กลับมาอีกครั้งสำหรับรุ่น ACER SWIFT อย่างที่ทราบกันดีว่าเป็นตระกูลที่บางเบาของค่าย ดีไซน์สวยหรูโดนใจ มาพร้อมกับสเปกการทำงานที่ครบครันจัดเต็มสุดๆ รองรับการใช้งานได้อย่างหลากหลายรูปแบบ ประโยชน์จัดเต็มแน่นอน และในครั้งนี้ ACER SWIFT 3 ทำการพัฒนาระบบประสิทธิภาพการใช้งานมากขึ้น ซึ่ง AMD Ryzen 5 ที่มาพร้อมกับกระบวนการผลิต 7nm และใช้ตัว 5500U ตัวใหม่ล่าสุด เรียกได้ว่ากลับมาพร้อมกับการใช้งานที่โหดสุดขีดแต่ราคานั้นคุ้มค่ามากๆ ประหยัดไฟได้เป็นอย่างดี เหมาะสมมากๆกับเศรษฐกิจในยุคนี้ สำหรับใครที่กำลังมองหาแล็ปท็อปที่เร็วแรง ประสิทธิภาพดี ดีไซน์สวยหรูแต่ราคาสบายกระเป๋า แอดต้องขอแนะนำตัวนี้เลย เราไปดูกันเลยว่าในรุ่นนี้จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
ACER SWIFT 3
ในรุ่นนี้เป็นการใช้งาน CPU AMD Ryzen 5 5500U เป็นตัวล่าสุดที่เปิดตัวมาพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตที่ 7nm ความเร็ว 2.1 – 4.00 GHz L3 Cache ที่ 8MB พร้อมกับ AMD Radeon Graphics ใช้งาน Windows 10 Home+Office Home&Student 2019 และในตัว RAM นั้นมาพร้อมกับ 8GB LPDDR4X และ ความจุ 512GB PCle Gen3 NVMe SSD เรียกได้ว่าโดยรวมแล้วประสิทธิภาพการใช้งานสเปกต่างๆจบครบลงตัว เร็วแรงถูกใจคนใช้งานแน่นอน หน้าจอขนาด 14 นิ้ว FULL HD IPS พร้อมกล้องหน้า Acer webcam (SHDR) มาให้เราได้ใช้งานด้วยนะ น้ำหนักเครื่องเบาเพียง 1.2 กิโลกรัม พกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสบายๆเลย พอร์ตเชื่อมต่อค่อนข้างครบเลยแหละ ถือว่ารุ่นนี้ออกมาได้ตอบโจทย์ทุกการใช้งานจริงๆ
ACER SWIFT 3 ราคา :: 20,990 บาท AMD Ryzen 5 5500U / RAM 8 GB / SSD 512 GB
DESIGN
ทางด้านการออกแบบดีไซน์ในรุ่นนี้นั้นไม่ได้แตกต่างจากรุ่นก่อนๆมากนัก ยังคงจะเน้นไปในเรื่องของความเรียบหรูดูมีระดับ ใช้โทนสีเดียวกันทั้งเครื่องเช่นเดิม ตัวเครื่องถูกออกแบบให้มีความบางเบาเป็นพิเศษ สามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสบายๆเลยนะ ขนาดเครื่องอยู่ที่ 32.28 x 21.2 x 1.79 ซม. น้ำหนักเพียงแค่ 1.2 กิโลกรัมเท่านั้น ตัวเครื่องเป็นโลหะทั้งเครื่อง พื้นผิวสัมผัสเนียนๆ การดีไซน์ลงตัวทุกจุด ถึงแม้ว่าจะมีความเพรียวบางแต่สเปกภายในตัวเครื่องนั้นจัดเต็มสุดๆ หน้าจอใหญ่จุใจถึง 14 นิ้ว ขอบจอบางมาก ใช้งานได้อย่างเต็มพื้นที่มากยิ่งขึ้น องศาการกางสามารถกางได้เยอะมากเลย ใช้งานได้อย่างจัดเต็ม
