แชร์ประสบการณ์ ชุบชีวิตโต๊ะมือสอง ฉบับมือใหม่หัด DIY

เริ่มจากการที่ผมอยากได้โต๊ะทำงานมาใส่ในห้องนอนครับ ซึ่งตามแบบที่วางไว้ อยากได้โต๊ะทำงานสไตล์คลาสสิกแบบมีลิ้นชักรูปร่างประมาณนี้ครับ:

รูปภาพจาก: sookdee83.com

หลังจากที่เสิร์จอากู๋จนท้อใจ เกือบจะกดสั่ง IKEA อยู่หลายครั้ง จู่ๆ ก็ไม่รู้มีอะไรดลใจให้ขับรถไปดูร้านของมือสองใกล้ๆ บ้าน แล้วก็ไปเจอกับสิ่งนี้เข้าครับ

แว๊บแรกไม่ถึงกับถูกใจ เพราะโทนสีส้มบาดใจมากครับ แค่โครงถือว่าดูดี แถมมีลิ้นชักพร้อมกุญแจหัก 1 ดอก เลยลองถามราคาป้าเล่นๆ 

ป้า: 2,000 ถ้วน
ผม: ลดอีกได้ไหมครับ? 
ป้า: 1,800 ละกัน
ผม: 1,500 ได้ไหมป้า (นึกใจในว่า ไม่น่าได้)
ป้า: *นิ่งไปพักใหญ่* เออเอา 1,500

นึกในใจ "เห้ย ได้เฉย"  ไม่รู้ว่าถูกหรือแพงไป แต่ก็ขนน้องขึ้นกระบะมาแบบงงๆ ครับ

มาถึงบ้าน ก็เริ่มทำความสะอาดและดูน้องแบบจริงจัง เพราะที่ร้านแสงค่อนข้างมืดมาก พอเห็นน้องกลางแสงแดดถึงกับอุทานว่า "ํYes, แหม่ม!" อารมณ์เดียวกับเวลาผับเปิดไฟเลยครับ  สภาพแบบผ่านมาหลายสมรภูมิมากครับ 

เอาวะ! ไหนๆ ก็ซื้อมาแล้ว ไปให้สุดเลยละกัน เลยลองหาข้อมูลบนอินเตอร์เน็ต และพบกับ "สีชอล์ค" (Chalk paint) เข้าครับ โดนเขาบอกว่าใช้ง่าย ไม่ต้องขัดออก แค่ทำความสะอาดพื้นผิวเฟอร์ก็ทาได้เลย นึกในใจว่าเอาอันนี้เหละน่าจะเหมาะกับมือใหม่อย่างเรา 

อีกจุดหนึ่งที่ตั้งใจว่าจะเปลี่ยนแน่ๆ คือตัวมือจับลิ้นชักครับ รู้สึกว่ามันเรียวไปดูไม่สมส่วนกับโต๊ะเท่าไหร่

ว่าแล้วก็สั่งอุปกรณ์มาเลยครับ 

เริ่มจากการทำความสะอาดโต๊ะและถอดด้ามจับลิ้นชัก หลังจากนั้นก็เริ่มโป๊วรูและรอยขีดข่วนต่างๆ ครับ


พอแห้งแล้วก็เริ่มขัดด้วยกระดาษทราย ชอบความเนียนของผิวไม้หลังขัดมากๆ 

คราบสีดำเหนียวๆ ติดแน่นมาก เช็ดด้วยน้ำยาล้างจานก็ไม่ออก ขัดด้วยกระดาษทรายก็พอจะจางไปบ้าง แต่ก็ไม่หมดไปอยู่ดี 

ระหว่างทำก็มีคนมายืนให้กำลังใจครับ แต่น้ำลายหยดและสายตาเว้าวอนตลอดเว เหมือนจะบอกเป็นนัยๆ ว่า "มนุด เอาหนมมาได้แล้ว" 


