60 แล้วนะป๋า แต่ป๋าคือ Age Like Fine Wine ขนานแท้ ไม่ยอมแก่ กล้ามแขนบึกมากป๋าจะฟิตไปไหน ความทอมครูซต่อให้ตีนกาขึ้นหน้าคล้อยลง แต่ลุค บุคลิกภาพ วิธีพูด การเดิน ทุกอย่างทำให้เขาดูเด็กกว่าวัยเสมอ
41 ปี บนเส้นทางอาชีพ 1981 - ปัจจุบัน พูดได้เลยว่าแฟนหนังของทอมค่อนโลกยังไม่ลืมตาดูโลกด้วยซ้ำตอนเขาเริ่มอาชีพนักแสดง จนถึงวันนี้เขายังคงเป็น The Biggest Movie Star Of All Time แบบไม่มีข้อกังขา
เส้นทางอาชีพทอมในมุมมองส่วนตัวของเรา
จุดเปลี่ยน
1983 Risky Business จากดาราวัยรุ่นที่ไม่ได้ดังอะไรก่อนหน้านั้นที่อยู่ในวงการมาราว 2 ปี กลับกลายเป็นดาวรุ่งที่สื่อยกให้เป็น rising star หลังจากเรื่องนี้ เรียกง่ายๆว่าถ้าวันนั้นทอมไม่ได้เล่นเรื่องนี้ เส้นทางชีวิตเขาอาจจะไม่ใช่แบบวันนี้เลยก็ว่าได้ แถมฉากสไลด์ออกมาเต้น ยังเป็นฉากเต้นในตำนานที่เป็นหนึ่งในฉากเต้นที่เป็น most memorable ฉากนึงในวงการภาพยนตร์ จนทุกวันนี้
ก้าวขึ้นเป็น Superstar
1986 ปีที่พลิกผันจากดาราดาวรุ่ง กลายเป็น 1 ในดาราที่ดังที่สุดในยุค 80's (อาจจะในโลกด้วยซ้ำ) ความสำเร็จของ Top Gun ที่เป็น Highest Grossing Flim of 1986 ทำให้ทอมเป็นดาราที่ดังที่สุดในชั่วข้ามคืน ทุกอย่างที่เขาทำดังหมด สวมแว่น Ray band ยอดขายถล่มทลาย เสื้อแจ๊กเก็ตหนังก็ขายดี แถมทำให้คนแห่ไปสมัครทหารกันเพิ่มขึ้น 500% หลังความสำเร็จของ Top Gun
สานต่อความปัง
1988 Rain Man เป็นหนังทำเงินสูงสุดของปี 1988 ยิ่งทำให้ชื่อชั้นของทอมก้าวกระโดดไปอีกขั้น เรียกได้ว่าเป็น Golden Boy Of Hollywood เลยก็ไม่ผิด มีหนังทำเงินสูงสุดของปีถึง 2 ปี ในช่วง 86 - 88 ตัวหนังเอง
ก็ถูกเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์หลายสาขา เรียกว่าได้ทั้งเงินทั้งกล่อง แถมดันให้ทอมทะยานขึ้นไปอยู่แถวหน้าของฮอลลีวู้ดเต็มตัวด้วยวัยเพียง 26 ปี แถมปี 89 Born on the 4th of July ทอมก็ได้รับรางวัลด้านการแสดงหลายที่เช่น golden globe และได้รับคำชมเรื่องฝีมือการแสดงแบบจริงจังๆจากนักวิจารณ์และสื่อ จบยุค80's ได้สวยงาม
90's ยุคแห่งการเป็นตัวพ่อเต็มตัว
