ปรัชญาทางโหราศาสตร์
โรคภัยอาเพศให้ทายมฤตยู แทนด้วยเลข 0 เป็นอากาศธาตุ จัดอยู่ในกลุ่มประเภทดาวบาปพระเคราะห์ มุมดีมี มุมร้ายมี แต่ชื่อเรียกของดาวนี้มักจะทำให้ดูน่าหวาดกลัวทางจิตใจ เพราะเมื่อไหร่ที่มีอิทธิพลดาวดวงนี้ที่ส่งผลรุนแรง เหตุการณ์นั้นมักจะควบคุมยากหรือมักจะกระจายตัวไปในวงกว้าง ถึงขั้นบาดเจ็บล้มตายเลยก็มี ซึ่งก็อยู่บนพื้นฐานกฎแห่งกรรมของระบบสิ่งมีชีวิตอยู่แล้ว โดยเฉพาะมนุษย์ ที่เป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถรู้ผิดชอบชั่วดี สามารถสะสมการสร้างบุญบารมี ความกตัญญู และกุศลกรรมต่างๆ ฉะนั้นแล้วช่วงที่มีโอกาสที่มีลมหายใจอยู่ก็จงอย่าละเลยในการทำแต่สิ่งที่ดีๆ เพื่อลดทอนกฎแห่งกรรมต่างๆ ของแต่ละบุคคล
โคจรย้ายเข้าสู่ราศีพฤษภ
ช่วงที่ 1 7 ก.ค. 65 - 1 ธ.ค.65
ช่วงที่ 2 9 มี.ค. 66 - 18 ก.ค. 72
ราศีเมษ
ถึงเวลาที่ต้องจัดระบบจัดโครงสร้างในเรื่องของการเงินครั้งใหญ่ ควรโฟกัสในเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพของตัวเองและคนในครอบครัวมากขึ้น โครงการอะไรที่ยังไม่จำเป็นก็ควรจะต้องชะลอไปก่อน ถึงจะย้ายออกจากลัคนาราศีแล้ว แต่ก็ยังมีอิทธิพลราหูทับจุดเกิดอยู่ และช่วงปลายปีดาวมฤตยูก็จะมาปัจฉิมนิเทศส่งท้ายอีกรอบ ฉะนั้นแล้วในเรื่องของเสบียงเงินตราจึงเป็นสิ่งที่ต้องรัดกุมให้มากๆ รวมถึงเรื่องของสุขภาพต้องพักผ่อนให้เพียงพอ โดยเฉพาะในเรื่องของอบายมุข และเรื่องที่ผิดศีลธรรม ต่างๆ ถ้าลดละเลิกได้ จะเป็นสิ่งที่ดีมากที่สุด
ราศีพฤษภ
เป็นรอบปฐมนิเทศรับน้องใหม่ในรอบ 84 ปี มีแนวโน้มที่จะเพิ่มแรงกดดันมากขึ้นไปอีก
โดยเฉพาะวันที่ 9 ส.ค. 65 - 3 ต.ค. 65 และ 16 พ.ย. 65 - 12 มี.ค. 66 เป็นช่วงที่จะมีเหตุรุนแรงที่มาจากในเรื่องของสภาวะอารมณ์จากความใจร้อน และการใช้อารมณ์ที่มีความวู่วามในการตัดสินใจต่างๆ ถ้าวางเฉยหรือปล่อยวางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้ โดยใช้หลักเหตุผลที่ดี ก็จะสามารถผ่านพ้นแล้วก็ประคับประคองสถานการณ์ต่างๆ ให้ผ่านไปได้อยู่ครับ
ราศีเมถุน
เป็นมุมจุดซ่อนเร้นต่างๆ ที่อาจจะไม่ได้แสดงสถานะชัดเจนว่าดี หรือร้ายโดยตรง ถ้าจะมีปัญหาก็จะเป็นโดนเป็นกฎเกณฑ์ย่อยๆ เช่นเมื่อไหร่ที่ดาวประจำตัวคือดาวพุธ (๔) โคจรเข้าสู่ราศีพฤษภ และราศีพิจิก ก็มีโอกาสที่จะเจ็บป่วยหรือไม่สบายหนักๆ เกิดขึ้นได้ในแต่ละช่วงเวลานั้นๆ ที่มีความสัมพันธ์ของดาวเกี่ยวเนื่องกัน แต่ก็ไม่ได้สรุปว่าจะต้องมีเหตุไม่ราบรื่นทุกครั้งเสมอไป ในภาพรวมอิทธิพลดาวมฤตยู ก็ถือว่าเป็นจุดที่เบาใจที่สุดมากกว่าในมุมของราศีอื่นๆ ในรอบนี้
