ดาวมฤตยู​ย้าย อย่าวางใจ​ เรื่องใหญ่​ๆ จะทวีความรุนแรง​อย่าง​มหันต์​

กระทู้สนทนา


ปรัชญาทางโหราศาสตร์

โรคภัยอาเพศให้ทายมฤตยู แทนด้วยเลข  0  เป็นอากาศธาตุ​ จัดอยู่ในกลุ่มประเภทดาวบาปพระเคราะห์​ มุมดีมี  มุมร้ายมี  แต่ชื่อเรียกของดาวนี้มักจะทำให้ดูน่าหวาดกลัวทางจิตใจ​ เพราะเมื่อไหร่ที่มีอิทธิพลดาวดวงนี้ที่ส่งผลรุนแรง เหตุการณ์นั้นมักจะควบคุมยากหรือมักจะกระจายตัวไปในวงกว้าง ถึงขั้นบาดเจ็บล้มตายเลยก็มี ซึ่งก็อยู่บนพื้นฐานกฎแห่งกรรมของระบบสิ่งมีชีวิตอยู่แล้ว โดยเฉพาะมนุษย์ ที่เป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถรู้ผิดชอบชั่วดี สามารถสะสมการสร้างบุญ​บารมี  ความกตัญญู และกุศลกรรมต่างๆ ฉะนั้นแล้วช่วงที่มีโอกาสที่มีลมหายใจอยู่ก็จงอย่าละเลยในการทำแต่สิ่งที่ดีๆ เพื่อลดทอนกฎแห่งกรรมต่างๆ ของแต่ละบุคคล

โคจรย้ายเข้าสู่ราศีพฤษภ
ช่วงที่ 1  7  ก.ค. 65 -​ 1  ธ.ค.65
ช่วงที่ 2  9  มี.ค. 66 -​ 18  ก.ค. 72

ราศี​เมษ​

ถึงเวลาที่ต้องจัดระบบจัดโครงสร้างในเรื่องของการเงินครั้งใหญ่ ควรโฟกัสในเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพของตัวเองและคนในครอบครัวมากขึ้น โครงการ​อะไรที่ยังไม่จำเป็นก็ควรจะต้องชะลอไปก่อน ถึงจะย้ายออกจากลัคนาราศีแล้ว แต่ก็ยังมีอิทธิพลราหูทับจุดเกิดอยู่ และช่วงปลายปีดาวมฤตยูก็จะมาปัจฉิมนิเทศส่งท้ายอีกรอบ ฉะนั้นแล้วในเรื่องของเสบียงเงินตราจึงเป็นสิ่งที่ต้องรัดกุมให้มากๆ รวมถึงเรื่องของสุขภาพต้องพักผ่อนให้เพียงพอ โดยเฉพาะในเรื่องของอบายมุข และเรื่องที่ผิดศีลธรรม ต่างๆ  ถ้าลดละเลิกได้ จะเป็นสิ่งที่ดีมากที่สุด

ราศี​พฤษภ​

เป็นรอบปฐมนิเทศรับน้องใหม่ในรอบ 84 ปี มีแนวโน้ม​ที่จะเพิ่มแรงกดดันมากขึ้นไปอีก
โดยเฉพาะวันที่ 9  ส.ค. 65  -​ 3  ต.ค.  65  และ  16  พ.ย. 65  -​ 12  มี.ค. 66 เป็นช่วงที่จะมีเหตุรุนแรง​ที่มาจากในเรื่องของสภาวะอารมณ์จากความใจร้อน และการใช้อารมณ์ที่มีความวู่วามในการตัดสินใจต่างๆ ถ้าวางเฉยหรือปล่อยวางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้ โดยใช้หลักเหตุผลที่ดี ก็จะสามารถผ่านพ้นแล้วก็ประคับประคองสถานการณ์ต่างๆ ให้ผ่านไปได้อยู่​ครับ