ทั้งได้แสดงในบทบาทที่หลากหลาย ทั้งมีหนังที่ทำเงินระดับสูง, อีกทั้งยังเริ่มตั้งบริษัทโปรดักชั่น Cruise/Wagner และเริ่มทำหนังเรื่องแรกคือ MI1 หนังก็ทำเงินถล่มทลายในยุคนั้น ทอมทำรายได้จาก MI1 ถึง $60M เรียกว่าในปี 1996 สตูดิโอเสนอค่าตัวให้ทอม $20M เป็น upfront แต่ทอมไม่เอา ทอมจะเอา %grosses สุดท้ายทอมได้เงินจากหนัง MI1 ไปราว $60M - $70M นี่เรียกได้ว่าสุดมาก ปีเดียวกันยังมี Jerry Mcguire ก็ประสบความสำเร็จ ทอมได้รับคำชมจากหนังเรื่องนี้ทั้งได้เข้าชิงออสการ์ แถมหนังยังมีบทพูดที่เป็น iconic มากมายทั้ง Show me the money , help me help you , you complete me , และบทที่ดีมากๆที่หลายคนมองข้ามคือเรื่อง Magnolia ทอมเล่นดีมากจนคว้าลูกโลกทองคำสมทบชายมาได้ในปีนั้น
2000's ยุคแห่งการเรืองอำนาจในฐานะ King of Hollywood
เริ่มต้นยุคมาปี 2000 ก็ส่ง MI2 เป็นหนังทำเงินสูงสุดแห่งปี ยิ่งการันตีความเป็น no.1 ในฐานะ biggest movie star แบบไร้กังขาในทศวรรตที่สามของอาชีพนักแสดง หนังว่าประสบความสำเร็จแล้ว ยังไม่เท่าเรื่องส่วนตัวที่เป็น talk of the town ไม่หยุดหย่อนไล่มาตั้งแต่หย่ากับ นิโคล , วิวาทะกับ matt lauer ในรายการ today show , กระโดดบนโซฟาในรายการโอปาร์จนเป็น talk of the town เป็นปีๆ คือแกทำให้แท็บลอยด์ในอเมริกาทำข่าวแกได้ทุกวันเป็นปีๆเอางี้ดีกว่า ส่วนตัวใครจะว่าทอมเพี้ยน พิลึก คนอะไรไปกระโดดบนโซฟาออกรายการทีวี แถมยังโดนคนแอนตี้เรื่อง Scientology ไม่ว่ายังไงท้ายที่สุด ทอมก็แบกหนังทำเงินในระดับสูงได้เรื่อยๆ ใครจึงมาทำลายความเป็นราชาของเขาไม่ได้เพราะชื่อเขาขายได้เสมอ War Of The World ยังทำเงินได้ตั้ง $609M ในปี 2005 ขนาดกระแสแอนตี้ทอมหนักมากหลังออกรายการโอปาร์ แต่ท้ายที่สุดผลงานก็พิสูจน์ชื่อชั้นว่าเขาคือของจริง , บทตัวขโมยซีนใน Topic Thunder คือคนจำภาพเต้นตอน end credit มาจนวันนี้
2010's ยุคทองของเฟรนไชส์ MI
MI 4 ปีนตึก Burj Khalifah คือ Wow Factor ที่คนยังจำไม่ลืมจนวันนี้ ไม่มีใครอีกแล้วนอกจากเขาที่จะทำแบบนั้น , MI5 ขับมอไซต์เอง ปืนเกาะเครื่องบินตอนเทคออฟ, MI6 นี่ฮือฮาตั้งแต่ปืนเฮลิคอปตอร์ แถมขับเองด้วย แถม MI 4-6 นี่ทำเงินดีขึ้นเรื่อยๆ หนังเองก็ได้รับคำชมว่ายิ่งทำยิ่งดี ไม่เหมือนหลายๆเฟรนไชส์ที่ยิ่งทำยิ่งเละ Oops!! แถม Edge of Tomorrow ก็ดีมากขึ้นหิ้ง , Jack Reacher 1 สนุกมาก
2020 - ปัจจุบัน
คงไม่ต้องพูดเยอะทุกคนน่าจะรับรู้กันดีว่า Top Gun Maverick ประสบความสำเร็จแค่ไหน ทั้งรายได้ คะแนนจากเว็ปต่างๆ คำวิจารณ์จากสื่อ กระแสจากคนดู ทุกๆอย่างมันสอดคล้องกันหมด RT 97% & 99% , Cinema Score A+ เรื่องเดียวของปีนี้ในขณะนี้ที่ได้ A+ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความ dominating ของทอมในฐานะ moviestar เขากลับมาพีคยิ่งกว่าพีค ในยุคที่ 5 ของการเป็นนักแสดง ไม่มีใครเทียบความยิ่งใหญ่ในจุดนี้ได้อีกแล้วในยุคที่มีทั้งโควิด ทั้ง Marvel และ Streaming
