หมด Passion ในการใช้ชีวิต

ตามหัวข้อเลยนะคะ แต่ขอพื้นที่ในการระบายความอัดอั้นหน่อยค่ะ
ต้องขอโทษล่วงหน้า ! หากข้อความเหล่านี้จะส่งผลและพลังลบให้กับบุคคลอื่นๆ
ขอโทษจากใจจริงๆ ค่ะ
----------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอเกริ่นเลยค่ะ ว่าเราเป็นลูกคนเดียว พ่อแม่แยกทางกัน
ซึ่งเราไม่รู้ว่าชีวิตเราทำไมมันต้องเหนื่อยขนาดนี่เลยด้วยซ้ำ
หลายคนที่มีพี่น้องอยากเป็นลูกคนเดียว แต่สำหรับเราแล้วถ้ามีพี่น้องคงดีค่ะ
เราจำได้แค่ว่าการเป็นลูกคนเดียวของเราไม่มีการซัพพอร์ตมากพอสมควร
เมื่อก่อน 18.00 คือแทบต้องอยู่บ้านและห้ามออกไปไหนแล้ว 
เราไม่เคยได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นหรือตามวัยของเราเท่าที่ควรจะเป็นค่ะ
และพอวันนึงเรามีโอกาสได้มาทำงานกรุงเทพมันคงส่งผลดีกับการใช้ชีวิตมากค่ะ
แต่จากตอนแรกที่ทำงานในวัยที่เพิ่งจบ มีสอบข้าราชการก็ไปหาสอบนะคะ
จากการเป็นลูกจ้างวัย 23 จนตอนนี้ 31 มันเริ่มไม่สนุกแล้วค่ะ
เราทำงานจุดนี้มา 7 ปี ทำงานแบบเดิม ผู้คนเดิมๆ แวดล้อมเดิมๆ
จากที่เราต้องให้ที่บ้าน 3,000 มาเป็น 3,500 จนตอนนี้ 5,000
เราเริ่มรู้สึกท้อค่ะ ท้อทั้งงานและที่บ้าน เพราะเราไม่เคยถูกซัพพอร์ตทางคำพูดเลย
วันนึงเราไม่ได้มีการพูดคุยกับทางบ้าน เพราะไม่ว่างเราโทรกลับไป 
คำพูดแรกที่ได้ยินคือ อ้าวนึกว่าขึ้นอืดตายไปแล้ว ยังอยู่หรอ ? เราแบบจุกเลยนะ
แล้วมาบวกกับเราท้อกับงานและอายุที่เพิ่มขึ้นแต่หาความมั่นคงไม่มี
มันเริ่มไม่อยากไปทำงาน ตื่นมาร้องไห้ นั่งทำงานน้ำตาซึม เลิกงานร้องไห้
แถมพอมาเห็นเพื่อนหลายคนเขาประสบความสำเร็จ สอบติดเป็นข้าราชการ 
มีบ้าน มีรถ มีครอบครัว ไปเที่ยวสนุกสนาน ตัดภาพมาที่ตัวเองบางครั้งแค่อยากจะกินยังต้องคิดว่าจะพอไหม
และซึ่งตอนนี้เราไม่รู้ว่าเราเหนื่อยและหมดแพสชั่นกับอะไร รู้แค่ว่าอยากหายไปจากจุดนี้ค่ะ
อีกอย่างแรงกดดันของการต้องสอบติดข้าราชการจากที่บ้านยิ่งท้อค่ะ
เราสอบมาเยอะจนตอนนี้ท้อแล้ว เพราะค่าสอบแพง ค่าใช้จ่าย  และข้อสอบยาก
แถมระบบการทำงานที่เป็นอยู่ก็คอยกรอกหูตลอดว่าเงินไม่พอจ้างนะ
มันยิ่งจุกในใจว่าการที่ทำงานเยอะ แต่ไม่มีการซัพพอร์ตหรือเอื้อให้เลยยิ่งท้อค่ะ
ยิ่งแบบอยากจะเปลี่ยนงานก็อายุเกิน รับตรงสาย มีประสบการณ์อีก ยิ่งหดหู่เลย
พอบอกที่บ้านอยากลาออก เขาถามจะเอาไรกินอ่ะ ยิ่งแบบทำไมไม่ย้อนถามว่าลูกไหวไหม
ตอนนี้สิ่งเดียวที่คิดมาเสมอคืออยากหายไปจากโลกนี่ค่ะ แต่มันก็ไม่ได้หรอกค่ะ
คนคงด่าว่าเราเห็นแก่ตัวอีกแน่นอน และบางทีการที่เราพล่ามพูดกับที่ทำงานว่าเราไม่ไหว
อยากลาออก เราดิ่งนะ มันกลายเป็นเรื่องตลกขำขันของบุคคลบางคน
เขาคิดว่าเราพูดเล่นหรือแก้ตัวอย่างงั้นหรอคะ เราเหนื่อยค่ะ เหนื่อยจริงๆ 
ตอนนี้เลยไม่รู้ว่าสิ่งที่เหนื่อย คือ งาน ครอบครัว หรือแวดล้อมเลยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่