อยากมาเล่าประสบการณ์การสอบเข้าของโรงเรียนนี้ค่ะ เผื่อมีน้องๆคนไหนอยากสอบเข้าแต่ไม่รู้ว่าต้องเตรียมอะไรบ้างเหมือนเรา (อธิบายงงๆต้องขอโทษด้วยนะคะ)
ปีที่เราสมัครเป็นของปี 65 นะคะ
ช่วงเปิดรับสมัครน่าจะอยู่ประมาณเดือน ธ.ค. ไม่ก็เดือน ม.ค.อันนี้เราไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะแต่ตอนที่เราไปสอบเราสอบเดือน ก.พ. ค่ะ ตอนสอบเราไม่ได้เตรียมะไรไปเลย พอไปถึงเค้าก็จะให้ขึ้นไปที่ห้องประชุมก่อนเพื่ออธิบายว่าเราต้องทำอะไรบ้างแล้วจะมีใบให้เรากรอกชื่อแล้วก็สาขาที่เรียนค่ะ ของเราๆเลือกเรียนสาขาอาหารและโภชนาการสาขานี้ต้องไปทำแบบทดสอบก่อนค่ะถึงจะไปสัมภาษณ์ส่วนสาขาอื่นๆพวกวิจิตรศิลป์ ออกแบบ การโรงแรม ฯลฯ ก็จะได้สัมภาษณ์เลยค่ะ ข้อสอบของอาหารจะมี 60 ข้อค่ะ คำถามก็จะเป็นเกี่ยวก้บอาหารเลยค่ะแต่จะมีพวกการจัดดอกไม้ การประดิษฐ์มาด้วยค่ะ ข้อสอบที่ออกจะคล้ายกับที่เราเรียนวิชาการงานของมอต้นมาค่ะแต่อันนี้เป็นแค่ข้อสอบวัดแววเฉยๆค่ะแต่ไม่ว่าจะตอบได้หรือไม่ได้เขาก็ไม่ถามค่ะเหมือนแค่ให้เราทำเฉยๆ พอสอบเสร็จแล้วเขาก็จะให้เราไปสัมภาษณ์ค่ะ อาจารย์เขาจะถามประมาณว่าบ้านอยู่แถวไหน มาโรงเรียนยังไง ถามเรื่องเกี่ยวกับที่บ้านค่ะว่ามีใครบ้าง พ่อแม่ทำงานอะไร อยู่บ้านใครเป็นคนทำกับข้าว ทำอาหารอะไรเป็นบ้าง ประมาณนี้ค่ะ แล้วก็แนะนำว่าใครที่สมัครสาขานี้ให้ตัดเล็บไปด้วยนะคะเผื่อไว้ค่ะ ตอนที่เราสอบเราสมัครรอบแรกค่ะ ของปีเราเขารับสมัครสี่รอบค่ะ คนที่สมัครเขาน่าจะรับหมดทุกคนเลยแค่สัมภาษณ์พอเป็นพิธีเฉยๆค่ะ
อ้อแล้วก็จะมีเอกสารที่เราเตรียมไปสัมภาษณ์ค่ะ ที่เราเตรียมไปก็จะมี
- ใบปพ.7 /ใบปพ. 1 หรือใบเกรดของเรา 5 เทอมค่ะ
- บางคนอาจจะเตรียม port ของตัวเองไปพรีเซ้นท์ก็ได้ค่ะถ้ามีแต่ถ้าใครไม่มีก็ไม่เป็นไรค่ะ
สำหรับสาขาอาหารจะมี 3 แบบให้เลือกสมัครค่ะ 1.mep 2.ปกติ 3.ทวิภาคี
1.mep จะเป็นห้องเรียนอังกฤษค่ะห้องนี้น่าจะน้อยกว่าห้องปกติปีของเรามีแค่ 4 คนเองค่ะ แต่ว่าค่าเทอมก็จะแพงไปด้วย เราไม่แน่ใจว่าเท่าไหร่แต่น่าจะอยู่ที่5000 - 6000 ค่ะ จริงๆห้องนี้ไม่ได้ต่างจากห้องปกติเท่าไหร่ค่ะ
2.ปกติ ห้องนี้ค่าเทอมจะอยู่ที่ 4000 กว่าๆค่ะ ไม่เกิน 5000 คนในห้องก็มีประมาณ 20 - 30 คนค่ะ
3.ทวิภาคี ห้องนี้ค่าเทอมน่าจะเท่ากับห้องปกติค่ะ ถ้าต่างก็ไม่น่าเกิน 5000 ห้องนี้เราไม่แน่ใจจำนวนคนนะคะ แต่ว่าห้องนี้จะมีการเรียนไปด้วยแล้วก็ทำงานไปด้วยค่ะ
แต่จริงๆทุกคนก็สามารถหารายได้ระหว่างเรียนได้ค่ะอาจจะทำขอฝแล้วไปฝากร้านในโรงเรียนขาย หรือไม่ก็โรงเรียนจะมีโครงการให้ทำของออกมาขายตามตลาดนัด หรือตามงานต่างๆค่ะ พวกนี้โรงเรียนจะเป็นคนให้ทุนค่ะ
