
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ประกาศราคารถยนต์ ORA Good Cat GT ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการที่ราคา 1,549,000 บาท ภายใต้นโยบาย “ONE PRICE” ซึ่งจะเป็นราคาเดียวกันในทุกช่องทางการจำหน่ายทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม ภายใต้นโยบายการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐและการลดลงของภาษีสรรพสามิต ราคาจำหน่ายของ ORA Good Cat GT ภายใต้นโยบายดังกล่าว จะปรับราคาลงอยู่ที่ 1,286,000 บาท โดยจะเปิดให้จองตั้งแต่วันพุธที่ 29 มิถุนายน เวลา 20.00 น. จนถึงวันที่ 29 กรกฎาคม 2565 เวลา 23.59 น. ผ่านทาง GWM Application และเว็บไซต์ WWW.GWM.CO.TH
นอกจากนี้ ORA Good Cat GT ยังมาพร้อมการรับประกันคุณภาพตัวรถ (Factory Warranty) ครอบคลุมระยะเวลา 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) พร้อมการรับประกันแบตเตอรี่ เป็นระยะเวลา 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) อีกด้วย

สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังเพื่อประสิทธิภาพการขับขี่ในทุกเส้นทาง
ORA Good Cat GT เจ้าเหมียวไฟฟ้าสไตล์สปอร์ต มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่า ด้วยพละกำลังสูงสุด 171 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ความเร็วสูงสุด 152 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 8.5 วินาที (ด้วยระบบขับขี่แบบสปอร์ต) เสริมด้วยระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท (MacPherson Strut) พร้อมเหล็กกันโคลง และระบบช่วงล่างด้านหลังแบบทอร์ชันบีม (Torsion Beam) บน GWM LEMON E PLATFORM ที่เป็นแพลตฟอร์มที่ถูกพัฒนาเพื่อใช้งานกับรถไฟฟ้า (BEV) โดยเฉพาะ ORA Good Cat GT มีระบบขับขี่ทั้งหมด 5 แบบ ได้แก่ 1) มาตรฐาน 2) สปอร์ต 3) ECO 4) ECO+ และ 5) อัตโนมัติ ซึ่งผู้ขับขี่สามารถปรับได้เองตามความต้องการและลักษณะการขับขี่ รวมถึงปริมาณแบตเตอรี่คงเหลือ ตลอดจนความสามารถการกู้คืนพลังงาน (Energy Regeneration) ที่ปรับได้ถึง 3 ระดับ ได้แก่ น้อย มาตรฐาน และมาก

ยืนหนึ่งดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยวไม่แพ้ใคร หรูหราล้ำสมัยทั้งภายในและภายนอก
ORA Good Cat GT โดดเด่นด้วยการออกแบบอย่างประณีต สะกดทุกสายตา โดยดีไซน์ภายนอกอันเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าเหมียวไฟฟ้าสไตล์สปอร์ต ORA Good Cat GT สวยทุกองศาด้วยมิติตัวรถ 1,848 x 4,254 x 1,596 มม. (กว้าง x ยาว x สูง) สะท้อนความเท่อย่างมีชั้นเชิงผ่านกระจังหน้าแบบสปอร์ตลายคาร์บอนไฟเบอร์ และสปอยเลอร์ดีไซน์โฉบเฉี่ยวพร้อมตราสัญลักษณ์ GT ด้านหลัง ร้อนแรงต่อเนื่องด้วยล้ออัลลอยทูโทนขนาด 18 นิ้ว มาพร้อมกับดิสก์เบรคคาลิปเปอร์สีแดง พร้อมดึงดูดทุกสายตาบนท้องถนนด้วยสีพิเศษ อะควาเกรย์ (Aqua Grey)