ราศีเมถุน

เป็นมุมจุดซ่อนเร้นต่างๆ  ที่อาจจะไม่ได้แสดงสถานะชัดเจนว่าดี หรือร้ายโดยตรง ถ้าจะมีปัญหาก็จะเป็นโดนเป็นกฎเกณฑ์ย่อยๆ เช่นเมื่อไหร่ที่ดาวประจำตัวคือดาวพุธ (๔) โคจรเข้าสู่ราศีพฤษภ และราศีพิจิก  ก็มีโอกาสที่จะเจ็บป่วยหรือไม่สบายหนักๆ เกิดขึ้นได้ในแต่ละช่วงเวลานั้นๆ  ที่มีความสัมพันธ์ของดาวเกี่ยวเนื่องกัน แต่ก็ไม่ได้สรุปว่าจะต้องมีเหตุไม่ราบรื่น​ทุกครั้งเสมอไป ในภาพรวมอิทธิพลดาวมฤตยู ก็ถือว่าเป็นจุดที่เบาใจที่สุดมากกว่าในมุมของราศีอื่นๆ ในรอบนี้

ราศี​กรกฎ​

เป็นจุดที่เริ่มกำหนดทิศทางอะไรต่างๆ ได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของงานที่เคยมีแรงกดดันมากๆ  หรือถ้าเคยมีเหตุผู้ใหญ่ภายในบ้านเจ็บป่วย ก็จะมีแนวโน้มในการรักษาที่ดีขึ้น แต่ก็ต้องไม่ลืมว่ายังมีภาคจบ ในวันที่ 2 ธันวาคม 65 ถึง 9 มีนาคม 66 ฉะนั้นเบาใจได้ แต่ไม่ใช่วางใจได้ทั้งหมด บทเรียนที่ผ่านมาถือเป็นสิ่งที่สำคัญ ฉะนั้นแล้วอะไรที่เริ่มมีสัญญาณ​การเปลี่ยนแปลงที่ดี ขอจงรักษามาตรฐานในการทำหน้าที่ให้ครบถ้วนตามที่เคยทำมาอย่างต่อเนื่อง​ก็แล้วกัน​นะครับ​

ราศี​สิงห์​

เป็นจุดทดสอบ​ที่สำคัญ​ครั้งหนึ่งของชีวิต  ที่จะต้องพบเจอการเปลี่ยนแปลง​สิ่งต่างๆ  มากมายทั้งเรื่องงาน  และ ที่อยู่​อาศัย​ รวมถึงสมาชิก​คนในครอบครัว​ที่จะเจ็บป่วย  ที่จะทยอยมีปัญหา​ให้ได้ต้องแก้ปัญหา​ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพราะยังมีประเด็น​ในกฎเกณฑ์​ย่อยๆ  ที่จะเข้ามาซ้ำเติมระหว่างทางอีกหลายๆ เงื่อนไข  ทั้งดาวเสาร์​จะมีมุมเล็งในปี พ.ศ. 2566  และราหูเล็งในปี พ.ศ. 2568 ไม่ง่ายเลยจริงๆ​ สำหรับอุปสรรค​ และสิ่งที่จะต้องพบเจออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้​ ทำอะไรขอให้อยู่บนพื้นฐาน​ของการมีสติ   คิด  พิจารณา​ ให้ถี่ถ้วน อย่าให้เราไปตกหลุมพราง​แห่งบ่วงกรรมในครั้งนี้​ด้วยเทอญ​

ราศี​กันย์​

ในดีมีเสีย  ในเสียมีดี  ถึงกฎเกณฑ์​นี้จะได้อยู่​ในเรือนที่ดี ถ้าจะเปรียบก็เหมือน เราสกัดเซรุ่มจากพิษงู เพื่อเอามาใช้ประโยชน์ในวงกว้างได้ ฉะนั้นแล้วในกฎเกณฑ์นี้ก็เหมือนต้องเรียนรู้สิ่งใหม่​ๆ ทั้งในด้านของภาษาต่างประเทศ  การเรียนรู้ในเรื่องของการบริหารทางการเงินในช่องทางต่างๆ รวมถึงระบบเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อปรับตัวเองให้เราสามารถที่จะทันยุคทันสมัย เป็นคนที่มากความสามารถ และสามารถเชื่อมโยงตัวเองได้ในทุกๆ วงการ​ แต่ถ้าเรามองเรื่องการพัฒนา​ตัวเองเป็นเรื่องยากแล้วเราหยุดการพัฒนาตัวเอง เราก็จะกลายเป็นคนล้าหลัง ตกยุค​ แทนที่เราจะได้ประโยชน์จากกฎเกณฑ์นี้ ก็กลายเป็นว่าเราได้เสียโอกาสในอนาคต​ของตัวเองโดยที่เราไม่รู้ตัว

ราศี​ตุลย์​

เหมือนจะดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ดีพอจนถึงขั้นสบายใจได้ เพราะในกฎเกณฑ์ย่อยยังมีอิทธิพลดาวอื่นๆ  ที่ยังส่งผลกระทบ​อยู่​ไม่น้อย โดยเฉพาะช่วงแรกที่ดาวมฤตยูย้ายไปเจอดาวประจำตัว  คือดาว​ศุกร์​ (๖) จร ตั้งแต่วันที่ 7-14 กรกฎาคม 65 ต้องระมัดระวังในเรื่องของภาวะโรคประจำตัวกำเริบ​  อุบัติเหตุ​ต่างๆ  หรือมีเหตุที่จะต้องเสียเงินก้อนแบบฉับพลัน​ เสียเปรียบในเรื่องของผลประโยชน์ต่างๆ ในการทายครั้งนี้ ไม่ได้อยากให้เกิดความกังวล แต่อยากให้มีข้อมูลเป็นแนวทางรับมือ เพราะสุดท้ายแล้วเราต้องประมวลผลในภาพรวมของอิทธิพล​ดาวทั้งหมด​ในจักรราศี​ เพื่อใช้ในการทำนายให้เกิดความครอบคลุม​ ซึ่งกฎเกณฑ์ที่ดาวมฤตยูย้ายแล้วจะเริ่มเห็นผลคลี่คลาย​จริงๆ​ ในภาพใหญ่ ก็จะเป็นช่วงหลัง 17 ตุลาคม 2566  เป็นต้นไป​ครับ

ราศี​พิจิก

เป็นอีกหนึ่งราศีที่น่าจับตามอง เพราะเป็นราศีที่มีความลึกลับ​ มีความแตกต่างจากราศีอื่นทั่วๆไปเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อย่างผู้นำระดับโลกก็จะมีคุณ  โจ  ไบเดน  ที่เป็นชาวราศีนี้อีกคน จากที่กล่าวมา ดาวมฤตยูจะมีมุมเล็งราศี​พิจิกโดยตรง เป็นการเริ่มเข้าสู่สภาวะความเป็นสูญญากาศ  การเปลี่ยนแปลงที่ไม่แน่ไม่นอน  เรื่องของหุ้นส่วน และคู่ครองก็เริ่มมีสัญญาณที่เปลี่ยน​ไปจากเดิม เช่นการเจ็บป่วยหรือต้องจากกันด้วยภารกิจหน้าที่ต่างๆ ไม่ได้สามารถที่จะควบคุมอะไรได้ง่ายๆ  (ทั้งทางกาย  ทางใจ)​ โดยเฉพาะวันที่ 14 กรกฎาคม  2565  ถึง  9  สิงหาคม​ 2565 เป็นช่วงเปราะบางสั้นๆ ที่สุ่ม​เสี่ยง​ที่จะมีเหตุการณ์​วิกฤติ​ เสียหาย  และอันตราย​  ฉะนั้นแล้วอะไรที่เป็นความเสี่ยงงดเกี่ยวข้อง​ทุกกรณีเลยนะครับ

ราศีธนู​

เป็นมุมเตือนตัวเอง​ ว่าสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรมอันดีต่างๆ  เทามาก  เทาน้อย อาจจะยังไม่ได้ส่งผลในระยะสั้นโดยทันที แต่อาจจะมีมุมเสียหายในระยะยาว เพราะในกฎเกณฑ์ย่อยอื่นๆ ในดวงชะตาถือว่าชีวิตกำลังจะอยู่ในจุดที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ย้ำเตือนอีกครั้งว่าดาวมฤตยูในมุมนี้ถือว่า อะไรที่เป็นสิ่งต้องห้ามอย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยว​โดยเด็ดขาด เพราะมันจะตัดตอนโอกาสดีๆ ของชีวิตให้หายไป  กฎเกณฑ์นี้แค่เราไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งต้องห้าม​ชีวิตก็ดีขึ้นแล้วครับ