ส่วนวิชาที่เรียนถ้าเป็นวิชาอาหารจะชั่วโมงเรียนจะอยู่ที่ 4 - 5 ชั่วโมงค่ะ ส่วนวิชาอื่นๆก็จะอยู่ที่ 1 - 2 ชั่วโมง
***แล้วก็ที่สำคัญเด็กปวช.ปีหนึ่งทุกคนต้องเรียนวิชาลูกเสือค่ะเป็นลูกเสือวิสามัญตามกฎของกระทรวงศึกษาธิการค่ะ
แล้วก็จะมีการให้กู้กยศ.ด้วยค่ะ แต่ว่าเรื่องนี้เราไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่เลยบอกไม่ได้ว่าต้องทำอะไรบ้าง
สังคมในโรงเรียนนี้ก็ไม่ได้แย่ค่ะต้องเลือกคบด้วยเราไม่กล้าการันตีว่าไม่มีเรื่องตบตีหรือสูบบุหรี่แต่เท่าที่ดูมาก็ยังไม่เห็นว่ามีเรื่องกันในโรงเรียนค่ะ แต่ว่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับระบบจัดการของโรงเรียนค่อนข้างจะช้ามากๆๆๆเลยค่ะ เราหัวร้อนกับระบบจัดการของโรงเรียนบ่อยมาก แล้วก็กิจกรรมเยอะมากๆค่ะ ถ้าไม่เข้ากิจกรรมไหนต้องซ่อมค่ะ จริงๆถ้าใครยังลังเลอยู่แนะนำให้เรียนสายสามัญต่อนะคะเพราะยังไงมันก็ยังเปลี่ยนได้อยู่ค่ะแต่ถ้ามาสายอาชีพมันก็จะเฉพาะทางไปเลย ใครอยากมาเรียนที่เสาวภาแนะนำให้คิดดีๆนะคะ คือเรื่องเพื่อนมันก็ไม่ได้แย่ตอนเรียนก็สนุกดีค่ะ แต่โรงเรียนมันค่อนข้าง....ก็ประสาทนิดนึงค่ะ
*** อันนี้เป็นแค่แนวทางสำหรับคนที่อยากสมัครแล้วก็ความคิดเห็นส่วนตัวของเราเท่านั้นนะคะ
การสมัครสอบเข้าเสาวภาต้องเตรียมอะไรบ้าง สาขาอาหารและโภชนาการ
ปีที่เราสมัครเป็นของปี 65 นะคะ
ช่วงเปิดรับสมัครน่าจะอยู่ประมาณเดือน ธ.ค. ไม่ก็เดือน ม.ค.อันนี้เราไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะแต่ตอนที่เราไปสอบเราสอบเดือน ก.พ. ค่ะ ตอนสอบเราไม่ได้เตรียมะไรไปเลย พอไปถึงเค้าก็จะให้ขึ้นไปที่ห้องประชุมก่อนเพื่ออธิบายว่าเราต้องทำอะไรบ้างแล้วจะมีใบให้เรากรอกชื่อแล้วก็สาขาที่เรียนค่ะ ของเราๆเลือกเรียนสาขาอาหารและโภชนาการสาขานี้ต้องไปทำแบบทดสอบก่อนค่ะถึงจะไปสัมภาษณ์ส่วนสาขาอื่นๆพวกวิจิตรศิลป์ ออกแบบ การโรงแรม ฯลฯ ก็จะได้สัมภาษณ์เลยค่ะ ข้อสอบของอาหารจะมี 60 ข้อค่ะ คำถามก็จะเป็นเกี่ยวก้บอาหารเลยค่ะแต่จะมีพวกการจัดดอกไม้ การประดิษฐ์มาด้วยค่ะ ข้อสอบที่ออกจะคล้ายกับที่เราเรียนวิชาการงานของมอต้นมาค่ะแต่อันนี้เป็นแค่ข้อสอบวัดแววเฉยๆค่ะแต่ไม่ว่าจะตอบได้หรือไม่ได้เขาก็ไม่ถามค่ะเหมือนแค่ให้เราทำเฉยๆ พอสอบเสร็จแล้วเขาก็จะให้เราไปสัมภาษณ์ค่ะ อาจารย์เขาจะถามประมาณว่าบ้านอยู่แถวไหน มาโรงเรียนยังไง ถามเรื่องเกี่ยวกับที่บ้านค่ะว่ามีใครบ้าง พ่อแม่ทำงานอะไร อยู่บ้านใครเป็นคนทำกับข้าว ทำอาหารอะไรเป็นบ้าง ประมาณนี้ค่ะ แล้วก็แนะนำว่าใครที่สมัครสาขานี้ให้ตัดเล็บไปด้วยนะคะเผื่อไว้ค่ะ ตอนที่เราสอบเราสมัครรอบแรกค่ะ ของปีเราเขารับสมัครสี่รอบค่ะ คนที่สมัครเขาน่าจะรับหมดทุกคนเลยแค่สัมภาษณ์พอเป็นพิธีเฉยๆค่ะ