ขัดเสร็จหน้าตาก็จะประมาณนี้ครับ ราศีจับขึ้นมาทีเดียว ขั้นต่อไปก็เริ่มลงสี แต่ฝนไม่เป็นใจ เลยต้องย้ายสถานที่เข้าไปทำในบ้านครับ

เริ่มลงสีชั้นแรก แอบตกใจในความเข้มข้นของสีชอล์คเพราะปิดแน่น ปิดเนียนมาก เหมาะกับมือใหม่จริงๆ จุดที่ทาลำบากหน่อยก็คือใต้ลิ้นชักนี่เหละ ทั้งก้มทั้งพลิกหาองศาที่จะทา แถมติดรางเลื่อนลิ้นชักอีก เสียเวลาไปเยอะเหมือนกันครับ 

ทาทั่วแล้วหน้าตาก็จะประมาณนี้ เวลาแห้งสีมันก็จะออกด้านๆ แต่ทางร้านแนะนำมาว่าทาเสร็จแล้วค่อยเคลือบด้วยน้ำยาเคลือบผิว มันก็จะเพิ่มความวาวขึ้นมาหน่อยนึงครับ

ด้านในลิ้นชัก คิดว่าจะปล่อยให้เป็นสีไม้ เลยกะว่าเคลือบผิวไว้เฉยๆ ผลคือพอลงน้ำยาเคลือบมันกลายเป็นสีมันม่วงไปเลย! ตกใจนิดหน่อย แต่สังเกตุว่าพอมันเริ่มแห้งมันก็กลายเป็นสีใสครับ

มาถึงจุดนี้ใช้เวลาไปแล้วประมาณ 2 วันครับ ถ้ามีความคืบหน้ายังไง จะมาทยอยเขียนต่อในกระทู้นะครับ

**PART 2 **

วันนี้ช่วงเช้าติดภารกิจเลยได้เริ่มงานช่วงบ่าย ตอนนี้หลักๆ ก็เก็บสีและเคลือบส่วนที่เหลือของโต๊ะและ ด้านหน้าลิ้นชักครับ

วันนี้ยอมลงทุนเพิ่มอีกนิดหน่อย เพื่อซื้อแปรงแบบลูกกลิ้งกับถาดพลาสติก ช่วยประหยัดเวลาไปได้เยอะครับ กลิ้งๆ ไปแปปเดียวก็เสร็จแล้ว แถมไม่มีรอยแปรงอีกต่างหาก


หลังจากกนั้นก็เป็นคิวของลิ้นชักครับ ใช้เวลาอยู่สักพักเพราะ ทาวนสองรอบให้สีเนียนมากที่สุด

ผลงานหลังทาเสร็จทุกชิ้น ดูมีสง่าราศีขึ้นมาทันที ส่วนตัวชอบสีด้านๆ แบบนี้มาก แต่ต้องทำใจเคลือบผิวครับ ไม่งั้นเวลาใช้ไปสีอาจจะถลอกและลอกได้ง่าย

สีเคลือบแอบทายาก เพราะต้องใช้ความเร็วในการทา ถ้าทาช้าๆ น้ำยาจะเริ่มหนืด เวลาลากแปรงแล้วจะทิ้งเป็นคราบขาวๆ ถ้าเลือกได้และมีอุปกรณ์คิดว่าใช้วิธีพ่นน่าจะดีที่สุดครับ ถ้าใช้อุปกรณ์แบบบ้านๆ อย่างผมก็รอยแปรงเพียบครับ T__T
 
ใกล้ความฝันเข้าไปทุกทีแล้ว ที่เหลือก็ภาวนาให้พรุ่งนี้ สีเคลือบแห้งสนิทและไม่ทิ้งคราบขาวไว้บนโต๊ะ ถ้ายังขุ่นอยู่ อาจจะต้องขัดออกแล้วลงสีใหม่อีกครั้ง  คืบหน้ายังไงเดี๋ยวมาอัพเดทให้ฟังนะครับ

