปิด : 10:00 - 18:30 น. (ปิดวันจันทร์)
ที่จอดรถ : หน้าร้าน
ยังอยู่กันที่ฝั่งธน คราวนี้มาอยู่สุดขอบกรุงเทพฯ กับเขตบางขุนเทียน “ทะเลกรุงเทพ” มาถึงที่นี่จะพลาดได้อย่างไรกับอาหารซีฟู๊ด วิ่งเข้าเส้น ถ. บางขุนเทียน-ชายทะเล จะเห็นร้านซีฟู๊ดเรียงรายขายกันเป็นสิบๆ ร้าน (ที่ผมเคยไป ก็มี จ๊ะโอ๋ะซีฟู๊ด กับครัวคุณหน่อย) เพื่อนๆ เคยไปทานร้านไหนมาบ้าง รีวิวได้นะครับ เดี๋ยวจะไปตาม 55 … ทานอาหารเสร็จ ก็แวะไปคาเฟ่แถวๆ นี้ดูสักหน่อยก่อนกลับขับยาวเข้าเมือง
“พัลส์” ร้านคาเฟ่สโลว์ไลฟ์ใจกลางบึง ก่อนอื่นก็ต้องเดินบนรันเวย์เข้าร้าน (ก็ทางยาวอย่างกับแคทวอล์ค 55)
บรรยากาศในร้าน เรียกได้ว่าเปิดโล่งโอเพ่นแอร์มาก ด้านหลังร้านเหมือนเป็นคันดิน ที่เค้าทำเป็นที่นั่งหน้ากระดาน เพื่อให้เราได้นั่งมองวิวของบึงน้ำ ถ้าได้ลมเย็นๆ พัดมา จะฟินมากเลย
ถ้าคุณชอบร้านนี้ ขอทายว่าคุณเป็นนักกิจกรรม สายลุย ไปไหนไปกัน ชอบผูกมิตรกับเพื่อนใหม่ มีความจริงใจ เป็นคนง่ายๆ สบายๆ เข้าถึงได้
[CR] 10 คาเฟ่ 10 ฟีลลิ่ง ร้านใหม่รอบกรุง (พร้อมทายนิสัยคุณ)
10 คาเฟ่ 10 ฟิลลิ่ง ทายนิสัยคุณ…รีวิวร้านใหม่กระจายรอบกรุงฯ
สวัสดีครับ วันนี้แวะมาอัพเดทคาเฟ่ใหม่ที่เปิดไปไม่นาน กระจายตามจุดต่างๆ ของกรุงเทพฯ หลายสไตล์ หลายฟีลลิ่ง พร้อมกับทายนิสัยคุณไปพร้อมๆ กัน หวังว่าเพื่อนๆ จะได้สนุกไปกับคอนเท้นท์นี้นะครับ
พิกัด : Prim Raumrudee ซอยร่วมฤดี 2 แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.
เวลาเปิด-ปิด : 8:00-18:00 น. / โทร : 092-828-5444
ประเดิมร้านแรกด้วยพิกัดใจกลางเมืองที่ย่านเพลินจิต ในซอยร่วมฤดี ร้านลับที่ต้องเข้าซอยแล้ว เข้าซอยอีก พอไปถึงก็เห็นแต่ลานจอดรถ
“มาครั้งแรกหรือเปล่าครับ” พี่ รปภ. ถาม คือเราดูเลิ่กลั่กใช่ไหม? ... “กดลิฟท์ไปชั้น 2 หรือเดินขึ้นบันไดไปก็ได้ครับ”
การดีไซน์ร้านรู้สึกได้ถึงความชิคๆ คูลๆ ดูได้จากผนังปูนเปลือยที่ดูดิบเท่ บวกเสน่ห์จากการตกแต่งแบบมินิมอลสไตล์
พร้อมกลิ่นอายซาวด์ดนตรีที่เหมือนกับงานแฟชั่นโชว์
“ร้านเราชื่อเทมเพิร์ดค่ะ ไม่ได้อ่านว่า เทมเพอร์เร็ดนะคะ” น้องที่ร้านได้กล่าวไว้... ผมนี่ไปไม่เป็นเลย พยายามห่อลิ้น พูดรวบคำตามน้องเค้า 55
“ที่มาของชื่อร้านจริงๆ มาจาก Temperative ที่เกี่ยวกับอุณหภูมินะคะ เพราะว่าที่นี่เวลาชงกาแฟ หรืออบขนมก็จะเกี่ยวข้องกับอุณหภูมิทั้งสิ้นค่ะ ที่นี่เราอบขนมกันสดๆ เลย ที่พี่เห็นจากห้องกระจกใสนี้ค่ะ”
“ตอนนี้เปิดเป็นซอฟท์ โอเพ่นนิ่ง เป็นคาเฟ่ 2 ชั้นก่อนค่ะ และในอนาคตจะเปิดเพิ่มเป็นสโลว์บาร์ที่ชั้นดาดฟ้าค่ะ” น้องได้กล่าวไว้ (เช่นเดียวกัน)
ชั้น 2 นี้ เราสามารถสั่งเครื่องดื่ม แล้วไปนั่งลืมกันแบบชิวๆ ในสไตล์เอ้าท์ดอร์ ก็พอเห็นต้นไม้เขียวๆ ที่อยู่ตรงหน้าได้ ขึ้นไปชั้น 3 จะเป็นโซนแอร์ ก็นั่งแช่กันไปยาวๆ จะไปยืนถ่ายรูปริมกระจก รับแสงเงายามบ่าย ก็จะได้ช็อตที่ปังมากก ถ้าถ่ายกันดีๆ ก็เหมือนคุณพี่ไปอยู่เกาหลีเลยเด้อ
ถ้าคุณชอบร้านนี้แสดงว่า ทายว่าคุณเป็นคนที่ไม่ชอบอยู่นิ่ง สไตล์หนุ่มสาวอินเทรนด์ อะไรมา เราก็ต้องมี (ที่จะไม่มี คือเงินในกระเป๋าชั้นเอง) เป็นคนที่รักเพื่อนมากๆ จริงใจ แฟร์ๆ แฟร๊งค์ๆ
พิกัด : 83 ถ. บำรุงเมือง แขวง เสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. 10200
โทร : 085-820-4010
เปิด-ปิด : วันจันทร์-พฤหัส เวลา 7:30-18:00 น. / วันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 7:30-22:00 น.