ในฐานะแฟนหนังฝรั่ง ไม่มีอะไรต้องกังขากับการที่จะยกย่องดาราคนนี้ว่าเป็น "The Biggest Movie Star Of All Time" เราเกิดมาก็รู้จักทอม ครูซแล้ว จนตอนนี้สามสิบต้นๆ เขาก็ยังเป็นดาราที่ดังที่สุดในโลกอยู่ นี่คือความมหัศจรรย์ น้อยคนที่จะไปได้ถึงจุดนี้ในทุกสาขาอาชีพ เพราะมันไม่ใช่แค่ว่า "ดังแค่ไหน" แต่นิยามความเป็นทอม ครูซ มันต้องมีคำว่า "ยาวนานแค่ไหน" ด้วย
บ้าแค่ไหนหล่ะ มีหนังทำเงินเกิน $100M ในอเมริกามากกว่า 21 เรื่อง นี่คือเกินเบอร์มาก แถมทำได้จากทั้ง 5 ทศวรรตตลอดอายุงาน 41 ปี คือ Top Notch มาก รวมทั้งมีหนังทำเงินสูงสุดของปีถึง 3 ครั้ง (ถ้านับ TGM ก็คือ 4) จาก 3 ยุค
ตัวพ่อที่ไม่เคยโชว์พาวแบบดารายุคหลังแต่ทุกคนรับรู้ว่าเขาคือระดับสูงสุดทั้งบารมีและชื่อชั้น , ตัวพ่อที่ทำตัวเป็นดารายุคเก่าแทบไม่เล่นโซเชียลแต่คนรู้จักทั่วโลก , ตัวพ่อที่แบกหนังทำเงินได้พันล้านในยุคนี้ที่หนังส่วนมากที่ได้พันล้านมาจากหนัง super hero ของค่าย Marvel , ตัวพ่อที่มีชื่อเป็นแม่เหล็กสร้างความน่าเชื่อถือกับคนดูได้แม้หนังจะห่วยในบางครั้งแต่ยังแบกไปทำเงินได้ไม่ขาดทุนย่อยยับ
สุดท้าย Happy มากที่ในที่สุดวันนี้ก็ได้เห็น ทอม ครูซ เรียกพลังศรัทธาจากแฟนหนังทั่วโลกกลับมาได้อีกครั้ง และได้มีหนังพันล้านแบบจริงๆจังซักที มันคือสิ่งที่เขาสมควรจะได้รับมานานมากแล้ว และในที่สุดเขาก็ได้รับมัน วันเกิดปีนี้น่าจะเป็นอีกปีที่ดีที่สุดในชีวิตของเขาก็ว่าได้ ได้รับความสำเร็จทั้งจาก Box Office จากหนังที่เขาอุทิศตัวทำอย่างตั้งใจและใส่ใจ แถมถูกเลื่อนฉายหลายครั้ง และได้เรียกศรัทธาจากแฟนหนังของเขากลับมา ผู้คนกลับมา crazy เขาอีกครั้งเรียกง่ายๆคือกลับมาพีคอีกรอบ เรื่องในอดีตก็คือในอดีต หลายคนอยู่กับปัจจุบัน เขาชอบทอมครูซในปัจจุบัน ไม่ได้มองเอาอดีตมาตัดสิน หลายคนโตมากับหนังของเขาแทบไม่สนเรื่องส่วนตัวด้วยซ้ำเช่นเรา แฟนหนังพร้อมติดตามและสนับสนุน ตราบใดที่ทอมทำหนังที่ดีๆแบบ TGM และ MI รวมถึงเรื่องอื่นๆออกมาเรื่อยๆคนก็พร้อมตีตั๋วไปดู
เชื่อว่าหลายคนต้องมียุคที่ตัวเองโตมากับทอม ครูซ ส่วนตัวโตมากับทอม ครูซช่วง Minority Report , The Last Samurai , Collateral , War of The World ช่วงต้นๆยุค 2000's