*** PART 3 ***
สวัสดีครับ หายไปหลายวันเพราะไปซุ่มทำโต๊ะมานะครับ เนื่องจาก 2-3 วันที่ผ่านมาได้ทำแค่วันละนิดละหน่อย เลยคิดว่ารอทำเสร็จค่อยมาเขียนสรุปปิดรีวิวรวดเดียวเลยดีกว่า หน้าตาจะออกมาเป็นยังไงไปดูกันนะครับ

ต่อจากรอบที่แล้ว หลังจากทาน้ำยาเคลือบผิวทิ้งไว้ทั้งคืน ผลปรากฎว่ารอยเพียบครับ! บางจุดที่เคลือบก็มีฝุ่นขาวๆ เล็กๆ ติดอยู่ เลยพยายามทาสีดำกลบ แต่กลายเป็นด่างมากขึ้นกว่าเดิมอีก เลยตัดสินใจขัดแล้วเคลือบใหม่ครับ
 
ผลที่ได้คือ...ถลอกสิครับ งานเข้า ต้องขัดให้เรียบและเก็บสีใหม่อีกรอบเลยครับ T__T 

หลังจากลงสีใหม่ เลยปรึกษาไปกับทางร้านขายสี เขาบอกว่าให้ลองใช้แปรงฟองน้ำทาน้ำยาเคลือบดู แต่ปัญหาคือ แถวบ้านมันไม่มีขายครับ + ขี้เกียจสั่งออนไลน์แล้วด้วย เลยเอาสก๊อตไบรท์นี่เหละน่าจะเหมือนๆ กัน และผลที่ได้คืออออ...


มันดีเกินคาดครับ! พอแห้งแล้วก็เรียบเนียนในระดับที่น่าพอใจ

ทีนี้ก็เหลือแค่ลิ้นชักครับ นึกในใจว่ามันจะไปยากอะไร แค่เจาะรูแล้วก็เปลี่ยนมือจับ ปิดจ๊อบชิวๆ

ว่าแล้วก็เกณฑ์พี่ชายมาช่วยเจาะครับ จะได้เสร็จงานไวๆ แต่ระหว่างเจาะไปได้แค่ครึ่งทาง...

สว่านแบทหมดครับ!!! เจอชีวิตสู้กลับอย่างหนัก! แต่เราไม่ท้อครับ พักไปชาร์ตแบทสว่านอยู่ราวๆ ครึ่ง ชม. หลังจากนั้นก็เจาะได้ทั้งสองฝั่ง 

เจาะปุ๊บก็รีบเอาที่จับมาใส่ครับ เพราะอยากเสร็จไวๆ แต่ปรากฎว่า น๊อตที่ร้านให้มามันสั้นไปครับ โว๊ยยยยยยย!!!! T___T


ต้องรอวันถัดมาเพื่อไปหาซื้อน๊อตจากร้านวัสดุครับ ตอนแรกนึกว่าจะหาได้ชิวๆ แต่สุดท้ายขับวนอยู่ประมาณ 40 นาที แวะไปทั้งหมด 5 ร้านครับ กว่าจะได้ไซส์ที่ต้องการ เรียกว่าขับรถวนทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียวจริงๆ 

และในที่สุดเราก็ได้ทุกชิ้นส่วนที่เราต้องการ ความรู้สึกประมาณ ธานอสตอนได้ infinity stone ครบทุกก้อนครับ และแล้วน้องโต๊ะของเราก็เป็นอันสมบูรณ์


มาถึงจุดนี้ก็ต้องขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน คอมเมนต์ และติดตามการ DIY โต๊ะครั้งแรกของผมนะครับ เรียกว่าค่อนข้างพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ ได้โต๊ะสวยแบบที่พอใจในไซส์ที่ต้องการ หวังว่าจะได้ช่วยสร้างแรงบันดาลใจหรือมอบความบันเทิงให้กับทุกคนได้บ้าง ถ้ามีโปรเจคต่อๆ ไปไว้จะมาแชร์ให้ฟังกันอีกนะครับ ขอบคุณครับ ^__^
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่