อดีตนักบิน ชี้เครื่องบินรบต่างชาติติดอาวุธ ล้ำเขตไทย เป็นเรื่องใหญ่
https://www.matichon.co.th/politics/news_3430558
อดีตนักบิน ชี้เครื่องบินรบต่างชาติติดอาวุธ ล้ำเขตไทย เป็นเรื่องใหญ่
กรณีเครื่องบินรบมิก-29 ของกองทัพเมียนมา บินล้ำแดนเข้ามาในเขตไทยหลายกิโลเมตร อ้อมยิงจรวดใส่ชนกลุ่มน้อยหลายรอบ จนชาวบ้าน 2 หมู่บ้านแตกตื่น โรงเรียนต้องรีบกดสัญญาณให้เด็กเข้าหลุมหลบภัย ประกาศหยุดเรียนฉุกเฉินทันที
ต่อมากองทัพอากาศไทยออกแถลงการณ์ถึงเรื่องดังกล่าว ว่าได้ตรวจพบเครื่องบินไม่ทราบฝ่าย บินล้ำเข้ามาในเขตไทย ก่อนบินกลับไปยังเขตเมียนมา กองทัพอากาศจึงส่งเครื่องบิน เอฟ-16 จำนวน 2 ลำ บินลาดตระเวน พร้อมสั่งผู้ช่วยทูตทหารที่เมียนมา เตือนไปยังเมียนมา หาทางป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก
เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเพจเฟซบุ๊ก เรื่องเล่าอดีตนักบินรบ
https://www.facebook.com/exfighterpilot/posts/pfbid07pCoCoKiAbdpWmF97EGSeTn8WJ3ChjYusHAciBrvDen4oXSDiPoT7rzmbcB8igNpl Tales from ex-fighter pilot โดย น.ท.สันต์ วทานียเวช อดีตรองผู้บังคับฝูงบิน 701 (GRIPEN) ระบุว่า จากเหตุการณ์เครื่องบินรบต่างชาติติดอาวุธบินล้ำเข้ามาในประเทศไทย มีหลายคนสอบถามกันเข้ามาเยอะมากครับ ผมก็เลยอยากบอกเล่ามุมมองและประสบการณ์ของผมจากเรื่องที่เกิดขึ้นนี้อย่างคร่าวๆ ประมาณนี้ครับ
น.ท.สันต์ระบุตอนหนึ่งว่า เหตุการณ์นี้ถือเป็นบททดสอบความพร้อมรบของกองทัพอากาศที่สำคัญ เพื่อแสดงให้ประชาชนเห็น ถึงความพร้อมและเกิดความมั่นใจในกองทัพเลยก็ว่าได้ เครื่องบินรบต่างชาติติดอาวุธล้ำเข้ามาในเขตอธิปไตยของไทยถือเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งควรจะมีการชี้แจงอย่างเป็นทางการจากประเทศนั้น
https://www.facebook.com/exfighterpilot/posts/pfbid07pCoCoKiAbdpWmF97EGSeTn8WJ3ChjYusHAciBrvDen4oXSDiPoT7rzmbcB8igNpl
อดีตทูต ฟาดกองทัพ เก่งกับลาซาด้า เจอพม่าแล้วหงอย ชี้ล้มเหลวปกป้องประเทศ
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7139540
อดีตทูต ฟาดกองทัพ เก่งกับลาซาด้า เจอพม่าแล้วหงอย ชี้ล้มเหลวปกป้องประเทศ ที่พูดออกมาเป็นการแก้ตัว ถามผู้แทนพิเศษตั้งมาทำอะไรบ้าง
วันที่ 1 ก.ค.65 นาย
รัศม์ ชาลีจันทร์ อดีตเอกอัครราชทูตไทย โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ทูตนอกแถว The Alternative Ambassador Returns กรณีเครื่องบินรบพม่าล้ำน่านฟ้าประเทศไทย ความว่า
เก่งกับลาซาด้า เจอพม่าแล้วหงอย? ผู้แทนพิเศษด้านพม่าที่กระทรวงต่างประเทศตั้งมานั้นทำอะไรบ้าง?