งานออกแบบภายนอกนั้นจะเป็นสีเงินทั้งหมด ไม่มีตัดสีเพิ่มลูกเล่นอะไรมาให้เลย จะเน้นไปในทางเรียบๆแต่ดูแล้วมีอะไร มีแต่เพียงตรงขอบหน้าจอเท่านั้นที่เป็นสีดำ เมื่อมองทางด้านหลังจะเห็นการสลักชื่อค่ายด้วยสีเงินแบบเด่นๆ บนพื้นผิวเนียนๆของตัวเครื่อง ส่วนความหรูหราน่าใช้อันนี้ไม่ต้องพูดถึงเลย แอดขอยกนิ้วให้ตรงนี้
ทางด้านของแป้นพิมพ์นั้นเองก็ใช้สีเงินที่เป็นสีเดียวกับตัวเครื่อง เช่นเดียวกันกับรุ่นก่อนๆ อาจจะแอบมองยากไปนิดหากเจอแสงเยอะๆ การวางช่องระยะต่างๆกำลังพอดีเลย ปุ่มสั่งงานต่างๆเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ และจะมีปุ่มสแกนนิ้วมือสีดำอยู่บริเวณด้านล่างขวาของแป้นพิมพ์มาให้เราได้ใช้งานกันด้วยนะ
ด้านหลังของตัวเครื่องจะเป็นวัสดุโลหะดีๆแบบเดียวกับฝาหน้า ซึ่งน่าประทับใจมากๆที่ทางค่ายยังคงใช้วัสดุเดียวกันทั้งหมดของตัวเครื่อง ไม่มีการลดต้นทุนใดๆเลย เพราะเราจะเห็นได้ว่าบางรุ่นนั้นตัวฐานเครื่องจะใช้เป็นพลาสติกนั้นเอง เมื่อมองที่ด้านหลังของเครื่องจะเห็นช่องระบายความร้อนมาให้ 2 แถว มีช่องระบายเยอะในระดับนึงเลยนะ และมีลำโพงที่อยู่บริเวณมุมซ้ายขวาล่างของเครื่อง จะสังเกตได้ว่าทุกๆมุมจะมีฐานรองตั้งมาให้ด้วย ช่วยให้สามารถมีพื้นที่ระบายความร้อนได้ดีขึ้นไปอีก
SPEC
- CPU AMD RYZEN 5 5500U
- GPU AMD Radeon Graphics
- RAM 8GB LPDDR4X
- 512GB PCle Gen 3 NVMe SSD
- หน้าจอ 14 นิ้ว FHD IPS
- Windows 10 HOME
- Microsoft Office Home & Student 2019
- Acer webcam (SHDR)
- 4-cell battery pack
- Wi-Fi 6 AX, 2×2 MU-MIMO
PERFORMANCE
ทางด้านของประสิทธิภาพการใช้งานในรุ่นนี้เรียกได้ปรับมาใช้ Ryzen 5 5500U สถาปัตยกรรม Zen 3 บนกระบวนการผลิต 7nm แน่นอนว่าการใช้งานนั้นทำได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย การทดสอบสอบคะแนนต่างๆก็ทำได้ดีขึ้น คะแนนอยู่ในระดับสูง รองรับการใช้งานได้อย่างชิลๆ มาพร้อม ความเร็ว 2.1 – 4.00 GHz ทางด้านของ RAM นั้นใช้งาน 8GB LPDDR4X มาพร้อมกับ Windows 10 Home และ Microsoft office Home & Student 2019 มีให้มาแบบจัดเต็มมาก การใช้งานทั่วไปถือว่าโอเคเลยนะ ไม่อืดไม่ค้างให้น่าหงุดหงิดใจเลย องค์ประกอบทางด้านของการทำงานตอบโจทย์และลงตัวมากๆ เรียกได้ว่าสเปกแรง แต่ราคานั้นไม่ได้แรงมาก คุ้มค่าเกินราคา อีกทั้งยังกินไฟน้อยลง ให้ประสิทธิภาพต่อการใช้พลังงานวัตต์มากขึ้น หายากมากๆสำหรับแล็ปท็อปสเปกที่ใกล้เคียงกันกับรุ่นโหดๆ แต่ตัวนี้มาในโหมดราคาถูกกว่า
