เราเป็นผู้ชายนะส่วนคนที่เราชอบเป็นผู้ชาย
ม.4 (เริ่มต้นในการเป็นนักเรียนม.ปลาย)
เราดีใจมากในการเริ่มเป็นนักเรียนม.ปลายซึ่งเป็นรร.เดียวกันกับที่เราเรียนม.ต้นเรามีเพื่อนที่มาจากม.ต้น4-5คนเเต่เพื่อนที่สนิทเรามีเเค่2-3คนเราได้เจอเพื่อนใหม่ที่มาจากต่างห้องมาอยู่ห้องเดียวกันตอนม.ปลายเราเจอเพื่อนคนนึงเป็นผู้ชายที่หน้าตาค่อนข้างเดียวรูปร่างดูอ้วมๆครั้งเเรกที่เราเจอเรารู้สึกเลยว่าเป็นคนที่น่าสนใจมากเเต่ไม่มีโอกาสได้คุยกันเลยเพราะเขามาจากอีกห้องต้นม.ต้นเขาชื่อโอมซึ่งโอมดูภายนอกเหมือนจะเป็นเงียบๆเเต่ถ้าได้รู้จักจริงๆเเล้วต่างกันกับที่เราเห็นมากๆเลยโอมนั้นเป็นเฮฮา ตลก ขี้เล่นมากๆ อีกอย่างปากหมามากเเต่เรากับโอมไม่เคยได้คุยกันสักครั้งเลยซึ่งต่างคนต่างมีเพื่อนกันคนละกลุ่มกันมาตลอดมีครั้งนึงเราเรียนวิชาไรไม่รู้จำไม่ได้เเต่นั่งโต๊ะญี่ปุ่นเรียนอ่ะซึ่งโต๊ะเราอยู่ใกล้กับโต๊ะของกลุ่มโอมเลยซึ่งเรานั่งโต๊ะตรงข้ามกับโต๊ะของโอมซึ่งโอมก็นั่งโต๊ะของเขาตรงข้ามกับเราทำให้เราสองคนต้องหันหน้ามาเจอกันเเน่นอนซึ่งเวลาเรียนเราอ่ะก็เรียนปกติเเหละเเต่มีอยู่ครั้งนึงเราสังเกตเห็นเหมือนมีคนในโต๊ะโอมมองที่เราซึ่งเราก็มองไปนะเราเห็นโอมมองที่เราเเต่เราก็รีบหลบตาหนีทันทีพอหลังจากนั้นเราก็ปลื้มโอมมาโดยตลอดเเต่ก็ยังถึงกับชอบนะ
ม.5 เป็นปีที่กิจกรรมเยอะมากกก
ตอนนั้นมีละครห้องซึ่งห้องเรามีสมาชิกประมาณ40คนส่วนตอนนั้นเป็นช่วงที่ได้มาเรียนด้วยหลังจากที่เรียนออนไลน์ในช่วงโควิดมาอาจาร์ยเลยเเบ่งกลุ่มครึ่งนึงก็คือ20คนส่วนกลุ่มเราคิดการเเสดงมาซึ่งเรื่องที่เเสดงนั้นเป็นเรื่องทองเนื้อเก้าเวอร์ชั่นที่เรามาประยุกต์ใหม่ซึ่งตัวละครจะปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องปรับเปลี่ยนหมดซึ่งตัวละครหลักๆในเรื่องทองเนื้อเก้าที่กลุ่มเราทำนั้นมีลำยอง สันต์ วันเฉลิม เฮียกวง เมืองเทพ ซึ่งเราได้รับบทเป็นเมืองเทพ ส่วนโอมนั้นเป็นเฮียกวงซึ่งเพื่อนๆอยากให้เฮียกวงกับเมืองเทพเป็นผัวเมียกันฟิวเเบบผัวคนที่สองเป็นชู้กับผัวคนที่สามตอนเเรกที่เรารู้ว่าต้องมาเล่นคู่กันกับโอมคือเราไม่อยากเล่นเลยเราขอเพื่อนให้เราไปเล่นบทอื่นเราไม่อยากเล่นเเต่พวกมันจะเอาตัวละครสองตัวนี้เล่นคู่กันเเล้วจะให้เราเล่นคู่กับโอมซึ่งเราไปคุยกับเพื่อนที่คิดบทมันถามเราว่าทำไมถึงอยากเปลี่ยนบทล่ะซึ่งตอนนั้นเราชอบลงสตอรี่เพ้อว่าชอบคนที่เรียนห้องเดียวกันเพื่อนเราก็เลยยิงคำถามนึงขึ้นมามันถามว่าชอบโอมหรอถึงไม่อยากเล่นกับมันนะเราถึงกับสตั้นเลยมันรู้มันก็เลยยิ้มมีเล่ห์นัยน์มันเบยบอกว่าเนี่ยเป็นโอกาสที่จะทำให้ได้ใกล้ชิดมันเลยนะเราก็เลยเเบบอยากด่าเพื่อนมากเเต่เราทำไรไม่ได้จนมาถึงวันที่ต้องมาซ้อมบทละครสัปดาห์เเรกที่ซ้อมซึ่งไอ้เพื่อนคตัวเเสบของเราที่คิดบทมันก็บอกว่าฉากที่เรากับโอมต้องเล่นกันนั่นจะต้องจำเนื้อจำตัวกันเหมือนคู่รักที่รักกันหวานๆซึ่งมันบอกว่าเราต้องจับมือโอมเข้าไปดูลำยองที่กำลังตายเเล้วเราต้องพูดบทส่วนโอมต้องโอบเอวเราเเล้วต้องควงเเขนโอมตอนออกซึ่งเราตอนนั้นอาการเหมือนคนล่กๆรนๆอยู่ตลอดเวลาเราตอนนั้นคือไม่ไหวเลยอยากกลับบ้านไม่อยากซ้อมเเล้วซึ่งเป็นครั้งเเรกที่เราได้คุยกับโอมเเละเราต้องอยู่ซ้อมเเบบนี้เกือบเดือนจนมาถึงใกล้เเสดงเพื่อนที่คิดบทบอกว่าต้องมีฉากที่ต้องเต้นปิดจบซึ่งเราต้องจับมือโอมเเล้วคำนับในใจเราคือเเบบ
ไรเอากูเเสดงคู่กันไม่พอยังต้องจับมือตอนปิดจบการเเสดงอีกกกเเต่เราก็ต้องทำเพราะมันเป็นคะเเนนที่เยอะมากเพราะเป็นวิชาที่ให้งานเเค่งานเดียวเเต่ทำทั้งเทอมจนหลังจากเเสดงสัปดาห์ต่อมาก็ต้องมาเรียนกันเเล้วอยู่คาบนึงเราเล่นUNOกับเพื่อนในกลุ่มอยู่ดีๆโอมก็อยากเล่นUNOเเต่อารมณ์อยากเล่นตอนนั้นคือเดินเข้ามาเเล้วกระโดดเข้ามากลางวงUNOเเล้วเพื่อนๆก็ต่างบอกกับโอมว่าให้ถอยไปอยู่ข้างๆเพื่อนซึ่งอะไรไม่รู้โอมถอยมาอยู่ข้างๆเรากับเพื่อนเราอีกคนที่นั่งข้างกันเเล้วโอมก็บอกว่าขออยู่ด้วยซึ่งเราก็อ่อๆเออๆไปเเล้วก็เล่นจนมาถึงตอนที่เรามีไพ่ย้อนกลับโอมก็บอกว่าให้ลงไพ่ย้อนกลับเลยโอมมีไพ่บวก4จะบวกเพื่อนข้างๆเราก็เลยอ่าๆเพราะมันพูดเสียงเเบบอ้อนเราเลยเราก็เลยต้องยอมอีกอย่างโอมมันไม่อยากให้เราโดนไพ่บวก4จากโอมโอมก็เบยบอกให้ลงเลยตอนนั่นคือเราประทับใจโอมมากๆเเบบนี้คนนี้ต้องเป็นเเฟนเราเท่านั้นหลังจากเล่นเสร็จเราก็คบั่งเราโอมทุกวันเเบบไม่มีใครดีได้เท่ามันเเล้ว