ได้อ่านรายงานข่าวเมื่อวานนี้เรื่องพม่าส่งเครื่องบินรบรุกล้ำดินแดนไทยเข้ามาถึง 5 กิโลเมตรนานร่วม 15 นาที เพื่อบินวกเข้าไปโจมตีกลุ่มต่อต้านรัฐบาล [เผล่ะจัง] ทหารพม่า ที่ได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนไทย ลูกเด็กเล็กแดงต้องหนีหลบภัยกันจ้าละหวั่น (ที่ก่อนหน้าก็มีรายงานข่าวการสู้รบจากฝั่งพม่าที่กระทบและสร้างความเสียหายทรัพย์สินและการทำมาหากินอย่างต่อเนื่อง) ก็มีหลายคำถามเกิดขึ้นที่ล้วนแต่บ่งชี้ถึงความล้มเหลวของทั้งด้านการป้องกันประเทศและนโยบายของไทยที่มีต่อพม่าอย่างชัดแจ้ง
จากการชี้แจงของโฆษก ทอ. ที่ออกมายืนยันว่า “เครื่องบิน F 16 ของไทยขึ้นบินถึงที่หมายภายใน 5-10 นาที ชี้เครื่องบินรบเมียนมาไม่เป็นภัยคุกคาม เพราะไม่ได้พุ่งปักหัวเข้ามาในเขตไทย แต่ได้ใช้อาวุธกับชนกลุ่มน้อย แล้วม้วนตัวออก
ทางกองทัพอากาศได้เฝ้าระวัง และติดตามอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง จากการวิเคราะห์และดูจากสถานการณ์ ไม่พบว่าจะมีการบินเข้ามาในลักษณะของภัยคุกคาม เพราะเจตนาไม่ได้พุ่งตรงปักหัวมาทางทางเรา เพราะหากว่าเขายังไม่ล้ำแดน เข้ามาเราก็ยังไม่สามารถปฏิบัติการใดๆ ได้ เพราะจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่อกัน” ยิ่งฟังดูเป็นการแก้ตัวที่คือการยอมรับโดยปริยายในความล้มเหลวของการป้องกันประเทศนะครับ
คือถ้าในจอเรดาร์ก็เห็นอยู่แล้วว่ามีเครื่องบินรบพม่าบินวนประชิดชายแดนอยู่นานขนาดนั้นที่จะรุกล้ำเข้ามาเมื่อไหร่ก็ได้ ก็ยังปล่อยให้เขารุกล้ำเข้ามาได้อีก โดยไม่คิดทำอะไรก่อนหน้า แทนที่จะส่งเครื่องบินของเราขึ้นไปเป็นเชิงป้องปรามแต่แรก ถ้าเขายังบินวนได้ เราบินในเขตเราเองไม่ได้หรือ? ต้องรอให้เขาบุกเข้ามาก่อนหรือ?
แล้วจะมาบอกว่า ดูแล้วไม่คุกคาม แต่นี่มันเป็นเรื่องอธิปไตยและความปลอดภัยชีวิตทรัพย์สินคนไทยนะครับ มันไม่มีความสำคัญเลยหรืออย่างไร?
การแถลงแบบนี้ก็เท่ากับยอมรับเองถึงการปล่อยปละละเลย ความหละหลวมในการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันประเทศชาติ และที่อ้างกลัวกระทบความสัมพันธ์อะไรนั่นคือตลกมาก ก็แล้วทางทหารพม่าเขากลัวหรือเกรงใจเราบ้างไหมล่ะครับ?
หรือว่าเก่งแต่กับลาซาด้าแต่เจอพม่าแล้วหงอย?
ในส่วนของด้านนโยบายต่างประเทศของไทยต่อพม่านั้น สิ่งนี้ยิ่งตอกย้ำให้เห็นถึงความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ถามว่าที่ตั้งผู้แทนพิเศษอะไรมานั่น ที่ไปคุยกับเขามา ฝ่ายพม่าเขาเกรงใจ ยินยอมลดความรุนแรง หยุดยิงหรือยุติการสู้รบอย่างที่เป็นมติของอาเซียนที่ร้องขอบ้างไหม?
และต่อความรุนแรงที่มีผลกระทบต่อประเทศชาติและประชาชนไทยตามชายแดนทุกวันนี้มีท่าทีลดลงหรือเพิ่มขึ้นกันแน่ จนเขารุกล้ำอธิปไตยของเราอย่างจงใจและชัดแจ้งแบบนี้?
และช่วยตอบให้ชัดๆทีครับว่า นโยบายไทยต่อพม่าทุกวันนี้มัน serve ปกป้องส่งเสริมผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนไทยอย่างไร??
ก่อนหน้านี้ก็เห็นคนของกระทรวงต่างประเทศออกมาบอกว่าการ engage มีปฏิสัมพันธ์กับรัฐบาลเผด็จการทหารพม่าเป็นเรื่องจำเป็น ซึ่งผมอยากจะเรียนว่ากับคนที่สั่งการให้เข่นฆ่าประชาชนตนเองอย่างโหดร้ายทารุณ เช่นเผาคนทั้งเป็น ฆ่าไม่เว้นแม้แต่เด็กและผู้หญิงก็ตาม คนส่วนใหญ่ในโลกเขามีแต่รุมประนามความชั่วช้าและไม่อยากเข้าไปเกลือกกลั้วด้วย
ถามว่าคนเช่นนี้เขาจะมาเคารพกฎเกณฑ์คำพูดความถูกต้องอะไรไหม?