KEYBOARD
ทางด้านของคีย์บอร์ดในรุ่นนี้นั้นออกแบบดีไซน์ให้สีกลมกลืนกับสีพื้นของตัวเครื่องเลย มาพร้อมกับไฟ Backlit สีขาวมาให้ใช้งาน แอบเสียดายตรงที่ออกแบบมาให้ค่อนข้างมองยาก เวลาเจอแสงกระทบก็อาจทำให้มองไม่เห็นตัวอักษร สำหรับคนที่ไม่ชินกับคีย์บอร์ดหรือเอาไปใช้งานนอกสถานที่อาจจะใช้งานลำบากหน่อย และจะเห็นปุ่มสีดำบริเวณด้านล่างขวานั้นเป็นปุ่มสแกนนิ้วมือนั้นเอง การจัดระยะยังคงทำได้ดี สามารถพิมพ์ได้อย่างถนัดมือ ที่ชอบมากๆเลยคือเมื่อกดใช้งานแล้วตัวปุ่มสามารถเด้งสู้นิ้วได้ดี ทางด้านของ TouchPad นั้นก็มีขนาดที่ใหญ่พอดีมือ ลื่นไหลตอบสนองตามนิ้วได้ดีมากๆ โดยรวมแล้วไม่มีปัญหาอะไรเลยนะ เหมือนกับคีย์บอร์ดทั่วๆไปใช้งานง่าย ตอบสนองได้ดี แต่แอบเสียดายตรงสีของปุ่มกดที่แอดมองยากไปหน่อย
SCREEN
ทางด้านหน้าจอในรุ่นนี้นั้นมาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 14 นิ้ว กับความละเอียด FHD และใช้งานจอ IPS (1920×1080) 72% NTSC Color gamut ให้ภาพที่สวยคมชัด ใช้งานได้อย่างเต็มอรรถรสสุดๆ ขอบหน้าจอมีความบางมากๆ ทำให้เราสามารถใช้งานได้อย่างเต็มพื้นที่จริงๆ หน้าจอสามารถสู้แสงได้ดีขึ้นกว่าเดิมมากๆ นำออกไปใช้งานนอกสถานที่ได้สบาย ความแม่นยำของสีอยู่ในระดับกลางๆ สำหรับสายตัดต่อกราฟิกรุ่นนี้อาจไม่ตอบโจทย์มากนัก
เมื่อมองจากด้านข้างแล้วนั้นหน้าจอในรุ่นนี้อาจจะไม่ได้ให้สีที่แม่นยำ หรือรายละเอียดยังคงชัดอยู่มากนัก แต่ที่ชอบมากๆเลยคือหน้าจอเป็นแบบด้าน ทำให้เมื่อเจอแสงกระทบจะไม่ส่งผลอะไรมากต่อการใช้งาน รวมๆแล้วแล็ปท็อปราคาระดับนี้ได้สเปกหน้าจอจัดเต็มแบบนี้ถือว่าโอเคเลยแหละ
SOUND
ทางด้านของลำโพงในรุ่นนี้นั้นจะอยู่ในบริเวณด้านหลังเครื่อง จะอยู่ทางด้านล่างซ้ายและขวา กลมกลืนไปกับช่องระบายอากาศแบบเนียนๆ คุณภาพของเสียงหรือความดังนั้น ก็ยังคงสามารถทำออกมาได้ดีขึ้น ให้เสียงได้รอบทิศทาง แต่ก็ไม่ได้เด่นมากนัก และยังคงใช้งานดูหนังฟังเพลงทั่วไปได้แบบไม่มีปัญหาอะไรเลย ความดังนั้นก็ดังได้สูงในระดับนึงเลยนะ เพิ่มอรรถรสในการทำกิจกรรมได้เป็นอย่างดี โดยรวมแล้วยังคงทำงานได้ดีเช่นเดิมเลย
CONNECTOR
