'อดีตบิ๊กศรภ.'เล่าความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้าน ดึงสติพวกอยากให้ไทยรบกับพม่า
วันเสาร์ ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2565, 17.12 น.
2 ก.ค.65 พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นกรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์การตอบโต้ของกองทัพอากาศเหตุการณ์เครื่องบินรบมิก -29 ของพม่ารุกล้ำน่านฟ้าไทยจนถูกโยงมาเป็นประเด็นการเมืองโจมตีรัฐบาล โดยพล.ท.นันทเดช ตั้งคำถามว่า อยากจะให้พม่ารบกับไทยเหมือนสมัยกรุงศรีอยุธยา ถึงจะสนุกสมใจ
ความสัมพันธ์ระหว่าง ประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียน ในสมัยลุงตู่นั้น กล่าวได้ว่า”ดีเยี่ยม” โดยเฉพาะทาง “ทหาร” เพราะทุกประเทศรู้กันดีว่า ภัยคุกคามร่วมกัน ที่มาจากประเทศทางตะวันตก ยังไม่ได้หมดไป จึงต้องสามัคคีกันไว้ แต่กระนั้น การกีดกันทางการค้า และ การรังแกอย่างไม่เป็นธรรม การเข้ามาแทรกแซงกิจการภายใน บ่อนทำลายให้ประเทศในกลุ่มอาเซียนอ่อนแอลง จากประเทศทางตะวันตกก็ยังรุนแรงอยู่ โดยอ้าง (1) เรื่องประชาธิปไตย และ (2) สิทธิมนุษย์ชนเพื่อหาทางลดราคาสินค้าจากกลุ่มประเทศอาเชียนให้ถูกลง , การบังคับให้ซื้ออาวุธ , การลดศักยภาพของประเทศในกลุ่มอาเซียน ด้วยการสร้างความแตกแยกขึ้นมา,การเอารัดเอาเปรียบทางการค้า ฯลฯ
เมื่อความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านเป็นไปด้วยดี การติดต่อทุกเรื่องก็สบายตามไปด้วย การค้าขายผ่านแดนในอาเชียน ก็ช่วยเหลือประเทศไทยอย่างมากมายเพราะสินค้าไทยนั้น ขายให้กับทุกประเทศ และเป็นรายได้หลักของประเทศเลยทีเดียว
ในรัฐบาลลุงตู่นั้น ผมยังไม่เคยเห็นว่ามีการนำความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้าน มาหาประโยชน์เข้าตัวเองเลยสักครั้ง เช่น“ การไปบังคับรัฐบาลเพื่อนบ้าน ให้มากู้เงิน ธนาคารของรัฐไทย แล้วนำเงินนั้นกลับมาใช้ซื้อของบริษัท ส่วนตัวของนักการเมือง” หรือ“ การใช้เครื่องบินส่วนตัวของเอกชน บินไปติดต่อในเรื่องต่างๆ” หรือว่าวิธีนี้เป็นการแสดงจริงใจต่อเพื่อนบ้าน!”
ดังนั้นแค่กิ่งไม้จากเพื่อนบ้านล้ำข้ามรั้วเข้ามาในเขตบ้านเรานิดหน่อย จะต้องถึงให้ออกไปชี้หน้าด่ากันเลยหรือไง ถึงจะต้องออกหนังสือขอโทษด้วยหรือ
ในสมัยนี้ ผู้นำทุกประเทศเขามีช่องทางติดต่อกันพิเศษ เห็นทั้งหน้าทั้งเสียง สามารถพูดคุยกันได้ 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว
“ชอบเอาแต่เรื่องโบราณในสมัยสงครามเย็น ที่ต้องทำหนังสือติดต่อกันไปมา นำมาพูดถึงกันอยู่เรื่อยไป โลกเปลี่ยนแต่คนยังไม่เปลี่ยน”
ครับ แถมท้ายหน่อย/ ทหารหรือรัฐบาล คงพูดออกมาเองไม่ได้ผมเลยขอบอกแทนว่า “ทอ.ไทย นั้น เป็นที่1ในอาเซียน” ระบบเรดาร์ ก็ไกลมาก ( ไกลแค่ไหน คิดกันเอาเองแล้วกันครับ)
เรื่องพม่าบินล้ำแดน ไทยนั้นขอให้ดูภูมิประเทศ และเจตนาด้วย แผ่นดินไทยยื่นเข้าไปเป็นถุงอยู่ในประเทศพม่า จึงดูเหมือนเครื่องบินอยู่ในพื้นที่ของไทยมาหลายนาที แต่เมื่อลงไปบินโจมตีแล้ว จะให้บินหลบไม่เข้าเขตไทยได้อย่างไร สำหรับนักบินมือใหม่ถ้าทำได้ก็มีแต่ในภาพยนต์เรื่อง TOPGUN เท่านั้นครับ
เรื่องแค่นี้ ถ้าไม่เอาการเมืองมาเล่น แต่เอาผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง ก็คงมีสตินึกกันออก ว่า “เวลาพวกตัวเอง เข้ามาเป็นรัฐบาลบ้าง จะต้องทำอย่างไร ชาติถึงจะไม่พังไปกับมือ”