นอกเสียจากจะเป็นคนที่มีความคิดและจิตใจคล้ายกัน จัดเป็นคนประเภทเดียวกัน ถึงจะได้คอยเข้าใจและเห็นใจเขานะครับ
https://www.facebook.com/thealternativeambassadorreturns/posts/pfbid0JVRdhvfr2DfsCeFL97v49jALypTFaFWXfpTLvZji6CBDpJavyV9PbZ1pjr2GUh7Vl
‘เต้น’ ตอก ‘ตู่’ ทีกับม็อบจัดเต็มอัตราศึก ทีบินไปสกัดพม่า เหมือนตำรวจในหนังไทย
https://www.matichon.co.th/politics/news_3430115
‘เต้น’ ตอก ‘ตู่’ ทอ.ไทยไปสกัดพม่าเหมือนตำรวจในหนังไทย ทีกับม็อบจัดเต็มอัตราศึก
เมื่อวันที่ 1 ก.ค. นาย
ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ข้อความแสดงความเห็นกรณีปัญหาเครื่องบินรบกองทัพทหารพม่ารุกล้ำน่านฟ้าของไทย พร้อมยิงกระสุน ระเบิดถล่มชนกลุ่มน้อย โดยจากคลิปที่เผยแพร่จะพบเครื่องบินพม่ายิงอาวุธแม้อยู่ในน่านฟ้าของไทย ก่อนที่กองทัพไทยจะออกมาชี้แจงว่าได้ส่งเครื่องบินไปสกัด ซึ่งก็ถูกตั้งคำถามว่าไม่ทันการ เพราะพบว่าเครื่องบินพม่าบินกลับแล้ว ต่อมานายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า พม่ายอมขอโทษแล้วนั้น
นาย
ณัฐวุฒิ ระบุว่า
พล.อ.ประยุทธ์คิดว่าตัวเองเป็นใครในประเทศนี้ ถึงอธิบายเหตุเครื่องบินรบเมียนมา รุกล้ำเข้าเขตแดนไทยเป็นเรื่องเล็ก ขอโทษแล้วก็จบกันไป นายกฯเป็นเจ้าของประเทศหรือ เรื่องละเอียดอ่อนต่อความมั่นคงแบบนี้ ถึงทำเหมือนเล่นขายของ
8 ปีแล้วเรียนรู้ที่จะเคารพประชาชนบ้าง ไม่ได้เรียกร้องให้รบกับเพื่อนบ้าน แต่ท่าทีอย่างเป็นทางการของทั้ง 2 ฝ่ายต้องมี เราท้วงไปว่าอย่างไร เขาตอบมาแบบไหนต้องให้ชัด นายกฯพูดง่ายๆแค่ไม่มีอะไร จะยิ่งทำให้ชาวโลกมองว่ารัฐบาลไทย มีอะไรกับรัฐบาลเผด็จการเมียนมาหรือไม่
ยึดอำนาจเสร็จมาเยือนไทยเป็นที่แรก หลังจากนั้น 2 รัฐบาลไปมาหาสู่ แล้วมาเกิดเรื่องแบบนี้ นัยทางการเมืองระหว่างประเทศเหมือนไทยเลือกข้าง และเป็นข้างรัฐบาล [เผล่ะจัง] ซึ่งสวนทางกับนานาอารยะประเทศ เลขาสมช.ซึ่งกำลังทำหน้าที่แก้วิกฤตเศรษฐกิจ ควรมีบทบาทต่อเรื่องนี้อย่างไร
ประชาชนเดินขบวน ตู้คอนเทนเนอร์มาล่วงหน้าเป็นวัน ทั้งแก็ส น้ำ ปืนกระสุนยาง เต็มอัตราศึก ไล่ยิงไล่ตีแทบเป็นแทบตาย พอเครื่องบินเมียนมาล้ำแดน เครื่องบินเรามาเหมือนตำรวจในหนังไทย แถมนายกฯอธิบายแทนว่าแค่มายูเทิร์น ทำเหมือนปฏิบัติการนี้พล.อ.ประยุทธ์รู้เห็นเป็นใจ ?
https://www.facebook.com/Nattawut.UDD/posts/pfbid0rah9QkyiP742z2uDKZi5b25bXtTEAY8cepPcioPQP5GboExaSrzkevh94bXhWVL1l
‘ก้าวไกล’ ถามกองทัพไทย รู้เห็น ‘พม่า’ ให้บินรุกล้ำโจมตีชนกลุ่มน้อยหรือ จับตาปมไม่รีบตอบโต้ รอ F-35 ?
