
⚡️⚡️⚡️
สำหรับสัปดาห์นี้คงไม่ต้องเลือกหนังทีจะดูแล้วล่ะ เพราะมันมีเข้าฉายแค่เรื่องเดียวที่ไม่มีใครกล้ามาประมือด้วย ซึ่งก็เป็นหนังที่แฟนๆ รอคอยกันอย่างหนักหน่วง เพราะเป็นการกลับมาของ Thor ที่ตอนจบภาค 3 และ Avengers ก็มีข่าวว่าจะทำต่อไม่ทำต่อ แต่พอประกาศว่ามีภาคต่อเท่านั้นแหละ ก็กลายเป็นหนังที่แฟนๆ Marvel รอคอยกันอีกเรื่อง

⚡️⚡️⚡️
เมื่อ Thor กำลังอยู่ในช่วงพักกายพักใจ แต่การพักกลับถูกแทรกแซงจาก Gorr the God Butcher วายร้ายผู้หวังกำจัดเหล่าเทพเจ้าให้สิ้นซาก เพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามในครั้งนี้ ธอร์จึงร่วมมือกับ ราชาแห่งวัลคีรี่, คอร์ก และ แฟนเก่าของเขา เจน ฟอสเตอร์ ผู้ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้ธอร์เป็นอย่างมาก เพราะเธอสามารถควบคุมและใช้ค้อนโยเนียร์ของเขาในฐานะ Mighty Thor ทั้งหมดจะต้องร่วมหัวจมท้ายไปในการผจญภัยเพื่อค้นหาความลับเบื้องหลังความเคียดแค้นของ Gorr the God Butcher ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้

⚡️⚡️⚡️
อย่างที่ได้เกริ่นไปที่หัวข้อล่ะครับว่า มันคือการรอคอยการกลับมาของซุปเปอร์ฮีโร่ตัวเด่นมากๆ คนหนึ่งที่หลายๆ คนรอชม ความคาดหวังมันต้องสูงตามไปด้วย แต่เหมือนกับภาคนี้บทหนังมันดูทรงๆ ให้เราดูเพิลนๆ ได้เรื่อยๆ ตามสูตรของหนังแนวนี้ ทำให้มันเหมือนอาจจะไม่ได้เจ๋งตามที่คาดหวังไว้ แต่ก็ยังสามารถดูสนุกได้ตลอดสองชั่วโมง

⚡️⚡️⚡️
ด้วยความเป็น Thor หนังมักจะใส่ความตลกหน้าตาย ไม่รู้เรื่องรู้ราวของตัว Thor เข้าไปเพื่อเรียกเสียงฮา แต่พอจังหวะที่จะเข้า action ต่อสู้ หนังก็ปรับโทนความสนุกให้มันส์สุดๆ ได้อย่างไม่หักดิบอารมณ์จนเกินไป เพียงแต่ว่ามันอาจจะตรงๆ ทื่อๆ แบบเดาได้ไม่ยาก และไม่ได้มีอะไรเซอร์ไพร์สให้ตื่นเต้นระหว่างเรื่องสักเท่าไหร่

⚡️⚡️⚡️
หนังมีปรับโทนไปแนวสยองขวัญลึกลับก็ตอนช่วงที่เข้าสู่พาร์ทหลักๆ ของ Gorr ที่รับบทโดย พี่น้อย Christian กฤษฎา สุโกศล Bale แคลปป์ (ใช่เหรอ???) ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นตัวละครที่บทบาทสุดยอดที่สุดแล้วในหนังเรื่องนี้ ตอนแรกส่วนตัวผมคาดหวังไว้กับ Mighty Thor ว่าจะมีอะไรมากกว่าตัวละครตัวอื่น แต่พอไปดูจริง ตัวละครที่โดดเด่นขึ้นมาแบบทิ้งขาดตัวละครอื่น ก็คือ Gorr นี่แหละ แล้วโดยเฉพาะการได้พี่น้อยมาแสดงด้วย โห... แบบว่า ต้องไปดูเองแล้วจะรู้ว่าผมหมายถึงยังไง

