"นายกฯ" ถก รมว.ต่างประเทศ สหรัฐฯ กระชับสัมพันธ์ เดินหน้าหุ้นส่วนยุทธศาสตร์
นายกฯ" เปิดทำเนียบฯ ต้อนรับ "แอนโทนี บลิงเกน" รมว.ต่างประเทศ สหรัฐฯ หวัง มีโอกาสต้อนรับ "ไบเดน" เวที "เอเปค" ไทยเจ้าภาพปลายปี พร้อมเดินหน้าความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ กระชับสัมพันธ์ ฟื้นศก. ขยายการลงทุน ร่วมมือต้านค้ามนุษย์ จ่อประกาศ TIP Report เร็วๆนี้
เมื่อเวลา 14.30 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายแอนโทนี บลิงเกน (H.E. Mr. Antony J. Blinken) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ
โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวต้อนรับ พร้อมได้กล่าวฝากความระลึกถึงประธานาธิบดีไบเดน พร้อมขอบคุณสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่นในโอกาสการประชุมสุดยอดอาเซียน -สหรัฐฯ สมัยพิเศษ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยหวังว่าจะมีโอกาสได้ต้อนรับในช่วงการประชุมระดับผู้นำเอเปค ที่กรุงเทพฯ ปลายปีนี้
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียินดีที่ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ มีพลวัตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นมิตรประเทศที่มีความใกล้ชิด โดยในปีหน้า จะร่วมฉลองครบรอบ 190 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-สหรัฐฯ และยินดีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย-สหรัฐฯ ได้ร่วมลงนามแถลงการณ์ว่าด้วยความเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกาซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนการดำเนินการตามเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ร่วมกัน
ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศกล่าวว่า ยินดีและเป็นเกียรติที่ได้มาพบในวันนี้ แถลงการณ์ที่ได้ลงนามไปในวันนี้ถือเป็นเครื่องยืนยันถึงความเป็นพันธมิตรสำคัญ และแสดงให้เห็นถึงความแน่นแฟ้นในความสัมพันธ์ระหว่างกันเป็นอย่างดี เชื่อว่าจะเป็นบรรทัดฐานของความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ ไปอีก 190 ปีข้างหน้า พร้อมย้ำถึงสหรัฐฯให้ความสำคัญกับการกระชับความสัมพันธ์กับไทย ชื่นชมบทบาทของนายกรัฐมนตรีและไทยในการเป็นเจ้าภาพเอเปค และเมื่อสหรัฐฯ รับไม้ต่อการเป็นเจ้าภาพในปีถัดไป ก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันในประเด็นความร่วมมือที่สำคัญ ดังนี้
ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือ สหรัฐฯ ถือเป็นประเทศหุ้นส่วนสำคัญของไทย แม้ในช่วงประสบกับสถานการณ์โควิด-19 การค้าระหว่างกันยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยไทย-สหรัฐฯ พร้อมที่จะขับเคลื่อนความร่วมมือ เพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะความร่วมมือด้านห่วงโซ่อุปทาน ทั้งสองร่วมยินดีที่ทั้งสองประเทศได้ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการส่งเสริมความเข้มแข็งของห่วงโซ่อุปทาน หวังว่าความร่วมมือนี้จะเกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วและยั่งยืน โดยเฉพาะการขยายการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายร่วมกัน และอุตสาหกรรมที่ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจ BCG รวมทั้งการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่เกี่ยวข้อง
ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการพัฒนาพลังงานสะอาด ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือในด้านนี้ โดยสหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจสีเขียวและพลังงานสะอาดจึงหวังที่จะเดินหน้าความร่วมมือในด้านนี้กับไทยให้เป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด และหวังว่าสหรัฐฯ จะได้มีส่วนสนับสนุนไทยให้สามารถบรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศ ทั้งการเสริมสร้างขีดความสามารถ และการถ่ายทอดเทคโนโลยีขั้นสูงและนวัตกรรมสีเขียว
ความร่วมมือด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการต่อต้านการค้ามนุษย์ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ โดยสหรัฐฯ ชื่นชมและขอบคุณไทยสำหรับความมุ่งมั่นในการดำเนินการที่ผ่านมาของไทย เพื่อขจัดปัญหาการค้ามนุษย์และแรงงานบังคับให้หมดสิ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยที่ กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ จะประกาศรายงาน TIP Report ประจำปีในเร็วๆ นี้ไทยหวังจะได้รับข่าวดี และรายงานจะสะท้อนพัฒนาการและการดำเนินงานที่มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมของไทย
ความร่วมมือในอนุภูมิภาคและภูมิภาค ทั้งสองฝ่ายพร้อมร่วมมือและสนับสนุนบทบาทที่สร้างสรรค์ระหว่างกันในภูมิภาค โดยไทยได้เข้าร่วมกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโดแปซิฟิก (Indo-Pacific Economic Framework: IPEF) เพราะเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการพัฒนาอย่างยั่งยืนและครอบคลุมของภูมิภาค ซึ่งสอดคล้องกับแนวนโยบาย BCG ของรัฐบาล
นอกจากนี้ ไทยยินดีที่สหรัฐฯ จะเป็นเจ้าภาพเอเปคในปี 2566 ต่อจากไทย โดยไทยพร้อมร่วมมือกับสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ช่วงเปลี่ยนผ่านวาระการเป็นเจ้าภาพเป็นไปอย่างราบรื่นและนำไปสู่ผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมแก่ประชาชนในภูมิภาค
ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นระหว่างประเทศที่เป็นที่สนใจ โดยในส่วนของสถานการณ์ในเมียนมานั้น ประเทศไทยชี้แจงว่าได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และได้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมตามที่เหมาะสมผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งในกรอบทวิภาคี อาเซียนและองค์การระหว่างประเทศ
https://www.bangkokbiznews.com/politics/1014698
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เยือนไทย เตรียมพบนายกฯ
"บลิงเคน" หารือ "ดอน" ลงนามข้อตกลงความเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกลุ่ม จี 20 ที่เกาะบาหลีของอินโดนีเซีย เตรียมพบนายกฯ
วันนี้ (10 ก.ค.2565) สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เดินทางเยือนไทยครั้งแรก หลังจากเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา มีกำหนดเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อหารือในประเด็นต่าง ๆ ทั้งระดับทวิภาคีและระดับภูมิภาค ครอบคลุมตั้งแต่การจัดประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปค ที่ไทยเป็นเจ้าภาพในปีนี้ และการยกระดับความร่วมมือในด้านสาธารณสุขไปจนถึงการแก้ปัญหาค้ามนุษย์
ก่อนหน้านี้บลิงเคน ได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกลุ่ม จี 20 ที่เกาะบาหลีของอินโดนีเซีย โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาได้หารือร่วมกับหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน นานกว่า 5 ชั่วโมง โดยทั้ง 2 คนเห็นพ้องที่จะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และลดระดับความตึงเครียดระหว่างกัน
การหารือของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจากทั้ง 2 ชาติในครั้งนี้ ถือเป็นการพบหน้ากันเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เดือน ต.ค.ปีที่แล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลสหรัฐฯ และจีนทยอยจัดการประชุมเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด
https://news.thaipbs.or.th/content/317383
รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ หารือกับรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศของไทย ระหว่างการเดินทางเยือนไทยครั้งแรกอย่างเป็นทางการ
วันนี้ (10 ก.ค.2565) สำนักข่าวเอพีรายงานว่า แอนโทนี บลิงเคน รมว.ต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เข้าร่วมการหารือกับ ดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศของไทย
รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯและไทย ร่วมไว้อาลัยต่อการถึงแก่อสัญกรรมของ ชินโสะ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น หลังจากถูกยิงระหว่างการปราศรัยหาเสียงให้ผู้สมัครจากพรรคลิเบอรัล เดโมแครต หรือ แอลดีพี ในจังหวัดนารา ทางภาคตะวันตกของประเทศ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังร่วมลงนามในข้อตกลงความเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ (U.S.-Thailand Communiqué on Strategic Alliance and Partnership) ระหว่างสหรัฐฯ กับไทยด้วย
ก่อนหน้านี้ บลิงเคนได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกลุ่ม จี 20 ที่เกาะบาหลีของอินโดนีเซีย และหารือระดับทวิภาคีร่วมกับหวัง อี้ รมว.ต่างประเทศจีน นานกว่า 5 ชั่วโมง เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และลดระดับความตึงเครียดระหว่างกัน
https://news.thaipbs.or.th/content/317387
...นายกฯลุงตู่คือ..ผู้นำไทยที่พบกับผู้นำต่างชาติและบุคคลสำคัญของต่างประเทศมากที่สุดค่ะ
เขามาเยือนเรา และเชิญเราไปบ้านเขา ในรอบ8ปีของลุงนี้ไม่รู้กี่ครั้ง
ไทยเป็นประเทศที่ยึดความเป็นกลางที่สุด แม้ในยุคสงครามรัสเซีย-ยูเครน เพราะนายกฯมีภาวะผู้นำทางความมั่นคงของชาติ ด้วยมีความสุขุมรอบคอบในการดำเนินนโยบายต่างประเทศ สอดรับกับกระทรวงกต.ที่มีบุคคลที่ทำงานเก่งมีความสามารถ
ใครมาคุยกับไทยก็สบายใจกลับไปค่ะ.....