https://www.matichon.co.th/politics/news_3429725
‘ก้าวไกล’ ซัด ‘กองทัพไทย’ ปล่อยบินรบเมียนมารุกล้ำน่านฟ้าอธิปไตยไทย ถล่มชนกลุ่มน้อย จี้รัฐบาล-อาเซียนแสดงท่าทีหาทางออก
เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 1 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นาย
มานพ คีรีภูวดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) แถลงถึงกรณีที่มีเครื่องบินรบมิก 29 ของกองทัพอากาศเมียนมาบินรุกล้ำน่านฟ้าอธิปไตยไทย เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า ทางเครือข่ายในพื้นที่ให้ข้อมูลกับตนว่า เครื่องบินดังกล่าวไม่ได้บินเข้ามารอบเดียว แต่บินเข้ามาถึง 3 ครั้ง ภายในเวลา 20 นาที ก่อนทำการโจมตีในเวลา 17.00 น. ด้วยการใช้อาวุธจากอากาศยาน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ของไทยได้รับความเสียหาย ทั้งรถยนต์และพื้นที่การเกษตร แต่ทางกองทัพอากาศกลับปล่อยให้เกิดเหตุการณ์รุกล้ำถึง 3 ครั้ง
นาย
มานพกล่าวว่า การโจมตีของกองทัพอากาศเมียนมาในรอบนี้ ทางเครือข่ายในพื้นที่บอกว่า กองทัพเมียนมาไม่สามารถบินในน่านฟ้าของเมียนมาได้ เพราะเป็นพื้นที่ภูเขาและมีต้นไม้ จึงต้องอ้อมเข้ามาบินในไทยถามว่ามีการรู้เห็นเป็นใจของกองทัพไทยหรือไม่ที่เปิดให้มีการบินรุกล้ำโจมตีชนกลุ่มน้อย
นาย
มานพกล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา ทราบว่าทางแม่ทัพภาคที่ 3 ได้ไปพูดคุยเรื่องการบริหารจัดการชายแดนไทย-เมียนมากับ พล.อ.อาวุโส
มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้นำรัฐประหารเมียนม ที่กรุงเนปยีดอ ทำให้เกิดความสงสัยว่าเหตุการณ์ครั้งนี้มีการรู้เห็นเป็นใจกันหรือไม่ อีกทั้งมีการรุกล้ำน่านฟ้าถึง 3 ครั้ง ทำไมจึงไม่มีการตอบโต้ทันที เพราะเป็นเรื่องภัยความมั่นคงจริง หรือจะใช้เป็นเงื่อนไขในการรอเครื่องบิน F-35 อย่างไรก็ตาม เราต้องมีแนวทางเสนอการยุติความรุนแรง แต่ที่ผ่านมายังไม่เห็นท่าทีรัฐบาลไทยที่จะทำให้เกิดสันติภาพในนามของประเทศเพื่อนบ้านและอาเซียน ขณะที่สถานการณ์ผู้ลี้ภัยการสู้รบตั้งแต่วันที่ 26-30 มิ.ย. มีจำนวนทั้งสิ้น 831 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กและสตรี
“จึงขอเรียกร้องกระทรวงมหาดไทยช่วยดูแลกลุ่มคนเหล่านี้ให้มีพื้นที่พักพิงที่ปลอดภัย และการแก้ไขปัญหาในระยะยาวเพื่อให้เกิดความสงบในพื้นที่ ประเทศไทยและอาเซียนต้องมีเวทีให้เมียนมาและกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องเจรจาหาทางออก เพื่อให้ทุกอย่างกลับมาสู่ภาวะปกติ ส่วนไทยขอให้กองทัพและฝ่ายบริหารตัดสินใจด้วยความรอบคอบในการปกป้องอธิปไตย” นายมานพกล่าว
ด้าน นาย
คำพอง เทพาคำ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. กล่าวว่า ที่ผ่านมายังไม่เห็นท่าทีของทางการไทยในเรื่องดังกล่าว และยังไม่มีหน่วยงานความมั่นคง หรือกองทัพเข้าไปตั้งจุดแจ้งเตือนเมียนมา หากมีการรุกล้ำอธิปไตยอีก รวมถึงการตัดสินใจล่าช้าของกองทัพอากาศที่นำเครื่องบิน F-16 บินขึ้นไปสกัดกั้นเครื่องบินต่างชาติ ถือเป็นความบกพร่องของกองทัพอากาศไทย