ปล.ที่น่าเสียใจเล็กๆคือ การที่ทอมเข้า Scientology ทำให้คนอเมริกันบางส่วนแอนตี้เขาจนถึงวันนี้ ทอมมักถูกมองว่าเพี้ยน พฤติกรรมแปลกๆ หรือมักถูกคนบางกลุ่มเอาอดีตมาล้อเลียน ทำให้พวกรางวัลเฉิดชูเกียรติหลายๆที่มองข้ามเขาไปเลย น่าเสียใจตรงที่เขาเป็นคนนึงที่ให้อะไรกับวงการภาพยนตร์โลกมามากมายตลอดหลายสิบปี แต่แทบไม่มีที่ไหนให้รางวัลกับทอมด้านเกียรติยศเลยเพราะเอาเรื่องส่วนตัวมาตัดสินไม่ใช่สิ่งที่เขาทำให้กับวงการนี้ เพราะเขาเป็นตัวของตัวเอง ไม่ใช่คุณชายอยู่ในกรอบ ไม่ได้แปลว่าเขาไม่สมควรได้รับไหม? รางวัลอย่าง Life Achievment Award , Kenedy center honos อะไรพวกนี้แม้แต่ George Clooney ยังได้ Life Achivement Award ไปแล้ว!! งงมากเทียบกับทอมคือทอมควรได้ก่อนมานานแล้วแต่ก็ไม่เคยได้กับเขา ,Tom Hanks ขวัญใจคนอเมริกันได้แทบทุกอย่างที่มี , Brad Pitt ยังได้ออสการ์สมทบไปแล้ว ส่วนทอมชิงหลายครั้งก็ยังไม่เคยได้ เราเป็น FC ทอมแอบสงสารแกตรงจุดนี้ไม่ได้ อคติบางครั้งมันบังตาจนมองข้ามคนๆนึงได้ทุกอย่างแม้เขาก็ให้อะไรมากมายกับวงการนี้มายาวนาน แต่วงการนี้ไม่เคยตอบแทนเขาเลยแถมคอยทับถมเวลาที่เขาอ่อนแอ พอเขากลับมายิ่งใหญ่กลับมาพีคก็ฉกฉวยโอกาสจากเขาอีกรอบ สื่อที่จ้องแอนตี้ก็มาเกาะกระแสจากความความดังของ TGM แบบหน้ามือหลังมือ เศร้า....ยุคหลังๆที่สื่อกับกลุ่มแอนตี้เล่นเกินเบอร์เรายิ่งเข้าใจว่าทำไมทอมไม่เล่นโซเชียล เขายังคงคีพความเป็นสตาร์แบบยุคเก่าที่มีโลกส่วนตัวสูงเข้าถึงยากกว่าดารารุ่นหลังในเชิงของการนำเสนอชีวิตส่วนตัวผ่านโซเชียล ทอมมักจะโพสต์เฉพาะเวลามีผลงานเท่านั้น หรือออกทีวีก็เฉพาะมีหนังไปโปรโมทเท่านั้น ไม่มีการหิวแสงมีแต่จะหลบแสงด้วยซ้ำ เพราะเขาคงไม่อยากโชว์ชีวิตส่วนตัวที่มีน้อยนิดมากอยู่แล้ว แถมมีคนจ้องจะจิกกัดเหน็บแนมอยู่ตลอดเวลา เป็นใครก็คงเลือเก็บตัวมากกว่าเปิดเผย แต่ไม่เป็นไร สุดท้ายแกก็ดังที่สุดในโลก แบบไม่ต้องให้สถาบันไหนมารับรอง เพราะแฟนหนังทั่วโลกรับรู้ยกย่องกันมายาวนาน
ดูคลิปนี้แล้วขนลุก นี่ขนาดรางวัลได้ตั้งแต่ปี 2010 หนังในคลิปที่ประมวลมาถึงแค่ก่อนปี 2010 นะ ยังขนลุก ตัดต่อและเพลงเข้ากันมาก ทำให้เห็นเลยว่าทอมมีหนังระดับตำนานเยอะมาก และมีในทุกยุค เป็น Video Compliment ที่ทำได้ดีมาก ให้เกียรติทอมมาก อ๋อลืมไป รางวัลจัดที่อังกฤษ ไม่ใช่ในอเมริกาบ้านเกิดเมืองนอนที่ดีแต่จิกจัด ทำแต่ข่าวโจมตีเรื่องส่วนตัว