❤️มาลาริน/ไทยเนื้อหอมค่าา..มาเยือนกันอีกแล้ว..หัวบันไดยังไม่ทันแห้ง...รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯมาพบนายกฯลุงตู่
นายกฯ" เปิดทำเนียบฯ ต้อนรับ "แอนโทนี บลิงเกน" รมว.ต่างประเทศ สหรัฐฯ หวัง มีโอกาสต้อนรับ "ไบเดน" เวที "เอเปค" ไทยเจ้าภาพปลายปี พร้อมเดินหน้าความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ กระชับสัมพันธ์ ฟื้นศก. ขยายการลงทุน ร่วมมือต้านค้ามนุษย์ จ่อประกาศ TIP Report เร็วๆนี้
เมื่อเวลา 14.30 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายแอนโทนี บลิงเกน (H.E. Mr. Antony J. Blinken) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ
โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวต้อนรับ พร้อมได้กล่าวฝากความระลึกถึงประธานาธิบดีไบเดน พร้อมขอบคุณสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่นในโอกาสการประชุมสุดยอดอาเซียน -สหรัฐฯ สมัยพิเศษ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยหวังว่าจะมีโอกาสได้ต้อนรับในช่วงการประชุมระดับผู้นำเอเปค ที่กรุงเทพฯ ปลายปีนี้
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียินดีที่ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ มีพลวัตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นมิตรประเทศที่มีความใกล้ชิด โดยในปีหน้า จะร่วมฉลองครบรอบ 190 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-สหรัฐฯ และยินดีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย-สหรัฐฯ ได้ร่วมลงนามแถลงการณ์ว่าด้วยความเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกาซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนการดำเนินการตามเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ร่วมกัน
ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศกล่าวว่า ยินดีและเป็นเกียรติที่ได้มาพบในวันนี้ แถลงการณ์ที่ได้ลงนามไปในวันนี้ถือเป็นเครื่องยืนยันถึงความเป็นพันธมิตรสำคัญ และแสดงให้เห็นถึงความแน่นแฟ้นในความสัมพันธ์ระหว่างกันเป็นอย่างดี เชื่อว่าจะเป็นบรรทัดฐานของความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ ไปอีก 190 ปีข้างหน้า พร้อมย้ำถึงสหรัฐฯให้ความสำคัญกับการกระชับความสัมพันธ์กับไทย ชื่นชมบทบาทของนายกรัฐมนตรีและไทยในการเป็นเจ้าภาพเอเปค และเมื่อสหรัฐฯ รับไม้ต่อการเป็นเจ้าภาพในปีถัดไป ก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันในประเด็นความร่วมมือที่สำคัญ ดังนี้
ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือ สหรัฐฯ ถือเป็นประเทศหุ้นส่วนสำคัญของไทย แม้ในช่วงประสบกับสถานการณ์โควิด-19 การค้าระหว่างกันยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยไทย-สหรัฐฯ พร้อมที่จะขับเคลื่อนความร่วมมือ เพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะความร่วมมือด้านห่วงโซ่อุปทาน ทั้งสองร่วมยินดีที่ทั้งสองประเทศได้ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการส่งเสริมความเข้มแข็งของห่วงโซ่อุปทาน หวังว่าความร่วมมือนี้จะเกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วและยั่งยืน โดยเฉพาะการขยายการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายร่วมกัน และอุตสาหกรรมที่ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจ BCG รวมทั้งการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่เกี่ยวข้อง
ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการพัฒนาพลังงานสะอาด ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือในด้านนี้ โดยสหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจสีเขียวและพลังงานสะอาดจึงหวังที่จะเดินหน้าความร่วมมือในด้านนี้กับไทยให้เป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด และหวังว่าสหรัฐฯ จะได้มีส่วนสนับสนุนไทยให้สามารถบรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศ ทั้งการเสริมสร้างขีดความสามารถ และการถ่ายทอดเทคโนโลยีขั้นสูงและนวัตกรรมสีเขียว
ความร่วมมือด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการต่อต้านการค้ามนุษย์ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ โดยสหรัฐฯ ชื่นชมและขอบคุณไทยสำหรับความมุ่งมั่นในการดำเนินการที่ผ่านมาของไทย เพื่อขจัดปัญหาการค้ามนุษย์และแรงงานบังคับให้หมดสิ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยที่ กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ จะประกาศรายงาน TIP Report ประจำปีในเร็วๆ นี้ไทยหวังจะได้รับข่าวดี และรายงานจะสะท้อนพัฒนาการและการดำเนินงานที่มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมของไทย
ความร่วมมือในอนุภูมิภาคและภูมิภาค ทั้งสองฝ่ายพร้อมร่วมมือและสนับสนุนบทบาทที่สร้างสรรค์ระหว่างกันในภูมิภาค โดยไทยได้เข้าร่วมกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโดแปซิฟิก (Indo-Pacific Economic Framework: IPEF) เพราะเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการพัฒนาอย่างยั่งยืนและครอบคลุมของภูมิภาค ซึ่งสอดคล้องกับแนวนโยบาย BCG ของรัฐบาล
นอกจากนี้ ไทยยินดีที่สหรัฐฯ จะเป็นเจ้าภาพเอเปคในปี 2566 ต่อจากไทย โดยไทยพร้อมร่วมมือกับสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ช่วงเปลี่ยนผ่านวาระการเป็นเจ้าภาพเป็นไปอย่างราบรื่นและนำไปสู่ผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมแก่ประชาชนในภูมิภาค
ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นระหว่างประเทศที่เป็นที่สนใจ โดยในส่วนของสถานการณ์ในเมียนมานั้น ประเทศไทยชี้แจงว่าได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และได้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมตามที่เหมาะสมผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งในกรอบทวิภาคี อาเซียนและองค์การระหว่างประเทศ
https://www.bangkokbiznews.com/politics/1014698
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เยือนไทย เตรียมพบนายกฯ
"บลิงเคน" หารือ "ดอน" ลงนามข้อตกลงความเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกลุ่ม จี 20 ที่เกาะบาหลีของอินโดนีเซีย เตรียมพบนายกฯ
วันนี้ (10 ก.ค.2565) สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เดินทางเยือนไทยครั้งแรก หลังจากเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา มีกำหนดเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อหารือในประเด็นต่าง ๆ ทั้งระดับทวิภาคีและระดับภูมิภาค ครอบคลุมตั้งแต่การจัดประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปค ที่ไทยเป็นเจ้าภาพในปีนี้ และการยกระดับความร่วมมือในด้านสาธารณสุขไปจนถึงการแก้ปัญหาค้ามนุษย์
ก่อนหน้านี้บลิงเคน ได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกลุ่ม จี 20 ที่เกาะบาหลีของอินโดนีเซีย โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาได้หารือร่วมกับหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน นานกว่า 5 ชั่วโมง โดยทั้ง 2 คนเห็นพ้องที่จะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และลดระดับความตึงเครียดระหว่างกัน
การหารือของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจากทั้ง 2 ชาติในครั้งนี้ ถือเป็นการพบหน้ากันเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เดือน ต.ค.ปีที่แล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลสหรัฐฯ และจีนทยอยจัดการประชุมเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด
https://news.thaipbs.or.th/content/317383
รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ หารือกับรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศของไทย ระหว่างการเดินทางเยือนไทยครั้งแรกอย่างเป็นทางการ
วันนี้ (10 ก.ค.2565) สำนักข่าวเอพีรายงานว่า แอนโทนี บลิงเคน รมว.ต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เข้าร่วมการหารือกับ ดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศของไทย
รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯและไทย ร่วมไว้อาลัยต่อการถึงแก่อสัญกรรมของ ชินโสะ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น หลังจากถูกยิงระหว่างการปราศรัยหาเสียงให้ผู้สมัครจากพรรคลิเบอรัล เดโมแครต หรือ แอลดีพี ในจังหวัดนารา ทางภาคตะวันตกของประเทศ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังร่วมลงนามในข้อตกลงความเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ (U.S.-Thailand Communiqué on Strategic Alliance and Partnership) ระหว่างสหรัฐฯ กับไทยด้วย
ก่อนหน้านี้ บลิงเคนได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกลุ่ม จี 20 ที่เกาะบาหลีของอินโดนีเซีย และหารือระดับทวิภาคีร่วมกับหวัง อี้ รมว.ต่างประเทศจีน นานกว่า 5 ชั่วโมง เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และลดระดับความตึงเครียดระหว่างกัน
https://news.thaipbs.or.th/content/317387
...นายกฯลุงตู่คือ..ผู้นำไทยที่พบกับผู้นำต่างชาติและบุคคลสำคัญของต่างประเทศมากที่สุดค่ะ
เขามาเยือนเรา และเชิญเราไปบ้านเขา ในรอบ8ปีของลุงนี้ไม่รู้กี่ครั้ง
ไทยเป็นประเทศที่ยึดความเป็นกลางที่สุด แม้ในยุคสงครามรัสเซีย-ยูเครน เพราะนายกฯมีภาวะผู้นำทางความมั่นคงของชาติ ด้วยมีความสุขุมรอบคอบในการดำเนินนโยบายต่างประเทศ สอดรับกับกระทรวงกต.ที่มีบุคคลที่ทำงานเก่งมีความสามารถ
ใครมาคุยกับไทยก็สบายใจกลับไปค่ะ.....