อ้อแล้วก็จะมีเอกสารที่เราเตรียมไปสัมภาษณ์ค่ะ ที่เราเตรียมไปก็จะมี
- ใบปพ.7 /ใบปพ. 1 หรือใบเกรดของเรา 5 เทอมค่ะ
- บางคนอาจจะเตรียม port ของตัวเองไปพรีเซ้นท์ก็ได้ค่ะถ้ามีแต่ถ้าใครไม่มีก็ไม่เป็นไรค่ะ
สำหรับสาขาอาหารจะมี 3 แบบให้เลือกสมัครค่ะ 1.mep 2.ปกติ 3.ทวิภาคี
1.mep จะเป็นห้องเรียนอังกฤษค่ะห้องนี้น่าจะน้อยกว่าห้องปกติปีของเรามีแค่ 4 คนเองค่ะ แต่ว่าค่าเทอมก็จะแพงไปด้วย เราไม่แน่ใจว่าเท่าไหร่แต่น่าจะอยู่ที่5000 - 6000 ค่ะ จริงๆห้องนี้ไม่ได้ต่างจากห้องปกติเท่าไหร่ค่ะ
2.ปกติ ห้องนี้ค่าเทอมจะอยู่ที่ 4000 กว่าๆค่ะ ไม่เกิน 5000 คนในห้องก็มีประมาณ 20 - 30 คนค่ะ
3.ทวิภาคี ห้องนี้ค่าเทอมน่าจะเท่ากับห้องปกติค่ะ ถ้าต่างก็ไม่น่าเกิน 5000 ห้องนี้เราไม่แน่ใจจำนวนคนนะคะ แต่ว่าห้องนี้จะมีการเรียนไปด้วยแล้วก็ทำงานไปด้วยค่ะ
แต่จริงๆทุกคนก็สามารถหารายได้ระหว่างเรียนได้ค่ะอาจจะทำขอฝแล้วไปฝากร้านในโรงเรียนขาย หรือไม่ก็โรงเรียนจะมีโครงการให้ทำของออกมาขายตามตลาดนัด หรือตามงานต่างๆค่ะ พวกนี้โรงเรียนจะเป็นคนให้ทุนค่ะ
ส่วนวิชาที่เรียนถ้าเป็นวิชาอาหารจะชั่วโมงเรียนจะอยู่ที่ 4 - 5 ชั่วโมงค่ะ ส่วนวิชาอื่นๆก็จะอยู่ที่ 1 - 2 ชั่วโมง
***แล้วก็ที่สำคัญเด็กปวช.ปีหนึ่งทุกคนต้องเรียนวิชาลูกเสือค่ะเป็นลูกเสือวิสามัญตามกฎของกระทรวงศึกษาธิการค่ะ
แล้วก็จะมีการให้กู้กยศ.ด้วยค่ะ แต่ว่าเรื่องนี้เราไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่เลยบอกไม่ได้ว่าต้องทำอะไรบ้าง
สังคมในโรงเรียนนี้ก็ไม่ได้แย่ค่ะต้องเลือกคบด้วยเราไม่กล้าการันตีว่าไม่มีเรื่องตบตีหรือสูบบุหรี่แต่เท่าที่ดูมาก็ยังไม่เห็นว่ามีเรื่องกันในโรงเรียนค่ะ แต่ว่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับระบบจัดการของโรงเรียนค่อนข้างจะช้ามากๆๆๆเลยค่ะ เราหัวร้อนกับระบบจัดการของโรงเรียนบ่อยมาก แล้วก็กิจกรรมเยอะมากๆค่ะ ถ้าไม่เข้ากิจกรรมไหนต้องซ่อมค่ะ จริงๆถ้าใครยังลังเลอยู่แนะนำให้เรียนสายสามัญต่อนะคะเพราะยังไงมันก็ยังเปลี่ยนได้อยู่ค่ะแต่ถ้ามาสายอาชีพมันก็จะเฉพาะทางไปเลย ใครอยากมาเรียนที่เสาวภาแนะนำให้คิดดีๆนะคะ คือเรื่องเพื่อนมันก็ไม่ได้แย่ตอนเรียนก็สนุกดีค่ะ แต่โรงเรียนมันค่อนข้าง....ก็ประสาทนิดนึงค่ะ
*** อันนี้เป็นแค่แนวทางสำหรับคนที่อยากสมัครแล้วก็ความคิดเห็นส่วนตัวของเราเท่านั้นนะคะ