Happy 60th Birthday to Hollywood Biggest Movie Star Of All Time "Tom Cruise"🎂🐐🎁🎉
41 ปี บนเส้นทางอาชีพ 1981 - ปัจจุบัน พูดได้เลยว่าแฟนหนังของทอมค่อนโลกยังไม่ลืมตาดูโลกด้วยซ้ำตอนเขาเริ่มอาชีพนักแสดง จนถึงวันนี้เขายังคงเป็น The Biggest Movie Star Of All Time แบบไม่มีข้อกังขา
เส้นทางอาชีพทอมในมุมมองส่วนตัวของเรา
จุดเปลี่ยน
1983 Risky Business จากดาราวัยรุ่นที่ไม่ได้ดังอะไรก่อนหน้านั้นที่อยู่ในวงการมาราว 2 ปี กลับกลายเป็นดาวรุ่งที่สื่อยกให้เป็น rising star หลังจากเรื่องนี้ เรียกง่ายๆว่าถ้าวันนั้นทอมไม่ได้เล่นเรื่องนี้ เส้นทางชีวิตเขาอาจจะไม่ใช่แบบวันนี้เลยก็ว่าได้ แถมฉากสไลด์ออกมาเต้น ยังเป็นฉากเต้นในตำนานที่เป็นหนึ่งในฉากเต้นที่เป็น most memorable ฉากนึงในวงการภาพยนตร์ จนทุกวันนี้
ก้าวขึ้นเป็น Superstar
1986 ปีที่พลิกผันจากดาราดาวรุ่ง กลายเป็น 1 ในดาราที่ดังที่สุดในยุค 80's (อาจจะในโลกด้วยซ้ำ) ความสำเร็จของ Top Gun ที่เป็น Highest Grossing Flim of 1986 ทำให้ทอมเป็นดาราที่ดังที่สุดในชั่วข้ามคืน ทุกอย่างที่เขาทำดังหมด สวมแว่น Ray band ยอดขายถล่มทลาย เสื้อแจ๊กเก็ตหนังก็ขายดี แถมทำให้คนแห่ไปสมัครทหารกันเพิ่มขึ้น 500% หลังความสำเร็จของ Top Gun
สานต่อความปัง
1988 Rain Man เป็นหนังทำเงินสูงสุดของปี 1988 ยิ่งทำให้ชื่อชั้นของทอมก้าวกระโดดไปอีกขั้น เรียกได้ว่าเป็น Golden Boy Of Hollywood เลยก็ไม่ผิด มีหนังทำเงินสูงสุดของปีถึง 2 ปี ในช่วง 86 - 88 ตัวหนังเอง
ก็ถูกเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์หลายสาขา เรียกว่าได้ทั้งเงินทั้งกล่อง แถมดันให้ทอมทะยานขึ้นไปอยู่แถวหน้าของฮอลลีวู้ดเต็มตัวด้วยวัยเพียง 26 ปี แถมปี 89 Born on the 4th of July ทอมก็ได้รับรางวัลด้านการแสดงหลายที่เช่น golden globe และได้รับคำชมเรื่องฝีมือการแสดงแบบจริงจังๆจากนักวิจารณ์และสื่อ จบยุค80's ได้สวยงาม
90's ยุคแห่งการเป็นตัวพ่อเต็มตัว
ทั้งได้แสดงในบทบาทที่หลากหลาย ทั้งมีหนังที่ทำเงินระดับสูง, อีกทั้งยังเริ่มตั้งบริษัทโปรดักชั่น Cruise/Wagner และเริ่มทำหนังเรื่องแรกคือ MI1 หนังก็ทำเงินถล่มทลายในยุคนั้น ทอมทำรายได้จาก MI1 ถึง $60M เรียกว่าในปี 1996 สตูดิโอเสนอค่าตัวให้ทอม $20M เป็น upfront แต่ทอมไม่เอา ทอมจะเอา %grosses สุดท้ายทอมได้เงินจากหนัง