ราศีกรกฎ
เป็นจุดที่เริ่มกำหนดทิศทางอะไรต่างๆ ได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของงานที่เคยมีแรงกดดันมากๆ หรือถ้าเคยมีเหตุผู้ใหญ่ภายในบ้านเจ็บป่วย ก็จะมีแนวโน้มในการรักษาที่ดีขึ้น แต่ก็ต้องไม่ลืมว่ายังมีภาคจบ ในวันที่ 2 ธันวาคม 65 ถึง 9 มีนาคม 66 ฉะนั้นเบาใจได้ แต่ไม่ใช่วางใจได้ทั้งหมด บทเรียนที่ผ่านมาถือเป็นสิ่งที่สำคัญ ฉะนั้นแล้วอะไรที่เริ่มมีสัญญาณการเปลี่ยนแปลงที่ดี ขอจงรักษามาตรฐานในการทำหน้าที่ให้ครบถ้วนตามที่เคยทำมาอย่างต่อเนื่องก็แล้วกันนะครับ
ราศีสิงห์
เป็นจุดทดสอบที่สำคัญครั้งหนึ่งของชีวิต ที่จะต้องพบเจอการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ มากมายทั้งเรื่องงาน และ ที่อยู่อาศัย รวมถึงสมาชิกคนในครอบครัวที่จะเจ็บป่วย ที่จะทยอยมีปัญหาให้ได้ต้องแก้ปัญหาต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพราะยังมีประเด็นในกฎเกณฑ์ย่อยๆ ที่จะเข้ามาซ้ำเติมระหว่างทางอีกหลายๆ เงื่อนไข ทั้งดาวเสาร์จะมีมุมเล็งในปี พ.ศ. 2566 และราหูเล็งในปี พ.ศ. 2568 ไม่ง่ายเลยจริงๆ สำหรับอุปสรรค และสิ่งที่จะต้องพบเจออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำอะไรขอให้อยู่บนพื้นฐานของการมีสติ คิด พิจารณา ให้ถี่ถ้วน อย่าให้เราไปตกหลุมพรางแห่งบ่วงกรรมในครั้งนี้ด้วยเทอญ
ราศีกันย์
ในดีมีเสีย ในเสียมีดี ถึงกฎเกณฑ์นี้จะได้อยู่ในเรือนที่ดี ถ้าจะเปรียบก็เหมือน เราสกัดเซรุ่มจากพิษงู เพื่อเอามาใช้ประโยชน์ในวงกว้างได้ ฉะนั้นแล้วในกฎเกณฑ์นี้ก็เหมือนต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทั้งในด้านของภาษาต่างประเทศ การเรียนรู้ในเรื่องของการบริหารทางการเงินในช่องทางต่างๆ รวมถึงระบบเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อปรับตัวเองให้เราสามารถที่จะทันยุคทันสมัย เป็นคนที่มากความสามารถ และสามารถเชื่อมโยงตัวเองได้ในทุกๆ วงการ แต่ถ้าเรามองเรื่องการพัฒนาตัวเองเป็นเรื่องยากแล้วเราหยุดการพัฒนาตัวเอง เราก็จะกลายเป็นคนล้าหลัง ตกยุค แทนที่เราจะได้ประโยชน์จากกฎเกณฑ์นี้ ก็กลายเป็นว่าเราได้เสียโอกาสในอนาคตของตัวเองโดยที่เราไม่รู้ตัว
ราศีตุลย์
เหมือนจะดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ดีพอจนถึงขั้นสบายใจได้ เพราะในกฎเกณฑ์ย่อยยังมีอิทธิพลดาวอื่นๆ ที่ยังส่งผลกระทบอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะช่วงแรกที่ดาวมฤตยูย้ายไปเจอดาวประจำตัว คือดาวศุกร์ (๖) จร ตั้งแต่วันที่ 7-14 กรกฎาคม 65 ต้องระมัดระวังในเรื่องของภาวะโรคประจำตัวกำเริบ อุบัติเหตุต่างๆ หรือมีเหตุที่จะต้องเสียเงินก้อนแบบฉับพลัน เสียเปรียบในเรื่องของผลประโยชน์ต่างๆ ในการทายครั้งนี้ ไม่ได้อยากให้เกิดความกังวล แต่อยากให้มีข้อมูลเป็นแนวทางรับมือ เพราะสุดท้ายแล้วเราต้องประมวลผลในภาพรวมของอิทธิพลดาวทั้งหมดในจักรราศี เพื่อใช้ในการทำนายให้เกิดความครอบคลุม ซึ่งกฎเกณฑ์ที่ดาวมฤตยูย้ายแล้วจะเริ่มเห็นผลคลี่คลายจริงๆ ในภาพใหญ่ ก็จะเป็นช่วงหลัง 17 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไปครับ
ราศีพิจิก
เป็นอีกหนึ่งราศีที่น่าจับตามอง เพราะเป็นราศีที่มีความลึกลับ มีความแตกต่างจากราศีอื่นทั่วๆไปเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อย่างผู้นำระดับโลกก็จะมีคุณ โจ ไบเดน ที่เป็นชาวราศีนี้อีกคน จากที่กล่าวมา ดาวมฤตยูจะมีมุมเล็งราศีพิจิกโดยตรง เป็นการเริ่มเข้าสู่สภาวะความเป็นสูญญากาศ การเปลี่ยนแปลงที่ไม่แน่ไม่นอน เรื่องของหุ้นส่วน และคู่ครองก็เริ่มมีสัญญาณที่เปลี่ยนไปจากเดิม เช่นการเจ็บป่วยหรือต้องจากกันด้วยภารกิจหน้าที่ต่างๆ ไม่ได้สามารถที่จะควบคุมอะไรได้ง่ายๆ (ทั้งทางกาย ทางใจ) โดยเฉพาะวันที่ 14 กรกฎาคม 2565 ถึง 9 สิงหาคม 2565 เป็นช่วงเปราะบางสั้นๆ ที่สุ่มเสี่ยงที่จะมีเหตุการณ์วิกฤติ เสียหาย และอันตราย ฉะนั้นแล้วอะไรที่เป็นความเสี่ยงงดเกี่ยวข้องทุกกรณีเลยนะครับ
ราศีธนู
เป็นมุมเตือนตัวเอง ว่าสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรมอันดีต่างๆ เทามาก เทาน้อย อาจจะยังไม่ได้ส่งผลในระยะสั้นโดยทันที แต่อาจจะมีมุมเสียหายในระยะยาว เพราะในกฎเกณฑ์ย่อยอื่นๆ ในดวงชะตาถือว่าชีวิตกำลังจะอยู่ในจุดที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ย้ำเตือนอีกครั้งว่าดาวมฤตยูในมุมนี้ถือว่า อะไรที่เป็นสิ่งต้องห้ามอย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวโดยเด็ดขาด เพราะมันจะตัดตอนโอกาสดีๆ ของชีวิตให้หายไป กฎเกณฑ์นี้แค่เราไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งต้องห้ามชีวิตก็ดีขึ้นแล้วครับ
ราศีมังกร