ทางด้านของพอร์ตเชื่อมต่อค่อนข้างให้มาอย่างครบครัน พอร์ตเชื่อมต่อในฝั่งขวานั้นจะเป็นในส่วนของรูเสียบหูฟัง 3.5 มม. ตามมาด้วย USB 3.2 พร้อมทั้งมีไฟบอกสถานะแสดงด้วย และปิดท้ายกันด้วยในรุ่นนี้มี Kensington Lock ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อทางฝั่งซ้ายนั้นจะเป็นในส่วนของที่ชาร์จไฟเข้าแบบวงกลม ตามมาด้วยช่อง USB-C และ HDMI รวมถึง USB-C 3.2 ก็มีมาให้ด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นแล็ปท็อปที่ให้พอร์ตเชื่อมต่อมาแบบครบครันจริงๆ ถึงแม้ว่าจะถูกออกแบบดีไซน์มาให้บางก็ตาม สามารถรองรับการใช้งานได้อย่างหลากหลายเลย
AMD RADAEON
ในครั้งนี้ทางค่ายได้หันมาใช้งาน AMD Ryzen 5 5500U พร้อมกับ Radeon Graphics ที่รองรับการใช้งานที่โหดขึ้นกว่าเดิม เร็วแรงโดนใจมาก มาในราคาสบายกระเป๋า การทำงานของ AMD Radaeon ค่อนข้างทำงานได้ดีเลยนะ รองรับการทำงานได้อย่างหลากหลายและลงตัวจริงๆ CPU และ GPU ทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี ความเร็วความไวนั้นไม่ต้องห่วง เร็วแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากที่แอดได้ทำการลองใช้ลองเล่น วัดค่าความเร็วต่างๆของเจ้าตัวนี้มาเป็นระยะเวลานึง แอดคิดว่าเจ้าตัวนี้สามารถทำงานได้เป็นอย่างดี ตอบโจทย์ในทุกๆการใช้งานเลย ไม่พบเจอปัญหาอะไรมาก ที่น่าประทับใจมากๆคือในเรื่องของความเร็วที่โหด แต่อยู่ในโหมดราคาถูกนี้แหละทุกคน
WORKING
ทางด้านของการทำงานในรุ่นนี้นั้น แน่นอนว่า Ryzen 5 5500U สามารถรองรับการทำงานทั่วไปได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น Microsoft ทั้งหมด ตัดต่อกราฟิกต่างๆก็ยังทำออกมาได้ดีในระดับนึง ไม่มีปัญหาอะไรให้หนักใจนะ ส่วนของ ADOBE รองรับได้สบายอยู่ ในส่วนของ Photoshop แบบเบาๆ หากเป็นไฟล์ใหญ่ๆก็อาจจะยังทำไม่ได้ดีมากนัก โดยรวมแล้วถือว่ารับได้เลยในราคาระดับนี้ การทำงานหลายๆอย่างพร้อมกัน ก็ยังคงทำได้แต่อาจจะไม่สามารถเปิดพร้อมๆกันเยอะได้ ส่วนการดูหนังฟังเพลง ดูซีรีย์ไม่ต้องห่วงเลย เราสามารถเพลิดเพลินได้อย่างสบายใจเลยแหละ เรียกได้ว่าในรุ่นนี้รองรับการทำงานเบาๆไม่หนักมากนัก สายทำงานทั่วไปถือว่าตอบโจทย์หรือจะเป็นพวกออกแบบกราฟิกก็ยังไหวนะ เทียบกับราคาแล้วได้ประสิทธิภาพการทำงานที่หลากหลายแบบนี้ถือว่าคุ้มมาก
[SR] รีวิว ACER SWIFT 3 ดีไซน์สวยหรู รองรับการใช้งานเข้ากับทุกไลฟ์สไตล์ มาพร้อมกับราคาที่ดีมาก !