ม.6 ปีสุดท้ายก่อนไปเรียนมหาลัย
เปิดเทอมครั้งนี้ห้องเราได้ไม่ต้องเดินเรียนปกติจะเรียนตลอดตั้งเเต่ม.1-ม.5ซึ่งเป็นอะไรที่ดีใจมากๆเเล้วเราต้องเลือกโต๊ะที่ต้องนั่งเราก็เลือกตรงหลังห้องเเถวกลางส่วนโอมนั้นนั่งตรงริมประตูตรงหลังห้องเหมือนห่างกันเเค่1โต๊ะส่วนเราโครตตกใจเลยเเต่ก็ช่างเถอะจนมีอยู่วันนึงเพื่อนเราอีกคนไม่มาซึ่งมันอยู่กลางห้องเเล้วเพื่อนเราอีกคนก็นั่งกลางห้องมันอยากให้เราไปนั่งใกล้มันซึ่งโอมเห็นตอนเเรกก็เงียบๆนะสักพักก็โอมมันย้ายมานั่งโต๊ะเราซึ่งเราตกใจมากเเต่ให้นั่งได้อยู่เเล้วเพราะคนเเอบชอบมานั่งโต๊ะเราเเล้วใครจะปฎิเสธได้บ้างล่ะวันเวบาก็ผ่านไปเราก็นั่งที่เดิมที่ๆเราเบืแกตั้งเเต่เเรกซึ่งโต๊ะมีเเถวหน้าอีกเเถวนึงซึ่งโต๊ะหลังเราเป็นเพื่อนของโอมซึ่งมีอยู่วันนึงเพื่อนโอมคนนี้มาสายโอมก็ย้ายโต๊ะมานั่งข้างหลังเราในใจเราไม่คิดเข้าข้างตัวเองนะโอมคงอยากนั่งข้างเพื่อนที่จะพึ่งมาสนิทด้วยมั้งเเล้วโอมก็นั่งตรงนั้นถาวรส่วนเพื่อนโอมนั้นก็ย้ายไปนั่งที่ใหม่ที่ว่างซึ่งเพื่อนโอมก็มีอยู่คนนึงที่เรียนม.ต้นห้องเดียวกันกับโอมเเต่เพื่อนคนนี้เป็นเพื่อนห้องเรากับเราสมัยประถมย้ายโต๊ะมานั่งตรงข้างเราซึ่งเรากับเพื่อนโอมคนนี้รู่นักกันมานานเเล้วก็เลยคู่เเต่เรื่องสมัยประถมกันมันเลยๆซึ่งดูเหมือนโอมจะหวงเพื่อนมันหรือหวงเราก็ไม่รู้เนอะเเต่โอมมันเงียบไปเลยหบายวันต่อมาด้วยความที่เราอยากรู้ว่าโอมคิดไงกับเราเราก็เลยขยับโต๊ะไปนั่งใกล้เพื่อนโอมคนที่ย้ายโต๊ะมาบ้างเรานั่งเเหละคาบนั้นเป็นวิขาภาษาอังกฤษต้องใล้หนังสือเรียนซึ่ฃเฝหนังสือเราอยู่ใต้โต๊ะเรานั้นเเหละเเต่เราอยากรู้ว่าโอมมันคิดไงถ้าเราอยู่กับคนอื่นเราก็เลยบอกเพื่อนโอมว่าภูมิๆเราขอดูหนังสือด้วยดิเราลืมเอามานะเราก็ขยับโต๊ะไปใกล้ดูหนังสือดูกันซึ่งดูเหมือนโอมเป็นไรไม่รู้อยู่ดีๆโอมก็เอาเศษยางลบปาดใส่เพื่อนโอมที่ชื่อภูมิซึ่งโอมพูดว่าภูมิกูจะเเกล้งโดนเเน่เราก็หันไปมองซึ่งภูมิก็ลบเศษยางลบโอมมันจะปาดเศษยางลบปาดใส่ภูมิเราก็หันไปมองด้วยสายนิ่งๆโอมก็หยุดเเกล้งทันทีเเล้วสักพักโอมก็เรียกภูมิว่าไอ้ภูมิดูนี้สิซึ่งเราก็หันไปมองโอมเอารูปคนตลกๆให้เราดูเหมือนเเบบพยายามเรียกร้องความสนใจอ่ะทำให้เราเริ่มคิดเเล้วว่าโอมมันเราหึงเราหรือเปล่าเพราะปกติโอมจะไม่เเกล้งภูมินะจนมาถึงวันต่อมาเราไปนั่งโต๊ะข้างหน้าเเบบนั่งห่างจากโอมมากซึ่งเราเดินกลับไปเอาหนังสืออังกฤษใต้โต๊ะโอมเห็นเราหยิบหนังสืออังกฤษตัวเองที่อยู่ใต้โต๊ะจนช่วงบ่ายๆโรงเรียนมีซ้อมกีฬาสีซึ่งเราจะไปซ้อมวอลเลย์บอลเราใส่ขาสั้นซ้อมโอมก็เห็นเราซ้อมหลังจากเราซ้อมเสร็จเราเดินไปหยิบกระเป๋าตัวเองที่วางไว้ที่โต๊ะหินเราเห็นโอมมองเราเเล้วรีบหยิบกระเป๋าตัวเองกลับบ้านด้วยสายตานิ่งเเต่อารมณ์เหมือนจะโกรธไรมาไม่รู้ เราก็เลยงงไปเลย (อยากรู้ว่าโอมมันคิดไรกับเรารึป่าว)
คนเเอบชอบที่ไม่สนิทที่เเอบชอบมา3ปี
ม.4 (เริ่มต้นในการเป็นนักเรียนม.ปลาย)
เราดีใจมากในการเริ่มเป็นนักเรียนม.ปลายซึ่งเป็นรร.เดียวกันกับที่เราเรียนม.ต้นเรามีเพื่อนที่มาจากม.ต้น4-5คนเเต่เพื่อนที่สนิทเรามีเเค่2-3คนเราได้เจอเพื่อนใหม่ที่มาจากต่างห้องมาอยู่ห้องเดียวกันตอนม.ปลายเราเจอเพื่อนคนนึงเป็นผู้ชายที่หน้าตาค่อนข้างเดียวรูปร่างดูอ้วมๆครั้งเเรกที่เราเจอเรารู้สึกเลยว่าเป็นคนที่น่าสนใจมากเเต่ไม่มีโอกาสได้คุยกันเลยเพราะเขามาจากอีกห้องต้นม.ต้นเขาชื่อโอมซึ่งโอมดูภายนอกเหมือนจะเป็นเงียบๆเเต่ถ้าได้รู้จักจริงๆเเล้วต่างกันกับที่เราเห็นมากๆเลยโอมนั้นเป็นเฮฮา ตลก ขี้เล่นมากๆ อีกอย่างปากหมามากเเต่เรากับโอมไม่เคยได้คุยกันสักครั้งเลยซึ่งต่างคนต่างมีเพื่อนกันคนละกลุ่มกันมาตลอดมีครั้งนึงเราเรียนวิชาไรไม่รู้จำไม่ได้เเต่นั่งโต๊ะญี่ปุ่นเรียนอ่ะซึ่งโต๊ะเราอยู่ใกล้กับโต๊ะของกลุ่มโอมเลยซึ่งเรานั่งโต๊ะตรงข้ามกับโต๊ะของโอมซึ่งโอมก็นั่งโต๊ะของเขาตรงข้ามกับเราทำให้เราสองคนต้องหันหน้ามาเจอกันเเน่นอนซึ่งเวลาเรียนเราอ่ะก็เรียนปกติเเหละเเต่มีอยู่ครั้งนึงเราสังเกตเห็นเหมือนมีคนในโต๊ะโอมมองที่เราซึ่งเราก็มองไปนะเราเห็นโอมมองที่เราเเต่เราก็รีบหลบตาหนีทันทีพอหลังจากนั้นเราก็ปลื้มโอมมาโดยตลอดเเต่ก็ยังถึงกับชอบนะ