ต้องกลับมาพึ่งพาตัวเองเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไข บุตร บริวาร ลูกน้อง คนที่อายุน้อยกว่าภายในบ้าน จะเริ่มมีเหตุในการบริหารจัดการที่ดูยากขึ้น เช่นไม่เชื่อฟังเหมือนเคย การต้องจากกันด้วยเงื่อนไขหน้าที่ต่างๆ การมีสภาวะในเรื่องของการเจ็บป่วย หรือมีเหตุการณ์ที่ทำให้เรารู้สึกต้องกังวลใจในประเด็นต่างๆ ซึ่งมันก็อาจจะไม่ได้เป็นสภาวะที่รุนแรงทั้งหมด ซึ่งกฎเกณฑ์นี้ก็จะเป็นได้ตั้งแต่เล็กน้อยถึงปานกลาง แล้วก็อาจจะเฉลี่ยในหลายๆเงื่อนไข ถ้าเราวางแผนดีก็พอที่จะรับมือได้อยู่แล้วครับ
ราศีกุมภ์
จุดอ่อนของชาวราศีกุมภ์คือครอบครัว เพราะด้วยจิตใจของเราที่มีความเสียสละให้กับครอบครัวเป็นอย่างสูง ไม่ว่าจะมีสภาวะที่เป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ก็ตาม แต่ด้วยอิทธิพลดาวมฤตยูในครั้งนี้ มีโอกาสที่จะส่งผลในเรื่องของการเจ็บป่วยของคนภายในบ้าน ซึ่งก็มีโอกาสที่จะเป็นผู้หลัก ผู้ใหญ่เป็นหลัก ผู้อาวุโส โดยเฉพาะถ้าเกิดมีใครที่เจ็บป่วยอยู่แล้วภายในบ้าน ก็คงต้องคอยจับตาดูเป็นพิเศษ แต่คราวนี้ด้วยที่ว่าอิทธิพลดาวมฤตยูอยู่ต่อเนื่องนานหลายปี และยังมีกฎเกณฑ์ย่อยอื่นๆที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงปีถัดๆ ไป ที่มีเหตุที่เราอาจจะต้องไปทำหน้าที่ในแดนไกล การบริหารจัดการก็คงอาจจะไม่ได้ง่ายเหมือนเดิมแบบที่เราเคยทำผ่านๆ มาเหมือนในอดีต ก็ขอเป็นกำลังใจให้แล้วกันนะครับ
ราศีมีน
ค่อยๆ เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ถือว่าเป็นราศีนึงที่ต้องใช้พลังกาย พลังใจ และความสามารถต่างๆ ที่จะฝ่าฟันมาจนถึงทุกวันนี้ไม่ง่ายเลยจริงๆ ถึงดาวมฤตยูจะย้ายออกจากเรือนการเงินแล้วก็ตาม (ชั่วคราว ถึง 1 ธ.ค. 65) แต่ก็ยังมีอิทธิพลราหูที่ยังสถิตย์อยู่ในเรือนการเงินอยู่เหมือนเดิม ทำให้เรายังต้องเฝ้าระวัง และต้องวางแผนในเรื่องของรายรับรายจ่าย การลงทุนต่างๆ ให้รอบคอบ ช่วงที่ดาวมฤตยูย้ายในระยะเวลา 1 ถึง 3 ปีแรกอาจจะยังไม่ได้รู้สึกถึงแรงกดดันต่างๆ ที่ลดลงอะไรแบบมากมาย แต่มันจะค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปทีละช้าๆ ในทางที่ดีขึ้นแบบเรื่อยๆ ตามสเต็ปช่วงกรอบเวลาที่กำหนดไว้ ( ประมาณ 7 ปี) ดาวมฤตยูย้ายในครั้งนี้จะเริ่มเข้าสู่โหมดของความเป็นคนโลกส่วนตัวสูงมากขึ้น รักสงบ รักความสันโดษ ในกฎเกณฑ์ที่ดีก็จะเป็นคนรู้แจ้งในสัจธรรมของชีวิตมากขึ้นไปอีกขั้น
#ดาวมฤตยู
#มฤตยูย้าย