กลับมาอีกครั้งสำหรับรุ่น ACER SWIFT อย่างที่ทราบกันดีว่าเป็นตระกูลที่บางเบาของค่าย ดีไซน์สวยหรูโดนใจ มาพร้อมกับสเปกการทำงานที่ครบครันจัดเต็มสุดๆ รองรับการใช้งานได้อย่างหลากหลายรูปแบบ ประโยชน์จัดเต็มแน่นอน และในครั้งนี้ ACER SWIFT 3 ทำการพัฒนาระบบประสิทธิภาพการใช้งานมากขึ้น ซึ่ง AMD Ryzen 5 ที่มาพร้อมกับกระบวนการผลิต 7nm และใช้ตัว 5500U ตัวใหม่ล่าสุด เรียกได้ว่ากลับมาพร้อมกับการใช้งานที่โหดสุดขีดแต่ราคานั้นคุ้มค่ามากๆ ประหยัดไฟได้เป็นอย่างดี เหมาะสมมากๆกับเศรษฐกิจในยุคนี้ สำหรับใครที่กำลังมองหาแล็ปท็อปที่เร็วแรง ประสิทธิภาพดี ดีไซน์สวยหรูแต่ราคาสบายกระเป๋า แอดต้องขอแนะนำตัวนี้เลย เราไปดูกันเลยว่าในรุ่นนี้จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
ACER SWIFT 3
ในรุ่นนี้เป็นการใช้งาน CPU AMD Ryzen 5 5500U เป็นตัวล่าสุดที่เปิดตัวมาพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตที่ 7nm ความเร็ว 2.1 – 4.00 GHz L3 Cache ที่ 8MB พร้อมกับ AMD Radeon Graphics ใช้งาน Windows 10 Home+Office Home&Student 2019 และในตัว RAM นั้นมาพร้อมกับ 8GB LPDDR4X และ ความจุ 512GB PCle Gen3 NVMe SSD เรียกได้ว่าโดยรวมแล้วประสิทธิภาพการใช้งานสเปกต่างๆจบครบลงตัว เร็วแรงถูกใจคนใช้งานแน่นอน หน้าจอขนาด 14 นิ้ว FULL HD IPS พร้อมกล้องหน้า Acer webcam (SHDR) มาให้เราได้ใช้งานด้วยนะ น้ำหนักเครื่องเบาเพียง 1.2 กิโลกรัม พกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสบายๆเลย พอร์ตเชื่อมต่อค่อนข้างครบเลยแหละ ถือว่ารุ่นนี้ออกมาได้ตอบโจทย์ทุกการใช้งานจริงๆ
ACER SWIFT 3 ราคา :: 20,990 บาท AMD Ryzen 5 5500U / RAM 8 GB / SSD 512 GB
DESIGN
ทางด้านการออกแบบดีไซน์ในรุ่นนี้นั้นไม่ได้แตกต่างจากรุ่นก่อนๆมากนัก ยังคงจะเน้นไปในเรื่องของความเรียบหรูดูมีระดับ ใช้โทนสีเดียวกันทั้งเครื่องเช่นเดิม ตัวเครื่องถูกออกแบบให้มีความบางเบาเป็นพิเศษ สามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสบายๆเลยนะ ขนาดเครื่องอยู่ที่ 32.28 x 21.2 x 1.79 ซม. น้ำหนักเพียงแค่ 1.2 กิโลกรัมเท่านั้น ตัวเครื่องเป็นโลหะทั้งเครื่อง พื้นผิวสัมผัสเนียนๆ การดีไซน์ลงตัวทุกจุด ถึงแม้ว่าจะมีความเพรียวบางแต่สเปกภายในตัวเครื่องนั้นจัดเต็มสุดๆ หน้าจอใหญ่จุใจถึง 14 นิ้ว ขอบจอบางมาก ใช้งานได้อย่างเต็มพื้นที่มากยิ่งขึ้น องศาการกางสามารถกางได้เยอะมากเลย ใช้งานได้อย่างจัดเต็ม