JJNY : 6in1 อดีตนักบินชี้เรื่องใหญ่│อดีตทูตฟาด│‘เต้น’ตอก‘ตู่’│‘ก้าวไกล’ถามทัพไทย│โรงแรมจ่อบุกคลัง│ฝ่ายปชต.พม่าผิดหวังไทย
https://www.matichon.co.th/politics/news_3430558
อดีตนักบิน ชี้เครื่องบินรบต่างชาติติดอาวุธ ล้ำเขตไทย เป็นเรื่องใหญ่
กรณีเครื่องบินรบมิก-29 ของกองทัพเมียนมา บินล้ำแดนเข้ามาในเขตไทยหลายกิโลเมตร อ้อมยิงจรวดใส่ชนกลุ่มน้อยหลายรอบ จนชาวบ้าน 2 หมู่บ้านแตกตื่น โรงเรียนต้องรีบกดสัญญาณให้เด็กเข้าหลุมหลบภัย ประกาศหยุดเรียนฉุกเฉินทันที
ต่อมากองทัพอากาศไทยออกแถลงการณ์ถึงเรื่องดังกล่าว ว่าได้ตรวจพบเครื่องบินไม่ทราบฝ่าย บินล้ำเข้ามาในเขตไทย ก่อนบินกลับไปยังเขตเมียนมา กองทัพอากาศจึงส่งเครื่องบิน เอฟ-16 จำนวน 2 ลำ บินลาดตระเวน พร้อมสั่งผู้ช่วยทูตทหารที่เมียนมา เตือนไปยังเมียนมา หาทางป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก
เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเพจเฟซบุ๊ก เรื่องเล่าอดีตนักบินรบ https://www.facebook.com/exfighterpilot/posts/pfbid07pCoCoKiAbdpWmF97EGSeTn8WJ3ChjYusHAciBrvDen4oXSDiPoT7rzmbcB8igNpl Tales from ex-fighter pilot โดย น.ท.สันต์ วทานียเวช อดีตรองผู้บังคับฝูงบิน 701 (GRIPEN) ระบุว่า จากเหตุการณ์เครื่องบินรบต่างชาติติดอาวุธบินล้ำเข้ามาในประเทศไทย มีหลายคนสอบถามกันเข้ามาเยอะมากครับ ผมก็เลยอยากบอกเล่ามุมมองและประสบการณ์ของผมจากเรื่องที่เกิดขึ้นนี้อย่างคร่าวๆ ประมาณนี้ครับ
น.ท.สันต์ระบุตอนหนึ่งว่า เหตุการณ์นี้ถือเป็นบททดสอบความพร้อมรบของกองทัพอากาศที่สำคัญ เพื่อแสดงให้ประชาชนเห็น ถึงความพร้อมและเกิดความมั่นใจในกองทัพเลยก็ว่าได้ เครื่องบินรบต่างชาติติดอาวุธล้ำเข้ามาในเขตอธิปไตยของไทยถือเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งควรจะมีการชี้แจงอย่างเป็นทางการจากประเทศนั้น
https://www.facebook.com/exfighterpilot/posts/pfbid07pCoCoKiAbdpWmF97EGSeTn8WJ3ChjYusHAciBrvDen4oXSDiPoT7rzmbcB8igNpl
อดีตทูต ฟาดกองทัพ เก่งกับลาซาด้า เจอพม่าแล้วหงอย ชี้ล้มเหลวปกป้องประเทศ
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7139540
อดีตทูต ฟาดกองทัพ เก่งกับลาซาด้า เจอพม่าแล้วหงอย ชี้ล้มเหลวปกป้องประเทศ ที่พูดออกมาเป็นการแก้ตัว ถามผู้แทนพิเศษตั้งมาทำอะไรบ้าง
วันที่ 1 ก.ค.65 นายรัศม์ ชาลีจันทร์ อดีตเอกอัครราชทูตไทย โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ทูตนอกแถว The Alternative Ambassador Returns กรณีเครื่องบินรบพม่าล้ำน่านฟ้าประเทศไทย ความว่า
เก่งกับลาซาด้า เจอพม่าแล้วหงอย? ผู้แทนพิเศษด้านพม่าที่กระทรวงต่างประเทศตั้งมานั้นทำอะไรบ้าง?