MI1 ไปราว $60M - $70M นี่เรียกได้ว่าสุดมาก ปีเดียวกันยังมี Jerry Mcguire ก็ประสบความสำเร็จ ทอมได้รับคำชมจากหนังเรื่องนี้ทั้งได้เข้าชิงออสการ์ แถมหนังยังมีบทพูดที่เป็น iconic มากมายทั้ง Show me the money , help me help you , you complete me , และบทที่ดีมากๆที่หลายคนมองข้ามคือเรื่อง Magnolia ทอมเล่นดีมากจนคว้าลูกโลกทองคำสมทบชายมาได้ในปีนั้น
2000's ยุคแห่งการเรืองอำนาจในฐานะ King of Hollywood
เริ่มต้นยุคมาปี 2000 ก็ส่ง MI2 เป็นหนังทำเงินสูงสุดแห่งปี ยิ่งการันตีความเป็น no.1 ในฐานะ biggest movie star แบบไร้กังขาในทศวรรตที่สามของอาชีพนักแสดง หนังว่าประสบความสำเร็จแล้ว ยังไม่เท่าเรื่องส่วนตัวที่เป็น talk of the town ไม่หยุดหย่อนไล่มาตั้งแต่หย่ากับ นิโคล , วิวาทะกับ matt lauer ในรายการ today show , กระโดดบนโซฟาในรายการโอปาร์จนเป็น talk of the town เป็นปีๆ คือแกทำให้แท็บลอยด์ในอเมริกาทำข่าวแกได้ทุกวันเป็นปีๆเอางี้ดีกว่า ส่วนตัวใครจะว่าทอมเพี้ยน พิลึก คนอะไรไปกระโดดบนโซฟาออกรายการทีวี แถมยังโดนคนแอนตี้เรื่อง Scientology ไม่ว่ายังไงท้ายที่สุด ทอมก็แบกหนังทำเงินในระดับสูงได้เรื่อยๆ ใครจึงมาทำลายความเป็นราชาของเขาไม่ได้เพราะชื่อเขาขายได้เสมอ War Of The World ยังทำเงินได้ตั้ง $609M ในปี 2005 ขนาดกระแสแอนตี้ทอมหนักมากหลังออกรายการโอปาร์ แต่ท้ายที่สุดผลงานก็พิสูจน์ชื่อชั้นว่าเขาคือของจริง , บทตัวขโมยซีนใน Topic Thunder คือคนจำภาพเต้นตอน end credit มาจนวันนี้
2010's ยุคทองของเฟรนไชส์ MI
MI 4 ปีนตึก Burj Khalifah คือ Wow Factor ที่คนยังจำไม่ลืมจนวันนี้ ไม่มีใครอีกแล้วนอกจากเขาที่จะทำแบบนั้น , MI5 ขับมอไซต์เอง ปืนเกาะเครื่องบินตอนเทคออฟ, MI6 นี่ฮือฮาตั้งแต่ปืนเฮลิคอปตอร์ แถมขับเองด้วย แถม MI 4-6 นี่ทำเงินดีขึ้นเรื่อยๆ หนังเองก็ได้รับคำชมว่ายิ่งทำยิ่งดี ไม่เหมือนหลายๆเฟรนไชส์ที่ยิ่งทำยิ่งเละ Oops!! แถม Edge of Tomorrow ก็ดีมากขึ้นหิ้ง , Jack Reacher 1 สนุกมาก
2020 - ปัจจุบัน
คงไม่ต้องพูดเยอะทุกคนน่าจะรับรู้กันดีว่า Top Gun Maverick ประสบความสำเร็จแค่ไหน ทั้งรายได้ คะแนนจากเว็ปต่างๆ คำวิจารณ์จากสื่อ กระแสจากคนดู ทุกๆอย่างมันสอดคล้องกันหมด RT 97% & 99% , Cinema Score A+ เรื่องเดียวของปีนี้ในขณะนี้ที่ได้ A+ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความ dominating ของทอมในฐานะ moviestar เขากลับมาพีคยิ่งกว่าพีค ในยุคที่ 5 ของการเป็นนักแสดง ไม่มีใครเทียบความยิ่งใหญ่ในจุดนี้ได้อีกแล้วในยุคที่มีทั้งโควิด ทั้ง Marvel และ Streaming