งานออกแบบภายนอกนั้นจะเป็นสีเงินทั้งหมด ไม่มีตัดสีเพิ่มลูกเล่นอะไรมาให้เลย จะเน้นไปในทางเรียบๆแต่ดูแล้วมีอะไร มีแต่เพียงตรงขอบหน้าจอเท่านั้นที่เป็นสีดำ เมื่อมองทางด้านหลังจะเห็นการสลักชื่อค่ายด้วยสีเงินแบบเด่นๆ บนพื้นผิวเนียนๆของตัวเครื่อง ส่วนความหรูหราน่าใช้อันนี้ไม่ต้องพูดถึงเลย แอดขอยกนิ้วให้ตรงนี้
ทางด้านของแป้นพิมพ์นั้นเองก็ใช้สีเงินที่เป็นสีเดียวกับตัวเครื่อง เช่นเดียวกันกับรุ่นก่อนๆ อาจจะแอบมองยากไปนิดหากเจอแสงเยอะๆ การวางช่องระยะต่างๆกำลังพอดีเลย ปุ่มสั่งงานต่างๆเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ และจะมีปุ่มสแกนนิ้วมือสีดำอยู่บริเวณด้านล่างขวาของแป้นพิมพ์มาให้เราได้ใช้งานกันด้วยนะ
ด้านหลังของตัวเครื่องจะเป็นวัสดุโลหะดีๆแบบเดียวกับฝาหน้า ซึ่งน่าประทับใจมากๆที่ทางค่ายยังคงใช้วัสดุเดียวกันทั้งหมดของตัวเครื่อง ไม่มีการลดต้นทุนใดๆเลย เพราะเราจะเห็นได้ว่าบางรุ่นนั้นตัวฐานเครื่องจะใช้เป็นพลาสติกนั้นเอง เมื่อมองที่ด้านหลังของเครื่องจะเห็นช่องระบายความร้อนมาให้ 2 แถว มีช่องระบายเยอะในระดับนึงเลยนะ และมีลำโพงที่อยู่บริเวณมุมซ้ายขวาล่างของเครื่อง จะสังเกตได้ว่าทุกๆมุมจะมีฐานรองตั้งมาให้ด้วย ช่วยให้สามารถมีพื้นที่ระบายความร้อนได้ดีขึ้นไปอีก
SPEC
- CPU AMD RYZEN 5 5500U
- GPU AMD Radeon Graphics
- RAM 8GB LPDDR4X
- 512GB PCle Gen 3 NVMe SSD
- หน้าจอ 14 นิ้ว FHD IPS
- Windows 10 HOME
- Microsoft Office Home & Student 2019
- Acer webcam (SHDR)
- 4-cell battery pack
- Wi-Fi 6 AX, 2×2 MU-MIMO
PERFORMANCE
ทางด้านของประสิทธิภาพการใช้งานในรุ่นนี้เรียกได้ปรับมาใช้ Ryzen 5 5500U สถาปัตยกรรม Zen 3 บนกระบวนการผลิต 7nm แน่นอนว่าการใช้งานนั้นทำได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย การทดสอบสอบคะแนนต่างๆก็ทำได้ดีขึ้น คะแนนอยู่ในระดับสูง รองรับการใช้งานได้อย่างชิลๆ มาพร้อม ความเร็ว 2.1 – 4.00 GHz ทางด้านของ RAM นั้นใช้งาน 8GB LPDDR4X มาพร้อมกับ Windows 10 Home และ Microsoft office Home & Student 2019 มีให้มาแบบจัดเต็มมาก การใช้งานทั่วไปถือว่าโอเคเลยนะ ไม่อืดไม่ค้างให้น่าหงุดหงิดใจเลย องค์ประกอบทางด้านของการทำงานตอบโจทย์และลงตัวมากๆ เรียกได้ว่าสเปกแรง แต่ราคานั้นไม่ได้แรงมาก คุ้มค่าเกินราคา อีกทั้งยังกินไฟน้อยลง ให้ประสิทธิภาพต่อการใช้พลังงานวัตต์มากขึ้น หายากมากๆสำหรับแล็ปท็อปสเปกที่ใกล้เคียงกันกับรุ่นโหดๆ แต่ตัวนี้มาในโหมดราคาถูกกว่า