นอกจากนั้น ยังโดดเด่นทุกสัมผัส ด้วยการตกแต่งภายในแบบทูโทนสีดำและสีแดงเป็นเอกลักษณ์ ตั้งแต่พวงมาลัย เบาะนั่ง คอนโซล ไปจนถึงพนักพิงศีรษะที่มีตราสัญลักษณ์ GT และเข็มขัดนิรภัยสีแดง มาพร้อมหน้าจอ Interactive Double Screen พาดยาวบริเวณคอนโซลของตัวรถ มีขนาด 17.25 นิ้ว ที่มีความละเอียดสูง แบ่งออก 2 หน้าจอ คือ หน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบดิจิทัล (Full TFT) ขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอระบบมัลติมีเดียพร้อมระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว ลำโพงรอบทิศทาง จำนวน 6 ตัว ภายในห้องโดยสารใช้วัสดุคุณภาพสูง ให้สัมผัสที่นุ่มนวลมีระดับ พร้อมอุปกรณ์ในห้องโดยสารที่ออกแบบสวยงามอย่างพิถีพิถัน สร้างมิติใหม่แห่งสุนทรียภาพในการขับขี่ เพิ่มความผ่อนคลายและลดความเหนื่อยล้าตลอดการเดินทาง ด้วยเบาะที่นั่งที่ถูกออกแบบมาอย่างถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ และตกแต่งอย่างประณีตใส่ใจในทุกรายละเอียด มีระบบเบาะนวดไฟฟ้าและระบบระบายอากาศ เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า

พนักพิงเบาะด้านหลังพับได้แบบ 60:40 ด้านเบาะที่นั่งคนขับสามารถปรับด้วยไฟฟ้าได้ถึง 6 ทิศทาง มาพร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง และฟังก์ชั่น Welcome Seat ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้า-ออกจากรถได้อย่างสะดวกสบาย ขณะที่เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับด้วยไฟฟ้าได้ 4 ทิศทาง

ตามมาด้วยหลังคาพาโนรามิคซันรูฟอัจฉริยะ เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า เพิ่มพื้นที่แสงสว่าง และเปิดมุมมองรับชมวิวทิวทัศน์ได้มากยิ่งขึ้น

ส่วนประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้า มาพร้อมระบบแฮนด์ฟรี ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่ยกของหนัก มีฟังก์ชั่นอินเทอร์เน็ตเพื่อความบันเทิงในรถยนต์ อาทิ การเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน ฟังเพลง วิดีโอได้อีกด้วย เพิ่มความสะดวกสบายถึงขีดสุดด้วยระบบสั่งการด้วยเสียงอัจฉริยะได้ในประโยคเดียว ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมเครื่องปรับอากาศ ซันรูฟ ระบบนำทาง และมัลติมีเดีย เป็นต้น ปิดท้ายด้วยการเชื่อมต่อโครงข่ายระยะไกล ช่วยให้สามารถควบคุมการเปิด-ปิดการชาร์จ เครื่องปรับอากาศ ปิดหน้าต่างได้จากระยะไกล และสามารถดูสถานะของรถได้ผ่านระบบ GWM App

สร้างประสบการณ์ในการขับขี่แบบใหม่ด้วยเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ เพื่อความปลอดภัยขั้นสุด
เพิ่มดีกรีความล้ำสมัยเกินต้านด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกทั้งฟังก์ชันการอัปเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA) การตอบโต้ด้วยเสียงอัจฉริยะผ่านระบบปัญญาประดิษฐ์ (Voice Command) ระบบความบันเทิงแบบมัลติมีเดียรองรับลูกเล่นมากมาย เช่น Apple CarPlay, Siri, Android Auto และ Google Assistant ครอบคลุมไปจนถึงเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะเพื่อเพิ่มความมั่นใจ และช่วยลดความเสี่ยงบนท้องถนน อาทิ ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (Auto Reversing Assistance) ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ 3 รูปแบบ (Integrated Intelligent Parking) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Adaptive Cruise Control with Intelligent Cornering) กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา (360° Surround Camera) และระบบช่วยเบรกฉุกเฉินบนทางตรงและทางแยก (Auto Emergency Braking + Intersection) เป็นต้น