⚡️⚡️⚡️
พอดูจนจบเรื่องประมาณ 2 ชั่วโมง สิ่งที่ผมรู้สึกคือหนังสนุกไม่แพ้หลายๆ เรื่องของ Marvel ที่ผ่านๆ มา แต่บทหนังมันเหมือนมันอิ่มตัวจนไม่รู้จะดิ้นไปทางไหนให้โดนใจได้อีก คือตามทรงเลย ไม่ได้ตามคาด และก็ไม่ได้เกินคาด หนังยังมีดีพอที่จะจดจำมันไว้ เพียงแต่ไม่ได้ดีสุดๆ อย่างที่คาดหวัง แต่ที่ประทับใจผมจริงๆ เลยคือ เพลงประกอบที่เอาเข้ามาประกอบในฉากหลายๆ ฉาก โดยเฉพาะเพลงของ Guns 'n Roses ไม่ว่าจะเป็o Welcome to the Jungle, Sweet Child O' Mine, หรือ November Rain ที่แทรกๆ เข้ามานิดหน่อย มันทำให้อารมณ์หนังพุ่งขึ้นได้อย่างดี

⚡️⚡️⚡️
หนังมีเครดิต 2 ตัวนะครับ ทั้ง 2 เครดิต ทำให้ความอยากดูภาคต่อมีเยอะขึ้นอย่างมากมาย เพราะเหมือนหนังรู้ว่า เฮ้ย...ภาคนี้เบาไป เตรียมไปจัดหนักภาคต่อดีกว่า ให้รอดูเครดิตนะครับ แล้วจะรู้
ชอบอ่านรีวิวหนัง แวะมาพูดคุยกันได้นะครับ >>>
https://www.facebook.com/DooNangGunMai
ชื่อสินค้า: Thor Love and Thunder
[CR] [#Review] Thor Love and Thunder ธอร์ด้วยรักและอัสนี - สนุก มันส์ ฮา ตามทรง แต่เหมือนบทหนังจะอิ่มตัว และพี่น้อยคือที่สุด
⚡️⚡️⚡️
สำหรับสัปดาห์นี้คงไม่ต้องเลือกหนังทีจะดูแล้วล่ะ เพราะมันมีเข้าฉายแค่เรื่องเดียวที่ไม่มีใครกล้ามาประมือด้วย ซึ่งก็เป็นหนังที่แฟนๆ รอคอยกันอย่างหนักหน่วง เพราะเป็นการกลับมาของ Thor ที่ตอนจบภาค 3 และ Avengers ก็มีข่าวว่าจะทำต่อไม่ทำต่อ แต่พอประกาศว่ามีภาคต่อเท่านั้นแหละ ก็กลายเป็นหนังที่แฟนๆ Marvel รอคอยกันอีกเรื่อง
⚡️⚡️⚡️
เมื่อ Thor กำลังอยู่ในช่วงพักกายพักใจ แต่การพักกลับถูกแทรกแซงจาก Gorr the God Butcher วายร้ายผู้หวังกำจัดเหล่าเทพเจ้าให้สิ้นซาก เพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามในครั้งนี้ ธอร์จึงร่วมมือกับ ราชาแห่งวัลคีรี่, คอร์ก และ แฟนเก่าของเขา เจน ฟอสเตอร์ ผู้ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้ธอร์เป็นอย่างมาก เพราะเธอสามารถควบคุมและใช้ค้อนโยเนียร์ของเขาในฐานะ Mighty Thor ทั้งหมดจะต้องร่วมหัวจมท้ายไปในการผจญภัยเพื่อค้นหาความลับเบื้องหลังความเคียดแค้นของ Gorr the God Butcher ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้
⚡️⚡️⚡️