KEYBOARD
ทางด้านของคีย์บอร์ดในรุ่นนี้นั้นออกแบบดีไซน์ให้สีกลมกลืนกับสีพื้นของตัวเครื่องเลย มาพร้อมกับไฟ Backlit สีขาวมาให้ใช้งาน แอบเสียดายตรงที่ออกแบบมาให้ค่อนข้างมองยาก เวลาเจอแสงกระทบก็อาจทำให้มองไม่เห็นตัวอักษร สำหรับคนที่ไม่ชินกับคีย์บอร์ดหรือเอาไปใช้งานนอกสถานที่อาจจะใช้งานลำบากหน่อย และจะเห็นปุ่มสีดำบริเวณด้านล่างขวานั้นเป็นปุ่มสแกนนิ้วมือนั้นเอง การจัดระยะยังคงทำได้ดี สามารถพิมพ์ได้อย่างถนัดมือ ที่ชอบมากๆเลยคือเมื่อกดใช้งานแล้วตัวปุ่มสามารถเด้งสู้นิ้วได้ดี ทางด้านของ TouchPad นั้นก็มีขนาดที่ใหญ่พอดีมือ ลื่นไหลตอบสนองตามนิ้วได้ดีมากๆ โดยรวมแล้วไม่มีปัญหาอะไรเลยนะ เหมือนกับคีย์บอร์ดทั่วๆไปใช้งานง่าย ตอบสนองได้ดี แต่แอบเสียดายตรงสีของปุ่มกดที่แอดมองยากไปหน่อย
SCREEN
ทางด้านหน้าจอในรุ่นนี้นั้นมาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 14 นิ้ว กับความละเอียด FHD และใช้งานจอ IPS (1920×1080) 72% NTSC Color gamut ให้ภาพที่สวยคมชัด ใช้งานได้อย่างเต็มอรรถรสสุดๆ ขอบหน้าจอมีความบางมากๆ ทำให้เราสามารถใช้งานได้อย่างเต็มพื้นที่จริงๆ หน้าจอสามารถสู้แสงได้ดีขึ้นกว่าเดิมมากๆ นำออกไปใช้งานนอกสถานที่ได้สบาย ความแม่นยำของสีอยู่ในระดับกลางๆ สำหรับสายตัดต่อกราฟิกรุ่นนี้อาจไม่ตอบโจทย์มากนัก
เมื่อมองจากด้านข้างแล้วนั้นหน้าจอในรุ่นนี้อาจจะไม่ได้ให้สีที่แม่นยำ หรือรายละเอียดยังคงชัดอยู่มากนัก แต่ที่ชอบมากๆเลยคือหน้าจอเป็นแบบด้าน ทำให้เมื่อเจอแสงกระทบจะไม่ส่งผลอะไรมากต่อการใช้งาน รวมๆแล้วแล็ปท็อปราคาระดับนี้ได้สเปกหน้าจอจัดเต็มแบบนี้ถือว่าโอเคเลยแหละ
SOUND
ทางด้านของลำโพงในรุ่นนี้นั้นจะอยู่ในบริเวณด้านหลังเครื่อง จะอยู่ทางด้านล่างซ้ายและขวา กลมกลืนไปกับช่องระบายอากาศแบบเนียนๆ คุณภาพของเสียงหรือความดังนั้น ก็ยังคงสามารถทำออกมาได้ดีขึ้น ให้เสียงได้รอบทิศทาง แต่ก็ไม่ได้เด่นมากนัก และยังคงใช้งานดูหนังฟังเพลงทั่วไปได้แบบไม่มีปัญหาอะไรเลย ความดังนั้นก็ดังได้สูงในระดับนึงเลยนะ เพิ่มอรรถรสในการทำกิจกรรมได้เป็นอย่างดี โดยรวมแล้วยังคงทำงานได้ดีเช่นเดิมเลย
CONNECTOR