Ora Good Cat GT ราคา 1.549 ล้าน (1.286 ล้านบาท เมื่อหักส่วนลดภาครัฐ)
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ประกาศราคารถยนต์ ORA Good Cat GT ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการที่ราคา 1,549,000 บาท ภายใต้นโยบาย “ONE PRICE” ซึ่งจะเป็นราคาเดียวกันในทุกช่องทางการจำหน่ายทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม ภายใต้นโยบายการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐและการลดลงของภาษีสรรพสามิต ราคาจำหน่ายของ ORA Good Cat GT ภายใต้นโยบายดังกล่าว จะปรับราคาลงอยู่ที่ 1,286,000 บาท โดยจะเปิดให้จองตั้งแต่วันพุธที่ 29 มิถุนายน เวลา 20.00 น. จนถึงวันที่ 29 กรกฎาคม 2565 เวลา 23.59 น. ผ่านทาง GWM Application และเว็บไซต์ WWW.GWM.CO.TH
นอกจากนี้ ORA Good Cat GT ยังมาพร้อมการรับประกันคุณภาพตัวรถ (Factory Warranty) ครอบคลุมระยะเวลา 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) พร้อมการรับประกันแบตเตอรี่ เป็นระยะเวลา 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) อีกด้วย
สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังเพื่อประสิทธิภาพการขับขี่ในทุกเส้นทาง
ORA Good Cat GT เจ้าเหมียวไฟฟ้าสไตล์สปอร์ต มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่า ด้วยพละกำลังสูงสุด 171 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ความเร็วสูงสุด 152 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 8.5 วินาที (ด้วยระบบขับขี่แบบสปอร์ต) เสริมด้วยระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท (MacPherson Strut) พร้อมเหล็กกันโคลง และระบบช่วงล่างด้านหลังแบบทอร์ชันบีม (Torsion Beam) บน GWM LEMON E PLATFORM ที่เป็นแพลตฟอร์มที่ถูกพัฒนาเพื่อใช้งานกับรถไฟฟ้า (BEV) โดยเฉพาะ ORA Good Cat GT มีระบบขับขี่ทั้งหมด 5 แบบ ได้แก่ 1) มาตรฐาน 2) สปอร์ต 3) ECO 4) ECO+ และ 5) อัตโนมัติ ซึ่งผู้ขับขี่สามารถปรับได้เองตามความต้องการและลักษณะการขับขี่ รวมถึงปริมาณแบตเตอรี่คงเหลือ ตลอดจนความสามารถการกู้คืนพลังงาน (Energy Regeneration) ที่ปรับได้ถึง 3 ระดับ ได้แก่ น้อย มาตรฐาน และมาก
ยืนหนึ่งดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยวไม่แพ้ใคร หรูหราล้ำสมัยทั้งภายในและภายนอก
ORA Good Cat GT โดดเด่นด้วยการออกแบบอย่างประณีต สะกดทุกสายตา โดยดีไซน์ภายนอกอันเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าเหมียวไฟฟ้าสไตล์สปอร์ต ORA Good Cat GT สวยทุกองศาด้วยมิติตัวรถ 1,848 x 4,254 x 1,596 มม. (กว้าง x ยาว x สูง) สะท้อนความเท่อย่างมีชั้นเชิงผ่านกระจังหน้าแบบสปอร์ตลายคาร์บอนไฟเบอร์ และสปอยเลอร์ดีไซน์โฉบเฉี่ยวพร้อมตราสัญลักษณ์ GT ด้านหลัง ร้อนแรงต่อเนื่องด้วยล้ออัลลอยทูโทนขนาด 18 นิ้ว มาพร้อมกับดิสก์เบรคคาลิปเปอร์สีแดง พร้อมดึงดูดทุกสายตาบนท้องถนนด้วยสีพิเศษ อะควาเกรย์ (Aqua Grey)