ดาวมฤตยูย้าย อย่าวางใจ เรื่องใหญ่ๆ จะทวีความรุนแรงอย่างมหันต์
ปรัชญาทางโหราศาสตร์
โรคภัยอาเพศให้ทายมฤตยู แทนด้วยเลข 0 เป็นอากาศธาตุ จัดอยู่ในกลุ่มประเภทดาวบาปพระเคราะห์ มุมดีมี มุมร้ายมี แต่ชื่อเรียกของดาวนี้มักจะทำให้ดูน่าหวาดกลัวทางจิตใจ เพราะเมื่อไหร่ที่มีอิทธิพลดาวดวงนี้ที่ส่งผลรุนแรง เหตุการณ์นั้นมักจะควบคุมยากหรือมักจะกระจายตัวไปในวงกว้าง ถึงขั้นบาดเจ็บล้มตายเลยก็มี ซึ่งก็อยู่บนพื้นฐานกฎแห่งกรรมของระบบสิ่งมีชีวิตอยู่แล้ว โดยเฉพาะมนุษย์ ที่เป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถรู้ผิดชอบชั่วดี สามารถสะสมการสร้างบุญบารมี ความกตัญญู และกุศลกรรมต่างๆ ฉะนั้นแล้วช่วงที่มีโอกาสที่มีลมหายใจอยู่ก็จงอย่าละเลยในการทำแต่สิ่งที่ดีๆ เพื่อลดทอนกฎแห่งกรรมต่างๆ ของแต่ละบุคคล
โคจรย้ายเข้าสู่ราศีพฤษภ
ช่วงที่ 1 7 ก.ค. 65 - 1 ธ.ค.65
ช่วงที่ 2 9 มี.ค. 66 - 18 ก.ค. 72
ราศีเมษ
ถึงเวลาที่ต้องจัดระบบจัดโครงสร้างในเรื่องของการเงินครั้งใหญ่ ควรโฟกัสในเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพของตัวเองและคนในครอบครัวมากขึ้น โครงการอะไรที่ยังไม่จำเป็นก็ควรจะต้องชะลอไปก่อน ถึงจะย้ายออกจากลัคนาราศีแล้ว แต่ก็ยังมีอิทธิพลราหูทับจุดเกิดอยู่ และช่วงปลายปีดาวมฤตยูก็จะมาปัจฉิมนิเทศส่งท้ายอีกรอบ ฉะนั้นแล้วในเรื่องของเสบียงเงินตราจึงเป็นสิ่งที่ต้องรัดกุมให้มากๆ รวมถึงเรื่องของสุขภาพต้องพักผ่อนให้เพียงพอ โดยเฉพาะในเรื่องของอบายมุข และเรื่องที่ผิดศีลธรรม ต่างๆ ถ้าลดละเลิกได้ จะเป็นสิ่งที่ดีมากที่สุด
ราศีพฤษภ
เป็นรอบปฐมนิเทศรับน้องใหม่ในรอบ 84 ปี มีแนวโน้มที่จะเพิ่มแรงกดดันมากขึ้นไปอีก
โดยเฉพาะวันที่ 9 ส.ค. 65 - 3 ต.ค. 65 และ 16 พ.ย. 65 - 12 มี.ค. 66 เป็นช่วงที่จะมีเหตุรุนแรงที่มาจากในเรื่องของสภาวะอารมณ์จากความใจร้อน และการใช้อารมณ์ที่มีความวู่วามในการตัดสินใจต่างๆ ถ้าวางเฉยหรือปล่อยวางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้ โดยใช้หลักเหตุผลที่ดี ก็จะสามารถผ่านพ้นแล้วก็ประคับประคองสถานการณ์ต่างๆ ให้ผ่านไปได้อยู่ครับ
ราศีเมถุน
เป็นมุมจุดซ่อนเร้นต่างๆ ที่อาจจะไม่ได้แสดงสถานะชัดเจนว่าดี หรือร้ายโดยตรง ถ้าจะมีปัญหาก็จะเป็นโดนเป็นกฎเกณฑ์ย่อยๆ เช่นเมื่อไหร่ที่ดาวประจำตัวคือดาวพุธ (๔) โคจรเข้าสู่ราศีพฤษภ และราศีพิจิก ก็มีโอกาสที่จะเจ็บป่วยหรือไม่สบายหนักๆ เกิดขึ้นได้ในแต่ละช่วงเวลานั้นๆ ที่มีความสัมพันธ์ของดาวเกี่ยวเนื่องกัน แต่ก็ไม่ได้สรุปว่าจะต้องมีเหตุไม่ราบรื่นทุกครั้งเสมอไป ในภาพรวมอิทธิพลดาวมฤตยู ก็ถือว่าเป็นจุดที่เบาใจที่สุดมากกว่าในมุมของราศีอื่นๆ ในรอบนี้
