วิธีดูคลาสสัมมนาการลงทุน เราจะรู้ได้อย่างไร คนไหนแท้ คนไหนเทียม

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ไม่ได้บอกว่าการเรียนคลาสสัมมนาการลงทุนนั้นไม่ดี

คลาสมีตั้งเยอะ ตั้งแยะ และไม่มีอะไรที่ไม่มีประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นคลาสที่เสียเงิน หรือไม่เสียเงิน

กระทู้ที่ชอบถามว่า เพจนู้นดีจริงไหม สำนักนี้ของจริงไหม เรียนดีหรือเปล่า ควรไปเรียนไหม กูรูท่านนี้เก่งจริงไหม
ซึ่งคอมเม้นท์ที่ได้ส่วนใหญ่ ก็จะประมาณว่า คนสอนรวยจากการสอน ไม่ได้รวยจากการเทรด เหน็บแนม กันซะส่วนใหญ่

ขอตอบแบบนี้ละกัน ถ้าอยากรู้ก็ต้องลองเรียนครับ นั่นคือการลงทุนในความรู้ และยืนยันไม่มีอะไรจะเสียแน่นอน 
ความรู้ที่ได้ มากกว่าเดิมแน่นอน แต่จะคุ้มกับที่ลงทุนไปไหม อันนี้ตอบยาก เพราะเป็นเรื่องคุ้มกับไม่คุ้ม ซึ่งเราพบเจอโดยทั่วไป (กรณีเสียเงิน)

กรณีเสียเงินเรียน ต้องระวังนิดนึง เพราะ นลท จะคิดได้ว่า มีต้นทุนในการได้ความรู้ จึงมักจะพยายามถอนทุนค่าเรียนทันที
อันนี้ เรียกว่า ร้อนวิชา 

การร้อนวิชาไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่ถ้าคุณเรียนกับของเทียมมา คุณอาจจะยิ่งใกล้ยิ่งเจ็บก็ได้

วิธีแยกแยะคนไหนแท้ คนไหนเทียม มีวิธีดูได้ดังนี้

1. เรื่องของเวลา อดีต ปัจจุบัน อนาคต เทียมคือ คนที่พยายามอธิบายภาพในอดีตหรือ กราฟทางซ้ายมากเกินไป มีตัวอย่างฉายให้เห็นภาพเยอะ ว่าวิธีแบบนี้ในอดีต คือ สูตรแห่งชัยชนะ แล้วขยี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก อธิบายกราฟทางซ้ายมันง่ายนะ มันคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปแล้ว และมักจะเบลมลูกศิษย์ด้วยว่า ทำไมไม่เข้าตั้งแต่ตอนโน้น ตอนนั้น เอ่อ นั่นมันอดีตนะ ไม่มีไทม์แมชชีนน่ะครับ แท้มักพูดถึง การเกี่ยวพันกับ ความน่าจะเป็น หรือ Probability ว่ามีโอกาศได้เงินหรือเสียเงินมากกว่า ในแต่ละรูปแบบ โดยไม่อิงกับภาพในอดีตมากนัก สาย Fundamental ส่วนใหญ่อยู่ฝั่งแท้ ซะส่วนมาก เพราะพวกเค้าไม่ยึดติดกับอดีตมาก พวกเค้ามองอนาคตกัน จึงไม่ค่อยหลงอดีต

2. Mindset เทียมคือ เอะอะก็จะโทษ Mindset ซึ่งนั่นคือความจริงส่วนเล็กๆ ส่วนเดียว ซึ่งถ้า Method กับ Money Management ไม่ถูก ต่อให้มี Mindset แบบทนขาดทุนได้ 50% ก็ไม่อาจยืนในตลาดอย่างยาวนานได้ และ Mindset มักจะเป็นแพะ เสมอ ถ้าคุณไม่ประสพความสำเร็จจากการเรียน แท้ จะเข้าใจเรื่องพวกนี้ อธิบาย Method MM และ Mindset ได้เป็นลำดับ โดยมี Mindset เป็นลำดับสุดท้าย 

3. Entry and Exit การซื้อและการขาย เทียม เน้นจุดเข้า แต่แบ๊ะๆ จุดออก เน้นท่านี้ต้องแม่น เสพติดความแม่น มีท่าไม้ตาย มีวิธีอ่านทางรายใหญ่ เป็นต้น กูรูประเภทนี้ จะทำให้เรางงๆ เสมอ ว่า เข้าตอนไหน ออกตอนไหน ไหนบอกรันเทรนด์ แต่ตอนโชว์หลังจากที่ราคาที่ร่วงแล้ว ว่า ออกไปนานแล้ว เทพได้อีก  แท้จะอธิบายเรื่องการเข้า และการออก ได้เป็นระบบทั้ง จุดเข้าและ จุดออก โดยเน้นจุดออกมากกว่าด้วยซ้ำ