ราศี​มังกร

ต้องกลับมาพึ่งพาตัวเองเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไข บุตร บริวาร ลูกน้อง​ คนที่อายุน้อยกว่าภายในบ้าน จะเริ่มมีเหตุในการบริหารจัดการที่ดูยากขึ้น เช่นไม่เชื่อฟังเหมือน​เคย  การต้องจากกันด้วยเงื่อนไขหน้าที่ต่างๆ  การมีสภาวะในเรื่องของการเจ็บป่วย หรือมีเหตุการณ์ที่ทำให้เรารู้สึกต้องกังวล​ใจในประเด็นต่างๆ  ซึ่งมันก็อาจจะไม่ได้เป็นสภาวะที่รุนแรงทั้งหมด ซึ่งกฎเกณฑ์นี้ก็จะเป็นได้ตั้งแต่เล็กน้อยถึง​ปานกลาง​  แล้วก็อาจจะเฉลี่ยในหลายๆเงื่อนไข  ถ้าเราวางแผนดีก็พอที่จะรับมือได้อยู่แล้วครับ

ราศี​กุมภ์

จุดอ่อนของชาวราศีกุมภ์​คือครอบครัว​  เพราะด้วยจิตใจของเราที่มีความเสียสละให้กับครอบครัวเป็นอย่างสูง ไม่ว่าจะมีสภาวะที่เป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ก็ตาม  แต่ด้วยอิทธิพลดาวมฤตยูในครั้งนี้ มีโอกาสที่จะส่งผลในเรื่องของการเจ็บป่วยของคนภายในบ้าน ซึ่งก็มีโอกาสที่จะเป็นผู้หลัก ผู้ใหญ่เป็นหลัก  ผู้อาวุโส​ โดยเฉพาะถ้าเกิดมีใครที่เจ็บป่วยอยู่แล้วภายในบ้าน ก็คงต้องคอยจับตาดูเป็นพิเศษ แต่คราวนี้ด้วยที่ว่าอิทธิพลดาวมฤตยูอยู่ต่อเนื่องนานหลายปี และยังมีกฎเกณฑ์ย่อยอื่นๆที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงปีถัดๆ  ไป ที่มีเหตุที่เราอาจจะต้องไปทำหน้าที่ในแดนไกล การบริหารจัดการก็คงอาจจะไม่ได้ง่ายเหมือนเดิมแบบที่เราเคยทำผ่านๆ มาเหมือนในอดีต ก็ขอเป็นกำลังใจให้แล้วกันนะครับ

ราศี​มีน

ค่อยๆ เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ถือว่าเป็นราศีนึงที่ต้องใช้พลังกาย พลังใจ และความสามารถต่างๆ ที่จะฝ่าฟันมาจนถึงทุกวันนี้ไม่ง่ายเลยจริงๆ​ ถึงดาวมฤตยู​จะย้ายออกจากเรือนการเงินแล้วก็ตาม (ชั่วคราว​ ถึง 1  ธ.ค. 65) แต่ก็ยังมีอิทธิพลราหูที่ยังสถิตย์​อยู่ในเรือนการเงิน​อยู่​เหมือนเดิม​ ทำให้เรายังต้องเฝ้าระวัง และต้องวางแผนในเรื่องของรายรับรายจ่าย  การลงทุนต่างๆ ให้รอบคอบ​ ช่วงที่ดาวมฤตยูย้ายในระยะเวลา 1 ถึง 3 ปีแรกอาจจะยังไม่ได้รู้สึกถึงแรงกดดันต่างๆ ที่ลดลงอะไรแบบมากมาย แต่มันจะค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปทีละช้าๆ ในทางที่ดีขึ้นแบบเรื่อยๆ ตามสเต็ปช่วงกรอบเวลาที่กำหนดไว้  ( ประมาณ​ 7 ปี) ดาวมฤตยูย้ายในครั้งนี้จะเริ่มเข้าสู่โหมดของความเป็นคนโลกส่วนตัวสูงมากขึ้น รักสงบ  รักความสันโดษ ในกฎเกณฑ์ที่ดีก็จะเป็นคนรู้แจ้งในสัจธรรมของชีวิตมากขึ้น​ไปอีกขั้น​

#ดาวมฤตยู​
#มฤตยู​ย้าย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่