(ที่จอดรถหน้าร้าน ชั่วโมงละ 30 บาท)
ขยับมาฝั่งเมืองเก่ากันบ้าง ย่านเสาชิงช้า กับร้านคาเฟ่ฮิปๆ ที่หยิบเอาแกลเลอรี่ผสมเข้าไปด้วย แล้วไปอาศัยแฝงตัวอยู่ในตึกเก่าสวยๆ ถือได้ว่าเป็นการทวิสต์กันได้อย่างลงตัว
จากสาขา บ้านพักของ อ.ศิลป์ พีระศรี ตึกสวยสไตล์ฝรั่ง ที่ปิดตัวลงไป จนมาถึงสาขาปัจจุบันที่ “บำรุงเมือง” ที่พร้อมเสิร์ฟอยู่ในโรงพิมพ์เก่าอายุกว่า 100 ปี ตึกนี้เรียกได้ว่าสวยแบบคลาสสิค จะไปจิกกล้องมุมไหนก็ปัง
ร้านนี้เปิดเป็นแบบ “ป๊อป อัพ” คือแบบชั่วคราว อยู่ยาวถึงเดือน ก.ย. นี้เท่านั้นนะจ๊ะ
เข้าไปในร้านมีทั้งโซนมีแอร์ และไม่มีแอร์ หรือจะเรียกสวยๆ ว่า โอเพ่นแอร์ ซึ่งโซนนี้เค้าจะมีดีเจมาสปินแผ่นด้วย เลยทำให้ตึกเก่าแก่นี้ ดูมีชีวิตชีวา ดูเป็นวัยรุ่นขึ้นเยอะเลย
เมนูซิกเนเจอร์ที่สั่งมาคือ Spice Latte เค้าจะมีกลิ่นหอมของเครื่องเทศ รวมถึงชินนามอนรวมอยู่ด้วย และก็สั่งเค๊กกล้วยหอมหน้าคว่ำมากินอีกหนึ่ง
ถ้าคุณชอบร้านนี้ ขอทายว่าคุณมีความคิดเป็นผู้ใหญ่ เป็นคนที่เป๊ะในทุกเรื่อง ให้ความสำคัญกับมารยาทเป็นที่สุด เป็นคนที่อ่อนไหวทางอารมณ์สูง
พิกัด : 734,736 ซ.วานิช 2 แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กทม.
เปิด-ปิด : วันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) 10:00-22:00 น.
