สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
เคยวัดอุณหภูมิแอร์ทั้ง 2 แบบ (Fixed BTU กับอินเวอร์เตอร์) โดยจับเวลาทุกๆ นาทีตั้งแต่เริ่มไปตลอด2 ชั่วโมง ที้งคู่มีขนาดประมาณ 9000 บีทียู
เส้นเขียวเป็นแอร์ธรรมดา เส้นน้ำเงินเป็นแบบอินเวอร์เตอร์ ตั้งค่าไว้ที่ 28 องศาทั้งคู่ เส้นด้านบนเป็นของนอกห้องเอาไว้อ้างอิงเท่านั้นว่าต่างกันไม่เกิน 2 องศาในช่วงแรก
แอร์ธรรมดาจะเข้าสู่ค่าที่ตั้งไว้ในนาทีที่ 52 ส่วนอินเวอร์เตอร์จะอยู่นาทีที่ 58 หรือช้ากว่า 6 นาที แต่ที่นาที 52 อุณหภูมิก็ต่างกันแค่ 0.5 องศา แต่ถ้าดูให้ลึกอินเวอร์เตอร์จะมีการเร่งตัวเองถ้าทิ่งไว้อีกหน่อยก็จะเย็นเร็วกว่าแบบธรรมดาได้แน่เพราะบีทียูเต็มที่จะมากกว่า 10 000 บีทียู ขณะที่แอร์ปกติจะมีค่าจริงไม่ถึง 9 000 บีทียู แต่มันเปลี่ยนสเตปที่นาทีที่ 13 31 และ 61 ตามลำดับ ซึ่งโดยรวมแล้วผมไม่ถือว่าต่างกันในการใช้เวลาไปสู่จุดที่ตั้งไว้ ก็แปลกใจที่กล่าวกันว่ามันไม่ฉ่ำคืออะไร
อีกอย่างที่สังเกตได้คือแอร์ธรรมดาจะมีการสวิงของความเย็นจากการทำงานของเทอร์โมสตัทประมาณ 1.1-1.2 องศา (25.8 - 27 องศา) มีคาบเวลาที่ละรอบอยู่ที่ 12 นาที ขณะที่ของอินเวอร์เตอร์นั้นราบเรียบมาก
ที่ทำงานผมว่าแอร์อินเวอร์จะเหมาะกว่าเพราะมันไม่มีการกระชากไฟตอนคอมเพรสเซอร์ตัดต่อ คุมเพาเวอร์แฟคเตอร์ดีกว่า มอเตอร์แบบ 3 เฟสทำให้ทำงานได้ราบเรียบกว่า ออกแบบให้ประหยัดพลังงานดีกว่า โดยทั่วไปแอร์ 9000 จะใช้กระแส 3.6 แอมป์ ส่วนอินเวอร์เตอร์จะอยู่ที่ 3 - 3.2 แอมป์ และบางเครื่องจะมีระบบเป่าลมไล่ความชื้นลดเชื้อราเกาะ กับสามารถคุมกำลังงานได้ว่าจะลดไฟกี่เปอร์เซนต์ ทำให้คุมภาวะโหลดในที่ประกอบการได้ จะช่วยในเรื่องค่าดีมานด์แต่ก็จะเย็นช้าลงด้วยเหมือนกันโดยเฉพาะช่วงเริ่มทำงาน ส่วนการดูแลรักษานั้นแทบไม่ต่างกันล้างแอร์ก็เหมือนกัน บอร์ดอินเวอร์เตอร์ก็ไม่ได้เสียง่ายเพราะมีระบบป้องกันเสริมมาเยอะแถมราคาก็ถูกลงด้วย แอร์รุ่นเก่านับวันก็จะหาอะไหล่ยากขึ้น แต่โมไปใส่ตัวควบคุมอื่นง่ายกว่า
เส้นเขียวเป็นแอร์ธรรมดา เส้นน้ำเงินเป็นแบบอินเวอร์เตอร์ ตั้งค่าไว้ที่ 28 องศาทั้งคู่ เส้นด้านบนเป็นของนอกห้องเอาไว้อ้างอิงเท่านั้นว่าต่างกันไม่เกิน 2 องศาในช่วงแรก