ในฐานะแฟนหนังฝรั่ง ไม่มีอะไรต้องกังขากับการที่จะยกย่องดาราคนนี้ว่าเป็น "The Biggest Movie Star Of All Time" เราเกิดมาก็รู้จักทอม ครูซแล้ว จนตอนนี้สามสิบต้นๆ เขาก็ยังเป็นดาราที่ดังที่สุดในโลกอยู่ นี่คือความมหัศจรรย์ น้อยคนที่จะไปได้ถึงจุดนี้ในทุกสาขาอาชีพ เพราะมันไม่ใช่แค่ว่า "ดังแค่ไหน" แต่นิยามความเป็นทอม ครูซ มันต้องมีคำว่า "ยาวนานแค่ไหน" ด้วย
บ้าแค่ไหนหล่ะ มีหนังทำเงินเกิน $100M ในอเมริกามากกว่า 21 เรื่อง นี่คือเกินเบอร์มาก แถมทำได้จากทั้ง 5 ทศวรรตตลอดอายุงาน 41 ปี คือ Top Notch มาก รวมทั้งมีหนังทำเงินสูงสุดของปีถึง 3 ครั้ง (ถ้านับ TGM ก็คือ 4) จาก 3 ยุค
ตัวพ่อที่ไม่เคยโชว์พาวแบบดารายุคหลังแต่ทุกคนรับรู้ว่าเขาคือระดับสูงสุดทั้งบารมีและชื่อชั้น , ตัวพ่อที่ทำตัวเป็นดารายุคเก่าแทบไม่เล่นโซเชียลแต่คนรู้จักทั่วโลก , ตัวพ่อที่แบกหนังทำเงินได้พันล้านในยุคนี้ที่หนังส่วนมากที่ได้พันล้านมาจากหนัง super hero ของค่าย Marvel , ตัวพ่อที่มีชื่อเป็นแม่เหล็กสร้างความน่าเชื่อถือกับคนดูได้แม้หนังจะห่วยในบางครั้งแต่ยังแบกไปทำเงินได้ไม่ขาดทุนย่อยยับ
สุดท้าย Happy มากที่ในที่สุดวันนี้ก็ได้เห็น ทอม ครูซ เรียกพลังศรัทธาจากแฟนหนังทั่วโลกกลับมาได้อีกครั้ง และได้มีหนังพันล้านแบบจริงๆจังซักที มันคือสิ่งที่เขาสมควรจะได้รับมานานมากแล้ว และในที่สุดเขาก็ได้รับมัน วันเกิดปีนี้น่าจะเป็นอีกปีที่ดีที่สุดในชีวิตของเขาก็ว่าได้ ได้รับความสำเร็จทั้งจาก Box Office จากหนังที่เขาอุทิศตัวทำอย่างตั้งใจและใส่ใจ แถมถูกเลื่อนฉายหลายครั้ง และได้เรียกศรัทธาจากแฟนหนังของเขากลับมา ผู้คนกลับมา crazy เขาอีกครั้งเรียกง่ายๆคือกลับมาพีคอีกรอบ เรื่องในอดีตก็คือในอดีต หลายคนอยู่กับปัจจุบัน เขาชอบทอมครูซในปัจจุบัน ไม่ได้มองเอาอดีตมาตัดสิน หลายคนโตมากับหนังของเขาแทบไม่สนเรื่องส่วนตัวด้วยซ้ำเช่นเรา แฟนหนังพร้อมติดตามและสนับสนุน ตราบใดที่ทอมทำหนังที่ดีๆแบบ TGM และ MI รวมถึงเรื่องอื่นๆออกมาเรื่อยๆคนก็พร้อมตีตั๋วไปดู
เชื่อว่าหลายคนต้องมียุคที่ตัวเองโตมากับทอม ครูซ ส่วนตัวโตมากับทอม ครูซช่วง Minority Report , The Last Samurai , Collateral , War of The World ช่วงต้นๆยุค 2000's