ทางด้านของพอร์ตเชื่อมต่อค่อนข้างให้มาอย่างครบครัน พอร์ตเชื่อมต่อในฝั่งขวานั้นจะเป็นในส่วนของรูเสียบหูฟัง 3.5 มม. ตามมาด้วย USB 3.2 พร้อมทั้งมีไฟบอกสถานะแสดงด้วย และปิดท้ายกันด้วยในรุ่นนี้มี Kensington Lock ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อทางฝั่งซ้ายนั้นจะเป็นในส่วนของที่ชาร์จไฟเข้าแบบวงกลม ตามมาด้วยช่อง USB-C และ HDMI รวมถึง USB-C 3.2 ก็มีมาให้ด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นแล็ปท็อปที่ให้พอร์ตเชื่อมต่อมาแบบครบครันจริงๆ ถึงแม้ว่าจะถูกออกแบบดีไซน์มาให้บางก็ตาม สามารถรองรับการใช้งานได้อย่างหลากหลายเลย
AMD RADAEON
ในครั้งนี้ทางค่ายได้หันมาใช้งาน AMD Ryzen 5 5500U พร้อมกับ Radeon Graphics ที่รองรับการใช้งานที่โหดขึ้นกว่าเดิม เร็วแรงโดนใจมาก มาในราคาสบายกระเป๋า การทำงานของ AMD Radaeon ค่อนข้างทำงานได้ดีเลยนะ รองรับการทำงานได้อย่างหลากหลายและลงตัวจริงๆ CPU และ GPU ทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี ความเร็วความไวนั้นไม่ต้องห่วง เร็วแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากที่แอดได้ทำการลองใช้ลองเล่น วัดค่าความเร็วต่างๆของเจ้าตัวนี้มาเป็นระยะเวลานึง แอดคิดว่าเจ้าตัวนี้สามารถทำงานได้เป็นอย่างดี ตอบโจทย์ในทุกๆการใช้งานเลย ไม่พบเจอปัญหาอะไรมาก ที่น่าประทับใจมากๆคือในเรื่องของความเร็วที่โหด แต่อยู่ในโหมดราคาถูกนี้แหละทุกคน
WORKING
ทางด้านของการทำงานในรุ่นนี้นั้น แน่นอนว่า Ryzen 5 5500U สามารถรองรับการทำงานทั่วไปได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น Microsoft ทั้งหมด ตัดต่อกราฟิกต่างๆก็ยังทำออกมาได้ดีในระดับนึง ไม่มีปัญหาอะไรให้หนักใจนะ ส่วนของ ADOBE รองรับได้สบายอยู่ ในส่วนของ Photoshop แบบเบาๆ หากเป็นไฟล์ใหญ่ๆก็อาจจะยังทำไม่ได้ดีมากนัก โดยรวมแล้วถือว่ารับได้เลยในราคาระดับนี้ การทำงานหลายๆอย่างพร้อมกัน ก็ยังคงทำได้แต่อาจจะไม่สามารถเปิดพร้อมๆกันเยอะได้ ส่วนการดูหนังฟังเพลง ดูซีรีย์ไม่ต้องห่วงเลย เราสามารถเพลิดเพลินได้อย่างสบายใจเลยแหละ เรียกได้ว่าในรุ่นนี้รองรับการทำงานเบาๆไม่หนักมากนัก สายทำงานทั่วไปถือว่าตอบโจทย์หรือจะเป็นพวกออกแบบกราฟิกก็ยังไหวนะ เทียบกับราคาแล้วได้ประสิทธิภาพการทำงานที่หลากหลายแบบนี้ถือว่าคุ้มมาก
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้