แอร์ธรรมดาจะเข้าสู่ค่าที่ตั้งไว้ในนาทีที่ 52 ส่วนอินเวอร์เตอร์จะอยู่นาทีที่ 58 หรือช้ากว่า 6 นาที แต่ที่นาที 52 อุณหภูมิก็ต่างกันแค่ 0.5 องศา แต่ถ้าดูให้ลึกอินเวอร์เตอร์จะมีการเร่งตัวเองถ้าทิ่งไว้อีกหน่อยก็จะเย็นเร็วกว่าแบบธรรมดาได้แน่เพราะบีทียูเต็มที่จะมากกว่า 10 000 บีทียู ขณะที่แอร์ปกติจะมีค่าจริงไม่ถึง 9 000 บีทียู แต่มันเปลี่ยนสเตปที่นาทีที่ 13 31 และ 61 ตามลำดับ ซึ่งโดยรวมแล้วผมไม่ถือว่าต่างกันในการใช้เวลาไปสู่จุดที่ตั้งไว้ ก็แปลกใจที่กล่าวกันว่ามันไม่ฉ่ำคืออะไร
อีกอย่างที่สังเกตได้คือแอร์ธรรมดาจะมีการสวิงของความเย็นจากการทำงานของเทอร์โมสตัทประมาณ 1.1-1.2 องศา (25.8 - 27 องศา) มีคาบเวลาที่ละรอบอยู่ที่ 12 นาที ขณะที่ของอินเวอร์เตอร์นั้นราบเรียบมาก
ที่ทำงานผมว่าแอร์อินเวอร์จะเหมาะกว่าเพราะมันไม่มีการกระชากไฟตอนคอมเพรสเซอร์ตัดต่อ คุมเพาเวอร์แฟคเตอร์ดีกว่า มอเตอร์แบบ 3 เฟสทำให้ทำงานได้ราบเรียบกว่า ออกแบบให้ประหยัดพลังงานดีกว่า โดยทั่วไปแอร์ 9000 จะใช้กระแส 3.6 แอมป์ ส่วนอินเวอร์เตอร์จะอยู่ที่ 3 - 3.2 แอมป์ และบางเครื่องจะมีระบบเป่าลมไล่ความชื้นลดเชื้อราเกาะ กับสามารถคุมกำลังงานได้ว่าจะลดไฟกี่เปอร์เซนต์ ทำให้คุมภาวะโหลดในที่ประกอบการได้ จะช่วยในเรื่องค่าดีมานด์แต่ก็จะเย็นช้าลงด้วยเหมือนกันโดยเฉพาะช่วงเริ่มทำงาน ส่วนการดูแลรักษานั้นแทบไม่ต่างกันล้างแอร์ก็เหมือนกัน บอร์ดอินเวอร์เตอร์ก็ไม่ได้เสียง่ายเพราะมีระบบป้องกันเสริมมาเยอะแถมราคาก็ถูกลงด้วย แอร์รุ่นเก่านับวันก็จะหาอะไหล่ยากขึ้น แต่โมไปใส่ตัวควบคุมอื่นง่ายกว่า
สมาชิกหมายเลข 1915580 ถูกใจ, Amalgamate ทึ่ง, สมาชิกหมายเลข 2314332 ทึ่ง, แมวส้มน่ารัก ถูกใจ, suruchs ถูกใจ, fujimon ถูกใจ, SorayuthSin ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6097053 ถูกใจ, แม่หญิงชาเย็น ทึ่ง, สิงห์ขี้เมา ถูกใจรวมถึงอีก 25 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
แอร์แบบ Inverter หรือแบบธรรมดาดี
แต่ข้อที่ 2 คือ โจทย์ให้เปลี่ยนเครื่องใหม่ทั้งหมด จะแนะนำแอร์แบบใด (ซึ่งตรงนี้คือจุดที่อยากถามค่ะ ว่าควรเลือกแอร์เป็นแบบ inverter หรือ ธรรมดา ดีคะ ถ้าเป็นสำนักงานใหญ่ๆ)