ม.5 เป็นปีที่กิจกรรมเยอะมากกก
ตอนนั้นมีละครห้องซึ่งห้องเรามีสมาชิกประมาณ40คนส่วนตอนนั้นเป็นช่วงที่ได้มาเรียนด้วยหลังจากที่เรียนออนไลน์ในช่วงโควิดมาอาจาร์ยเลยเเบ่งกลุ่มครึ่งนึงก็คือ20คนส่วนกลุ่มเราคิดการเเสดงมาซึ่งเรื่องที่เเสดงนั้นเป็นเรื่องทองเนื้อเก้าเวอร์ชั่นที่เรามาประยุกต์ใหม่ซึ่งตัวละครจะปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องปรับเปลี่ยนหมดซึ่งตัวละครหลักๆในเรื่องทองเนื้อเก้าที่กลุ่มเราทำนั้นมีลำยอง สันต์ วันเฉลิม เฮียกวง เมืองเทพ ซึ่งเราได้รับบทเป็นเมืองเทพ ส่วนโอมนั้นเป็นเฮียกวงซึ่งเพื่อนๆอยากให้เฮียกวงกับเมืองเทพเป็นผัวเมียกันฟิวเเบบผัวคนที่สองเป็นชู้กับผัวคนที่สามตอนเเรกที่เรารู้ว่าต้องมาเล่นคู่กันกับโอมคือเราไม่อยากเล่นเลยเราขอเพื่อนให้เราไปเล่นบทอื่นเราไม่อยากเล่นเเต่พวกมันจะเอาตัวละครสองตัวนี้เล่นคู่กันเเล้วจะให้เราเล่นคู่กับโอมซึ่งเราไปคุยกับเพื่อนที่คิดบทมันถามเราว่าทำไมถึงอยากเปลี่ยนบทล่ะซึ่งตอนนั้นเราชอบลงสตอรี่เพ้อว่าชอบคนที่เรียนห้องเดียวกันเพื่อนเราก็เลยยิงคำถามนึงขึ้นมามันถามว่าชอบโอมหรอถึงไม่อยากเล่นกับมันนะเราถึงกับสตั้นเลยมันรู้มันก็เลยยิ้มมีเล่ห์นัยน์มันเบยบอกว่าเนี่ยเป็นโอกาสที่จะทำให้ได้ใกล้ชิดมันเลยนะเราก็เลยเเบบอยากด่าเพื่อนมากเเต่เราทำไรไม่ได้จนมาถึงวันที่ต้องมาซ้อมบทละครสัปดาห์เเรกที่ซ้อมซึ่งไอ้เพื่อนคตัวเเสบของเราที่คิดบทมันก็บอกว่าฉากที่เรากับโอมต้องเล่นกันนั่นจะต้องจำเนื้อจำตัวกันเหมือนคู่รักที่รักกันหวานๆซึ่งมันบอกว่าเราต้องจับมือโอมเข้าไปดูลำยองที่กำลังตายเเล้วเราต้องพูดบทส่วนโอมต้องโอบเอวเราเเล้วต้องควงเเขนโอมตอนออกซึ่งเราตอนนั้นอาการเหมือนคนล่กๆรนๆอยู่ตลอดเวลาเราตอนนั้นคือไม่ไหวเลยอยากกลับบ้านไม่อยากซ้อมเเล้วซึ่งเป็นครั้งเเรกที่เราได้คุยกับโอมเเละเราต้องอยู่ซ้อมเเบบนี้เกือบเดือนจนมาถึงใกล้เเสดงเพื่อนที่คิดบทบอกว่าต้องมีฉากที่ต้องเต้นปิดจบซึ่งเราต้องจับมือโอมเเล้วคำนับในใจเราคือเเบบ ไรเอากูเเสดงคู่กันไม่พอยังต้องจับมือตอนปิดจบการเเสดงอีกกกเเต่เราก็ต้องทำเพราะมันเป็นคะเเนนที่เยอะมากเพราะเป็นวิชาที่ให้งานเเค่งานเดียวเเต่ทำทั้งเทอมจนหลังจากเเสดงสัปดาห์ต่อมาก็ต้องมาเรียนกันเเล้วอยู่คาบนึงเราเล่นUNOกับเพื่อนในกลุ่มอยู่ดีๆโอมก็อยากเล่นUNOเเต่อารมณ์อยากเล่นตอนนั้นคือเดินเข้ามาเเล้วกระโดดเข้ามากลางวงUNOเเล้วเพื่อนๆก็ต่างบอกกับโอมว่าให้ถอยไปอยู่ข้างๆเพื่อนซึ่งอะไรไม่รู้โอมถอยมาอยู่ข้างๆเรากับเพื่อนเราอีกคนที่นั่งข้างกันเเล้วโอมก็บอกว่าขออยู่ด้วยซึ่งเราก็อ่อๆเออๆไปเเล้วก็เล่นจนมาถึงตอนที่เรามีไพ่ย้อนกลับโอมก็บอกว่าให้ลงไพ่ย้อนกลับเลยโอมมีไพ่บวก4จะบวกเพื่อนข้างๆเราก็เลยอ่าๆเพราะมันพูดเสียงเเบบอ้อนเราเลยเราก็เลยต้องยอมอีกอย่างโอมมันไม่อยากให้เราโดนไพ่บวก4จากโอมโอมก็เบยบอกให้ลงเลยตอนนั่นคือเราประทับใจโอมมากๆเเบบนี้คนนี้ต้องเป็นเเฟนเราเท่านั้นหลังจากเล่นเสร็จเราก็คบั่งเราโอมทุกวันเเบบไม่มีใครดีได้เท่ามันเเล้ว
ม.6 ปีสุดท้ายก่อนไปเรียนมหาลัย
เปิดเทอมครั้งนี้ห้องเราได้ไม่ต้องเดินเรียนปกติจะเรียนตลอดตั้งเเต่ม.1-ม.5ซึ่งเป็นอะไรที่ดีใจมากๆเเล้วเราต้องเลือกโต๊ะที่ต้องนั่งเราก็เลือกตรงหลังห้องเเถวกลางส่วนโอมนั้นนั่งตรงริมประตูตรงหลังห้องเหมือนห่างกันเเค่1โต๊ะส่วนเราโครตตกใจเลยเเต่ก็ช่างเถอะจนมีอยู่วันนึงเพื่อนเราอีกคนไม่มาซึ่งมันอยู่กลางห้องเเล้วเพื่อนเราอีกคนก็นั่งกลางห้องมันอยากให้เราไปนั่งใกล้มันซึ่งโอมเห็นตอนเเรกก็เงียบๆนะสักพักก็โอมมันย้ายมานั่งโต๊ะเราซึ่งเราตกใจมากเเต่ให้นั่งได้อยู่เเล้วเพราะคนเเอบชอบมานั่งโต๊ะเราเเล้วใครจะปฎิเสธได้บ้างล่ะวันเวบาก็ผ่านไปเราก็นั่งที่เดิมที่ๆเราเบืแกตั้งเเต่เเรกซึ่งโต๊ะมีเเถวหน้าอีกเเถวนึงซึ่งโต๊ะหลังเราเป็นเพื่อนของโอมซึ่งมีอยู่วันนึงเพื่อนโอมคนนี้มาสายโอมก็ย้ายโต๊ะมานั่งข้างหลังเราในใจเราไม่คิดเข้าข้างตัวเองนะโอมคงอยากนั่งข้างเพื่อนที่จะพึ่งมาสนิทด้วยมั้งเเล้วโอมก็นั่งตรงนั้นถาวรส่วนเพื่อนโอมนั้นก็ย้ายไปนั่งที่ใหม่ที่ว่างซึ่งเพื่อนโอมก็มีอยู่คนนึงที่เรียนม.ต้นห้องเดียวกันกับโอมเเต่เพื่อนคนนี้เป็นเพื่อนห้องเรากับเราสมัยประถมย้ายโต๊ะมานั่งตรงข้างเราซึ่งเรากับเพื่อนโอมคนนี้รู่นักกันมานานเเล้วก็เลยคู่เเต่เรื่องสมัยประถมกันมันเลยๆซึ่งดูเหมือนโอมจะหวงเพื่อนมันหรือหวงเราก็ไม่รู้เนอะเเต่โอมมันเงียบไปเลยหบายวันต่อมาด้วยความที่เราอยากรู้ว่าโอมคิดไงกับเราเราก็เลยขยับโต๊ะไปนั่งใกล้เพื่อนโอมคนที่ย้ายโต๊ะมาบ้างเรานั่งเเหละคาบนั้นเป็นวิขาภาษาอังกฤษต้องใล้หนังสือเรียนซึ่ฃเฝหนังสือเราอยู่ใต้โต๊ะเรานั้นเเหละเเต่เราอยากรู้ว่าโอมมันคิดไงถ้าเราอยู่กับคนอื่นเราก็เลยบอกเพื่อนโอมว่าภูมิๆเราขอดูหนังสือด้วยดิเราลืมเอามานะเราก็ขยับโต๊ะไปใกล้ดูหนังสือดูกันซึ่งดูเหมือนโอมเป็นไรไม่รู้อยู่ดีๆโอมก็เอาเศษยางลบปาดใส่เพื่อนโอมที่ชื่อภูมิซึ่งโอมพูดว่าภูมิกูจะเเกล้งโดนเเน่เราก็หันไปมองซึ่งภูมิก็ลบเศษยางลบโอมมันจะปาดเศษยางลบปาดใส่ภูมิเราก็หันไปมองด้วยสายนิ่งๆโอมก็หยุดเเกล้งทันทีเเล้วสักพักโอมก็เรียกภูมิว่าไอ้ภูมิดูนี้สิซึ่งเราก็หันไปมองโอมเอารูปคนตลกๆให้เราดูเหมือนเเบบพยายามเรียกร้องความสนใจอ่ะทำให้เราเริ่มคิดเเล้วว่าโอมมันเราหึงเราหรือเปล่าเพราะปกติโอมจะไม่เเกล้งภูมินะจนมาถึงวันต่อมาเราไปนั่งโต๊ะข้างหน้าเเบบนั่งห่างจากโอมมากซึ่งเราเดินกลับไปเอาหนังสืออังกฤษใต้โต๊ะโอมเห็นเราหยิบหนังสืออังกฤษตัวเองที่อยู่ใต้โต๊ะจนช่วงบ่ายๆโรงเรียนมีซ้อมกีฬาสีซึ่งเราจะไปซ้อมวอลเลย์บอลเราใส่ขาสั้นซ้อมโอมก็เห็นเราซ้อมหลังจากเราซ้อมเสร็จเราเดินไปหยิบกระเป๋าตัวเองที่วางไว้ที่โต๊ะหินเราเห็นโอมมองเราเเล้วรีบหยิบกระเป๋าตัวเองกลับบ้านด้วยสายตานิ่งเเต่อารมณ์เหมือนจะโกรธไรมาไม่รู้ เราก็เลยงงไปเลย (อยากรู้ว่าโอมมันคิดไรกับเรารึป่าว)