ได้อ่านรายงานข่าวเมื่อวานนี้เรื่องพม่าส่งเครื่องบินรบรุกล้ำดินแดนไทยเข้ามาถึง 5 กิโลเมตรนานร่วม 15 นาที เพื่อบินวกเข้าไปโจมตีกลุ่มต่อต้านรัฐบาล [เผล่ะจัง] ทหารพม่า ที่ได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนไทย ลูกเด็กเล็กแดงต้องหนีหลบภัยกันจ้าละหวั่น (ที่ก่อนหน้าก็มีรายงานข่าวการสู้รบจากฝั่งพม่าที่กระทบและสร้างความเสียหายทรัพย์สินและการทำมาหากินอย่างต่อเนื่อง) ก็มีหลายคำถามเกิดขึ้นที่ล้วนแต่บ่งชี้ถึงความล้มเหลวของทั้งด้านการป้องกันประเทศและนโยบายของไทยที่มีต่อพม่าอย่างชัดแจ้ง
จากการชี้แจงของโฆษก ทอ. ที่ออกมายืนยันว่า “เครื่องบิน F 16 ของไทยขึ้นบินถึงที่หมายภายใน 5-10 นาที ชี้เครื่องบินรบเมียนมาไม่เป็นภัยคุกคาม เพราะไม่ได้พุ่งปักหัวเข้ามาในเขตไทย แต่ได้ใช้อาวุธกับชนกลุ่มน้อย แล้วม้วนตัวออก
ทางกองทัพอากาศได้เฝ้าระวัง และติดตามอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง จากการวิเคราะห์และดูจากสถานการณ์ ไม่พบว่าจะมีการบินเข้ามาในลักษณะของภัยคุกคาม เพราะเจตนาไม่ได้พุ่งตรงปักหัวมาทางทางเรา เพราะหากว่าเขายังไม่ล้ำแดน เข้ามาเราก็ยังไม่สามารถปฏิบัติการใดๆ ได้ เพราะจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่อกัน” ยิ่งฟังดูเป็นการแก้ตัวที่คือการยอมรับโดยปริยายในความล้มเหลวของการป้องกันประเทศนะครับ
คือถ้าในจอเรดาร์ก็เห็นอยู่แล้วว่ามีเครื่องบินรบพม่าบินวนประชิดชายแดนอยู่นานขนาดนั้นที่จะรุกล้ำเข้ามาเมื่อไหร่ก็ได้ ก็ยังปล่อยให้เขารุกล้ำเข้ามาได้อีก โดยไม่คิดทำอะไรก่อนหน้า แทนที่จะส่งเครื่องบินของเราขึ้นไปเป็นเชิงป้องปรามแต่แรก ถ้าเขายังบินวนได้ เราบินในเขตเราเองไม่ได้หรือ? ต้องรอให้เขาบุกเข้ามาก่อนหรือ?
แล้วจะมาบอกว่า ดูแล้วไม่คุกคาม แต่นี่มันเป็นเรื่องอธิปไตยและความปลอดภัยชีวิตทรัพย์สินคนไทยนะครับ มันไม่มีความสำคัญเลยหรืออย่างไร?
การแถลงแบบนี้ก็เท่ากับยอมรับเองถึงการปล่อยปละละเลย ความหละหลวมในการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันประเทศชาติ และที่อ้างกลัวกระทบความสัมพันธ์อะไรนั่นคือตลกมาก ก็แล้วทางทหารพม่าเขากลัวหรือเกรงใจเราบ้างไหมล่ะครับ?
หรือว่าเก่งแต่กับลาซาด้าแต่เจอพม่าแล้วหงอย?
ในส่วนของด้านนโยบายต่างประเทศของไทยต่อพม่านั้น สิ่งนี้ยิ่งตอกย้ำให้เห็นถึงความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ถามว่าที่ตั้งผู้แทนพิเศษอะไรมานั่น ที่ไปคุยกับเขามา ฝ่ายพม่าเขาเกรงใจ ยินยอมลดความรุนแรง หยุดยิงหรือยุติการสู้รบอย่างที่เป็นมติของอาเซียนที่ร้องขอบ้างไหม?
และต่อความรุนแรงที่มีผลกระทบต่อประเทศชาติและประชาชนไทยตามชายแดนทุกวันนี้มีท่าทีลดลงหรือเพิ่มขึ้นกันแน่ จนเขารุกล้ำอธิปไตยของเราอย่างจงใจและชัดแจ้งแบบนี้?
และช่วยตอบให้ชัดๆทีครับว่า นโยบายไทยต่อพม่าทุกวันนี้มัน serve ปกป้องส่งเสริมผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนไทยอย่างไร??
ก่อนหน้านี้ก็เห็นคนของกระทรวงต่างประเทศออกมาบอกว่าการ engage มีปฏิสัมพันธ์กับรัฐบาลเผด็จการทหารพม่าเป็นเรื่องจำเป็น ซึ่งผมอยากจะเรียนว่ากับคนที่สั่งการให้เข่นฆ่าประชาชนตนเองอย่างโหดร้ายทารุณ เช่นเผาคนทั้งเป็น ฆ่าไม่เว้นแม้แต่เด็กและผู้หญิงก็ตาม คนส่วนใหญ่ในโลกเขามีแต่รุมประนามความชั่วช้าและไม่อยากเข้าไปเกลือกกลั้วด้วย
ถามว่าคนเช่นนี้เขาจะมาเคารพกฎเกณฑ์คำพูดความถูกต้องอะไรไหม?