ขยับออกมาอีกนิด ไปที่คาเฟ่สไตล์จีนแบบผสมผสาน ในย่านตลาดน้อย ย่านที่เราสามารถมาสัมผัสวิถีของชุมชน อย่างเดินชมอาคารเก่า ไหว้ศาลเจ้าโจวซือกง หรือเดินงงๆ ไปตามหาสตรีทอาร์ต ภาพวาดผนังตึกสวยๆ ที่กระจายซ่อนอยู่แถวนี้ จะเซล์ฟฟี่หรือถ่ายรูปกับเพื่อนก็เพลินดี (อย่าลืมพอกครีมกันแดดมาด้วยเด้อ)
จากบ้านของคนจีนฮกเกี้ยนอายุกว่า 200 ปี ที่นำมารีโนเวทใหม่ จนกลายเป็นคาเฟ่ และแกเลอรี่แสดงของสะสมได้อย่างลงตัว
หน้าร้านเห็นเป็นห้องแถว 2 คูหา 2 ชั้น สีน้ำเงิน ดูไม่น่าจะใหญ่ แต่เดินเข้าไป เดินเข้าไป ทำไมเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ พื้นที่กว้างมากจนเซอร์ไพรส์ ด้านในเค้าก็มีตึกเล็ก ตึกน้อย อยู่หลายหลัง ส่วนที่นั่งก็มีหลายโซน ทั้งแบบห้องแอร์ และแบบโอเพ่นแอร์ อยากไปนั่งแช่ริมน้ำเจ้าพระยาก็ตามสบายนะ
ในส่วนอาคารต่างๆ เค้าก็จัดแสดงของสะสมโบราณให้เราได้ชมด้วย ส่วนหนึ่งก็ถูกนำมาตกแต่งอยู่รอบบริเวณร้าน ทำให้ที่นี่มีเสน่ห์ที่ไม่มีใครลอกเลียนแบบได้
ตอนที่เข้ามาที่ร้านจะต้องสั่งขนมและเครื่องดื่มก่อนที่เคาน์เตอร์ จากนั้นถึงค่อยมาหาที่นั่งทานในร้าน วันที่ไปเค้ามีเล่นดนตรีสดด้วยนะ นั่งทานพร้อมฟังเพลงเพราะๆ เป็นอะไรที่ชิลเอามากๆ เลย
ร้านอยู่ติดกับศาลเจ้าโจวซือกง สามารถเอารถมาจอดได้ที่นี่ แต่พี่ๆ ต้องระวัง เพราะซอยแคบมากๆๆ และเป็นวันเวย์ ถ้าใครไหว ไปก่อนเลย แต่ถ้าไม่ไหวแนะให้ไปจอดที่วัดปทุมคงคา หรือ River City แล้วเดินลัดเลาะมาที่ร้าน
ถ้าคุณชอบร้านนี้ ขอทายว่าคุณน่าจะเป็นคนที่ชอบอยู่กับตัวเอง ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวาย ชอบอยู่นิ่งๆ เงียบๆ ชอบอ่านหนังสือ หรือหาความรู้ให้ตัวเองอยู่เสมอ ถึงจะชอบอยู่กับตัวเอง แต่ก็อยากมีคนเข้าใจเราเหมือนกัน มีแอบเหงาบ้างในบางครั้ง
ที่นี่มีทั้งคาเฟ่ และร้านอาหาร ด้านหลังเป็นลานสนามหญ้า ที่เค้าจัดหาเก้าอี้มาวางให้นั่ง พร้อมฟังวงเล่นสดในตอนเย็นๆ
ด้วยแลนด์สเคปที่ลงตัวของโครงสร้างอาคารต่างๆ รวมถึงการจัดสวนที่เข้ากัน ทำให้หลายคนยกให้ที่นี่เป็นเขาใหญ่แห่งตลิ่งชัน ใครสายถ่ายรูป มาที่นี่จะได้มุมแปลกๆ ดูเก๋ๆ ไม่เหมือนใคร ไหนจะซุ้มโค้ง ไหนจะอาคารหน้าจั่ว ไหนจะหอสูง รับรองว่าจะได้รูปปังๆ กลับไปอย่างแน่นอน
ถ้าคุณชอบร้านนี้ ขอทายว่าคุณเป็นคน 2 บุคคลิก บางครั้งก็เฮฮา บางครั้งก็เงียบไม่อยากสุงสิงกับใคร แล้วแต่อารมณ์ เป็นคนช่างคิด ช่างฝัน ไม่ชอบอยู่ในกรอบ
เปิด-ปิด : 10:00 - 18:30 น. (ปิดวันจันทร์)
ที่จอดรถ : หน้าร้าน
ยังอยู่กันที่ฝั่งธน คราวนี้มาอยู่สุดขอบกรุงเทพฯ กับเขตบางขุนเทียน “ทะเลกรุงเทพ” มาถึงที่นี่จะพลาดได้อย่างไรกับอาหารซีฟู๊ด วิ่งเข้าเส้น ถ. บางขุนเทียน-ชายทะเล จะเห็นร้านซีฟู๊ดเรียงรายขายกันเป็นสิบๆ ร้าน (ที่ผมเคยไป ก็มี จ๊ะโอ๋ะซีฟู๊ด กับครัวคุณหน่อย) เพื่อนๆ เคยไปทานร้านไหนมาบ้าง รีวิวได้นะครับ เดี๋ยวจะไปตาม 55 … ทานอาหารเสร็จ ก็แวะไปคาเฟ่แถวๆ นี้ดูสักหน่อยก่อนกลับขับยาวเข้าเมือง
“พัลส์” ร้านคาเฟ่สโลว์ไลฟ์ใจกลางบึง ก่อนอื่นก็ต้องเดินบนรันเวย์เข้าร้าน (ก็ทางยาวอย่างกับแคทวอล์ค 55)
บรรยากาศในร้าน เรียกได้ว่าเปิดโล่งโอเพ่นแอร์มาก ด้านหลังร้านเหมือนเป็นคันดิน ที่เค้าทำเป็นที่นั่งหน้ากระดาน เพื่อให้เราได้นั่งมองวิวของบึงน้ำ ถ้าได้ลมเย็นๆ พัดมา จะฟินมากเลย
ถ้าคุณชอบร้านนี้ ขอทายว่าคุณเป็นนักกิจกรรม สายลุย ไปไหนไปกัน ชอบผูกมิตรกับเพื่อนใหม่ มีความจริงใจ เป็นคนง่ายๆ สบายๆ เข้าถึงได้
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้