ปล.ที่น่าเสียใจเล็กๆคือ การที่ทอมเข้า Scientology ทำให้คนอเมริกันบางส่วนแอนตี้เขาจนถึงวันนี้ ทอมมักถูกมองว่าเพี้ยน พฤติกรรมแปลกๆ หรือมักถูกคนบางกลุ่มเอาอดีตมาล้อเลียน ทำให้พวกรางวัลเฉิดชูเกียรติหลายๆที่มองข้ามเขาไปเลย น่าเสียใจตรงที่เขาเป็นคนนึงที่ให้อะไรกับวงการภาพยนตร์โลกมามากมายตลอดหลายสิบปี แต่แทบไม่มีที่ไหนให้รางวัลกับทอมด้านเกียรติยศเลยเพราะเอาเรื่องส่วนตัวมาตัดสินไม่ใช่สิ่งที่เขาทำให้กับวงการนี้ เพราะเขาเป็นตัวของตัวเอง ไม่ใช่คุณชายอยู่ในกรอบ ไม่ได้แปลว่าเขาไม่สมควรได้รับไหม? รางวัลอย่าง Life Achievment Award , Kenedy center honos อะไรพวกนี้แม้แต่ George Clooney ยังได้ Life Achivement Award ไปแล้ว!! งงมากเทียบกับทอมคือทอมควรได้ก่อนมานานแล้วแต่ก็ไม่เคยได้กับเขา ,Tom Hanks ขวัญใจคนอเมริกันได้แทบทุกอย่างที่มี , Brad Pitt ยังได้ออสการ์สมทบไปแล้ว ส่วนทอมชิงหลายครั้งก็ยังไม่เคยได้ เราเป็น FC ทอมแอบสงสารแกตรงจุดนี้ไม่ได้ อคติบางครั้งมันบังตาจนมองข้ามคนๆนึงได้ทุกอย่างแม้เขาก็ให้อะไรมากมายกับวงการนี้มายาวนาน แต่วงการนี้ไม่เคยตอบแทนเขาเลยแถมคอยทับถมเวลาที่เขาอ่อนแอ พอเขากลับมายิ่งใหญ่กลับมาพีคก็ฉกฉวยโอกาสจากเขาอีกรอบ สื่อที่จ้องแอนตี้ก็มาเกาะกระแสจากความความดังของ TGM แบบหน้ามือหลังมือ เศร้า....ยุคหลังๆที่สื่อกับกลุ่มแอนตี้เล่นเกินเบอร์เรายิ่งเข้าใจว่าทำไมทอมไม่เล่นโซเชียล เขายังคงคีพความเป็นสตาร์แบบยุคเก่าที่มีโลกส่วนตัวสูงเข้าถึงยากกว่าดารารุ่นหลังในเชิงของการนำเสนอชีวิตส่วนตัวผ่านโซเชียล ทอมมักจะโพสต์เฉพาะเวลามีผลงานเท่านั้น หรือออกทีวีก็เฉพาะมีหนังไปโปรโมทเท่านั้น ไม่มีการหิวแสงมีแต่จะหลบแสงด้วยซ้ำ เพราะเขาคงไม่อยากโชว์ชีวิตส่วนตัวที่มีน้อยนิดมากอยู่แล้ว แถมมีคนจ้องจะจิกกัดเหน็บแนมอยู่ตลอดเวลา เป็นใครก็คงเลือเก็บตัวมากกว่าเปิดเผย แต่ไม่เป็นไร สุดท้ายแกก็ดังที่สุดในโลก แบบไม่ต้องให้สถาบันไหนมารับรอง เพราะแฟนหนังทั่วโลกรับรู้ยกย่องกันมายาวนาน
ดูคลิปนี้แล้วขนลุก นี่ขนาดรางวัลได้ตั้งแต่ปี 2010 หนังในคลิปที่ประมวลมาถึงแค่ก่อนปี 2010 นะ ยังขนลุก ตัดต่อและเพลงเข้ากันมาก ทำให้เห็นเลยว่าทอมมีหนังระดับตำนานเยอะมาก และมีในทุกยุค เป็น Video Compliment ที่ทำได้ดีมาก ให้เกียรติทอมมาก อ๋อลืมไป รางวัลจัดที่อังกฤษ ไม่ใช่ในอเมริกาบ้านเกิดเมืองนอนที่ดีแต่จิกจัด ทำแต่ข่าวโจมตีเรื่องส่วนตัว