ส่วนกะเหรี่ยงนั้น มีแต่พม่านินทาไทยว่าอยู่ข้างกะเหรี่ยง ดังนั้น ลองไปถามดูว่าใครเป็นเพื่อนดีที่สุดของพวกเขา เพราะถ้าไม่มีทหารไทย ฐานแตกไปนานแล้ว และถ้าพวกเขาไม่ทะเลาะกันเอง พม่าก็ไม่มีวันนี้หรอกครับ
https://www.naewna.com/politic/664226
"รู้น้อยพลายรำคาญ" บทความคุณเปลวที่ว่าเจ็บจึ๊กทิ่มเข้าไปในลำไส้แดงสามกีบทุกขดแล้ว
บทความท่านอดีตหัวหน้าศรภ. ยิ่งเปิดฝาท่อให้แดงสามกีบคลั่งหนักเข้าไปอีกที่รู้มากขึ้นขนาดนี้
ท่านการันตีให้คุณภาพกองทัพฟ้าของไทยชนิดสู้ได้ในปฐพีอาเซียน แต่ลุงตู่นั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้านมีรั้วบ้านดีไทยก็ปลอดภัย
ยุคผู้นำโลกสมัยใหม่ไม่ต้องใช้หนังสือติดต่อกันเวลามีเรื่องด่วนๆเขาคุยเห็นๆทั้งภาพและเสียง หนังสือมาทีหลัง
แดงสามกีบมัวแต่ย้อนยุคไปสมัย2475 สะพานท่าราบ โลกเปลี่ยนแต่ความคิดไม่เปลี่ยน อยู่ในโลกดึกดำบรรพ์
เวลาพวกตัวพ่อแม้วเป็นรัฐบาลก็เอาใจพม่า ว่าทห.ไทย นิสัยเอาดีใส่ตัวผู้นำ อ่อนให้พม่ามาแต่ไหนแต่ไร
แดงสามกีบอย่ามาโอเว่อร์ รีแอ๊ก!!
❤️มาลาริน/รู้น้อยพลอยรำคาญ...มารู้มากกันบ้างค่ะ...พวกแดงสามกีบไร้ความคิด โลกเปลี่ยนแต่คนไม่เปลี่ยน
วันเสาร์ ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2565, 17.12 น.
2 ก.ค.65 พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นกรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์การตอบโต้ของกองทัพอากาศเหตุการณ์เครื่องบินรบมิก -29 ของพม่ารุกล้ำน่านฟ้าไทยจนถูกโยงมาเป็นประเด็นการเมืองโจมตีรัฐบาล โดยพล.ท.นันทเดช ตั้งคำถามว่า อยากจะให้พม่ารบกับไทยเหมือนสมัยกรุงศรีอยุธยา ถึงจะสนุกสมใจ
ความสัมพันธ์ระหว่าง ประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียน ในสมัยลุงตู่นั้น กล่าวได้ว่า”ดีเยี่ยม” โดยเฉพาะทาง “ทหาร” เพราะทุกประเทศรู้กันดีว่า ภัยคุกคามร่วมกัน ที่มาจากประเทศทางตะวันตก ยังไม่ได้หมดไป จึงต้องสามัคคีกันไว้ แต่กระนั้น การกีดกันทางการค้า และ การรังแกอย่างไม่เป็นธรรม การเข้ามาแทรกแซงกิจการภายใน บ่อนทำลายให้ประเทศในกลุ่มอาเซียนอ่อนแอลง จากประเทศทางตะวันตกก็ยังรุนแรงอยู่ โดยอ้าง (1) เรื่องประชาธิปไตย และ (2) สิทธิมนุษย์ชนเพื่อหาทางลดราคาสินค้าจากกลุ่มประเทศอาเชียนให้ถูกลง , การบังคับให้ซื้ออาวุธ , การลดศักยภาพของประเทศในกลุ่มอาเซียน ด้วยการสร้างความแตกแยกขึ้นมา,การเอารัดเอาเปรียบทางการค้า ฯลฯ
เมื่อความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านเป็นไปด้วยดี การติดต่อทุกเรื่องก็สบายตามไปด้วย การค้าขายผ่านแดนในอาเชียน ก็ช่วยเหลือประเทศไทยอย่างมากมายเพราะสินค้าไทยนั้น ขายให้กับทุกประเทศ และเป็นรายได้หลักของประเทศเลยทีเดียว
ในรัฐบาลลุงตู่นั้น ผมยังไม่เคยเห็นว่ามีการนำความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้าน มาหาประโยชน์เข้าตัวเองเลยสักครั้ง เช่น“ การไปบังคับรัฐบาลเพื่อนบ้าน ให้มากู้เงิน ธนาคารของรัฐไทย แล้วนำเงินนั้นกลับมาใช้ซื้อของบริษัท ส่วนตัวของนักการเมือง” หรือ“ การใช้เครื่องบินส่วนตัวของเอกชน บินไปติดต่อในเรื่องต่างๆ” หรือว่าวิธีนี้เป็นการแสดงจริงใจต่อเพื่อนบ้าน!”