อย่างที่ได้เกริ่นไปที่หัวข้อล่ะครับว่า มันคือการรอคอยการกลับมาของซุปเปอร์ฮีโร่ตัวเด่นมากๆ คนหนึ่งที่หลายๆ คนรอชม ความคาดหวังมันต้องสูงตามไปด้วย แต่เหมือนกับภาคนี้บทหนังมันดูทรงๆ ให้เราดูเพิลนๆ ได้เรื่อยๆ ตามสูตรของหนังแนวนี้ ทำให้มันเหมือนอาจจะไม่ได้เจ๋งตามที่คาดหวังไว้ แต่ก็ยังสามารถดูสนุกได้ตลอดสองชั่วโมง
⚡️⚡️⚡️
ด้วยความเป็น Thor หนังมักจะใส่ความตลกหน้าตาย ไม่รู้เรื่องรู้ราวของตัว Thor เข้าไปเพื่อเรียกเสียงฮา แต่พอจังหวะที่จะเข้า action ต่อสู้ หนังก็ปรับโทนความสนุกให้มันส์สุดๆ ได้อย่างไม่หักดิบอารมณ์จนเกินไป เพียงแต่ว่ามันอาจจะตรงๆ ทื่อๆ แบบเดาได้ไม่ยาก และไม่ได้มีอะไรเซอร์ไพร์สให้ตื่นเต้นระหว่างเรื่องสักเท่าไหร่
⚡️⚡️⚡️
หนังมีปรับโทนไปแนวสยองขวัญลึกลับก็ตอนช่วงที่เข้าสู่พาร์ทหลักๆ ของ Gorr ที่รับบทโดย พี่น้อย Christian กฤษฎา สุโกศล Bale แคลปป์ (ใช่เหรอ???) ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นตัวละครที่บทบาทสุดยอดที่สุดแล้วในหนังเรื่องนี้ ตอนแรกส่วนตัวผมคาดหวังไว้กับ Mighty Thor ว่าจะมีอะไรมากกว่าตัวละครตัวอื่น แต่พอไปดูจริง ตัวละครที่โดดเด่นขึ้นมาแบบทิ้งขาดตัวละครอื่น ก็คือ Gorr นี่แหละ แล้วโดยเฉพาะการได้พี่น้อยมาแสดงด้วย โห... แบบว่า ต้องไปดูเองแล้วจะรู้ว่าผมหมายถึงยังไง
⚡️⚡️⚡️
พอดูจนจบเรื่องประมาณ 2 ชั่วโมง สิ่งที่ผมรู้สึกคือหนังสนุกไม่แพ้หลายๆ เรื่องของ Marvel ที่ผ่านๆ มา แต่บทหนังมันเหมือนมันอิ่มตัวจนไม่รู้จะดิ้นไปทางไหนให้โดนใจได้อีก คือตามทรงเลย ไม่ได้ตามคาด และก็ไม่ได้เกินคาด หนังยังมีดีพอที่จะจดจำมันไว้ เพียงแต่ไม่ได้ดีสุดๆ อย่างที่คาดหวัง แต่ที่ประทับใจผมจริงๆ เลยคือ เพลงประกอบที่เอาเข้ามาประกอบในฉากหลายๆ ฉาก โดยเฉพาะเพลงของ Guns 'n Roses ไม่ว่าจะเป็o Welcome to the Jungle, Sweet Child O' Mine, หรือ November Rain ที่แทรกๆ เข้ามานิดหน่อย มันทำให้อารมณ์หนังพุ่งขึ้นได้อย่างดี
⚡️⚡️⚡️
หนังมีเครดิต 2 ตัวนะครับ ทั้ง 2 เครดิต ทำให้ความอยากดูภาคต่อมีเยอะขึ้นอย่างมากมาย เพราะเหมือนหนังรู้ว่า เฮ้ย...ภาคนี้เบาไป เตรียมไปจัดหนักภาคต่อดีกว่า ให้รอดูเครดิตนะครับ แล้วจะรู้
ชอบอ่านรีวิวหนัง แวะมาพูดคุยกันได้นะครับ >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้