ราศีกรกฎ
เป็นจุดที่เริ่มกำหนดทิศทางอะไรต่างๆ ได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของงานที่เคยมีแรงกดดันมากๆ หรือถ้าเคยมีเหตุผู้ใหญ่ภายในบ้านเจ็บป่วย ก็จะมีแนวโน้มในการรักษาที่ดีขึ้น แต่ก็ต้องไม่ลืมว่ายังมีภาคจบ ในวันที่ 2 ธันวาคม 65 ถึง 9 มีนาคม 66 ฉะนั้นเบาใจได้ แต่ไม่ใช่วางใจได้ทั้งหมด บทเรียนที่ผ่านมาถือเป็นสิ่งที่สำคัญ ฉะนั้นแล้วอะไรที่เริ่มมีสัญญาณการเปลี่ยนแปลงที่ดี ขอจงรักษามาตรฐานในการทำหน้าที่ให้ครบถ้วนตามที่เคยทำมาอย่างต่อเนื่องก็แล้วกันนะครับ
ราศีสิงห์
เป็นจุดทดสอบที่สำคัญครั้งหนึ่งของชีวิต ที่จะต้องพบเจอการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ มากมายทั้งเรื่องงาน และ ที่อยู่อาศัย รวมถึงสมาชิกคนในครอบครัวที่จะเจ็บป่วย ที่จะทยอยมีปัญหาให้ได้ต้องแก้ปัญหาต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพราะยังมีประเด็นในกฎเกณฑ์ย่อยๆ ที่จะเข้ามาซ้ำเติมระหว่างทางอีกหลายๆ เงื่อนไข ทั้งดาวเสาร์จะมีมุมเล็งในปี พ.ศ. 2566 และราหูเล็งในปี พ.ศ. 2568 ไม่ง่ายเลยจริงๆ สำหรับอุปสรรค และสิ่งที่จะต้องพบเจออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำอะไรขอให้อยู่บนพื้นฐานของการมีสติ คิด พิจารณา ให้ถี่ถ้วน อย่าให้เราไปตกหลุมพรางแห่งบ่วงกรรมในครั้งนี้ด้วยเทอญ
ราศีกันย์
ในดีมีเสีย ในเสียมีดี ถึงกฎเกณฑ์นี้จะได้อยู่ในเรือนที่ดี ถ้าจะเปรียบก็เหมือน เราสกัดเซรุ่มจากพิษงู เพื่อเอามาใช้ประโยชน์ในวงกว้างได้ ฉะนั้นแล้วในกฎเกณฑ์นี้ก็เหมือนต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทั้งในด้านของภาษาต่างประเทศ การเรียนรู้ในเรื่องของการบริหารทางการเงินในช่องทางต่างๆ รวมถึงระบบเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อปรับตัวเองให้เราสามารถที่จะทันยุคทันสมัย เป็นคนที่มากความสามารถ และสามารถเชื่อมโยงตัวเองได้ในทุกๆ วงการ แต่ถ้าเรามองเรื่องการพัฒนาตัวเองเป็นเรื่องยากแล้วเราหยุดการพัฒนาตัวเอง เราก็จะกลายเป็นคนล้าหลัง ตกยุค แทนที่เราจะได้ประโยชน์จากกฎเกณฑ์นี้ ก็กลายเป็นว่าเราได้เสียโอกาสในอนาคตของตัวเองโดยที่เราไม่รู้ตัว
ราศีตุลย์
เหมือนจะดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ดีพอจนถึงขั้นสบายใจได้ เพราะในกฎเกณฑ์ย่อยยังมีอิทธิพลดาวอื่นๆ ที่ยังส่งผลกระทบอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะช่วงแรกที่ดาวมฤตยูย้ายไปเจอดาวประจำตัว คือดาวศุกร์ (๖) จร ตั้งแต่วันที่ 7-14 กรกฎาคม 65 ต้องระมัดระวังในเรื่องของภาวะโรคประจำตัวกำเริบ อุบัติเหตุต่างๆ หรือมีเหตุที่จะต้องเสียเงินก้อนแบบฉับพลัน เสียเปรียบในเรื่องของผลประโยชน์ต่างๆ ในการทายครั้งนี้ ไม่ได้อยากให้เกิดความกังวล แต่อยากให้มีข้อมูลเป็นแนวทางรับมือ เพราะสุดท้ายแล้วเราต้องประมวลผลในภาพรวมของอิทธิพลดาวทั้งหมดในจักรราศี เพื่อใช้ในการทำนายให้เกิดความครอบคลุม ซึ่งกฎเกณฑ์ที่ดาวมฤตยูย้ายแล้วจะเริ่มเห็นผลคลี่คลายจริงๆ ในภาพใหญ่ ก็จะเป็นช่วงหลัง 17 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไปครับ
ราศีพิจิก
เป็นอีกหนึ่งราศีที่น่าจับตามอง เพราะเป็นราศีที่มีความลึกลับ มีความแตกต่างจากราศีอื่นทั่วๆไปเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อย่างผู้นำระดับโลกก็จะมีคุณ โจ ไบเดน ที่เป็นชาวราศีนี้อีกคน จากที่กล่าวมา ดาวมฤตยูจะมีมุมเล็งราศีพิจิกโดยตรง เป็นการเริ่มเข้าสู่สภาวะความเป็นสูญญากาศ การเปลี่ยนแปลงที่ไม่แน่ไม่นอน เรื่องของหุ้นส่วน และคู่ครองก็เริ่มมีสัญญาณที่เปลี่ยนไปจากเดิม เช่นการเจ็บป่วยหรือต้องจากกันด้วยภารกิจหน้าที่ต่างๆ ไม่ได้สามารถที่จะควบคุมอะไรได้ง่ายๆ (ทั้งทางกาย ทางใจ) โดยเฉพาะวันที่ 14 กรกฎาคม 2565 ถึง 9 สิงหาคม 2565 เป็นช่วงเปราะบางสั้นๆ ที่สุ่มเสี่ยงที่จะมีเหตุการณ์วิกฤติ เสียหาย และอันตราย ฉะนั้นแล้วอะไรที่เป็นความเสี่ยงงดเกี่ยวข้องทุกกรณีเลยนะครับ
ราศีธนู
เป็นมุมเตือนตัวเอง ว่าสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรมอันดีต่างๆ เทามาก เทาน้อย อาจจะยังไม่ได้ส่งผลในระยะสั้นโดยทันที แต่อาจจะมีมุมเสียหายในระยะยาว เพราะในกฎเกณฑ์ย่อยอื่นๆ ในดวงชะตาถือว่าชีวิตกำลังจะอยู่ในจุดที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ย้ำเตือนอีกครั้งว่าดาวมฤตยูในมุมนี้ถือว่า อะไรที่เป็นสิ่งต้องห้ามอย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวโดยเด็ดขาด เพราะมันจะตัดตอนโอกาสดีๆ ของชีวิตให้หายไป กฎเกณฑ์นี้แค่เราไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งต้องห้ามชีวิตก็ดีขึ้นแล้วครับ
ราศีมังกร