นอกจากนั้น ยังโดดเด่นทุกสัมผัส ด้วยการตกแต่งภายในแบบทูโทนสีดำและสีแดงเป็นเอกลักษณ์ ตั้งแต่พวงมาลัย เบาะนั่ง คอนโซล ไปจนถึงพนักพิงศีรษะที่มีตราสัญลักษณ์ GT และเข็มขัดนิรภัยสีแดง มาพร้อมหน้าจอ Interactive Double Screen พาดยาวบริเวณคอนโซลของตัวรถ มีขนาด 17.25 นิ้ว ที่มีความละเอียดสูง แบ่งออก 2 หน้าจอ คือ หน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบดิจิทัล (Full TFT) ขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอระบบมัลติมีเดียพร้อมระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว ลำโพงรอบทิศทาง จำนวน 6 ตัว ภายในห้องโดยสารใช้วัสดุคุณภาพสูง ให้สัมผัสที่นุ่มนวลมีระดับ พร้อมอุปกรณ์ในห้องโดยสารที่ออกแบบสวยงามอย่างพิถีพิถัน สร้างมิติใหม่แห่งสุนทรียภาพในการขับขี่ เพิ่มความผ่อนคลายและลดความเหนื่อยล้าตลอดการเดินทาง ด้วยเบาะที่นั่งที่ถูกออกแบบมาอย่างถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ และตกแต่งอย่างประณีตใส่ใจในทุกรายละเอียด มีระบบเบาะนวดไฟฟ้าและระบบระบายอากาศ เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า
พนักพิงเบาะด้านหลังพับได้แบบ 60:40 ด้านเบาะที่นั่งคนขับสามารถปรับด้วยไฟฟ้าได้ถึง 6 ทิศทาง มาพร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง และฟังก์ชั่น Welcome Seat ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้า-ออกจากรถได้อย่างสะดวกสบาย ขณะที่เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับด้วยไฟฟ้าได้ 4 ทิศทาง
ตามมาด้วยหลังคาพาโนรามิคซันรูฟอัจฉริยะ เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า เพิ่มพื้นที่แสงสว่าง และเปิดมุมมองรับชมวิวทิวทัศน์ได้มากยิ่งขึ้น
ส่วนประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้า มาพร้อมระบบแฮนด์ฟรี ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่ยกของหนัก มีฟังก์ชั่นอินเทอร์เน็ตเพื่อความบันเทิงในรถยนต์ อาทิ การเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน ฟังเพลง วิดีโอได้อีกด้วย เพิ่มความสะดวกสบายถึงขีดสุดด้วยระบบสั่งการด้วยเสียงอัจฉริยะได้ในประโยคเดียว ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมเครื่องปรับอากาศ ซันรูฟ ระบบนำทาง และมัลติมีเดีย เป็นต้น ปิดท้ายด้วยการเชื่อมต่อโครงข่ายระยะไกล ช่วยให้สามารถควบคุมการเปิด-ปิดการชาร์จ เครื่องปรับอากาศ ปิดหน้าต่างได้จากระยะไกล และสามารถดูสถานะของรถได้ผ่านระบบ GWM App
สร้างประสบการณ์ในการขับขี่แบบใหม่ด้วยเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ เพื่อความปลอดภัยขั้นสุด
เพิ่มดีกรีความล้ำสมัยเกินต้านด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกทั้งฟังก์ชันการอัปเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA) การตอบโต้ด้วยเสียงอัจฉริยะผ่านระบบปัญญาประดิษฐ์ (Voice Command) ระบบความบันเทิงแบบมัลติมีเดียรองรับลูกเล่นมากมาย เช่น Apple CarPlay, Siri, Android Auto และ Google Assistant ครอบคลุมไปจนถึงเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะเพื่อเพิ่มความมั่นใจ และช่วยลดความเสี่ยงบนท้องถนน อาทิ ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (Auto Reversing Assistance) ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ 3 รูปแบบ (Integrated Intelligent Parking) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Adaptive Cruise Control with Intelligent Cornering) กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา (360° Surround Camera) และระบบช่วยเบรกฉุกเฉินบนทางตรงและทางแยก (Auto Emergency Braking + Intersection) เป็นต้น