นอกเสียจากจะเป็นคนที่มีความคิดและจิตใจคล้ายกัน จัดเป็นคนประเภทเดียวกัน ถึงจะได้คอยเข้าใจและเห็นใจเขานะครับ
https://www.facebook.com/thealternativeambassadorreturns/posts/pfbid0JVRdhvfr2DfsCeFL97v49jALypTFaFWXfpTLvZji6CBDpJavyV9PbZ1pjr2GUh7Vl
‘เต้น’ ตอก ‘ตู่’ ทีกับม็อบจัดเต็มอัตราศึก ทีบินไปสกัดพม่า เหมือนตำรวจในหนังไทย
https://www.matichon.co.th/politics/news_3430115
‘เต้น’ ตอก ‘ตู่’ ทอ.ไทยไปสกัดพม่าเหมือนตำรวจในหนังไทย ทีกับม็อบจัดเต็มอัตราศึก
เมื่อวันที่ 1 ก.ค. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ข้อความแสดงความเห็นกรณีปัญหาเครื่องบินรบกองทัพทหารพม่ารุกล้ำน่านฟ้าของไทย พร้อมยิงกระสุน ระเบิดถล่มชนกลุ่มน้อย โดยจากคลิปที่เผยแพร่จะพบเครื่องบินพม่ายิงอาวุธแม้อยู่ในน่านฟ้าของไทย ก่อนที่กองทัพไทยจะออกมาชี้แจงว่าได้ส่งเครื่องบินไปสกัด ซึ่งก็ถูกตั้งคำถามว่าไม่ทันการ เพราะพบว่าเครื่องบินพม่าบินกลับแล้ว ต่อมานายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า พม่ายอมขอโทษแล้วนั้น
นายณัฐวุฒิ ระบุว่า
พล.อ.ประยุทธ์คิดว่าตัวเองเป็นใครในประเทศนี้ ถึงอธิบายเหตุเครื่องบินรบเมียนมา รุกล้ำเข้าเขตแดนไทยเป็นเรื่องเล็ก ขอโทษแล้วก็จบกันไป นายกฯเป็นเจ้าของประเทศหรือ เรื่องละเอียดอ่อนต่อความมั่นคงแบบนี้ ถึงทำเหมือนเล่นขายของ
8 ปีแล้วเรียนรู้ที่จะเคารพประชาชนบ้าง ไม่ได้เรียกร้องให้รบกับเพื่อนบ้าน แต่ท่าทีอย่างเป็นทางการของทั้ง 2 ฝ่ายต้องมี เราท้วงไปว่าอย่างไร เขาตอบมาแบบไหนต้องให้ชัด นายกฯพูดง่ายๆแค่ไม่มีอะไร จะยิ่งทำให้ชาวโลกมองว่ารัฐบาลไทย มีอะไรกับรัฐบาลเผด็จการเมียนมาหรือไม่
ยึดอำนาจเสร็จมาเยือนไทยเป็นที่แรก หลังจากนั้น 2 รัฐบาลไปมาหาสู่ แล้วมาเกิดเรื่องแบบนี้ นัยทางการเมืองระหว่างประเทศเหมือนไทยเลือกข้าง และเป็นข้างรัฐบาล [เผล่ะจัง] ซึ่งสวนทางกับนานาอารยะประเทศ เลขาสมช.ซึ่งกำลังทำหน้าที่แก้วิกฤตเศรษฐกิจ ควรมีบทบาทต่อเรื่องนี้อย่างไร
ประชาชนเดินขบวน ตู้คอนเทนเนอร์มาล่วงหน้าเป็นวัน ทั้งแก็ส น้ำ ปืนกระสุนยาง เต็มอัตราศึก ไล่ยิงไล่ตีแทบเป็นแทบตาย พอเครื่องบินเมียนมาล้ำแดน เครื่องบินเรามาเหมือนตำรวจในหนังไทย แถมนายกฯอธิบายแทนว่าแค่มายูเทิร์น ทำเหมือนปฏิบัติการนี้พล.อ.ประยุทธ์รู้เห็นเป็นใจ ?
https://www.facebook.com/Nattawut.UDD/posts/pfbid0rah9QkyiP742z2uDKZi5b25bXtTEAY8cepPcioPQP5GboExaSrzkevh94bXhWVL1l
‘ก้าวไกล’ ถามกองทัพไทย รู้เห็น ‘พม่า’ ให้บินรุกล้ำโจมตีชนกลุ่มน้อยหรือ จับตาปมไม่รีบตอบโต้ รอ F-35 ?
https://www.matichon.co.th/politics/news_3429725
‘ก้าวไกล’ ซัด ‘กองทัพไทย’ ปล่อยบินรบเมียนมารุกล้ำน่านฟ้าอธิปไตยไทย ถล่มชนกลุ่มน้อย จี้รัฐบาล-อาเซียนแสดงท่าทีหาทางออก
เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 1 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นายมานพ คีรีภูวดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) แถลงถึงกรณีที่มีเครื่องบินรบมิก 29 ของกองทัพอากาศเมียนมาบินรุกล้ำน่านฟ้าอธิปไตยไทย เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า ทางเครือข่ายในพื้นที่ให้ข้อมูลกับตนว่า เครื่องบินดังกล่าวไม่ได้บินเข้ามารอบเดียว แต่บินเข้ามาถึง 3 ครั้ง ภายในเวลา 20 นาที ก่อนทำการโจมตีในเวลา 17.00 น. ด้วยการใช้อาวุธจากอากาศยาน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ของไทยได้รับความเสียหาย ทั้งรถยนต์และพื้นที่การเกษตร แต่ทางกองทัพอากาศกลับปล่อยให้เกิดเหตุการณ์รุกล้ำถึง 3 ครั้ง
นายมานพกล่าวว่า การโจมตีของกองทัพอากาศเมียนมาในรอบนี้ ทางเครือข่ายในพื้นที่บอกว่า กองทัพเมียนมาไม่สามารถบินในน่านฟ้าของเมียนมาได้ เพราะเป็นพื้นที่ภูเขาและมีต้นไม้ จึงต้องอ้อมเข้ามาบินในไทยถามว่ามีการรู้เห็นเป็นใจของกองทัพไทยหรือไม่ที่เปิดให้มีการบินรุกล้ำโจมตีชนกลุ่มน้อย
นายมานพกล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา ทราบว่าทางแม่ทัพภาคที่ 3 ได้ไปพูดคุยเรื่องการบริหารจัดการชายแดนไทย-เมียนมากับ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้นำรัฐประหารเมียนม ที่กรุงเนปยีดอ ทำให้เกิดความสงสัยว่าเหตุการณ์ครั้งนี้มีการรู้เห็นเป็นใจกันหรือไม่ อีกทั้งมีการรุกล้ำน่านฟ้าถึง 3 ครั้ง ทำไมจึงไม่มีการตอบโต้ทันที เพราะเป็นเรื่องภัยความมั่นคงจริง หรือจะใช้เป็นเงื่อนไขในการรอเครื่องบิน F-35 อย่างไรก็ตาม เราต้องมีแนวทางเสนอการยุติความรุนแรง แต่ที่ผ่านมายังไม่เห็นท่าทีรัฐบาลไทยที่จะทำให้เกิดสันติภาพในนามของประเทศเพื่อนบ้านและอาเซียน ขณะที่สถานการณ์ผู้ลี้ภัยการสู้รบตั้งแต่วันที่ 26-30 มิ.ย. มีจำนวนทั้งสิ้น 831 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กและสตรี
“จึงขอเรียกร้องกระทรวงมหาดไทยช่วยดูแลกลุ่มคนเหล่านี้ให้มีพื้นที่พักพิงที่ปลอดภัย และการแก้ไขปัญหาในระยะยาวเพื่อให้เกิดความสงบในพื้นที่ ประเทศไทยและอาเซียนต้องมีเวทีให้เมียนมาและกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องเจรจาหาทางออก เพื่อให้ทุกอย่างกลับมาสู่ภาวะปกติ ส่วนไทยขอให้กองทัพและฝ่ายบริหารตัดสินใจด้วยความรอบคอบในการปกป้องอธิปไตย” นายมานพกล่าว
ด้าน นายคำพอง เทพาคำ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. กล่าวว่า ที่ผ่านมายังไม่เห็นท่าทีของทางการไทยในเรื่องดังกล่าว และยังไม่มีหน่วยงานความมั่นคง หรือกองทัพเข้าไปตั้งจุดแจ้งเตือนเมียนมา หากมีการรุกล้ำอธิปไตยอีก รวมถึงการตัดสินใจล่าช้าของกองทัพอากาศที่นำเครื่องบิน F-16 บินขึ้นไปสกัดกั้นเครื่องบินต่างชาติ ถือเป็นความบกพร่องของกองทัพอากาศไทย