ต้องกลับมาพึ่งพาตัวเองเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไข บุตร บริวาร ลูกน้อง คนที่อายุน้อยกว่าภายในบ้าน จะเริ่มมีเหตุในการบริหารจัดการที่ดูยากขึ้น เช่นไม่เชื่อฟังเหมือนเคย การต้องจากกันด้วยเงื่อนไขหน้าที่ต่างๆ การมีสภาวะในเรื่องของการเจ็บป่วย หรือมีเหตุการณ์ที่ทำให้เรารู้สึกต้องกังวลใจในประเด็นต่างๆ ซึ่งมันก็อาจจะไม่ได้เป็นสภาวะที่รุนแรงทั้งหมด ซึ่งกฎเกณฑ์นี้ก็จะเป็นได้ตั้งแต่เล็กน้อยถึงปานกลาง แล้วก็อาจจะเฉลี่ยในหลายๆเงื่อนไข ถ้าเราวางแผนดีก็พอที่จะรับมือได้อยู่แล้วครับ
ราศีกุมภ์
จุดอ่อนของชาวราศีกุมภ์คือครอบครัว เพราะด้วยจิตใจของเราที่มีความเสียสละให้กับครอบครัวเป็นอย่างสูง ไม่ว่าจะมีสภาวะที่เป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ก็ตาม แต่ด้วยอิทธิพลดาวมฤตยูในครั้งนี้ มีโอกาสที่จะส่งผลในเรื่องของการเจ็บป่วยของคนภายในบ้าน ซึ่งก็มีโอกาสที่จะเป็นผู้หลัก ผู้ใหญ่เป็นหลัก ผู้อาวุโส โดยเฉพาะถ้าเกิดมีใครที่เจ็บป่วยอยู่แล้วภายในบ้าน ก็คงต้องคอยจับตาดูเป็นพิเศษ แต่คราวนี้ด้วยที่ว่าอิทธิพลดาวมฤตยูอยู่ต่อเนื่องนานหลายปี และยังมีกฎเกณฑ์ย่อยอื่นๆที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงปีถัดๆ ไป ที่มีเหตุที่เราอาจจะต้องไปทำหน้าที่ในแดนไกล การบริหารจัดการก็คงอาจจะไม่ได้ง่ายเหมือนเดิมแบบที่เราเคยทำผ่านๆ มาเหมือนในอดีต ก็ขอเป็นกำลังใจให้แล้วกันนะครับ
ราศีมีน
ค่อยๆ เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ถือว่าเป็นราศีนึงที่ต้องใช้พลังกาย พลังใจ และความสามารถต่างๆ ที่จะฝ่าฟันมาจนถึงทุกวันนี้ไม่ง่ายเลยจริงๆ ถึงดาวมฤตยูจะย้ายออกจากเรือนการเงินแล้วก็ตาม (ชั่วคราว ถึง 1 ธ.ค. 65) แต่ก็ยังมีอิทธิพลราหูที่ยังสถิตย์อยู่ในเรือนการเงินอยู่เหมือนเดิม ทำให้เรายังต้องเฝ้าระวัง และต้องวางแผนในเรื่องของรายรับรายจ่าย การลงทุนต่างๆ ให้รอบคอบ ช่วงที่ดาวมฤตยูย้ายในระยะเวลา 1 ถึง 3 ปีแรกอาจจะยังไม่ได้รู้สึกถึงแรงกดดันต่างๆ ที่ลดลงอะไรแบบมากมาย แต่มันจะค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปทีละช้าๆ ในทางที่ดีขึ้นแบบเรื่อยๆ ตามสเต็ปช่วงกรอบเวลาที่กำหนดไว้ ( ประมาณ 7 ปี) ดาวมฤตยูย้ายในครั้งนี้จะเริ่มเข้าสู่โหมดของความเป็นคนโลกส่วนตัวสูงมากขึ้น รักสงบ รักความสันโดษ ในกฎเกณฑ์ที่ดีก็จะเป็นคนรู้แจ้งในสัจธรรมของชีวิตมากขึ้นไปอีกขั้น
#ดาวมฤตยู
#มฤตยูย้าย