ดังนั้นแค่กิ่งไม้จากเพื่อนบ้านล้ำข้ามรั้วเข้ามาในเขตบ้านเรานิดหน่อย จะต้องถึงให้ออกไปชี้หน้าด่ากันเลยหรือไง ถึงจะต้องออกหนังสือขอโทษด้วยหรือ
ในสมัยนี้ ผู้นำทุกประเทศเขามีช่องทางติดต่อกันพิเศษ เห็นทั้งหน้าทั้งเสียง สามารถพูดคุยกันได้ 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว
“ชอบเอาแต่เรื่องโบราณในสมัยสงครามเย็น ที่ต้องทำหนังสือติดต่อกันไปมา นำมาพูดถึงกันอยู่เรื่อยไป โลกเปลี่ยนแต่คนยังไม่เปลี่ยน”
ครับ แถมท้ายหน่อย/ ทหารหรือรัฐบาล คงพูดออกมาเองไม่ได้ผมเลยขอบอกแทนว่า “ทอ.ไทย นั้น เป็นที่1ในอาเซียน” ระบบเรดาร์ ก็ไกลมาก ( ไกลแค่ไหน คิดกันเอาเองแล้วกันครับ)
เรื่องพม่าบินล้ำแดน ไทยนั้นขอให้ดูภูมิประเทศ และเจตนาด้วย แผ่นดินไทยยื่นเข้าไปเป็นถุงอยู่ในประเทศพม่า จึงดูเหมือนเครื่องบินอยู่ในพื้นที่ของไทยมาหลายนาที แต่เมื่อลงไปบินโจมตีแล้ว จะให้บินหลบไม่เข้าเขตไทยได้อย่างไร สำหรับนักบินมือใหม่ถ้าทำได้ก็มีแต่ในภาพยนต์เรื่อง TOPGUN เท่านั้นครับ
เรื่องแค่นี้ ถ้าไม่เอาการเมืองมาเล่น แต่เอาผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง ก็คงมีสตินึกกันออก ว่า “เวลาพวกตัวเอง เข้ามาเป็นรัฐบาลบ้าง จะต้องทำอย่างไร ชาติถึงจะไม่พังไปกับมือ”
ส่วนกะเหรี่ยงนั้น มีแต่พม่านินทาไทยว่าอยู่ข้างกะเหรี่ยง ดังนั้น ลองไปถามดูว่าใครเป็นเพื่อนดีที่สุดของพวกเขา เพราะถ้าไม่มีทหารไทย ฐานแตกไปนานแล้ว และถ้าพวกเขาไม่ทะเลาะกันเอง พม่าก็ไม่มีวันนี้หรอกครับ
https://www.naewna.com/politic/664226
"รู้น้อยพลายรำคาญ" บทความคุณเปลวที่ว่าเจ็บจึ๊กทิ่มเข้าไปในลำไส้แดงสามกีบทุกขดแล้ว
บทความท่านอดีตหัวหน้าศรภ. ยิ่งเปิดฝาท่อให้แดงสามกีบคลั่งหนักเข้าไปอีกที่รู้มากขึ้นขนาดนี้
ท่านการันตีให้คุณภาพกองทัพฟ้าของไทยชนิดสู้ได้ในปฐพีอาเซียน แต่ลุงตู่นั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้านมีรั้วบ้านดีไทยก็ปลอดภัย
ยุคผู้นำโลกสมัยใหม่ไม่ต้องใช้หนังสือติดต่อกันเวลามีเรื่องด่วนๆเขาคุยเห็นๆทั้งภาพและเสียง หนังสือมาทีหลัง
แดงสามกีบมัวแต่ย้อนยุคไปสมัย2475 สะพานท่าราบ โลกเปลี่ยนแต่ความคิดไม่เปลี่ยน อยู่ในโลกดึกดำบรรพ์
เวลาพวกตัวพ่อแม้วเป็นรัฐบาลก็เอาใจพม่า ว่าทห.ไทย นิสัยเอาดีใส่ตัวผู้นำ อ่อนให้พม่ามาแต่ไหนแต่ไร
แดงสามกีบอย่ามาโอเว่อร์ รีแอ๊ก!!