4. เรื่องของการจับวาฬ การตามล่ารายใหญ่ เทียมคือ การพยายามเอาเบ็ดตกปลามาล่าวาฬ หลงในมิติของ Indicators หรือ Volume ที่คำนวนมาจาก OHLCV ของแท่งเทียน ว่าวิธีแบบนี้จับวาฬได้ ถ้ารายใหญ่โง่ขนาดนั้น เค้ามาเป็นรายใหญ่ไม่ได้หรอก แท้จะเข้าใจว่า มันเป็นเรื่องของ Big Data และเทคโนโลยี ในมิติอื่นๆ ซึ่งต้องอาศัย Tool ที่ถูกพัฒนามาโดยเฉพาะ เป็นเรื่องของ High Frequency Trading ยิ่งยุคนี้ สายที่ใช้สายตาดู Bid Offer กับ Ticker ก็ยังอยู่ยากขึ้นเรื่อยๆ และ Volume มีการแจกแจงแบบไคว์สแควร์ ไม่ใช่ Norm Dist ดังนั้นการพูดถึง Norm Dist  ใน Volume อาจไม่ใช่คำตอบ 

5. Money Management เทียม ส่วนใหญ่จะอธิบายได้ครึ่งๆกลางๆ ไม่ค่อยให้ความสำคัญมากนัก เพราะคิดว่าไม่จำเป็น เข้าแม่นเป็นพอ แท้ จะตอกย้ำเลยล่ะ เพราะมันต้องบริหารอย่างเข้าใจ พอร์ทถึงจะโตได้ MM เป็นศาสตร์ที่ลึก และเข้าใจยาก เพราะมันคือการทุบ Normal Distribution ของการเทรด โดยไม่เปลี่ยน Mean หรือ SD ใดๆ

6. The Holy Grail จอกศักดิ์สิทธิ์ เทียมจะพยายามอวดอ้างมากเกินไป แต่ไปเน้นอธิบายจุดเข้า ท่ายากเกิ๊นส์ ท่าที่ดูเหมือนล้ำๆ ดูเท่ห์ ดูเทพๆ มีเหตุมีผล เห็นแล้วร้องว้าว แท้จะพยายามสื่อสารในอีกทางหนึ่ง ที่ไม่ให้ไปจมอยู่กับการเปิดออเดอร์มากเกินไป เพราะเสียเวลา ตามหาทั้งชีวิต อาจจะไม่มีวันเจอ ได้แต่การเปลี่ยนหน้าเทรดไปเรื่อยๆ วนไป กลับมาที่เดิม วนๆไป

7. ทำเงินง่ายนิดเดียว เทียม จะพยายามบอกว่า รวย รวย รวย หมูๆ ง่วยๆ แท้จะพยายามปราม เพราะ ถ้ามันง่าย รวยหมดประเทศแล้ว แต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินไป ที่จะไขว่คว้า

8. Background ของผู้สอน แท้ส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยได้สอนใคร เพราะมีหน้าที่รับผิดชอบหลักๆ อยู่แล้ว อย่าง บริหาร Private Fund ให้กับกลุ่ม Ultra High Net Worth (ซึ่งกลุ่มนี้ไม่ชอบใช้กูรูร่วมกับใคร) หรือ ป๊อปเทรดที่ประวัติขาวสะอาด (ไม่เคยถูกเชิญออก หรือ เก็บโต๊ะกลับบ้านตอนเย็นแล้วไม่มาอีกเลย) เทรดเดอร์อิสระ อาชีพหลักคือ เทรดเลี้ยงชีพ ที่ไม่ได้มีอาชีพเสริม หรือ FA ส่วนตัวของบรรดาเจ้าสัว (Super Ultra High Net Worth) หรือ กลุ่มที่รวยจากการเทรด แล้วอยากคืนอะไรกลับสู่สังคม หรือ บุคคลรับเชิญตามหน้าสื่อการลงทุนหลักต่างๆ(ที่เชื่อถือได้) และถ้าตอบตามจริง ถ้าคุณเก่งจริง คุณจะหนีเทียบเชิญให้เข้าสู่วงการนี้ไม่พ้น 

ถ้าคุณอ่านผ่านทั้ง 8 ข้อหลักๆ แล้ว ก็ขอให้เป็นวัคซีนการลงทุนให้ได้กันน่ะครับ

ส่วนสาย Fundamental กับ สาย Technical ผลตอบแทนจริงๆ พอๆกัน ไม่มีใครทิ้งใคร แต่ที่เราเห็นสาย Fundamental ประสพความสำเร็จมากกว่า
ในภาพของรายย่อย นั่นเพราะ พวกเค้าเรียนรู้ในทิศทางตรงกันข้ามกับ Technical คือ ถูกบังคับให้อยู่ฝั่งถูกมากกว่าฝั่งผิดตั้งแต่เริ่มต้น แม้กระทั่งเรื่อง MM แบบ All in ซึ่งพวกเค้า จ่ายขนาด Sizing ตาม Probability นะ แต่ Technical นี่ไหลไปเรื่อยๆ หาหลักยึดไม่เจอ ได้รับยาผิดขนานก่อนซะส่วนใหญ่

สุดท้ายสิ่งที่อยากจะบอก คือ ในโลกของการเทรด ไม่มีสิ่งที่ผิดหรือถูก พวกเรามีกฏง่ายๆ คือ คนที่ได้เงินถูกเสมอ ทฤษฎีไม่ต้องเถียงกัน
อยู่ที่ความเชื่อของแต่ละคนเลยครับ และถ้าคุณเรียนกับใคร หรือเรียนรู้ด้วยตนเอง แล้วพัฒนาตนเองได้ดีขึ้น และสุดท้ายคุณได้เงิน  คุณมาถูกทางแล้ว อาจจะไม่ตรงกับที่ผมเอ่ยมาทั้งหมดก็ได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่